วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 630 นอนที่ไหน
ตอนที่ 630 นอนที่ไหน
“หม่ามี๊ ทำไมพ่อเลี้ยงยังไม่มาอีก?” เด็กน้อยที่รออยู่นาน รอพ่อเลี้ยงอำเภอพัดรักไม่ไหวอีกต่อไป อยากจะให้เขาพาสิบสองมากำจัดธัชชัยให้สิ้นเรื่อง ตอนนี้ฟ้าก็มืดแล้ว เขายิ่งรู้สึกกังวล
วัจสาถูกลูกชายถามขึ้นแบบนี้ เลยไม่รู้จะพูดอะไร เพราะว่าอำเภอพัดรักบอกว่าปล่อยให้เขาสานความสัมพันธ์กับพ่อแท้ๆไปก่อน
ถ้าพูดแบบนี้ไป ลูกชายก็คงจะเสียใจ ไหนๆเขาพึ่งพาอำเภอพัดรักขนาดนั้น
ดังนั้นวัจสาจึงเปลี่ยนวิธีพูด
“พ่อเลี้ยงของผมมีธุระไปจัดการข้างนอก อีกสามวันก็จะกลับมา ในสามวันนี้ หม่ามี๊อยากจะให้ตะวันช่วยหม่ามี๊อยู่อย่างหนึ่ง……”
“หม่ามี๊พูดออกมาได้เลย ผมจะช่วยหม่ามี๊ถ้าผมช่วยได้!”
วัจสาได้ยินลูกชายตอบกลับด้วยความมั่นใจแบบนี้ ในใจเลยรู้สึกซาบซึ้งเบาๆ ลูกชายของฉัน รู้เรื่องจริงๆ!
ตัวเองก็คือหม่ามี๊ที่ไม่ได้เรื่องที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในกำมือของธัชชัยหรือว่าอำเภอพัดรัก พวกเขาก็แค่เป็นเครื่องมือที่ถูกหลอกใช้ ไม่มีอิสระในการพูด
วัจสาไม่ได้อยากจะทำหน้าเสียใจต่อหน้าลูกชาย ฉะนั้นเธอเลยหอมผมของเขา “ตะวัน รอให้หม่ามี๊กับผมกินมื้อค่ำเสร็จค่อยว่ากันได้ไหม?”
เด็กน้อยจึงลืมตาโตขึ้นสดใส “กินข้าวที่ไหน?”
“ก็กินที่นี่นี่แหละ” วัจสาจับจมูกน้อยๆของเขา “ตอนนี้หม่ามี๊ยังเป็นสะใภ้คนที่สองของตระกูลศรีทอง พวกเราสามารถอยู่กินข้าวที่นี่อย่างเปิดเผย”เหมือนตะวันจะหยุดชะงักไป ให้อยู่กินข้าวที่นี่งั้นหรอ?เขาเลยรีบหันหน้ากลับมา แล้วมองธัชชัยแวบหนึ่ง จากนั้นก็ใช้สายตาที่ไม่เป็นมิตรมองกนิษฐา……เด็กน้อยกลับรู้สึกอาหารมื้อนี้คงไม่อร่อยและคงจะน่ากลัวมาก “หม่ามี๊ พวกเรากลับบ้านไปกินข้าวกันดีกว่า!”“ที่นี่ก็คือบ้านของแก!” ธัชชัยขึ้นหน้ามา แล้วอุ้มเด็กน้อยขึ้นอย่างไม่สนใจอะไรใดๆ จากนั้นก็อุ้มไปที่โต๊ะโดยตรงจนกว่าหม่ามี๊จะตามมานั่งด้วย เด็กน้อยจึงค่อยยังสบายใจขึ้นมาหน่อยกนิษฐามองวัจสา รู้สึกว่าไอ้ผู้หญิงนี่ช่างหน้าด้าน ยังกล้ามานั่งกินข้าวด้วย งั้นเธอก็คงจะไม่ถดถอยเธอเดินไปหาวรพล แล้วยื่นมือไปอุ้มมิ้นเกมส์ร้ายของผู้หญิงสองคนกำลังจะเริ่มขึ้น“ตะวัน มานั่งใกล้ลุงดีไหม?” วรพลยื่นมือไปให้ตะวันด้วยความเป็นมิตรและญาติดี อยากจะอุ้มเด็กมาอยู่ในอ้อมกอดของเขาแต่เด็กน้อยกลับปฏิเสธ จากนั้นก็กอดคอวัจสาไว้แน่นๆ ต่อให้ลุงคนนี้จะดูเหมือนญาติดี อบอุ่น และดูมีสง่าแค่ไหนก็ตามดูออกอย่างชัดเจนว่าเด็กน้อยไม่ได้อยากจะอยู่กินข้าวที่นี่ แค่ต้องทำตามความปรารถนาของหม่ามี๊ เขาเลยต้องฝืนใจตัวเองอยู่ที่นี่ต่อไป อีกอย่าง พวกเขาก็ออกไปไม่ได้อยู่ดีมื้ออาหารของตระกูลศรีทองนั้นครบถ้วนมาก คืนนี้ก็ยิ่งหรูหราและดีกว่าปกติ เพราะว่าธัชชัยได้โทรมาป้าอ้อยตอนเที่ยงว่าให้เตรียมอาหารดีๆ“ลูกผู้ชาย ทำไมทำตัวเหมือนลูกผู้หญิงที่คอยหลบอยู่ข้างหลังหม่ามี๊แบบนี้ล่ะ?”ธัชชัยยื่นมือออกไป อยากจะลูบหัวของลูกชาย แต่เด็กน้อยกลับรู้สึกรังแกและหลบไป ธัชชัยจึงเอามือไปใกล้อกของวัจสาแทนทีแรก วัจสาก็ไม่ได้รู้สึกตัว แค่รู้สึกว่าธัชชัยแค่อยากจะใกล้ชิดกับลูกของตัวเอง แต่นานๆไปเธอก็สังเกตเห็นว่า มือของธัชชัยไม่ได้มีท่าทีจะเก็บกลับไปเลยหัวของลูกชายอยู่ฝั่งซ้าย มือของเขาก็ขยับไปฝั่งซ้าย พอลูกชายขยับหัวหลบไปทางขวา มือของเขาก็ขยับไปทางขวาพูดอีกวิธีหนึ่งก็คือ ธัชชัยพยายามใช้มือแตะต้องหน้าอกของเธอ ซ้ายขวา ซ้ายขวา ไปๆมาๆตอนนี้วัจสาไม่ได้เป็นรูปปั้นที่ไม่ได้รู้สึกถึงมือของธัชชัยกำลังแตะต้องหน้าอกของเธอไอ้ผู้ชายต่ำทรามคนนี้กลับอยากจะแอบกินเธอ แต่เขายังจะใช้ทักษะในการกินอีก? วัจสาโง่หรือป่าวที่ส่งตัวเองมาถึงที่บ้าน เพื่อที่จะให้ผู้ชายคนนี้ลวนลามเธอ?!นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องเผชิญกับผู้ชายชั่วช้าคนนี้! เขามักจะใช้วิธีแบบนี้!วัจสาจึงหันหน้าไปข้างๆ แล้วจับจ้องธัชชัยด้วยสายตาที่ข่มขู่ จากนั้นก็ค่อยขยับร่างของตัวเองออก ออกจากจนถึงระยะที่ธัชชัยแตะไม่ถึงจึงจะหยุดลงธัชชัยไอ้สารเลวกลับล็อคประตูแบบนั้น วัจสาไม่อยากจะให้ลูกชายรู้เรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นก็อาจจะทำให้เขารู้สึกกังวล อำเภอพัดรักก็ไม่ได้คิดจะสนใจสองแม่ลูก ณ ตอนนี้หรือว่านี่อาจจะเป็นเป้าหมายของอำเภอพัดรัก เขาไม่ได้อยากจะให้ความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกดีขึ้นหรอก แค่เหมือนเขารู้นิสัยของธัชชัยดี ดังนั้นเลยส่งลูกชายมาให้เขา เพื่อที่จะทำให้ธัชชัยเกลียดลูกชายเท่านั้นสิ่งที่วัจสาทำได้ก็คือ ไม่ให้ลูกชายต้องได้รับบาดเจ็บเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือว่าจิตใจและธัชชัยที่กำลังกินอาหารอยู่ อยากจะใช้มือฉีกเนื้อผู้หญิงโง่ๆแบบนี้มากินแต่เพราะว่าลูกชายยังอยู่ เขาเลยอยากจะคงความเป็นพ่อที่มีจิตเมตตาไม่นาน หมูสามชั้นตุ๋นที่ได้กัดชิ้นเนื้อที่มันๆนั้นใส่ไว้ในถ้วยของวัจสาธัชชัยทำท่าทีที่เหมือนแต่ก่อนไม่เปลี่ยน และไม่ได้เพราะว่าหลายปีมานี่ทำให้พวกเขาดูห่างเหินกันถึงแม้มันผ่านไปห้าปีแล้ว แต่เหมือนท่าทีของเขายังคงฝึกซ้อมมาอย่างดี ไม่มีแม้แต่จะสะดุดเลย และเขาไม่ได้เสียเวลาไปครุ่นคิดว่าควรทำแบบนี้ไหม