วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 3 ค่ำคืนที่ล้ำค่า
ตอนที่ 3 ค่ำคืนที่ล้ำค่า
วรพลเพิ่งพูดจบ ก็มีคนเอาของมาให้เขาเซ็น
“ได้ ฉันเช็ค พี่เตรียมพร้อมไปอังกฤษไปรักษาได้เลย ไอ้หนังนี้ พี่ได้เปลี่ยนแน่” มืออันใหญ่ของธัชชัยคลื่นไหว ลายเซ็นที่งดงามดั่งหงส์ร่อนก็เซ็นลงในทะเบียน
แสดงให้ดีไปก่อน พี่ก็จะได้ยอมไปรักษาดีๆ
ขณะเดียวกันคนในอำเภอก็รออยู่ที่ห้องรับแขก เพื่อที่จะให้วัจสาเซ็นชื่อ
“คุณวัจสาค่ะ รบกวนคุณกรอบข้อมูลนี้แล้วเซ็นชื่อของคุณด้วยค่ะ เสร็จแล้วจะเอาไปให้คุณวรพลค่ะ คุณก็รู้ร่างกายของเขาไม่ค่อยสะดวก”
วัจสาไม่น่าเชื่อว่าจะจบสมรสเร็วขนาดนี้ ในใจยังไม่ทันรู้ตัว คิดว่าแค่ไปดูเฉยๆ เธอพยักหน้า แสดงว่าตัวเองเข้าใจแล้วแววตาลงมาที่แบบฟอร์มลงทะเบียน สักครู่หนึ่งลงมือเขียน
ในทั้งชีวิตนี้ เราคงอยู่ได้แต่ในคฤหาสน์นี้ ไม่มีอนาคต ไม่มีอิสระ อะไรก็ไม่มี
สุดท้ายเขาก็เซ็นชื่อของตนเอง ก็เท่ากับว่าล็อคประตูของอิสระด้วยมือของตัวเอง
ใช้เวลาไม่นาน ทะเบียนสมรสสองใบที่ถูกกฎหมายก็มาถึงตรงหน้าธัชชัย มือขวาที่มีลายพรายอย่างน่ากลัวของวรพลค่อยๆเสียดสีสมุดเล่มนี้ เปิดออกมา ชื่อของทั้งคู่ก็ปรากฏมาตรงหน้าเขา
ฝ่ายชาย:ธัชชัย
ฝ่ายหญิง:วัจสา
วรพลพอใจมาก แต่อย่างนี้ยังไม่ได้ ฉันต้องหาวิธีให้เขาสองคนเข้ากันหาได้
ขณะนี้สีหน้าธัชชัยเริ่มไม่ดีแล้ว เขาไม่สนใจสมุดเล่มแดงสองเล่มนี้ ในใจนึกถึงคนที่อยู่ในข้างล่าง ผู้หญิงคนนั้น จะทำร้ายพี่ชายที่เสียโฉมยังไง?
สิ่งเดี๋ยวที่รอคอยก็มีแค่นี้แหละ
วรพลตัดสินใจแล้วว่าจะให้เขาทั้งสองสัมผัสกันอย่างมิดชิด “ธัชชัยวันนี้เป็นแต่งงานของนาย ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันก็ได้ ไปอยู่กับเจ้าสาวคนสวยของนายไป”
ธัชชัยฮัมอย่างเบาๆ ฮ่า ดูสิว่าฉันไม่
วรพลเห็นธัชชัยออกไปแล้ว ถึงให้ภูษิตพ่อบ้านเข้ามา
พ่อบ้านภูษิต คืนนี้ต้องจับตาดูธัชชัยให้ดู อย่าให้เขามุทะลุไป แต่ถ้าธัชชัยเชื่อฟังฉัน นายก็ไม่ต้องตามเขาแล้วครั้งนี้ก็ลำบากพ่อบ้านภูษิตแย่ เขาจะรู้ได้ไงว่าท่านชัยจะทำอะไร แต่ว่าถ้านิสัยของเขาแล้ว คงต้องแกล้งคุณวัจสาแน่ นึกถึงรูปร่างตัวเล็กๆนั้นแล้ว พ่อบ้านภูษิตก็รู้สึกเสียดายวรพลเดาได้ไม่ผิดจริงๆ รองท่านชัยของวงศ์ตระกูลศรีทอง ลูกพี่ใหญ่ของเมืองS จะเตรียมตัวปลอมแปลงหน้าที่น่ากลัวของท่านชายใหญ่วงศ์ตระกูลศรีทองไปหลอกเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง พ่อบ้านภูษิตดูมือของธัชชัยจับหน้ากากหนังที่เลียนแบบหนังคนที่เอามาจากอเมริกาแล้ว อยากร้องไห้แล้วร้องไม่ออกเลย ท่านชัยจะหน่อมแน้มไปไหม หน้ากากหนังนี้เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น รวมทั้งเขาดูแล้วอยากรู้สึกเหมือนของจริงมาก น่าเกียจมาก“ ท่านชัย อย่างนี้มันจะไม่เกินไปหรอครับ”แท้จริงแล้วคุณวัจสาอยู่บ้านวงศ์ตระกูลเดิมขุนทดก็ไม่มีความสุข คิดไม่ถึงว่ามาวงศ์ตระกูลศรีทองสามีก็ไม่ชอบใจ แล้วเขาจะอยู่อย่างไงเนี่ย พ่อบ้านภูษิตรู้สึกเห็นใจวัจสามุมปากของธัชชัยห้อยรอยยิ้มที่ไม่ค่อยชัดเจนไว้ เหมือนหมาป่าที่จะสูบเลือด ทำให้คนหนาวขึ้นมา ตาที่เย็นเยือกเหมือนบ่อน้ำในที่ลึกเต็มไปด้วยใคร่ครวญ“ เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่ง ทำแต่สิ่งที่นายควรทำ “อันนี้ก็หมายถึงว่าพ่อบ้านชอบยุ่งเรื่องของเขา แล้วไปบอกให้วรพลที่จริงธัชชัยมีหน้าตาหล่อเหลา หล่ออย่างเผด็จจการและบ่าระห่ำมาก สะพานจมูกที่สูงโด่งข้างล่างคือฝีปากที่สวย โครงเค้าที่ชัดเจนนี้ให้ใบหน้าเติมเต็มไปด้วยความเย็น และยังมีความเซ็กซี่ผู้ที่มียศนี้ ถ้าละทิ้งธุรกิจไปเป็นดาราก็ไม่อดตาย ต้องก่อให้เกิดเด็กผู้หญิงติดตามอย่างดุร้าย เขาค่อยๆถอดเสื้อเชิ้ตขาวออกรูปร่างที่งดงามก็ปรากฏอยู่ในกระจก ลายเส้นราบรื่นแจ่มชัด รูปร่างสูงใหญ่ บำรุงได้ดีที่สุดก็คือผิว นี่ของพี่ เตรียมไว้ให้พี่เอาไปอเมริกา ขั้นแรกก็คือการปลูกผิวหนังทั้งชีวิตของฉันก็เป็นของพี่ แล้วมีอะไรที่ทำไม่ได้ในวงศ์ตระกูลไม่มีคนไหนที่ไม่ใช่หมาไนเสื้อโคร่ง หน้ากากหนังอันเหมือนจริงนี้ก็เพื่อที่จะจัดการมนายเลยเอากลับมา วันนั้นวรพลเพิ่งรอดชีวิตจากการผ่าตัด มนายก็เลยมาดู หลายชายที่สมควรตายคนนี้ตายหรือยังธัชชัยจะให้เขาได้สมใจได้ไง?เลยสั่งทำหน้ากากหนังนี้ออกมา เพื่อที่จะหลอกมนาย ยืนยันว่าแม้วรพลจะเสียโฉม แต่ก็ไม่ได้สูญเสียความสามารถในการบริหารบริษัท ด้วยเหตุนี้จึงดับความใจดีของมนายทิ้งครั้งนี้ เขาจะใช้วิธีนี้มาลองใจเธอ วัจสา ฉันจะดูว่าเธอจะบริสุทธิ์สะอาดได้ขนาดไหนเขาให้พ่อบ้านภูษิตช่วยเขาใส่หน้ากากหนัง พ่อบ้านภูษิตลำบากใจมาก ท่านชายให้ดูรองท่านชายให้ดี ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองก็เป็นผู้สมคบด้วยทันใดนั้น หน้ากากหนังที่แปลกประหลาดและอัปลักษณ์ก็ออกมาในกระจก หน้าตาที่หล่อเหลานั้นท่วมนองไปในหนังหมดพ่อบ้านภูษิตเห็นหน้าใบที่แปลกประหลาดนี้ ในกระเพาะเหมือนอยากอ้วกขึ้นมาสุดท้ายทนความเกลียดชังแล้วใส่เครื่องเปลี่ยนเสียงให้ธัชชัย อันนี้จะทำให้เสียงของเขาเหมือนวรพล นี่ก็คือแสดงละครต้องแสดงให้มันครบชุด ไม่งั้นมันจะไม่สนุกหวังว่าวัจสาเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง“ พ่อบ้านภูษิตไปเชิญคุณวัจสาที่ทั้งสวยทั้งใจดีคนนั้นเข้ามา สมใจพวกเธอแล้ว”หน้าที่แปลกประหลาดของธัชชัยคู่กับเสียงแหบที่แก่ๆ ทำให้พ่อบ้านภูษิตหนาวสั่น“ ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”ในห้องนอน วัจสากำลังเหม่อลอย ดูแสงสว่างของข้างนอก ใจก็ลอยไปไหนก็ไม่รู้คุณวัจสา………เอ่อ น่าจะเป็นคุณผู้หญิง ท่านชายรออยู่ที่เรือนหอข้างบน เชิญขึ้นไปเลยค่ะ” พ่อบ้านภูษิตยังไม่ลืมห้ามเปิดโปงเรื่องของรองท่านชาย เรียกวัจสาอย่างระมัดระวัง“วัจสาสติกลับคืน แล้วพูดว่าอ้อ ทั้งตัวดูเหมือนหดหู่หงอยเหงาไม่มีชีวิตชีวาแล้วเดินขึ้นข้างบน”“ คุณผู้หญิง ……”พ่อบ้านภูษิตเรียกไปอย่างอดไม่ได้วัจสาหยุดเดินแล้วถามว่า “มีไร?”พ่อบ้านภูษตแววตาหลบหนีแล้วพูดว่า “ไม่มีไรครับ สุขสันต์วันแต่งงานครับ”วัจสายิ้มอย่างเจื่อน“ขอบคุณค่ะ”คำขอบคุณอันนี้รวมไปถึงการตรอมใจแค่ไหน มีแค่เธอรู้คนเดียวเธอขึ้นบันไดแล้วให้กำลังใจตัวเอง ยังไงก็ได้เป็นสะใภ้ของวงศ์ตระกูลศรีทองแล้วงั้นก็ดูแลวรพลดีๆ นี่คือหน้าที่ของเธอ แม้ว่าเขาจะเสียโฉมแล้วก็ตาม ไม่แน่เขาอาจไม่น่ากลัวอย่างที่คิดก็ได้ อีกอย่างเมื่อก่อนเธอก็ไปสถานสงเคราะช่วยดูแลเด็กบ่อยๆเหมือนกัน เธอต้องดูแลวรพลได้ดีแน่ๆกำลังใจอันนี้ประคองเธอผลักประตูดำอันใหญ่นี้ที่ระเบียง เธอคิดไม่ถึงว่า ข้างในเปิดไฟไว้ ยังคิดว่าเสียโฉมแล้วจะไม่กล้าให้คนอื่นเห็นหน้าเขาได้ วรพลคงเป็นคนที่เปิดเผยไม่เลห์เหลี่ยมผ่านไปจากกลีบดอกกุหลาบสองข้าง วัจสาค่อยๆเดินเข้าไป ห้องนอนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ ดมแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ร่างกายที่แข็งของวัจสาก็ค่อยๆผ่อนคลายลง เดินไปอย่างที่ละก้าวที่เตียงแต่งงานอย่างปีติยินดีคืนนี้ก็คือวันแต่งงานของเธอ ยังไงผู้หญิงทุกคนก็ต้องเคยฝันหวาน สามีของเธอนอนอยู่บนเตียง กลับหลังให้เธอ ดูจากด้านหลัง รูปร่างของวรพลสูงใหญ่ เธอนึกถึงที่วราลีพูด ถ้าวรพลไม่ได้เสียโฉม ต้องเป็นคนที่หล่อเหลามากเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าหันหลังไปแล้วเขาจะมีหน้าตายังไง ตนเองก็เตรียมตัวในใจไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ต้องหวาดกลัว ไม่ต้องแสดงความกลัวออกมา นี้คือการให้เกียรติผู้อื่นที่ดีเขาหายใจเข้าไปลึกๆ แล้วควบคุมอารมณ์ที่ตื่นเต้น “สวัสดี ฉันเป็นภรรยาของนาย วัจสา”“อืม” คนที่อยู่บนเตียงมีเสียงที่แก่ๆและต่ำๆ วัจสาฟังแล้วตะลึง เส้นเสียงของเขาก็ถูกเผาและทำลายไปแล้ว ทันใดนั้นรู้สึกสงสารเขามากธัชชัยที่นั่งอยู่บนเตียงสีหน้าเริ่มไม่ดีขึ้นมา เสียงยังถือว่าสงบ แต่ไม่รู้ว่าถ้าเจอหน้าของเขายังสงบอย่างนี้ไหม เขาค่อยๆหันหลัง หน้าที่น่ากลัวและถูกเผาก็ปรากฏในสายตาของวัจสาแม้ว่าเธอจะทำใจมาหลายครั้งแล้ว แต่วัจสาก็ตกใจมาก เสียงลั่นนั้นก็ถูกเธอปิดเข้าไปในปาก กลืนลงถึงลำคอ ตอนนี้เขากลัวมากจนตัวสั่นทั้งตัวใบหน้าของคนคนนี้ มันไม่ถือว่าเป็นหน้าแล้ว ใบหน้านี้เต็มไปด้วยแผลเป็นสีน้ำตาล พื้นที่ที่ถูกเผาทำให้เขาดูน่ากลัวมาก ใบหน้ามันอัปลักษณ์ถึงขั้นนี้แล้ว วัจสาไม่กล้าลืมตามองเขาเลย“ ทำไม? กลัวหรอ ?ถ้ากลัวก็ร้องออกมาสิ”ธัชชัยเห็นเธออดทนมาอย่างนี้ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา ทั้งๆที่เกลียดชังใบหน้าของเขา แล้วยังทำตัวอย่างสงบ ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงเสแสร้งขนาดนี้แต่เขาไม่รู้ว่า วัจสาแค่ไม่อย่าทำลายจิตใจของเขาที่เป็นคนบาดเจ็บ วัจสาพยายามที่จะทำตัวให้สงบ ปิดตาแล้วค่อยลืมตา“ไม่กลัว”ธัชชัยอยากจะฉีกหน้ากากเจ้าเลห์ของเธอทิ้ง ดูสิว่าเธอจะเสแสร้งไปถึงไหน เขาค่อยๆลงจากเตียง ยื่นมือที่เป็นบาดแผลเสมือนตะขาบไปหาวัจสา“ไม่กลัวก็ดี ฉันยังกลัวเธอไม่ชอบฉัน วัจสา ให้ฉันจับหน้าเธอหน่อย”แต่ในการมองเห็นของวัจสา มันเหมือนเป็นหนังสยองขวัญ แล้วยังต้องทนการกลัวของในใจ เห็นภาพนี้แล้ว มันคือความกลัวในใจที่ลึกๆ ถ้าถูกมือผีนี้จับ ก็คงหวาดกลัวแน่ๆ“ทำไมไม่เข้ามาล่ะ จะให้ฉันเดินไปหาเธอหรอ หรือว่าเธอรู้สึกว่าหน้าตาของฉันน่าเกลียดชัง? ขี้เหร่? ปิดไฟก็ได้แล้ว มันคือคืนแต่งงานของพวกเราทั้งสอง เธอให้ฉันกอดเธอหน่อย ฉันไม่ได้สัมผัสคนนานแล้ว……”ฮัม ผู้หญิงคนนี้ จะเสแส้ร้งไม่ลงล่ะสิ ความกล้าแค่นี้ยังคิดที่จะมีจุดประสงค์ต่อวงศ์ตระกูลศรีทอง?คำพูดสุดท้ายที่ธัชชัยพูดดูเหมือนน่าสงสารมาก ในใจที่หวาดกลัวก็เกิดความอ่อนนุ่มขึ้นมา เธอทำใจแล้ว เดินขึ้นไป “ฉันเดินไป ไม่ต้องปิดไฟ ฉันไม่ได้รู้สึกหน้าเธอขี้เหร่และแปลกประหลาด เธออย่าดูถูกตนเอง”“ งั้นก็ดี งั้นเรามาเริ่มเข้าเรือนหอกัน นี่เป็นค่ำคืนที่ล้ำค่า”ธัชชัยค่อยเข้าใกล้วัจสา จนจับถูกมืออันเล็กเหมือนไม่มีกระดูกในใจของวัจสาคัดค้านมาก จริงด้วยยังไม่ได้ เธอจับโดนแผลเป็นที่ทูๆนูนๆ กระเพาะก็เหมือนจะอ้วก