วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 832 ผิดใจกันแค่คำเดียว
ตอนที่ 832 ผิดใจกันแค่คำเดียว
“คุณ…..คุณ……”
นัยน์ตาที่เหยียดหยามของธัชชัย ทำให้สีหน้าของสุวิตแดงระเรื่อและขาวซีดในขณะเดียวกัน
วิศวกรคนนี้ที่ไม่มีความอดทนมากสักเท่าไหร่ พอถูกคำพูดที่เหยียดหยามของธัชชัย เขาจึงเดินไปที่รถของตัวเองอย่างไม่พอใจ
“ธัชชัย คุณพอเถอะ! นี่คุณกำลังดูถูกคนอื่นแล้วยกย่องตัวเองอยู่นะ คุณไม่รู้สึกละอายใจเลยหรือไง? เงินไม่สามารถทุกอย่างเสมอไป คุณเข้าใจคำว่าเคารพคนอื่นไหม?”
วัจสาพูดขึ้นอย่างเย็นชา เธอรู้สึกโมโห และทนไม่ไหวกับท่าทีที่โอ้อวดและบ้าอำนาจของเขาแบบนี้ เหลือทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้การควบคุมตัวเอง
แต่ว่าธัชชัยกลับข่มเหงสุวิตไม่หยุดแบบนี้ “ก็แค่รถSantanaเก่าๆ แล้วยังกล้าออกมาทำให้ตัวเองขายขี้หน้าแบบนี้ ควรที่จะเช่ารถหรูมาก่อนไหม! แล้วชกหน้าของตัวเองให้อวบอ้วน แล้วปลอมตัวเป็นอาเฮียตัวอ้วยดีกว่าไหม!“
ปากพล่อยๆของธัชชัย ทำให้สุวิตที่ไม่ว่าจะสตาร์ทรถกี่ครั้งก็ยังสตาร์ทไม่ติด
“มีคุณสมบัติเท่านี้แล้วยังกล้ามาแย่งผู้หญิงกับฉันอีกหรอ? กลับบ้านไปทำนาดีกว่าไหม!”
สุดท้ายธัชชัยที่กำลังด่าเขาไม่หยุด สุวิตจึงสตาร์ทรถติดสักที จากนั้นก็ขับรถออกไปโดยด่วน
“กากจริงๆ แค่โดนคำพูดของแดดดี้ถึงกับขับรถหนี!”
ตะวันยังคงพูดจาเข้าข้างแดดดี้ของเขาอีก
“หน้าตาขี้เหร่ขนาดนี้ยังกล้ามีจีบหม่ามี๊อีก ไมรู้จักที่ต่ำที่สูงซะเลย!”
คำพูดคำจาแรงๆของด็กน้อยเหมือนแดดดี้สารเลวของเขาเลย
โดยนิสัยโอ้อวดถือตัวอย่างเขา จะรับคนอื่นมาเป็นพ่อเลี้ยงได้ยังไง? คนๆนั้น คงจะคิดผิด!
วัจสาได้ยินแบบนี้จึงสั่นเทาไปทั้งตัว
สองพ่อลูกทำแบบนี้ได้ยังไง? มาดูถูกคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง แล้วยังเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยแบบนี้ ไม่รู้จักมารยาทอะไรเลย
และตอนนี้ เธอไม่อยากจะตำหนิธัชชัยหรือลูกชายตะวันอีกต่อไป ในใจแค่รู้สึกน้อยมากๆ
เพราะว่าเมื่อกี้เธอได้ยินอย่างชัดเจน ตอนที่ธัชชัยกำลังพูดจาดูถูกชายวิศวกรนั่น แล้วยังจะเทียบตัวเองเหมือนอัศวินขี่ม้าขาวมาจีบซินเดอเรลล่า คือต้องการสื่อว่าเธอได้ฝันลมๆแล้งๆแบบนี้มาตลอดงั้นหรอ?
เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ เลยหันหลังแล้วเดินไปตรงป้ายรถเมล์
“ธัชชัย ต้องโทษคุณคนเดียว ที่ทำให้หม่ามี๊ของผมโกรธจนหนีไปแบบนี้!”
เด็กน้อยเอาความผิดทุกอย่างโยนให้ธัชชัย และไม่นึกว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายสนับสนุนพ่อของตัวเอง เลยทำให้หม่ามี๊โมโหแบบนี้
“แล้วยังจะอยู่นิ่งๆแล้วพูดอะไรแบบนี้อีก? รีบไปรั้งหม่ามี๊ไว้สิ เดี๋ยวดี้จะไปขับรถมา!”
สองพ่อลูกแบ่งหน้าที่กันแล้วรีบปฏิบัติการ ตะวันจึงรีบวิ่งตามหม่ามี๊ที่โมโหเป็นไฟ ธัชชัยเองก็ขึ้นรถหรูแล้วขับตามไป
“หม่ามี๊ครับ ทำไมมี๊ถึงทิ้งลูกชายที่น่าสงสารแบบนี้ไว้? ทุกอย่างเป็นความผิดของธัชชัยไอ้สารเลวนั่น ถ้าจะโทษก็โทษเขา!”
เด็กน้อยรีบเข้าไปกอดเอวของวัจสาไว้ ทั้งตัวของเขาเกาะขาของวัจสาไว้วัจสาเดินต่อไม่ได้ จึงหยุดฝีเท้าลง “ตะวัน ปล่อยมี๊!”“ผมไม่ปล่อย! ถ้าปล่อยหม่ามี๊ก็หนีไปสิ! ถ้าไม่มีมี๊ ตะวันคงเสียใจน่าดู!”พออยู่กับธัชชัยบ่อยๆ ความสามารถในการขี้อ้อนก็พัฒนาขึ้น แต่ก่อนเขาก็ทำตัวขี้อ้อนเป็น แต่ไม่ได้เก่งขนาดนี้ ความคล้ายของสองพ่อลูกยิ่งอยู่ก็ยิ่งเยอะพวกเขามักจะหลอกใช้ความรักใคร่ที่วัจสามีต่อลูกชาย และความรู้สึกที่ยังลืมธัชชัยไม่ลงมาทำชนะใจเธอ“ตะวัน หม่ามี๊บอกกับผมหลายครั้งแล้ว ถ้าผมยังพูดจาไม่มีมารยาท ต่อไปจะเข้าสังคมยังไง? ผมจะเห็นทุกคนเป็นศัตรูหมดเลยหรอ? ความหยิ่งผยองของผมจะไปคบหาคนอื่นได้ยังไง?”“หม่ามี๊ ตะวันรู้ว่าตะวันผิดไปแล้ว! หม่ามี๊อย่าโกรธตะวันเลย!”“เหอะ กลับไปเขียนคำว่า “ญาติดีกับผู้อื่น” ร้อยรอบ!”“หา? ร้อยรอบเยอะเกินไปหรือเปล่า หม่ามี๊……ภาษาจีนเขียนยากมากๆเลยนะ!”“ถ้าไม่เขียนก็ปล่อยหม่ามี๊ แล้วไปหาแดดดี้ไป แล้วให้เขาหาแม่เลี้ยงที่สั่งสอนลูกไม่เป็น!”“ไม่ๆๆ ผมเขียน ผมเขียนก็ได้ หม่ามี๊อย่างโกรธผมอีกเลย ผมจะกลับมาเขียน”อาการโกรธของวัจสาทำให้ลูกชายต้องยอมรับผิด และเธอก็ได้หายโกรธไปเยอะแล้ว จริงๆเธอจะโกรธลูกชายได้ยังไง?แค่เธอมองไปที่รถเบนท์ลี่ย์คันนั้นที่ตามเธอมาอยู่ เธอก็นึกถึงคำพูดของธัชชัย โดยเฉพาะคำว่าเซนเดอเรลล่า!“อัศวินขี่ม้าขาวผู้สูงส่ง อย่ามาขวางทางซินเดอเรลล่าหน้าโง่ ไสหัวไปยิ่งไกลยิ่งดี!”“ไม่เลวๆ ซินเดอเรลล่าดุๆแบบนี้ ผมยิ่งชอบ!”เขาลดกระจกรถลง จากนั้นก็มีใบหน้าอันหล่อเหลาของธัชชัยโผล่ออกมา และใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจยิปปี้ที่เขาว่ากันก็ยังจะเป็นแบบธัชชัยก็เป็นนักเลงที่บ้าอำนาจความหน้าด้านหน้าทนของธัชชัย ทำให้วัจสาจะด่าก็ไม่ใช่ ยิ่งไปกว่านั้นคือ จะทำให้เธอร้องไห้ก็ไม่ได้ ยิ้มก็ไม่ออกแต่ตอนนี้ พอมานึกคิดดูความใสซื่อของตัวเองในตอนนั้น ที่เธอเองสามารถหลงธัชชัยได้ขนาดนี้ ก็เพราะความรู้สึกที่มีให้เขา เธอที่เป็นมือใหม่ของหญิงพรหมจรรย์ที่พึ่งมีความรัก กับชายที่มีความชำนาญในความรัก จนสามารถแผร่รังสีแห่งความมีเสน่ห์ของตัวเองออกมา ทำให้ตัวเองหลงใหลในตัวเขา มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว“ธัชชัย คุณพอเถอะ มัวแต่พูดอะไรที่ไร้สาระ ผมใกล้จะจับหม่ามี๊ไว้ไม่อยู่แล้ว!”เด็กน้อยที่กำลังจะจับน่องของเธอไว้ไม่อยู่ จึงพึมพำกับธัชชัยขึ้นมา ปากของเขาแสดงอาการไม่พอใจมากๆธัชชัยจอดรถลง แล้วรีบลงมาจากรถ“ลำบากผมแล้วลูกรัก ให้พ่อมาจัดการเอง”“ธัชชัย คุณจะทำอะไร?”เซ้นท์ของวัจสาบอกเธอว่า ชายที่ลงจากรถต้องทำเรื่องไม่ดีแน่นอน คิดว่ากำลังจะฉุดตัวเธออยู่ดั่งที่คาด เธอยังพูดไม่ทันจบ ชายคนนั้นก็อุ้มเธอขึ้นบนไหล่ทุกครั้งเขาก็มักจะทำแบบนี้!แค่ตอนที่วัจสาไม่เชื่อฟัง ผู้ชายคนนี้ก็มักจะจับตัวเธอขึ้นรถอย่างไร้เหตุผลถึงแม้เบาะที่อยู่ข้างหลังจะทำได้หรูมาก และนุ่มมากๆ แต่พอถูกธัชชัยโยนขึ้นไป ถึงกับทำให้ตัวของวัจสากระเด็น“ธัชชัย คุณมาสารเลว!” วัจสาตำหนิเขาอย่างร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา“หม่ามี๊เจ็บตรงไหนไหม? ลูกรักจะนวดให้มี๊เอง!”เด็กน้อยพยุงหัวของวัจสาไว้ จากนั้นก็ใช้มืออันอวบอ้วนของเขานวดให้เธอหนึ่งคนหน้าแดงระเรื่อ อีกคนก็หน้าขาวซีด สองพ่อลูกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยจริงๆ!วัจสานึกถึงว่าลูกชายอยู่ด้วย คำบางคำ เธอเลยไม่สะดวกที่จะด่าธัชชัย ดังนั้นเธอจึงต้องอดกลั้นไว้“ธัชชัย ฉันจะกลับบ้านน้าของฉัน!”เธอนึกว่าธัชชัยจะพาตัวเองไปที่ๆเคยกักขังเธอ วัจสาจึงบอกเตือนเขาก่อน“ตอนนี้ต้องกลับบ้านน้าคุณก่อนอยู่แล้ว ผมคงไม่ปิดเผยขนาดนั้น ระยะเวลาที่เราคบกันผมคงไม่ทำอะไรคุณก่อนหรอก เพราะว่าเขาจะเก็บไว้ทำในคืนที่เข้าเรือนหอด้วยกันเป็นครั้งแรก! แต่ถ้าคุณเป็นคนขอก่อน งั้นเราค่อยมาว่ากันอีก”คำพูดที่หน้าด้านๆแบบไม่มีความอับอายหลงเหลืออยู่ของธัชชัย ทำให้วัจสาเครียดจนปางตายธัชชัยยังไม่เปิดเผยงั้นหรอ?“ธัชชัย ถ้าคุณไม่พูดก็ไม่มีใครว่าคุณเป็นใบ้หรอก”วัจสาฟังคำพูดที่โรคจิตไม่เสนาะหูแบบนี้ของเขาไม่ไหวอีกถ้าไม่ใช่เพราะว่าลูกชายอยู่บนรถ เธอก็คงจะเอาน้ำเย็นสาดหน้าผู้ชายคนนี้ไปแล้ว ให้เขามีสติหน่อย ทางที่ดีที่สุดก็คือดึงกางเกงเขาออก แล้วเอาน้ำเย็นที่ผสมสารบางอย่างสาดเข้ากางเกงในของเขา เพื่อที่จะระบายความเกลียดชัง!พอเถอะ เหมือนตัวเองจะดูโหดร้ายไป…….จากนั้นก็ผ่านไปอีกคืน แต่ว่าตระกูลเดิมขุนทดก็ชินกับธัชชัยที่หน้าด้านไม่ไปไหนแบบนี้แต่สำหรับปยุตแล้ว เขารู้สึกดีใจมากๆที่ธัชชัยหลานเขยของเขายังคงหน้าด้านอยู่ที่บ้านเขาแบบนี้แต่พอเห็นธัชชัยดื่มเหล้าไม่หยุดแบบนี้ วัจสารู้สึกปวดใจและรู้สึกกังวล เพราะว่าแผลของเขายังไม่หายดี จะดื่มเหล้าพวกนั้นได้ยังไง?แต่พอตัวเองเอ่ยปากพูดก็ไม่มีผลอะไร วัจสาจึงต้องถือโอกาสตอนที่ตะวันไปเข้าห้องน้ำ เดินตามเขาไป แล้วพูดขึ้น “ตะวัน ผมไปบอกแดดดี้ของผมว่าไม่ต้องดื่มเยอะขนาดนั้น ตอนนี้แผลยังไม่หายดี ถ้าธัชชัยตายไป ผมก็จะไม่มีแดดดี้แล้ว”“หม่ามี๊ มี๊อยากจะผมบอกให้แดดดี้อย่าดื่มเหล้าเยอะขนาดนั้นใช่ไหม?”“ใช่”“งั้นผมมีอยากขอหม่ามี๊อย่างหนึ่ง มี๊ต้องตอบตกลงนะครับ”“อะไร? พูดมาสิ”“ที่มี๊ให้ผมจด ไม่จดแล้วได้ไหมครับ?”“ไม่ได้!”……”ชีวิตของดี้สำคัญกว่าหรือว่าตัวหนังสือบ้าบอนั่นสำคัญกว่า?”“ธัชชัยเป็นแดดดี้ของผม ไม่ใช่ของมี๊ ผมก็คิดเองแล้วกัน!”“……”วัจสาจึงแดบยิ้มเบาๆ เด็กน้อยมาต่อรองกับเธอแบบนี้ ผมยังอ่อนอยู่จ้า!พอกินมื้อค่ำเสร็จ เด็กน้อยที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะเขียนหนังสือ กำลังจด “ญาติดีกับคนอื่น” อย่างหน้าบูดหน้าเบี้ยว ทุกครั้งที่เขียนหนึ่งรอบ และก็มองธัชชัยด้วยสายตาที่เคียดแค้น ดูคุณอยู่อย่างสบาย แต่ลูกชายคนนี้กลับถูกลงโทษอย่างหนักแบบนี้!“สา เรามาปรึกษาอะไรกันหน่อย” ธัชชัยทำสีหน้าที่เคร่งเครียด น้ำเสียงฟังดูจริงจัง“คุณอยากจะจดตัวหนังสือแทนลูกงั้นหรอ? ไม่มีทาง”“กนิษฐาคนเป็นเสนอเอง ว่าจะแต่งงานกับพี่ชายผม แล้วให้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกับมิ้น”วัจสาได้ยินจึงหยุดชะงักไป “คุณได้บอกกนิษฐาแล้วหรอว่ามิ้นเป็นลูกใคร?”วัจสาทำท่าทางไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายคนนี้กล้าบอกความจริงที่โหดร้ายแบบนี้ให้กนิษฐาได้ยังไง? เธอนึกว่าเขาจะรับผิดชอบแทนพี่ชายของเขาไปตลอดชีวิตซะอีก!อีกอย่าง ธัชชัยที่รักใคร่มิ้นมากๆ ที่มอบความรักของเด็กคนนั้นมากกว่าที่ให้ลูกแท้ๆของตัวเองแน่นอน พอวัจสารู้เรื่องของมิ้น และสำหรับกนิษฐา ก็คงเป็นเหมือนภัยพิบัติที่ทำให้เธอบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส“แล้วทำไมต้องให้ฉันเป็นคนบอกเธอ? นี่ก็ต้องเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล ที่ใครทำ คนนั้นก็ต้องไปแก้ไขเองไม่ใช่หรอ? ความรับผิดชอบนี้ผมได้แบกรับมาสี่ปีแล้ว ถือว่าผมได้ทำความดีแล้ว!”ธัชชัยนอนอยู่บนเตียงอย่างชี้เกียจ จากนั้นก็หยีตามองผู้หญิงที่อยู่ใกล้เขาวัจสานิ่งเงียบไปสักพักเธอนึกถึงคำพูดที่เมื่อกี้ธัชชัยพูด“คุณบอกว่าหลังจากที่กนิษฐารู้ความจริงแล้ว ก็เป็นคนบอกจะแต่งงานกับพี่ชายคุณเอง จากนั้นก็จะให้ครอบครัวที่อบอุ่นแก่มิ้นงั้นหรอ?”วัจสารู้สึกตกใจมากๆ เพราะว่าผู้หญิงอย่างกนิษฐา ไม่มีความฉลาดและความนิ่งพอที่จะทำเรื่องแบบนี้ออกมาเพราะว่าเธอเองก็คือผู้หญิง ฉะนั้นก็ยิ่งต้องรับรู้ถึงความรู้สึกแบบนั้น ถ้าตัวเองยังไม่สามารถอภัยให้กับคนที่หลอกลวงเธอแบบนี้ กนิษฐาเองก็ยิ่งจะให้อภัยไม่ได้