วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 538 เลวแถมยังโรคจิตอีก
ตอนที่ 538 เลวแถมยังโรคจิตอีก
“อ๋า นี่แกรู้อยู่แล้วหรอกเหรอ? ไอ้แมงดาธัชชัยนั่นนอกใจเธอ หน้าไม่อายเลยจริงๆ คนอะไรก็ไม่รู้”
แวววัยโกรธมากจริงๆ ถึงได้เรียกธัชชัยว่าแมงดาแบบนั้น แล้วก็เรียกมาห้าปีได้แล้วด้วย จะต่อหน้าวัจสาเธอก็ไม่เปลี่ยนคำ เลยพูดออกมาแบบนั้นเลย
“ยัยแวว แกทำไมไปว่าเขาแบบนั้นเล่า ยังไงก็ตามเขากับฉันก็เป็นอดีตกันไปแล้ว..อีกอย่างเขาก็ไม่ได้เสียใจหรือรักฉัน มันไม่ใช่ความผิดของเขาหรอก มันไม่มีกฎใดที่ว่าการที่เรารักใครแล้วเขาจะต้องมารักเราตอบนี่นา”
วัจสาพูดเรียบๆ สบายๆ อย่างเห็นอกเห็นใจ
ซึ่งจริงๆ แล้วการที่พูดว่าเห็นอกเห็นใจนั้นมันก็ไม่ถูกเท่าไหร่ เพราะเดิมทีความคิดของชายหนุ่มก็ไม่เคยมีเธออยู่แล้ว อีกอย่างกนิษฐาก็เป็นรักเก่าของเขา มันจะดีที่สุดหากไปฟื้นความสัมพันธ์นั้น
“สา แกนี่มันโง่จริงๆ เลย จริงๆ แล้วคนที่แกแต่งงานด้วยเป็นธัชชัย ซ้ำยังท้องลูกของเขาอีก ทำไมแกไม่เคยบอกฉันเลยฮะ? นี่แกไม่คิดว่าฉันเป็นเพื่อนของแกใช่มั้ย? ”
ไม่รอให้วัจสาตอบ แวววัยก็บ่นต่อไปอีก “แล้วก็อีกนะ นี่มันห้าปีเข้าไปให้แล้ว แกหนีไปอยู่ที่ไหนมา? ไม่ว่าแกจะอยู่สวรรค์หรือลงไปอยู่นรกแกก็ควรจะโทรหาฉันมั้ย? ”
“หรือว่าจะพูดว่าสายตาแก ฉันแวววัยคนนี้ไม่ใช่เพื่อนของแกแล้วฮะ ขนาดหมายังเป็นไม่ได้เลยมั้ง? ” คำพูดของแวววัยทำเอาวัจสาเงียบไปราวกับคนใบ้
ด้วยเพราะเธอรู้แล้วว่าแวววัยนั้นเป็นห่วงเธอจริงๆ “ขอโทษจริงๆ นะยัยแวว แกยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันวัจสาคนนี้ ดีมากๆ ดีที่สุดในโลกเลย จริงๆ นะ ฉันขอโทษ”
วัจสากอดแวววัยแน่น พ่นคำขอโทษไม่หยุด
เดิมทีเธอได้แต่คิดว่าไม่มีคนไหนหรือของสิ่งใดในเมืองSที่ต้องการเธอเลย แต่ห้าปีมานี้เป็นแวววัยที่เป็นสิ่งปลอบใจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตเธอ ที่ยังคงคอยห่วงใยและคิดถึงเธออยู่ที่นี่เมื่อกนิษฐามาถึงห้องบำบัด ก็เป็นเวลาเดียวกับที่อารมณ์โมโหของธัชชัยสงบลงในห้องโถงใหญ่ ธัชชัยรับเอาเด็กหญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของวรพลมาอย่างคุ้นเคย แม้ว่าวรพลจะเดินได้เป็นปกติแล้ว แต่การเดินในระยะไกลนั้นก็ยังทำให้เขาล้าอยู่ดียิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่อุ้มเด็กน้อยที่น้ำหนักกว่ายี่สิบโลไว้ด้วยภายใต้การดูแลของป้าอ้อยและพ่อบ้านภูษิตทำให้เด็กหญิงเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงด้วยเพราะเกรงว่ามิ้นจะป่วยเข้า ธัชชัยจึงถอดเสื้อสูทของเขาแล้วคลุมไว้ให้เจ้าตัวน้อย“ชัย ใช้เสื้อพี่ก็ได้ นี่พี่ใส่เสื้อขนสัตว์ทับอีกตัว”เมื่อเห็นว่าธัชชัยถอดเสื้อคลุมออก ซึ่งเป็นเสื้อตัวเดียวที่ให้ความอบอุ่นได้ก็เกรงว่าน้องชายจะเป็นหวัด จึงเสนอให้ใช้เสื้อคลุมของตัวเขาเองแทน“เอาน่า วรพลพี่ดูแลตัวเองก่อนเถอะน่า ไว้วันหลังค่อยแสดงความรักของพ่อก็ได้ ไม่งั้นพี่จะป่วยเอานะ ทีนี้หล่ะทั้งบ้านได้วิ่งวุ่นกันแน่”โดนธัชชัยดุแบบนั้น วรพลก็เอาเสื้อใส่กลับคืนที่เดิม ด้วยเพราะเขาเป็นคนภูมิคุ้มกันต่ำ ถ้าป่วยขึ้นมา ทั้งบ้านก็อลหม่านกนิษฐาที่อยู่นอกกระจก มองเข้ามาทันเห็นธัชชัยถอดเสื้อคลุมตัวเองเพื่อที่จะคลุมให้ลูกสาวของพวกเขา นั่นทำให้หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขธัชชัยนั้นรักมิ้นมากจริงๆ รักไปถึงขั้วกระดูกขั้วหัวใจ ราวกับว่านอกจากลูกสาวที่รัดของเขาแล้ว เขาก็ไม่อาจรักใครได้อีกแต่กลับกันกับไม่ของเด็กสาวธัชชัยนั้นไม่แม้แต่ชายตามองกนิษฐาเบื่อกับการไร้หัวใจของธัชชัยมากจริงๆ เพราะความเย็นชาที่เขามีต่อเธอ ทำไมตอนที่เมาถึงได้มาโขกสับเธอ?กนิษฐารู้ดีว่าไวน์น้อยๆ เพียงนั้นไม่มีทางทำให้เขาเมาได้“ฐา มาแล้วหรอ? ”วรพลไม่ได้เป็นคนที่เห็นเธอเป็นคนแรก แต่เป็นคนที่ทักทายเธอก่อนกนิษฐาเพียงแค่เหลือบมองเขา ไม่ทักทายกลับเลยสักคำ“ชัย เอามิ้นมาให้ฉันมา”กนิษฐาพูดขึ้น พลางเอื้อมมือไปทางธัชชัยหวังจะอุ้มมิ้นที่หลับสนิทจากเขาธัชชัยเบี่ยงตัวหลบก่อนจะตำหนิเสียงเย็น “เธอใส่ส้นสูงขนาดนี้ แน่ใจแล้วหรอว่าจะอุ้มมิ้น? ”ธัชชัยก้มศีรษะลงไปหาเด็กน้อยที่หลับอยู่ในอ้อมกอด ก่อนจะเดินไปที่ลานจอดรถกับเธอทิ้งให้กนิษฐายืนนิ่งอยู่เฉยๆ คนเดียวดูเหมือนว่าเธอจะไม่เข้าใจมากจริงๆ ว่าทำไมธัชชัยถึงได้รักลูกสาวของพวกเขามากขนาดนี้ แต่กลับไร้เยื่อใยกับแม่ของเด็กได้ขนาดนี้“ฐา เธอไม่ต้องสนใจหรอก ชัยหน่ะเขาเป็นห่วงมิ้นมากเท่านั้นเอง” วรพลปลอบเธอเสียงเบาเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้รู้สึกขอบคุณอะไรกับคำปลอบของวรพลเลย ทั้งยังหัวเราะเย้ย “เขารักลูกสาวที่เป็นลูกของเขากับฉัน แล้วฉันจะไปเสียใจอะไรหล่ะ น่าหัวเราะ”วรพลได้ยินแบบนั้น หัวใจของเขาก็เจ็บปวดราวกับมีเข็มพันเล่มแทงเข้ามาในใจสองพี่น้องตระกูลศรีทองพามิ้นขึ้นมานั่งบนรถโรลส์รอยซ์ ในขณะที่กนิษฐาขับรถของเธอเองกลับบ้านไปก่อนบางครั้งเธอเองก็รู้สึกแย่แปลกๆ ดูเหมือนว่าสองพี่น้องจะรับเอามิ้นเป็นครอบครัวเดียวกับพวกเขา ทั้งยังดูแลมิ้นเป็นอย่างดี ซึ่งเธอผู้ซึ่งเป็นแม่ที่อุ้มท้องมากว่าสิบเดือน พวกเขากลับไม่สนใจพอถึงบ้านตระกูลศรีทองกนิษฐาก็ยืนรอพวกเขากลับมา แต่ก็กลับพบว่าในรถมีเพียงแค่วรพลกับมิ้นเท่านั้น ไม่มีแม้แต่เงาของธัชชัย