วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 310 อย่าเป็นแบบนี้
ตอนที่ 310 อย่าเป็นแบบนี้
ใบหน้าของธัชชัยตอนนี้โกรธมากที่ถูกกนิษฐาบังคับให้ออกจากห้องไป คนฉลาดอย่างเขา ไม่รู้ว่าทำไมผู้หญิงทั้งสองที่ไม่ลงรอยกันถึงได้สมัครสมานพร้อมใจกันเพื่อต่อสู้กับเขา
“คุณชายรองคะ ดื่มนมอุ่นๆ ก่อนเถอะ ฉันจะขึ้นไปที่ชั้นสองและจัดเตียงให้”
ป้ารู้สึกเสียใจที่เขาถูกไล่ออกมาจากห้องแบบนั้น แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น แผนการของพวกเขาที่จะให้ธัชชัยกับวัจสามีลูกก็เป็นอันถูกยกเลิกไปอีกครั้ง เธอจึงเป็นกังวลมากเป็นพิเศษ
“ไม่ต้อง ฉันจะไปกับพี่ใหญ่” ด้วยความโกรธที่ปะทุมากของเขาจึงเดินเสียงดังขึ้นไปชั้นสอง
ภายในห้องบำบัด หมอเฉินกำลังทำการรักษาผิวที่โดนไฟไหม้ของวรพล นั่นจะทำให้ผิวของเขาผ่อนคลาย จะได้ไม่ตึงมาก
เมื่อธัชชัยเดินเข้ามาก็พอดีเห็นกับแผลขนาดใหญ่ที่ถูกเผาบริเวณหลังของวรพล ผิวที่แข็งตัวทั้งหมดมันซ้อนกัน มองดูยิ่งน่าตกใจ
ธัชชัยรู้สึกไม่สบายมากขึ้นกว่าเดิม แผลเป็นที่น่ากลัวเหล่านั้น มันเหมือนกับจะสลักไว้ในหัวใจของเขา
“เกิดอะไรขึ้น? ชัยแกคงไม่ได้ถูกสาเขาไล่ออกมาจากห้องหรอกใช่มั้ยหล่ะ? สมควร!” วรพลจงใจแกล้งล้อเลียนเขา เขาส่งสัญญาณให้หมอภาคินใส่เสื้อของเขากลับ เขาไม่อยากให้ธัชชัยเห็นบาดแผลบนร่างกายของเขา เพราะด้วยรู้รู้ว่าเขาจะเกลียดกนิษฐามากขึ้น
เสียงของวรพลลดลง ในขณะที่ธัชชัยจับหลังของเขาเอาไว้ แผลเป็นที่สลักไว้ในหัวใจนั้น เขาปรารถนาที่จะย้ายมันทั้งหมดมาไว้ที่ตัวของเขาเอง พวกเขาอยู่ในท่านั้นนานอยู่พอสมควร
“ธัชชัย ไม่เป็นไรนะ พี่ไม่เป็นไรแล้วตอนนี้…” วรพลปลอบประโลมเขา ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าธัชชัยกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ดี“แกจะบอกว่าแกถูกไล่ออกมาจากห้องของวัจสา? ไม่สมเป็นแกเลยนะ”ธัชชัยไม่ตอบอะไร เพียงแค่ลูบมือลงไปบริเวณส่วนล่างของวรพล……เขาไม่ได้อนาจารเขาเพียงแค่…..“ชัย แกไม่ต้องทำแบบนี้……”วรพลปิดขาทั้งสองข้างของตัวเองอย่างตกใจ ระคนด้วยความอับอายเล็กน้อย นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำเพื่อผู้ชายอีกคน นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกด้อยค่าขึ้นไปอีก“ธัชชัย พี่ขอร้องล่ะ!”เสียงแหบของเขาสั่นด้วยความกลัว“อายอะไรขนาดนี้เล่า? ผมจะไม่แตะต้องมันแล้ว ผมก็มีเหมือนกัน! ” เขายังคงทนไม่ได้ที่จะเห็นพี่ชายของเขารู้สึกอาย เขาดึงมือของเขากลับมาอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับเรื่องนี้ จริงๆ แล้วเขาถามกับหมอภาคินแล้ว แต่ว่าหมอไม่ได้พูดอะไร การสั่นศีรษะและถอนหายใจดูเหมือนจะแสดงให้เห็นบางสิ่งบางอย่างเมื่อชีวิตของวรพลแขวนอยู่บนเส้นด้าย ธัชชัยไม่มีความคิดอื่นๆ เพียงแค่พยายามที่จะยึดติดและรักษาชีวิตของวรพลเอาไว้ในน้ำเสียงมีอารมณ์ขันอยู่นั่นเพื่อที่จะละลายความรู้สึกกระดากอายของวรพลลงไปมากก็น้อยตอนนี้ชีวิตของพี่ใหญ่ถูกรักษาเอาไว้ได้แล้ว เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนต่อไปของการปลูกถ่ายผิวหนัง เขาก็คิดเรื่องอย่างว่าของวรพลบ้างแล้ว ด้วยเพราะเขาไม่อยากให้พี่ใหญ่ต้องเสียใจไปตลอดชีวิตของเขาเขาต้องการให้วรพลมีชีวิตที่จะได้ใช้อย่างเต็มที่ มีภรรยาและลูกในอนาคตเขาค่อยๆ วางร่างของวรพลลงกลับไปที่เตียง ธัชชัยจับยึดร่างของเขาไว้ให้นอนลงอย่างช้าๆ“ชัย แกควรจะออกไปสูดอากาศสักหน่อยนะ น้ำยาฆ่าเชื้อในนี้กลิ่นย่ำแย่มาก ฉันกลัวว่าแกจะทนไม่ไหว”จริงๆ แล้วธัชชัยมีบางอย่างที่ผิดปกติ เขาแพ้น้ำยาฆ่าเชื้อมาตั้งแต่ยังเด็ก แต่เขาก็ทนมาตลอด ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุกับเขา เขาก็อดทนกับโรคภูมิแพ้ที่รุนแรงของตัวเองเอาไว้“ไม่เป็นอะไรหรอก พี่ยังทนได้ ทำไมผมจะทนไม่ได้หล่ะ? ”ขณะที่เขาพูด ก็ใช้ร่างของเขากดทับร่างกายครึ่งบนของวรพลเอาไว้ แน่นอนว่ามันไม่ได้แรง เพียงแค่วางมันลงเบาๆ วัตถุประสงค์ของเขานั่นก็คือเพื่อทดสอบว่าร่างกายของวรพลได้รับการฟื้นฟูมากแค่ไหนแล้ว“อย่ามาใกล้ฉัน แกตัวหนักเกินไปแล้ว แกไปหน่อย!” วรพลพูดในขณะที่หันหลังให้กับธัชชัย แต่ก็ยังมีแรงพูดอยู่แล้วก็เหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น “ชัย สาเธอแต่งงานมาเกือบครึ่งปีแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมไม่เห็นว่าท้องของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างเลย หรือว่าตอนที่ปั๊มลูกกันนี่แกใส่ถุงยางหรอ? “วรพลเป็นกังวลมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้วยเพราะในความคิดของเขา ตัวเขาเองชีวิตนี้คงจะไม่มีลูก ดังนั้นเขาจึงต้องการให้น้องชายของเขามีลูกเร็วๆ ”“เรื่องนี้พี่จะยุ่งอะไรด้วยเล่า ถามลึกไปแล้วนะ ต่อไปไม่ต้องถามเลยรึไงว่าผมใช้ท่าไหนบ้าง? ”คำพูดของเขามักจะทำให้วรพลหัวเราะอยู่เสมอ แต่มันเป็นวิธีที่พี่น้องมีความสุขในความทุกข์ยากของพวกเขาวรพลถึงกับพูดไม่ออกเลยจริงๆแต่ไม่นานเขาก็พูดขึ้นอีก “ไอ้หนู ปล่อยให้เธอท้องลูกของแกไปเถอะ เธอเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่ง”ในด้านของแผนที่ธัชชัยวางไว้ เขายังไม่ได้คิดถึงลูก อีกทั้งแล้วตอนนี้มันยังคงไกลเกินไป เพื่อแก้แค้นให้กับพี่ชายของเขา จะเอาเวลาที่ไหนดูแลลูกหล่ะ อีกอย่างถ้าหากมีขึ้นมา ก็จะเป็นแต่จุดอ่อนของเขาไปเสียดูเหมือนว่าวรพลยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่โทรศัพท์ของธัชชัยก็สั่นขึ้น เป็นบุรีที่โทรมาบอกว่ากรดลหายตัวไปจากโรงพยาบาล