วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 222 ทนไม่ไหว
ตอนที่ 222 ทนไม่ไหว
แต่ว่าโต๊ะยังมีผู้หญิงอีกสองคนอยู่ด้วย คนหนึ่งเป็นผู้หญิงที่เขารัก ส่วนอีกคนก็เป็นน้องสะใภ้ของเขา ดูยังไงก็รู้สึกอึดอัด
ตอนแรกธัชชัยคิดจะพาวรพลไปที่ห้องบำบัด แต่ด้วยกังวลเกี่ยวกับผู้หญิงอีกสองคนเกรงว่าเธอจะมีปากเสียงกัน เมื่อเวลานั้นมาถึงมันก็คงจะยิ่งวุ่นวายมากขึ้น
ดังนั้นเห็นว่าวรพลไม่ได้เต็มใจที่จะห่างจากกนิษฐาผู้เป็นที่รักของเขา ธัชชัยจึงแนะนำให้เขาอยู่ทานข้าวเย็นไปก่อน
แต่พอมานั่งจริงๆ เข้า วรพลก็คิดมากอยู่ดี เดิมทีไม่มีอะไรมีผลต่อความอยากอาหารของวัจสาเลย ในทางกลับกันความอยากอาหารของเธอกลับมากขึ้นอีกต่างหาก
สายตาของทุกคู่อดไม่ได้ที่จะมาตกอยู่ที่ร่างของหญิงสาว เพราะว่าเธอเพิ่งกินสามปีกไก่ เผลอแปปเดียวก็คว้าขาหมูมากินอีก
ภายในอาหารอุดมไปด้วยโปรตีนนานาเหมาะสำหรับเด็กในท้อง มันทั้งดูน่าอร่อย ทำให้วัจสาแฮปปี้อีทติ้งมากๆ
ในความคิดของเธอไม่ว่าลูกจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตามแต่ มันจะดีกว่าที่จะเป็นเสื้อคลุมผ้าฝ้ายขนาดเล็ก หรือถ้าตัวใหญ่หน่อยก็ไม่เลว
วัจสาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงยิ่งกินยิ่งหิว ดังนั้นเธอจึงคีบขาหมูฉ่ำๆ มาที่ชามอีกหนึ่งขา
ทั้งฉ่ำทั้งสดใหม่ ใช้ฟันกัดเข้าไป เธอก็ยิ่งชอบมันมาก แม้ว่าเธอกินไปไม่กี่คำแต่ยิ่งกินยิ่งอร่อย จนไม่สามารถหยุดมันได้
ทันใดนั้นเอง ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ เหลือไว้เพียงแค่เสียงดูดเท้าหมูของหญิงสาวเท่านั้น เธอค่อยๆ ยกศีรษะของเธอขึ้นมา ก่อนจะเห็นว่าสายตาของทุกคู่ตกมาอยู่ที่เธอจังหวะนั้นเธอรู้สึกอายมา การที่เธอดูหิวขนาดนั้นจะทำให้พวกเขาตกใจรึเปล่านะ? แต่เธอเองก็ไม่สามารถพูดได้ว่ามันเป็นเพราะเธอกำลังท้องยิ่งไปกว่านั้นเธอก็เตรียมที่จะหย่ากับวรพลแล้ว แต่ก็ยังอยู่หลอกกินหลอกใช้ฟรีอยู่นั่น….แต่คิดอีกที ไม่สิ ทำไมเธอจะต้องเขินอายด้วยหล่ะ ในท้องของเธอก็เป็นลูกหลานของครอบครัวของพวกเขานะไม่ว่าเขาจะได้ออกมาเห็นแสงสว่างหรือไม่ หรือจะได้รับการต้อนรับหรือเปล่า อย่างน้อยเขาก็ควรมันมีสิทธิที่จะเพลิดเพลินกับทุกอย่าง อย่างน้อยก็ของกินพอคิดได้แบบนี้ เธอก็คลายความเขินลงมาเยอะเลย“พวกคุณอย่ามามองฉันสิ พวกคุณ พวกคุณก็กินสิ……”คำพูดที่อ่อนแอของเธอ มันน่าอายจริงๆ จนไม่กล้ากินอาหารใดๆ เพิ่มอีก เธอก้มหัวงุดๆ ลงกับจานข้าว และนั่งกินแต่ข้าว แต่ว่าข้าวเปล่าเฉยๆ มันไม่ชุ่มใจเหมือนขาหมูฉ่ำๆ นี่นา….เมื่อกนิษฐาเห็นเธอกินขาหมูแบบนั้น เธอก็ตกใจ ไม่เพียงแต่กินอย่างดุ แต่ปากทั้งปากของเธอยังเต็มไปด้วยน้ำมัน สกปรกจะตาย วัจสาตอนนี้ดูราวกับว่าเป็นผู้อพยพชาวแอฟริกันที่ไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน นี่อาหารที่โรงเรียนมันแย่ขนาดนั้นเชียวเหรอ?“วัจสา ข้าวเย็นยัดเข้าไปขนาดนั้นไม่กลัวอ้วนตายรึยังไงหน่ะ? ”เธออดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยถากถาง วัจสาก็เขินอายที่จะบอก แต่ก็จะรู้สึกอึดอัดยิ่งกว่าหากไม่ช่วงนี้ฉันต้องเพิ่มน้ำหนักหน่ะ ……เรียนจบต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ฉันไม่อยากผอมแห้งแรงน้อยสำหรับวัจสาการทดสอบที่เธอว่านั้น การที่จะผ่านไปอย่างเพอร์เฟคเลยนั่นเป็นจุดมุ่งมั่นของเธอ เดิมทีเธอคิดว่าจะสามารถฟันฝ่าพยายามได้ในช่วงของการเป็นนักศึกษาของเธอ แต่ดุเหมือนตอนนี้ลูกน้อยตัวเล็กๆ ที่อยู่ในท้องของเธอตอนนี้จะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น นี่เพียงแค่2เดือนกว่าเท่านั้นคิ้วของธัชชัยเลิกขึ้น เห็นว่าวัจสาได้ยินคำของผู้หญิงคนนั้นแล้วหยุดกินกับข้าว สักพักเธอก็ผลักจานทั้งหมดที่เต็มไปด้วยกุ้งม้วนออกจากตัว“กินซะสิ สมองคุณจะได้โตไวๆ ”เห็นชัดๆ ว่ามันเป็นคำพูดของคนที่เป็นห่วง แต่ก็เพิ่มความเย้ยหยันตามแบบสไตล์ของเขาเข้าไปวัจสาไม่ได้อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับความไร้สาระของเขา แต่ไอ้ “สมองโตไวๆ ”เนี่ย สมองมันก็ต้องโตอยู่แล้วหล่ะ เพื่อเด็กในท้องของเธอเองเนี่ย เธอจึงหยิบเอากุ้งม้วนมาโดยไม่ขัดเขินที่โรงเรียนเองก็มีกุ้ง แต่ไม่มีแบบสดใหม่เอาซะบ้างเลย ด้วยเพราะมันถูกแช่ฟีตมาหลายวันแล้ว ความสดมันก็ไม่เหลือซึ่งมันแตกต่างจากกุ้งของบ้านตระกูลศรีทองแบบเทียบกันไม่ติดทีเดียววัจสาหยิบกินหยิบกิน จนกินไปถึงชิ้นที่สาม ก็อิ่มดีปรีดา จนไม่มีท้องจะยัดแล้ว อาหารทั้งหมดบนโต๊ะแทบจะโดนทลายไปเสียทั้งหมดเพราะเธอคนเดียว“สา ทำไมไม่กินแล้วหล่ะ? เธออยากกินเธอกินเยอะๆ ได้เลยนะ….”น้ำเสียงคำพูดของวรพลยังเปล่งออกมาได้ไม่ชัดเจน แต่เขาก็พยายามค่อยๆ พูดนั้นก็เพราะความเป็นห่วงในตัวน้องสะใภ้ของขาเองพูดเสร็จก็มองไปที่กนิษฐาอย่างอ่อนโยน “ฐา เธอก็กินสิ อย่ามัวแต่มองมัน”ถูกเขาพูดแบบนั้นด้วย กนิษฐาก็วางตะเกียบลง มองเงียบไปยังวัจสา“ฉันแค่มองดูว่าสาเขากินได้มากขนาดไหนนี่ฉันก็อิ่มแล้วหล่ะ”คำพูดของกนิษฐานั้นร้ายกาจราวกับยาพิษ วัจสาก็รู้สึกอับอาย ซ้ำยังลำบากใจอีก โดนคนมองเวลากินแบบนั้น ใครจะกินลงหล่ะ?บรรยากาศในโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความอึมคึมละคนอับอายป้าอ้อยก็อดพูดทำลายความเงียบขึ้นมาไม่ได้ “คุณชายรองคะ ให้ป้าป้อนคุณชายใหญ่เองค่ะ คุณชายรองไปกินอะไรรองท้องบ้างสิคะ”ธัชชัยเอาตะเกียบกับถ้วยส่งให้บนมือของป้าอ้อย สายตามองไปยังกนิษฐา “คุณกนิษฐา มองผมกินดูท่าจะดีกว่า เพราะผมหน่ะหน้าค่อนข้างจะหนาทีเดียว”กนิษฐาตอบกลับฉับพลันอย่างน่ากลัว “แล้วมันจะทำไม ฉันจะมองพี่สะใภ้ คุณสงสารเธอหรอ? ”ธัชชัยตอบเสียงเย็นชา “ผมหล่ะสุดแสนจะสงสารคุณ ผมและพี่ใหญ่ต่างชอบผู้หญิงที่ดูดีอุดมสมบูรณ์กันทั้งคู่ ผอมไปไม่ดีหรอก”