วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 163 สามีช็อกโกแลต 2
ตอนที่ 163 สามีช็อกโกแลต 2
แม้ว่าร่างกายจะดีขึ้นมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้ดีถึงขั้นที่จะขยับทำอะไรด้วยตัวเองได้ เพราะแบบนั้น เมื่อวรพลเท้าเหยียบถึงพื้นปุ๊บ ก็สะดุดล้มลงไปทันที แถมขาข้างนึงยังได้รับบาดเจ็บอีก
เมื่อเห็นผ้าขาวที่พันอยู่ที่ขาของวรพลแล้ว สายตาที่โมโหของธัชชัยในตอนแรกก็ค่อยๆสลายหายไป
และน้ำเสียงก็ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น “พี่ครับ อยากจะเจอผู้หญิงคนนั้น แล้วจะต้องเสียแรงไปด้วยตัวเองทำไมล่ะครับ? ถ้าพี่อยากได้ตัวเธอล่ะก็ ผมจะรีบล้างตัวเธอจนสะอาดแล้วโยนลงเตียงไว้รอพี่เอง!”
“ธัชชัย นายบอกฉันมาตรงๆเถอะ นายขังตัวกนิษฐาเอาไว้ใช่มั้ย?”
อาจจะเป็นเพราะน้ำเสียงที่แปลก ประกอบกับการพยายามขัดขวางของคุณหมอภาคินและคนอื่นๆ ก็เลยทำให้วรพลเกิดความคิดสงสัยขึ้นมา สมองของเขาไม่ได้พังสักหน่อย ที่โดนเผาคือรูปร่างภายนอก ไม่ใช่สมอง
“การคุยโทรศัพท์ของฉันกับกนิษฐา ต้องอยู่นายสายตาของนายตลอดเลยใช่มั้ย?”
วรพลรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง แต่เขาก็ยังเดาไม่ตรงจุดอยู่ดี เขาน่าจะนึกไม่ถึงเลยว่าพี่ชายเขาไม่แม้แต่จะให้กนิษฐาโทรไปหาเขาเลยสักสาย หลายวันมานี้ผู้หญิงที่คุยอย่างสวีทหวานกับเขานั้นเป็นเพียงแค่ผู้หญิงแปลกหน้าคนนึงเท่านั้น
แต่ธัชชัยเองก็ไม่ได้กะว่าจะปิดบังเขาแบบนี้ต่อไป ต่อหน้าผู้ชายที่ดูจริงใจและอบอุ่นตรงหน้าคนนี้ หากพูดอะไรเยอะไปมากกว่านี้ก็คงจะถูกจับได้อย่างแน่นอน สู้บอกความจริงกับเขาไปเลยดีกว่า เพื่อเลี่ยงไม่ให้เขาจมปลักอยู่กับถ้อยคำอันหวานแหววของกนิษฐาต่อไปแบบนี้ มันเหมือนเป็นสิ่งเสพติด ยังไงก็ต้องรีบตัดมันออก!
“พี่ครับ ดูเหมือนว่าพี่จะรักกนิษฐาจริงๆนะครับเนี่ย” ธัชชัยยิ้มมุมปาก พูดด้วยน้ำเสียงขำๆ “แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่พี่พูดซะทั้งหมดหรอกนะครับ อะไรที่ว่าจับกุม? จับตามอง? ผมก็แค่กักเธอไว้ในบ้านตระกูลศรีทอง ไม่ให้ยุงไต่ไรตอม พี่ก็รู้ดีหนิครับว่านางมารร้ายของพี่คนนี้มีเสน่ห์มากแค่ไหน ผมก็แค่ช่วยพี่ดูแลเธอ ไม่ให้คนอื่นมาลักพาตัวเธอไป!”“ส่วนเรื่องที่อยู่อาศัยและอาหารการกินพี่วางใจได้เลยนะ ผมไม่เคยปล่อยปละละเลยผู้หญิงของพี่อยู่แล้ว ได้ยินป้าอ้อยบอกว่าเธอดูอวบขึ้นมาพอสมควรเลยนะครับ หากพี่กลับไปที่บ้าน ก็สามารถลองสัมผัสดูได้ ลองกอดลองคลำดู จะต้องรู้สึกได้ว่ามันดีกว่าเดิมแน่นอน!” ธัชชัยอยากจะปลอบให้วรพลคลายความกังวลลงมาจากมุมมองของผู้ชายคำพูดที่ฟังดูเลอะเทอะและไร้สาระแบบนี้ ทำเอาวรพลไม่รู้จะต่อกรด้วยคำพูดแบบไหน“ธัชชัย ฉันเคยบอกกับนายซ้ำๆหลายครั้งแล้วว่า การบาดเจ็บของฉันมันไม่เกี่ยวกับใครเลย นายอย่าโทษกนิษฐา มีอะไรก็ให้ลงที่ฉันแทน”คำพูดของเขานั้นเต็มไปด้วยความห่วงใยที่มีต่อกนิษฐาวรพลสูดลมหายใจเข้าอย่างลึก เหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง เมื่ออ้าปากพูดก็เริ่มครวญครางออกมา “ช่างเถอะ ธัชชัย นายปล่อยกนิษฐาไปเถอะนะ อย่าขังเธอเอาไว้อีกเลย เพราะยังไงแล้วอยู่ที่นี่เธอก็ไม่ได้มีความสุขอะไร ฉันจะให้ความร่วมมือกับนาย จะยอมรับการรักษาอย่างดี จากนั้นก็จะบินไปรับการผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนังที่อเมริกา แต่ฉันจะต้องเห็นกับตาตัวเองว่านายปล่อยกนิษฐาแล้วจริงๆ หลังจากนี้ก็ไม่ต้องใช้เธอมาข่มขู่พี่อีกเลย……ถ้านายยังคงกักขังเธอไว้แบบนี้ มันเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าการฆ่าฉันให้ตายไปอีก……”พูดไปๆระดับเสียงของวรพลก็เพิ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เขาพักไปครู่นึง ก่อนจะเริ่มพูดขึ้นมาอีก “ฉันไม่ได้เป็นผู้ชายที่ร่างกายแข็งแรงแล้ว ถึงขั้นไม่สามารถปกป้องดูแลผู้หญิงที่ตัวเองรักได้ ขอร้องว่าอย่าทำร้ายเธอเพราะพี่อีกเลย ถือว่าพี่ขอ ได้มั้ย? นายจะให้พี่ทำอะไร พี่จะยอมร่วมมือทุกอย่าง ขอแค่นายปล่อยเธอไป!”“ไม่งั้น พรุ่งนี้พี่จะไปกับนายเลย บินไปรับการผ่าตัดที่อเมริกา……นายอย่าทำให้กนิษฐาลำบากใจอีกเลยได้มั้ย?”วรพลถึงขนาดใช้มือกอดรัดแขนของธัชชัยเอาไว้แน่น พูดอ้อนวอนขอร้องอย่างทุกข์ทรมานแต่ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ ธัชชัยก็ยิ่งรู้สึกปวดใจ เพราะอะไรเขาถึงยอมเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียวจนไม่สนใจอะไรแบบนี้ อยู่ดีๆ บอกจะไปตาย ก็จะไปตายจริงๆ พลังแห่งความรักมันยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?“พี่ครับ บนโลกนี้ พี่ไม่ได้มีแค่กนิษฐาเพียงคนเดียวนะครับ พี่ยังมีญาติ ยังมีน้องชายแท้ๆอย่างผม ยังมีป้าอ้อยและคุณภาษิตที่อยู่กับพี่มานาน!”เมื่อพูดจบ ทุกอย่างในห้องผู้ป่วยก็เงียบสงบลงหลังจากที่ธัชชัยเดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้าก็ปกคลุมไปด้วยหมู่ดาวมากมายท้องฟ้ายามค่ำคืนนั้นแซมไปด้วยสีน้ำเงินเข้ม ธัชชัยอยากจะมองทะลุท้องฟ้าแผ่นนี้ไป ว่าในที่อันแสนไกลนั้นมันจะมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่ช่วงเวลากลางคืนนั้นมักจะทำให้คนคิดมาก มันมักจะทำให้คนตัดสินใจพลาดเอาได้ง่ายๆตัวเองต้องการอะไรกันแน่? ทำไมต้องทำแบบนี้? ในหลายๆครั้ง ถึงได้บีบบังคับให้ตัวเองไปทำในสิ่งที่ขัดต่อหัวใจ ไม่ใช่เพราะยอมแพ้ แต่มันเป็นความรู้สึกที่จนปัญญา จนกลายเป็นสัญชาตญาณมันก็เหมือนวันที่วรพลอยู่ในสถานการณ์ไฟไหม้วันนั้น เขาได้เสียสละให้ธัชชัยมีชีวิตอย่างไม่ลังเล นั่นก็ถือเป็นสัญชาตญาณของวรพลเหมือนกัน ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดแนบแน่นแบบนั้น และยังมีมิตรภาพอันลึกซึ้งของพี่และน้องที่ลบล้างไม่ได้หลังจากนั้นประมาณสิบนาที เฟอรารี่คันสีดำวิ่งผ่านไปตามถนนท่ามกลางค่ำคืนอันแสนมืดมิด ใบไม้สีเหลืองแห้งเหี่ยวที่ร่วงอยู่ข้างทางม้วนฟุ้งกระจายขึ้นมาตามแรงหมุนของล้อ เหมือนพายุที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนเฟอรารี่มุ่งหน้าไปทางเมือง หลายอาทิตย์มานี้ กนิษฐาถูกขังไว้ที่นั่นมาตลอดแต่คนที่ว่างที่สุดก็คือเธอ เหมือนดั่งสาวงามนอกจากจะไม่สามารถออกไปไหนได้ และยังไม่สามารถเจอกับธัชชัยได้ สามารถกล่าวได้เลยว่าเธอได้รับการดูแลเหมือนเจ้าหญิงเลยก็ว่าได้ตอนแรกบุรีคิดว่าเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาจะกรีดร้องโหวกเหวกโวยวายซะอีก แต่ที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจก็คือ ผู้หญิงคนนี้ไม่โหวกเหวกโวยวายเลยสักนิด นอกจากเธอจะฝากให้บุรีช่วยซื้ออุปกรณ์วาดภาพมาให้แล้ว เวลาที่เหลือเธอก็ใช้มันไปกับการวิจัยและออกแบบเครื่องประดับของเธอเท่านั้นหนึ่งอาทิตย์ที่ได้อยู่กับเธอ บุรียิ่งรู้สึกมั่นใจเข้าไปอีกว่า กนิษฐาเป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟคงดงามอย่างไร้ที่ติจริงๆบางครั้งเธออาจจะเร่าร้อนเซ็กซี่ และก็สามารถดุร้ายเหมือนนางงูพิษ ; บางครั้งก็มีท่าทีเขินอาย ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหวั่นไหว บางครั้งก็บริสุทธิ์จนไร้ที่ติ เหมือนนางฟ้าที่ใสสะอาดไร้มลทิน ทำให้ชายหนุ่มต่างพากันควบคุมตัวเองไม่อยู่