วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 470 การเคลื่อนไหวครั้งแรกของเจ้าตัวน้อย
ตอนที่ 470 การเคลื่อนไหวครั้งแรกของเจ้าตัวน้อย
วรพลที่อยู่บ้านตระกูลศรีทองนั้นดูเหมือนใจจะวุ่นวายไม่หยุดหย่อนของจริง
ด้านหนึ่งเขาก็รับฟังถึงเรื่องราวที่กับขึ้นกับธัชชัยผู้เป็นน้องชาย อีกด้านหนึ่งก็ถามไผ่ถึงที่อยู่ของวัจสา
ไผ่บอกว่าเขาไม่พบวัจสาบนเรือของอำเภอพัดรักเลย ไม่ว่าจะด้านในหรือด้านนอก แม้จะใช้เครื่องจับสิ่งที่มีชีวิตหาหมดแล้วก็ตามที ก็ไม่เห็นว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่นใดที่อยู่บนเรือของอำเภอพัดรักเลย
ด้วยเพราะวรพลเคยอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับวัจสามาก่อน ดังนั้นเขาจึงพูดได้เลยว่าโอกาสที่วัจสาจะโดนโยนศพทิ้งน้ำนั้นสูงมาก
เมื่อได้ยินสี่คำที่ว่า‘โยนศพทิ้งน้ำ‘นั้นเกือบจะทำให้วรพลทรุดลงอีกครั้ง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในใจลึกๆ ของเขาตีตื้นมาอีกครั้ง เขาเริ่มที่จะร้องไห้ขึ้นมา
สองแม่ลูกนั้นต้องมาเผชิญทุกข์ระกำทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น เป็นเพราะเขาทั้งสิ้น
หากไม่ใช่ตัวเขาที่ต้องการอยากจะตายตั้งแต่ทีแรก แล้วทิ้งให้น้องชายของเขาอยู่เพียงผู้เดียว สาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลศรีทอง แล้วก็ไม่ต้องมาตกระกำลำบากดังเช่นที่เธอประสบนี้
ในตอนนี้วัจสาเองเธอก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ด้วยเพราะเธอถูกคนพวกนั้นขังเอาไว้
ตอนนี้เธอเป็นเหมือนสัตว์ตัวน้อยๆ ที่ถูกคนเอามาจับขังใส่ไว้ในที่แคบๆ ไม่มีอิสรเสรีแต่อย่างใด
“ลูกรัก …ขอบใจนะจ๊ะ….ขอบใจลูกที่ยังไม่ได้ทิ้งหม่ามี๊ไปไหน ….ขอบคุณที่ยังอยู่กับหม่ามี๊ในนี้”วัจสาร้องออกมาอย่างขมขื่นพร้อมกับลูบท้องของตัวเองไปพลางจู่ๆ เจ้าเด็กน้อยในท้องก็เตะขึ้นมาเบาๆ นี่เป็นสัญญาณแรกของเขาเลยใช่มั้ยเนี่ย? วัจสาถึงกับชะงักไป จนกระทั่งเด็กน้อยเตะขึ้นมาอีกครั้ง เธอจึงได้สติคืนมาในค่ำคืนนั้น เหมือนลิขิตเอาไว้ให้เธอต้องเสียน้ำตาการขยับตัวของลูกน้อยของเธอ ยิ่งเพิ่มความมุ่งมั่นที่จะออกไปจากที่นี่ของวัจสา เธอไม่เพียงทำเพื่อตัวเธอเองเท่านั้น แต่ยังเพื่อลูกน้อยที่อยู่ในท้องของเธอด้วยดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะเจรจากับลูกเรือ เนื่องจากว่าที่เธอถูกกักตัวเอาไว้นี้ด้วยเพราะกนิษฐาตั้งค่าหัวของเธอเอาไว้ถึงสามล้าน ดังนั้นเธอจึงต้องเริ่มเจรจาด้วยเงินก่อน“6ล้าน ฉันจะจ่ายเพื่อไถ่ตัวเองเป็นราคาสองเท่าเลย ว่ายังไงหล่ะ? ”ดูแล้วเหมือนกับลูกเรือชายคนนั้นมองสำรวจร่างกายเธอที่ดูไม่มีเงินเลยสักบาท แม้แต่ร้อยเดียวก็ไม่มีนั้น ก็กลอกตาขึ้น “กลับไปรออยู่กับที่ซะ ถ้ายังตุกติกอยู่ ฉันจะโยนเธอลงเไปเป็นอาหารฉลาม!”“พวกคุณไม่เชื่องั้นเหรอ? สามีฉันหน่ะรวยกว่ากนิษฐาเสียอีกนะ!ประเด็นหน่ะมันอยู่ตรงที่พวกคุณจะได้เงินค่าไถ่สองเท่าจากสามีของฉันโดยไม่มีความเสี่ยงอะไรเลย”วัจสายังคงต่อรองกับพวกลูกเรือต่อไปธัชชัยเต็มใจที่จะให้ค่าสินสอดแต่งงานกับเธอถึงสองพันล้าน นี่แค่หกล้านก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร แม้ว่าตัวเธอเองจะไม่มีค่าถึงขนาดนั้น แต่ในท้องของเธอก็ยังมีเจ้าตัวเล็กอยู่ด้วยไม่ใช่หรือไง?“สามีเธอคือใคร? ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรอ? ”“สามีของฉันเป็นผู้บริหารบริษัทบีเค-เทโร ชื่อวรพล! ถ้าคพวกคุณไม่เชื่อหล่ะก็ก็โทรเข้าเบอร์บ้านไปยืนยันได้เลยแล้วก็บอกด้วยว่าวัจสาให้พวกเขาเอาเงินหกล้านมาให้พวกคุณ แค่เท่านี้ก็พอแล้วไม่ต้องพูดซ้ำเลยเหตุผลที่เธอบอกว่าวรพลเป็นสามีของเธอนั้น ด้วยเพราะเธอรู้ว่าวรพลในตอนนี้ได้เดินทางกลับไปอยู่ที่บ้านอย่างปลอดภัยแล้ว และเขาก็จะเป็นคนที่บินดีที่สุดที่จะเอาเงินหกล้านมาไถ่ตัวเธอหกล้านสำหรับบ้านตระกูลศรีทองนั้นเป็นแค่เศษเงินเท่านั้น ดังนั้นเขาจะต้องให้พ่อบ้านภูษิตเอามาไถ่เธออย่างแน่นอนตอนนี้เธอไม่ได้อยากจะคิดถึงสถานการณ์ของบ้านตระกูลศรีทอง เธอเพียงแค่อยากจะออกไปจากที่นี่ เพื่อให้ลูกในท้องของเธอพ้นจากอันตรายอีกอย่างลูกของเธอนั้นก็มีค่าเกินหกล้านด้วยซ้ำไปลูกเรือที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอดูเหมือนจะเริ่มกระตือรือร้นขึ้นมาหน่อย ตัวของวัจสานั้นมีค่าหัวถึงจะไถ่ไปได้ แต่ไม่ว่าจะเงินของใครก็เงินไม่ใช่เหรอ แถมยังเพิ่มเป็นสองเท่าตัวด้วย!แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนโง่ทีเดียว กัปตันเรือจึงถามขึ้น “ถ้าสามีเธอแจ้งตำรวจจะทำยังไงหล่ะ? เธอจะเป็นพยานให้เรามั้ยถ้าออกไปแล้ว? ”“พวกคุณวางใจได้เลย แค่เงินหกล้านมันไม่สะทกสะท้านเขาหรอก ฉันมีมูลค่ามากยิ่งกว่านั้น เขาจะไม่ไม่มีทางแจ้งตำรวจ! ฉันเอาตัวฉันเป็นประกันได้เลย ฉันความจำไม่ใช่ว่าดีเท่าไหร่ ออกไปก็จำหน้าพวกคุณไม่ได้แล้ว ““อ้า แล้วอีกอย่าง พวกคุณเป็นคนช่วยฉันขึ้นมาจากทะเล ถ้าไม่มีพวกคุณฉันก็ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง อีกทั้งก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายใดๆ ฉันด้วย เงินหกล้านนี้ก็เป็นค่าแรงของพวกคุณก็แล้วกัน”ได้ยินวัจสาพูดอย่างนั้นพวกลูกเรือก็ยิ่งตื่นเต้นขึ้นยกใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ถูกล้างสมองจนสิ้นทีดียว เขาแค่ให้เธอทิ้งเบอร์และที่อยู่ไว้ และกลับเข้าไปในห้องขังตามเดิมพวกเขาไม่ใช่เป็นคนมีเงินมากมายอะไร ที่มาทำงานนี่ก็เพื่อหาเงินทั้งนั้น เดิมทีก็ไม่ได้คิดอยากจะฆ่าแกงใครด้วย แถมนี่ยังได้เงินตั้งหกล้าน เป็นใคร ใครจะไม่เอาหล่ะ?ดังนั้นพวกเขาจึงลองเสี่ยงที่จะโทรไปที่เบอร์ที่วัจสาทิ้งเอาไว้ให้ เรือกำลังเคลื่อนที่อีกทั้งยังหาพิกัดพวกเขาไม่ได้ ถ้าฝั่งนั้นคิดจะแจ้งความหล่ะก็มากสุดก็โยนวัจสาลงทะเลให้กลายเป็นศพไปโทรศัพท์ดังขึ้นสามครั้งติดกัน และคนที่รับสายนั้นก็คือป้าอ้อย“สวัสดีครับ นั่นใช่บ้านตระกูลศรีทองรึเปล่า? ”“ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใครคะ? ” ป้าอ้อยตอบอย่างสุภาพ“ขอสายวรพลหน่อยครับ”ป้าอ้อยชะงักไปเล็กน้อย “รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันไปเรียกคุณชายใหญ่สักครู่”