วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 375 ไม่อยากเป็นเสา 2
ตอนที่ 375 ไม่อยากเป็นเสา 2
ธัชชัยจอดรถเฟอรารีคันดำของเขาที่หน้าประตูโรงเรียน ชั่วเวลานั้นเด็กก็วิพากษ์วิจารณ์ซุบซิบกันสุด ด้วยคิดว่าธัชชัยมาเพื่อรับน้องสาว แต่ใครจะรู้หล่ะว่าเขามาเพื่อรับภรรยาของเขา
ก่อนที่เขาจะโทรศัพท์หาวัจสา ธัชชัยก็โทรไปหาเบอร์ลับก่อน
“กรดล นี่ฉันเอง”
กรดลเงียบอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะพูดเร็วๆ “อือ รู้แล้ว มีอะไร? ”
“ตอนนี้รอบข้างของอำเภอพัดรักที่มีมากมายนั่นมีเข้ม ซึ่งรู้สึกบทบาทเจ้านี่จะร้ายมากทีเดียว นายก็ระวังตัวด้วย สองสามวันนี้กนิษฐาคงพลิกแผ่นดินตามหาแก”
กรดลเงียบไปอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้นมาอีกและทิ้งคำถามที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง “ถ้ากนิษฐาเจอผมแล้ว คุณจะให้ผมฆ่าเธอหรือให้เธอฆ่าผม? ”
มันเป็นคำถามที่เขาอยากจะตีกรดลสักทีจริงๆ ทุกครั้งที่กรดลให้เขาเลือกมันมักจะไม่มีคำตอบที่ดีอยู่ในนั้นเลย
แต่เป็นสิ่งที่เขาชอบที่จะทำซะเหลือเกิน มันดูเหมือนเป็นจุดเล็กๆ ที่เขาเหมือนกับอำเภอพัดรัก
สุดท้ายธัชชัยก็ไม่ได้ตอบคำถามไปโดยตรง “เธอฆ่านายไม่ได้หรอก”
“งั้นก็หมายความว่าผมฆ่าเธอได้ใช่มั้ย? ”กรดลถามเขาอีกครั้ง
ธัชชัยเงียบไปอีก เขารู้ว่ากรดลจงใจให้เขาเลือกระหว่างตัวเขากับกนิษฐา
ธัชชัยไม่เข้าใจว่าทำไมกรดลถึงต้องบังคับให้เขาต้องเลือก แต่ปัญหานี้มันกระทบจิตใจเขาจริงๆ
“หากถ้ากนิษฐาจะต้องตาย จะต้องตายด้วยน้ำมือของฉันเท่านั้น เข้าใจมั้ย? ”ธัชชัยไม่ได้ตอบไปโดยตรง แต่พยายามใช้ปัญญาในการเลี่ยงคำถามของกรดลกรดลเงียบไปแล้วไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก“นายก็ระวังตัวหน่อยนะ ถ้าฉันยังไม่ตาย แกจะต้องไม่เป็นอะไรทั้งนั้น เข้าใจมั้ย? ” ธัชชัยพูดออกมาทำลายความเงียบแต่ปลายสายก็ยังคงเงียบต่อ มันเป็นความเงียบที่ทำให้ธัชชัยรู้สึกโมโห“ถ้าฉันตายแล้ว แต่กนิษฐายังมีชีวิตอยู่หล่ะก็ นายค่อยฆ่าเธอแทนฉัน อย่าปล่อยให้เธอมาทำร้ายพี่ชายฉันอีก! ”ธัชชัยเตือนขึ้น“แล้ววัจสาหล่ะ? อยากให้ผมส่งไปอยู่กับคุณด้วยมั้ย? ”กรดลถามออกไปอย่างเย็นชาธัชชัยเงียบไปอึดใจก่อนจะตอบ “ไม่ต้อง ให้เธออยู่กับพี่ชายฉัน”“หมายความว่าคุณอยากให้กนิษฐาตายไปกับคุณ แต่กลับไม่อยากให้วัจสาภรรยาของคุณตายตามไปด้วย? ”คำพูดของกรดลเฉียบคมจนทำให้ธัชชัยอยากจะซัดเขาสักที“กรดล นายคิดว่านายที่เป็นลูกน้องของฉันมาก้าวร้าวกับเจ้านายแบบนี้ มันสมควรมั้ย? ”ธัชชัยไม่อยากจะสู้รบตบมือกับเขาอีก เลยคุยกับกรดลแบบพี่แบบน้องเสียงของกรดลราบเรียบมากทีเดียว “ผมขี้เกียจไปยุ่งเรื่องของคุณแล้ว” เขาค่อยๆ พูดออกมาแต่เปรียบประหนึ่งคำสัญญา “แต่ถ้าผมยังไม่ตาย จะไม่เกิดอะไรขึ้นกับคุณแน่นอน”“ฉันรู้ว่านายสัตย์ซื่อแค่ไหน รอให้ฉันจัดการกับพี่ชายก่อน แล้วเราไปจับปลากัน แยกพวกเขาออกจากกันนั่นแหละเราจะได้จัดการได้อย่างง่ายดายขึ้น” ธัชชัยอธิบายเสียงเบา ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความภูมิใจและลังเลอยู่ในที“จัดการภาระของคุณให้เรียบร้อยซะก่อนเถอะ อย่าปล่อยให้อำเภอพัดรักเอาพวกเขามาเป็นเบี้ยในเกม” กรดลพูด“รู้แล้ว กำลังจัดการ เท่านี้แหละ”พอวางสายแล้วธัชชัยก็เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ ทำไมกรดลถึงรู้ว่าภรรยาของเขาคือวัจสา? พวกเขาคงไม่ได้คุยกันใช่มั้ย?ในช่วงเวลาที่ความคิดแสนจะคลุมเครือนั้น ธัชชัยรู้สึกเพียงว่ากรดลคนนี้มีความลับมากทีเดียว ทำไมคนคนหนึ่งถึงสามารถที่จะอยู่ในที่ไม่มีใครเข้าไปแหย็มได้แบบนั้นนะ?ธัชชัยหน้าตาบูดบึ้งขึ้นทันที เขายกมือขึ้นนวดเพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายลงสิบนาทีหลังจากนั้น ในขณะที่วัจสากำลังเตรียมจะไปกินข้าวเย็นก็ได้รับโทรศัพท์จากธัชชัยเธอถือโทรศัพท์ที่ดงไม่หยุดอย่างไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมันดี“เจ้าตัวน้อย หนูว่าหม่ามี๊ควรรับโทรศัพท์จากพ่อหนูดีมั้ย? ”วัจสามองไปที่โทรศัพท์อย่างลังเลในขณะที่เธอกำลังลังเลอยู่นั้น โทรศัพท์ก็ตัดไปอัตโนมัติหัวใจเธอเต้นแรง ด้วยเพราะเธอแอบเสียใจเพราะเพิ่งตัดสินใจได้ว่าจะรับจริงๆ เธอรู้แล้วหล่ะว่าธัชชัยน่าจะรู้เรื่องที่เธอรู้ว่าเขาเป็นสามี วรพลไม่มีทางที่จะไม่บอกเขาแต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์กับเขาที่เธอมีมันช่างซับซ้อนเหลือเกิน“จบกันแล้วหล่ะลูกรัก พ่อของหนูวางสายไปเสียแล้ว คงจะไม่ได้กินข้าวฝีมือยายอ้อยแล้วหล่ะ”เบบีได้แต่ทุกข์ระทมใจ : ถ้าพ่อโทรมาอีก หม่ามี๊ต้องรับนะ หนูขอเลย! หนูสามเดือนกว่าได้แล้วนะยังจะปฏิเสธอะไรอยู่?แต่วัจสารออยู่นานสิบนาทีธัชชัยก็ยังไม่โทรมาอีก อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา จมูกแดงอย่างไม่ทราบสาเหตุน่าอัศจรรย์จริงๆ ในเวลานั้นเอง สายจากธัชชัยก็โทรมาอีกครั้ง“ฮัลโหล ธัชชัย….”ในครั้งนี้เธอไม่แม้แต่รีรอ เสียงดังเพียงครั้งเดียวเอก็รับสายทันที หลังจากที่ทนรอมาสิบนาที เธอก็ไม่อยากที่จะทนทรมานอีก“ผมชอบจังเวลาที่คุณรอโทรศัพท์ของผมเนี่ย มันน่าสนใจมากทีเดียว”ธัชชัยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยชวนรื่นหูนัก อย่างกับเขารับรู้ได้ผ่านหัวใจของเธอก็ไม่ปาน“ธัชชัยมีเรื่องอะไรก็รีบพูด ไม่งั้นฉันจะวางแล้วนะ”“กับชายคนนี้ เขาหน้าด้านเสียยิ่งกว่าปูนฉาบ ดังนั้นเธอจึงขี้เกียจไปสู้กับเขา”