วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 725 เด็กน้อยที่ต้องการความรักของพ่อ 2
ตอนที่ 725 เด็กน้อยที่ต้องการความรักของพ่อ 2
หรืออาจจะพูดได้ว่า เมื่อเขารู้ว่าวัจสาตั้งครรภ์ลูกของเขา จวบจนถึงห้าปีให้หลังที่พวกเขาได้พบกันอีกครั้ง ความรักของพ่อที่ลึกซึ้งและหนักแน่นนั้นก็ถูกรักษาเอาไว้อย่างดี ไม่เคยขาดตกบกพร่องไปเลย
“ลูกเห็นเขาเหรอ? ” วัจสานิ่งอึ้งไปก่อนจะเอ่ยปากถามลูกชาย
เด็กน้อยส่ายหน้าเล็กน้อยอย่างเหี่ยวเฉา “ประตูสู่ห้องมืดถูกล็อก ผมไม่เห็นเลย แต่สิบสองเป็นคนบอกว่าธัชชัยยังอยู่ในห้องมืดนั่นตลอด”
ไม่ไปจริงๆ เหรอ? นี่เขามาแบบจริงจังเลยอย่างนั้นเหรอ นี่คิดอยากจะเป็นนักโทษของอำเภอพัดรักไปตลอดชีวิตเลยเหรอ?
แต่สภาพแวดล้อมของห้องมืดนั้นไม่ค่อยดีนัก ไม่เพียงแต่มืดไปหมด ทั้งยังชื้นด้วย เมื่อคิดถึงว่าธัชชัยนั้นถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ยังเด็ก เกรงว่าจะอยู่แบบนั้นนานๆ ไม่ได้
“ตะวัน ธัชชัยพ่อของลูกเป็นนักโทษของพ่อบุญธรรมลูก ลูกไม่รู้สึกเศร้าเสียใจเลยเหรอ? ”
วัจสาเลือกมุมที่แตกต่างกันถามลูกน้อย คนที่ไม่อยากที่จะให้พ่อลูกมีปัญหาขัดแย้งกันมากที่สุดนั่นก็คือตัววัจสาเองนี่แหละ
“ก็เศร้าอยู่นิดหน่อยครับ……..แต่ใครบอกให้เขาทิ้งภรรยากับลูกของเขาก่อนหล่ะ ไอ้บ้านั่นสมควรที่จะถูกพ่อเลี้ยงขังอยู่ในห้องมืดแล้ว! ”
เจ้าตัวเล็กเพิ่งพูดจบไปด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ เสียงอำเภอพัดรักที่ดังมาจากด้านล่างก็เรียกเขาให้ไปทานเข้าพอดี
“สิบห้า ลงมากินข้าวเช้าเร็ว”
อำเภอพัดรักดูจะเคยชินกับการที่มีเจ้าตัวเล็กอยู่เคียงข้างในทุกๆ วันไปแล้ว“หม่ามี๊ ตะวันไปกินข้าวเป็นเพื่อนพ่อบุญธรรมก่อน แล้วเดี๋ยวจะกลับมาหาหม่ามี๊นะครับ” เด็กน้อยจูบที่แก้มของเธอ แล้วเขาก็วิ่งลงไปข้างล่างไปแต่วัจสายังคงอึ้งอยู่ที่เดิม เธอยังคงจมอยู่กับคำที่ลูกชายเธอบอกว่า “ไอ้บ้านั่นสมควรที่จะถูกพ่อเลี้ยงขังอยู่ในห้องมืดแล้ว” นั่นทำให้เธออดไม่ได้ที่จะกังวลใจมันต้องเป็นเพราะครั้งก่อนที่ธัชชัยตัดสินใจเลือกนั้น มันได้ทิ้งเงาเล็กๆ ในจิตใจของลูกชายของเขาไม่มากก็น้อยทีเดียวแล้วทีนี้เธอควรจะทำยังไงดีหล่ะ? เธอทำอะไรได้บ้างมั้ยเนี่ย?เห้อ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะคิดให้มันมากมาย เรื่องราวต่างๆ มันไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคาดหวังเอาไว้แต่แรกเอาซะเลยแล้วก็นึกถึงคำที่ธัชชัยบอกเอาไว้ว่าอย่างไรเสียเลือดมันก็ข้นกว่าน้ำ เขาสองคนไม่มีทางที่จะตัดกันได้ขาด และไม่สามารถทิ้งกันไปได้ ลูกชายคงจะเข้าใจพ่อของเขาได้สักวันหนึ่งเธอนิ่งฟังอย่างเงียบๆ สักพัก ก่อนจะเดินช้าๆ ออกจากห้องนั่งเล่นไปเมื่อครู่เธอได้ฟังได้เห็นอำเภอพัดรักพูดคุยกับลูกชายด้วยเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวพันอะไร แต่ยากนักที่จะเห็นอำเภอพัดรักอยู่ในอารมณ์ที่ไม่บูดบึ้ง วันนี้เขาอารมณ์ดีทีเดียวหล่ะแต่ก็นะศัตรูของเขามาเป็นนักโทษให้ถูกเหย้าเรือน ก็เป็นปกติอยู่แล้วที่เขาจะอารมณ์ดีแต่ตลอดเช้านั้นอำเภอพัดรักไม่ได้พูดไปถึงธัชชัยผู้เป็นพ่อแท้ๆ ของเด็กที่ถูกขังอยู่ในห้องมืดเลยนี่เขาไม่สนใจของการมีอยู่ของธัชชัยที่นี่เลยเหรอ?“คุณพรมมินคะ ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้อง ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ยคะ? ”วัจสาที่อยู่ด้านข้าง อยู่ๆ ก็เปรยขึ้นมาเงียบๆอำเภอพัดรักเหลือบมองเธอก่อนจะพูด “ว่ามา”“คืออย่างนี้ค่ะ….ตะวันแกอายุห้าขวบแล้ว ฉันคิดว่าเขาไม่ควรที่จะอยู่เล่นๆ ไปทุกวัน มันเป็นเวลาที่เขาควรจะได้เข้าเรียนแล้วนะคะ”วัจสารวบรวมความกล้าอยู่นานทีเดียวกว่าจะกล้าที่จะพูด ด้วยเพราะเธอไม่อยากเห็นตะวันออกไปเที่ยวเล่นกับอำเภอพัดรักทุกวี่ทุกวัน“เรื่องเข้าเรียนอีกแล้ว? ไม่ใช่ว่าจ้างครูมาสอนที่บ้านให้แล้วเหรอ? ให้เขาเรียนที่บ้านก็ได้นี่ ถ้าคิดว่าติวเตอร์คนนี้ไม่ดี เดี๋ยวฉันปลี่ยนคนให้ใหม่เลย! ”“ทันทีที่วัจสาพูดถึงเรื่องการเข้าเรียน อำเภอพัดรักก็ไม่อยากที่จะสนใจ แต่ก็รู้สึกว่าการที่จะให้สิบห้าได้เรียนนั้น มันก็เรื่องที่เหมาะสมอำเภอพัดรักกอดสิบห้าเอาไว้ แล้วก็ตีเบาๆ ที่ก้นของเด็กน้อยอย่างเคยชินในความคิดของเขานั้น สิบห้าเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลของเขา เรื่องของสิบห้าก็ย่อมเป็นอำเภอพัดรักที่สามารถจัดการได้“คุณพรมมินคะ ที่สิบห้าต้องการมันไม่ใช่ติวเตอร์ที่ดีค่ะ แต่ควรจะเป็นบรรยากาศที่เหมาะแแก่การเรียนรู้ รายล้อมไปด้วยเพื่อนรุ่นเดียวกัน เขาถึงจะได้รับบรรยากาศแบบนั้น….”วัจสาพยายามโน้มน้าวโดยที่ไม่ไปสะกิดอะไรอำเภอพัดรัก“อยากให้สิบห้าไปเรียนกับเด็กที่อายุเท่าๆ กันเนี่ยนะ? มีจะได้บรรยากาศอะไรหล่ะ สิบห้าหน่ะเดิมทีก็คนละชั้นก็เด็กพวกนั้นอยู่แล้ว” อำเภอพัดรักทำเสียงแกมดูถูก “รอให้สิบห้าถึงวัยที่จะต้องเรียนรู้ก็ค่อยจ้างติวเตอร์มาสอนเขาก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง? ”อำเภอพัดรักพูดจบ ก็ไม่ได้สนใจว่าวัจสาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เขาก็อุ้มเด็กน้อยเดินออกจากประตูวิลล่าไป เดาว่าคงจะไปเที่ยวเล่นกันอีก โดยที่ก็มีสิบสองเดินตามไปติดๆเจ้าเด็กน้อยเอง ก็ไม่ได้ชอบที่จะเรียนรู้อะไรเทือกนั้นมากนักความดื้อรั้นละความยโสของอำเภอพัดรักทำเอาวัจสาหมดคำพูดรอจนกระทั่งอำเภอพัดรักพาสิบห้าและสิบสองออกไปข้างนอกแล้วนั้น แปดถึงมานั่งกินข้าวเขาน่าจะเป็นคนที่คอยเฝ้าธัชชัยวัจสายืนนิ่งอยู่สักพัก อยากจะคุยอะไรกับแปดสักอย่างแต่ไม่รู้จะพูดอะไรแปดไม่ใช่คนที่ชอบคุยอะไรกับคนน่าเบื่อ ดังนั้นเขาจึงไม่หันหลังไป แต่ก็รู้ว่าวัจสานั้นยืนห่างจากตัวไปพอจะถึงเมตร“แปด ตอนนี้ฉันเองก็ว่าง เดี๋ยวฉันทำปลากรอบให้กินนะ” วัจสารู้และจดจำอาหารที่ลูกบุญธรรมของอำเภอพัดรักทานได้“ไม่ต้องหรอก ฉันอิ่มแล้วหล่ะ ไม่ต้องทำหรอก กินไม่ไหวแล้ว” แปดปัดความหวังดีของวัจสาทิ้งอย่างไม่ไยดี“อยากจะถามอะไรก็ถามมา ถามมาตรงๆ เลยดีกว่า ฉันว่าเธอเหมือนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วหล่ะมั้งเนี่ย”