วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 692 เอาสาวงามมาให้แล้ว
ตอนที่ 692 เอาสาวงามมาให้แล้ว
“ที่เธอคิดนั่นก็อาจจะถูกเพราะมิ้นคือลูกสาวแท้ๆ ของวรพลพี่ชายฉัน”
แต่ประโยคนี้ของธัชชัยก็ทำความตื่นตระหนกและความสงสัยในใจของกนิษฐาเพิ่มมากขึ้น
“จะเป็นไปได้ยังไงธัชชัย? คุณไม่อยากยอมรับมิ้นเป็นลูกของคุณก็ไม่เป็นไร ไม่นึกเลยว่าจะหันมาใส่ร้ายป้ายสีฉัน! ฉันกับพี่ชายของคุณไม่สามารถมีอะไรกันได้แน่นอน! สภาพร่างกายเขาเมื่อ4ปีก่อน คุณรู้ดีกว่าฉันอยู่แล้วหนิ…..”
กนิษฐาร้อนใจที่จะต้องการพิสูจน์ตัวตนมิ้นลูกสาวของเธอ
“เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เธอ! ”
ธัชชัยตอบกลับแค่เพียงประโยคนี้ “กนิษฐาหนี้ทุกอย่างที่คุณติดพี่ชายฉันได้ใช้มิ้นมาชดเชยให้ก็ถือว่าเรื่องเมื่อก่อนที่บังคับให้คุณเป็นแม่นั้นได้ถูกยกเลิกแล้ว”
กนิษฐาเงียบลงทันทีเพราะเธอรับรู้ว่าธัชชัยกำลังพูดล้อเล่นกับเธอ
แต่ในจิตใต้สำนึกของเธอกนิษฐาก็ยังคงยากที่จะเชื่อเรื่องนี้หรือจะพูดได้ว่าเธอไม่เคยคิดที่จะเชื่อด้วยซ้ำ
หลังจากที่เงียบไปสักพัก กนิษฐาก็พูดต่อว่า: “ธัชชัยกลับกัน ฉันอยากกลับบ้านตระกูลศรีทอง! ”
ทำไมในเวลานี้ธัชชัยถึงบอกให้เธอกลับบ้านนะแต่ก็พูดมาเบาๆ ว่า: “ไม่ต้องรีบหรอก ฉันก็ไม่ได้กินข้าวกับเธอตามลำพังมานานแล้วไปกินข้าวด้วยกันก่อนเถอะ”
ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลานานจนกระทั่งกนิษฐาพูดขึ้นมาว่า: “ขอบคุณที่คุณช่วยมิ้นนะ”
ธัชชัยนิ่งไปครู่: “ไม่ต้องขอบคุณหรอก นั่นเป็นสิ่งที่ฉันควรทำในฐานะลุง”
กนิษฐาเงยหน้าขึ้นแล้วจ้องมองไปยังใบหล่อเหลาของชายหนุ่ม
จนกระทั่งถึงตอนนี้เธอก็ยังคงคิดว่าธัชชัยแค่โกรธเธออยู่ จึงเลือกใช้คำว่า ‘ลุง’มาแทนตัวเองกนิษฐาถามด้วยความขมขื่นว่า: “ธัชชัย คุณเกลียดฉันใช่มั้ย? ”“เมื่อก่อนใช่ แต่ตอนนี้ไม่ละเพราะคนที่ควรจะเกลียดคุณคือพี่ชายฉันแต่เขากลับรักคุณมาก! เพียงแต่ว่าตลอด5ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้หัวใจคุณเลย ก็กลัวแค่ว่าเขาจะทำได้เพียงแค่ยอมแพ้! ”ไม่ใช่แค่เพราะเป็นคำขอร้องของเข้มแต่ในตอนนั้นธัชชัยเองก็อยากที่จะกำจัดกนิษฐาให้ออกไปจากบ้านตระกูลศรีทองเพราะตลอด5ปีที่ผ่านมาพี่ชายไม่เคยเอาชนะใจผู้หญิงคนนี้ได้เลยก็กลัวว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ในอนาคตจะชนะใจผู้หญิงคนนี้ดังนั้นธัชชัยจึงคิดว่า: ถึงเวลาแล้วที่วรพลจะต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่!“คุณพูดๆ แต่ว่าทำเพื่อพี่ชายของคุณ แล้วเรื่องของฉันกับคุณเมื่อก่อนหล่ะ? อดีตของเราถูกฝุ่นบังไปหมดแล้วเหรอหรือคุณเอาไปฝังกลบไว้แล้ว? ”กนิษฐาถามด้วยความขมขื่นใจอีกครั้ง“เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะเอากลับมาพูดอีกมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร” สายตาของธัชชัยทอดยาวไปไกลและนิ่งสงบรถปอร์เช่หยุดตัวลงที่ร้านอาหารริมชายฝั่งริมชายฝั่งเป็นสถานที่ที่เข้มเป็นคนเลือกไว้ เป็นที่เดิมกับข้อเสนอแรกของเขา“ทำไมมาที่นี่? ฉันอยากกลับ!”กนิษฐาที่นั่งอยู่ในรถไม่ยอมลงมา ดูเหมือนว่ายังเสียใจกับสิ่งที่ชายหนุ่มพูดว่า ‘เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่คุณ’“ลงมาเถอะ พวกเรามากินข้าวกัน เธอก็หิวแล้วไม่ใช่เหรอ? ”ธัชชัยลงจากรถเดินไปยังอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูให้กนิษฐาพร้อมกับทำท่าเชิญอย่างนุ่มนวลกนิษฐาที่ลังเลอยู่ครู่ก็วางมือไว้บนฝ่ามือของธัชชัยให้เขาจับไว้ไอ้ที่บอกว่าผู้กล้ายากที่จะฝ่าหญิงงามไปได้, ที่จริงบางครั้งผู้หญิงก็อยากที่จะฝ่าพวกสุภาพบุรุษไปได้เหมือนกัน ยิ่งเป็นธัชชัยที่หล่อเหลาแล้วก็แบดบอยหน่อยๆ ยิ่งทำให้คนหลงได้ง่ายๆในห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ที่มีเพียงแต่ธัชชัยและกนิษฐาแค่2คนโต๊ะอาหารอัจฉริยะที่สามารถหมุนได้เต็มไปด้วยอาหารที่มีทั้งสีสันและกลิ่นหอม. ธัชชัยมีความอยากอาหารมากเขากินๆ ตลอด แต่จิตใจของกนิษฐาไม่ได้ใส่ใจที่อาหารเลยแม้แต่น้อยเธอกำลังกังวลเกี่ยวกับมิ้นลูกสาวเธอ ข้อสองก็คือเธอตกใจกับคำพูดที่ยากจะเข้าใจของธัชชัยมันทำให้เธอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“ทำไมไม่กินหล่ะ? ไม่ถูกปากเหรอ? ” ธัชชัยถามด้วยความอ่อนโยนอีกครั้งกนิษฐาส่ายหัว วางตะเกียบในมือลง“ธัชชัย ที่คุณเรียกฉันออกมาวันนี้เพื่อบอกให้ฉันหลีกทางให้วัจสาแม่ลูกนั่นเหรอ? ให้ฉันพามิ้นออกไปใช่มั้ย? ”นอกจากเรื่องนี้กนิษฐาก็นึกไม่ออกแล้วว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ธัชชัยออกมากินข้าวกับเธอตามลำพัง“คุณคิดมากไปแล้ว รีบกินเถอะ! ”เมื่อรู้สึกถึงโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋าธัชชัยก็รีบลุกขึ้น. เบอร์ที่โทรเข้ามาในเวลานี้เกรงว่าจะเป็นเข้ม“ฉันไปรับโทรศัพท์นะ”ธัชชัยเดินมาตรงข้าม ยื่นมือออกไปลูบหน้าของกนิษฐาเหมือนเป็นการปลอบ: “ฉันไปรับโทรศัพท์นะ นั่งรอฉันที่นี่ดีๆ หล่ะ”แล้วก็เป็นเข้มจริงๆ ที่โทรเข้ามา“ฉันถึงแล้ว”“ดูเหมือนว่าพี่เข้มจะมาสายนะ ฉันเริ่มกินข้าวกับสาวสวยไปแล้ว! ”“อือ ฉันเห็นแล้ว”“เมื่อไหร่ จะแลกเปลี่ยนยังไง? ”“ตอนนี้”“แล้วพี่เข้มจะปรากฏตัวออกมาด้วยวิธีไหน? ” ที่ธัชชัยถามอย่างนี้เพราะอยากรู้ว่าจะพาตะวันลูกชายเขาออกมายังไงทางเดินข้างนอกว่างเปล่าไปหมดพวกพนักงานบริกรก็ดูหายไปหมดทุกคน!“แกออกมา ฉันเข้าไป แบบนี้การแลกเปลี่ยนก็เป็นอันเสร็จสิ้น! ”ธัชชัยขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “แล้วลูกชายฉันหล่ะ? ”“เห็นกล่องที่วางอยู่ตรงทางเดินมั้ย? ลูกของแกหลับอยู่ในนั้น! ”จากตามคำบอกของเข้ม ทันใดนั้นธัชชัยก็เห็นกล่องที่วางอยู่ตรงทางเดินเป็นกล่องที่พอจะใส่เด็กอายุ5ขวบได้พอดี!