วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 544 ผมไม่ได้ฝันไป
ตอนที่ 544 ผมไม่ได้ฝันไป
พอรับสาย ก็เป็นศูนย์สอนเต้นที่โทรเข้ามา
“ยัยแวว คืนนี้สงสัยต้องรบกวนเธอมาสอนคลาสหนึ่งแล้วหล่ะ เสี่ยวหลิวออกไปเที่ยวกับแฟนซะแล้ว”
“อ้าว แล้วทำไมต้องให้ฉันไปเข้าคลาสแทนด้วยหล่ะ แกล้งฉันเพราะว่าฉันไม่มีแฟนอย่างนั้นหรอ? ” คืนนี้แวววัยโกรธมากจริงๆ เธอจึงพาลไปทั่ว
“อั่ยหยา ไม่ได้เพิ่มๆ เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้เธอจะเข้าแทนเธอเอง”
“คืนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ไปแทนไม่ได้”
“แวววัย เธอจะมาเหรอ ดีจัง งั้นเดี๋ยวฉันเพิ่มเงินให้สองร้อย จะมาไม่มา?”
พอพูดเรื่องเงิน ความโกรธที่มีก็ลดลง “ให้ฉันเห็นเงินก่อนก็พอ”
“อั้ยหยานี่ แม่สาวน้อยฉันจะโอนเงินให้เธอทันทีเลยตกลงมั้ย? มาได้แล้วคนที่ห้องเต้นรอเธออยู่ เรียกแท๊กซี่มาเลย เดี๋ยวให้ค่าแท๊กซี่ด้วย”
ไม่ถึงสิบวินาที แวววัยก็ได้รับโอนมาสองร้อย
ด้วยเพราะว่าได้เงินแล้ว เธอจึงรู้สึกไม่ดีถ้าจะปฏิเสธมันไป ด้วยเพราะนึกถึงเงินธนาคารที่กู้อาไว้กว่าครึ่งล้าน แวววัยจึงจำต้องไปเข้าคลาส
เพื่อหาเลี้ยงชีพ เธอต้องทำงานตัวเป็นเกลียดหัวเป็นน๊อต เพื่อที่จะหาเงินจริงๆ ตลอดห้าปีมานี้ ธัชชัยพยายามช่วยเธอมาโดยตลอด แต่แวววัยไม่ยอมรับน้ำใจนั้นเธอมองธัชชัยที่นอนหลับอยู่บนโซฟา ก่อนจะลอบมองไปที่ประตูห้องนอน แวววัยก็รู้สึกว่าตัวเธอควรที่จะไปทำงานธัชชัยที่กำลังเมาอยู่แบบนี้ควรที่จะให้วัจสาคอยดูแล ถึงแม้หากถ้าเขาทะเลาะกันขึ้นมาก็คงไม่ทำให้ห้องของเธอพังหรอกดังนั้นแวววัยจึงเปลี่ยนชุด แล้วเดินไปหน้าประตูเตรียมใส่รองเท้า“อื้อ ฉันไปทำงานหล่ะนะ ชาแก้เมาค้างอยู่ที่ห้องครัว แค่ต้มน้ำก็ใช้ได้แล้ว อีกแปปเขาก็หลับแล้ว อย่าส่งเสียงดัง”แวววัยพูดเสียงดัง เพื่อให้คนทั้งห้องได้ยินทั่วกันแน่นอนหล่ะว่าวัจสาที่อยู่ในห้องตอนนี้อยากจะออกมาเต็มแก่ แต่แวววัยกลับไปทำงานเสริมแล้วทิ้งเธอเอาไว้ ถ้าถูกจับได้ขึ้นมา เธอจะทำยังไงดีหล่ะ?เพื่อเงินสองร้อยเธอก็ออกไปแล้ว ถ้าเธอเอาเงินพันหนึ่งในกระเป๋าให้เธอช่วยเธอออกไปก็คงดีพอได้ยินเสียงปิดประตูดัง ‘ปัง’ วัจสาก็รับรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เธอต้องเผชิญหน้ากับธัชชัยแต่เพียงผู้เดียวแล้วหัวใจของเธอเต้นรัวขึ้นมาทำยังไงดี? เธอจะต้องซ่อนอยู่อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างนั้นเหรอ?จริงๆ แล้วทั้งวัจสาแล้วก็แวววัยก็ถูกกดดันด้วยกันทั้งคู่ วัจสาเองก็ทรมานหัวใจ ส่วนด้านแวววัยนั้นก็ถูกสังคมกดขี่เพราะการที่เธอเป็นหนี้นั่นแหล่ะเหตุผลที่เธอชอบเงินนั้นก็เพราะว่าถูกสังคมกดขี่นี่หล่ะธัชชัยยังคงนั่งสะลึมสะลืออยู่ที่โซฟา จริงๆ จากคำพูดของแวววัยนั้นดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้คุยกับเขาเลย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่พูดคำว่า ‘อีกแปปเดี๋ยวเขาก็หลับแล้ว’แต่เธอจะพูดกับใครหล่ะ?ธัชชัยยังไม่ทันจะคิดเกี่ยวกับมันให้ดี ประจวบกับความง่วงและความเมาทำให้เขาหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปฟ้าค่อยๆ มืดขึ้นไปเรื่อยๆ เหมือนกับใจของวัจสาที่กังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเพราะมืดป่านนี้แล้วเธอยังไม่กลับอ่าวตื้น ลูกชายของเธอจะต้องทะเลาะกับอำเภอพัดรักอีกแน่ๆ ถ้าทำให้เขาโกรธขึ้นมาอีก เธอนั้นไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นลูกชายตะวันน้อยของเธอเป็นทุกๆ อย่างในชีวิตของเธอแล้ว เธอไม่อยากให้เขาต้องถูกอำเภอพัดรักทำโทษไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตามประมาณยี่สิบนาทีเห็นจะได้ ห้องนั่งเล่นที่อยู่ด้านนอกดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเคลื่อนไหวแล้วมองลอดผ่านประตูที่แง้มออก วัจสาเหลือบมองไปที่โซฟาก็เห็นชายหนุ่มนอนเงียบๆ อยู่บนนั้นดูเหมือนว่าเขาจะหลับไปแล้ววัจสารู้ดีว่าเธอจะต้องรีบกลับ ด้วยเพราะไม่อยากให้ตะวันเป็นห่วงแล้วก็ไม่อยากจะให้เขาถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆ นั่นด้วย เพราะบรรยากาศข้างในนั้นจะทำให้เขาไม่สบายจึงค่อยๆ แง้มประตูเปิดอย่างแผ่วเบา ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำให้เกิดเสียงอะไรขึ้นเลย วัจสาเดินย่องไอย่างเงียบๆ ผ่านห้องนั่งเล่นไปเพื่อที่จะไปที่ประตู…ซึ่งนั่นทำให้เธอได้เห็นถึงใบหน้าที่ยังคงเย็นชาและหล่อเหลาเหมือนเก่าก่อน อายุที่มากขึ้นทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวและดูมั่นคง แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเมื่อมองแล้วถึงได้รู้สึกเศร้าขึ้นมา“เธอกล้าที่จะฆ่าลูกของฉัน เธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือนี้ไปกับฉัน”พอนึกถึงประโยคนี้เข้า น้ำตาของเธอก็ไหลลงอย่างควบคุมไม่ได้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซีดเซียวจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ หญิงสาวก็ไม่อาจจะก้าวเดินต่อไปได้เมื่อนึกขึ้นได้ว่าแวววัยพูดถึงชาแก้เมาก่อนจะออกไป เธอจึงเดินเข้าไปที่ครัว พอหาเจอแล้วก็เอาไปต้ม ก่อนจะวางชานั้นเอาไว้ข้างๆ โซฟาเธอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กว่าธัชชัยจะตื่น ไม่รู้ว่าเขาจะดื่มชาแก้เมานี้ของเธอมั้ย แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะต้มเอาไว้ให้เขาเธอนั่งมองใบหน้าของชายหนุ่มเงียบๆ อยู่ไม่กี่วิ ใบหน้าที่เธอหลงรักมาตลอดห้าปี มันไม่ได้อยู่แค่ในความฝันของเธออีกต่อไปแล้ว