วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 158 หยิกแก้มของเธอ
ตอนที่ 158 หยิกแก้มของเธอ
ในเมืองที่เสียงดังวุ่นวาย ทำให้จิตใจของวัจสาสับสนวุ่นวายมากกว่าเดิม เธอถือใบตรวจที่ได้จากโรงพยาบาลไว้ในมือ ไม่รู้ว่าฝูงชนที่บ้าคลั่งเหล่านี้จะพาเธอไปที่ไหน
กลับบ้านตระกูลศรีทอง? แต่เธอจะกลับบ้านตระกูลศรีทองไปในฐานะอะไรล่ะ? ภรรยาของวรพล? หรือมารดาของลูกธัชชัย?
อยู่ๆวัจสาก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องน่าขำ ไม่ว่าจะด้านไหนเธอก็ดูไม่หลงเหลือความเป็นคนแล้ว แม่ของลูกธัชชัย? สถานภาพนี้ยิ่งน่าตลกเข้าไปใหญ่ นับตั้งแต่วันที่ก้าวเข้าไปในบ้านตระกูลศรีทองวันแรก ธัชชัยก็ไม่เคยมองเธอตรงๆเลยสักครั้ง หลังจากที่รู้เรื่องนี้แล้ว ก็คงจะทำให้เขาดูถูกเหยียดหยามเธอมากกว่าเดิมก็เท่านั้น
ไม่เพียงแต่จะไม่ให้เกียรติเธอ แถมยังปลอมตัวเป็นพี่ชายมาหลอกลวงความรู้สึกของเธออีก! ในสายตาของธัชชัย วัจสาก็เป็นเพียงผู้หญิงเลวๆที่ไม่มีความเหมาะสมกับอะไรเลยสักอย่าง มีความพยายาม เพราะงั้นเธอถึงไม่มีจุดยืนในบ้านกระกูลศรีทอง ยิ่งไม่เหมาะสมจะเป็นคุณยายน้อยเลยด้วยซ้ำ!
แต่ทำไมเขาถึงยังยอมให้พี่ชายของเขาแต่งงานกับเธออีก? เขามีอำนาจมากพอที่จะขัดขวางเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายอยู่แล้วไม่ใช่หรือยังไงกัน? หรือเขาคิดว่าสามารถดึงเธอกลับมาเพื่อล้อเล่นกับความรู้สึกของเธอได้ เขารู้สึกสนุกกับมันอย่างนั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเขามันก็แค่โรคจิตคนนึงก็เท่านั้นเอง!
เมื่อเดินๆอยู่ วัจสาก็มายืนหยุดอยู่ที่หน้าประตูที่มีป้ายโฆษณาพิซซ่าแปะไว้ เธอได้แต่กลืนน้ำลาย เธอเดินทางมาทั้งวัน วัจสาเริ่มรู้สึกหิวอยู่พอสมควร
ทั้งๆที่รู้สึกอยากกินมาก แต่ว่าเธอจำเป็นต้องใช้เงินของคุณพ่อบ้านภูษิตมาซื้อพิซซ่ากินเชียวเหรอ?
คุณพ่อบ้านภูษิตเห็นว่าเธอคือคุณยายน้อยของบ้านตระกูลศรีทอง จึงได้ให้เงินเธอมาใช้เล็กน้อย แต่ว่าเธอจะรับเงินก้อนนั้นมาในฐานะอะไรล่ะ? ภรรยาของวรพล? เธอรู้สึกไม่กล้าแบกหน้าไปเรียกตัวเองแบบนั้นอีกต่อไปแล้วความหอมนั้นเพิ่มทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงท้องของวัจสาก็เริ่มดังขึ้น ไม่สนแล้ว อีกหน่อยมีเงินแล้วค่อยหามาคืนให้พ่อบ้านภูษิตก็แล้วกันคิดได้แบบนั้น ขาของเธอก็เดินก้าวเข้าร้านพิซซ่าไปแล้ว เธอสั่งพิซซ่าหน้าซีฟู๊ดขนาดถาดเก้าชิ้นมากินคนเดียว นอกจากนี้ยังมีเค้กมูส และชาน้ำผึ้งมะนาวมาอีกด้วยวัจสานั่งมองจานชามที่เกลี้ยงสะอาดตรงหน้า เธอนึกไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะกินมันจนหมดเกลี้ยงได้ ของกินเยอะขนาดนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะในท้องของเธอนั้นมีอีกหนึ่งชีวิตเพิ่มขึ้นมา ก็เลยทำให้เจริญอาหารงั้นเหรอ?นึกถึงแวววัยที่เธอทิ้งให้อยู่ที่หอคนเดียวแล้ว วัจสาก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปหน่อย เพราะอย่างนั้นเธอจึงสั่งกลับบ้านอีกชุดหนึ่ง เซตพิซซ่าเนื้อสำหรับหนึ่งคนทานตอนขากลับเธอไม่ได้รีบร้อนอะไรแล้ว เพราะงั้นเธอจึงเลือกกลับด้วยรถเมล์ แต่ที่คาดไม่ถึงเลยก็คือคนที่ไม่เคยเมารถอย่างเธอกลับรู้สึกพะอืดพะอมจนอยากอ้วกได้ เธอขมวดคิ้วแล้วเอามือกุมท้องลูกจ๋า นี่มันเป็นพิซซ่าราคาหลักร้อยกว่าเลยนะ อย่าให้แม่ต้องอ้วกออกมาเลยนะ ไม่งั้นคงเสียดายแย่เลยแต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะฟังรู้เรื่องหรือเป็นห่วงแม่กันแน่ เจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องถึงสงบลงในทันใดมันทำให้วัจสารู้สึกดีขึ้นมาเยอะเลยเจ้าตัวเล็กในท้องของตัวเองว่านอนสอนง่ายจริงๆเลยนะเนี่ยวัจสากุมท้องตัวเอง อมยิ้มเบาๆ จากนั้นก็เริ่มรู้สึกแสบจมูกเหมือนอยากร้องไห้ ใช่สิ เจ้าตัวเล็กไม่ดื้อเลย แต่เธอกลับไม่มีปัญญามีครอบครัวและบ้านที่สมบูรณ์ให้เจ้าตัวเล็กได้ แม้แต่จะบอกพ่อของเขาว่าเขามีตัวตนเธอยังทำไม่ได้เลยไม่มีใครมาคอยแบ่งปันความสุขกับเธอ เธอจึงทำได้แค่แอบมานั่งกินพิซซ่ากับเจ้าตัวเล็กเงียบๆคนเดียวเธอไม่สามารถบอกวรพลหรือธัชชัยได้ คนนึงคือสามีที่เธอนอกใจเขา อีกคนก็คือพ่อของลูกที่อาจจะสั่งให้เธอไปทำแท้งได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร วัจสาก็ไม่อยากจะไปเจอหน้าทั้งนั้น ผลลัพธ์แบบนี้มันทำให้เธอรู้สึกกลัวเด็กในท้องไม่ได้ผิดอะไร เป็นผู้บริสุทธิ์ไร้มลทิน เธอไม่อยากให้ลูกต้องมาอับอายไปพร้อมกับเธอ แบบนั้นวัจสาจึงรู้สึกอยากตายมากกว่าจะไปเผชิญหน้ากับคนพวกนั้นแม้ว่าเธอจะยังคิดว่าออกว่าควรจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง แต่ในตอนนี้ เธอเพียงแค่อยากจะปกป้องลูกเอาไว้เมื่อเธอผ่านความเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน เมื่อลงจากรถเธอก็เดินผ่านซอยเล็กๆเข้าไปที่หอพักนักศึกษา นี่มันก็สามทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว แต่ช่วงกลางคืนของมหาวิทยาลัยถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การออกเดตของเหล่าคู่รักนักศึกษาภายใต้ร่มไม้ ใต้โคมไฟที่ไม่ได้สว่างสักเท่าไหร่ และยังมีสนามหญ้าเรียบๆ หนุ่มสาวในช่วงวัยที่กำลังรุ่งโรจน์กำลังโอบกอดกัน กะหนุงกะหนิงกันอย่างใกล้ชิดสนิทสนม หากทอดสายตามองออกไป จะเห็นคู่รักแบบนี้แทบจะตลอดทางวัจสาถือถุงพิซซ่าแล้วเดินผ่านกลุ่มคนเหล่านั้นด้วยตัวคนเดียว และไม่ได้มองสังเกตร่างเงาของผู้คนทั้งสองฝั่งหัวใจของเธอเริ่มรู้สึกหมองหม่น นี่ไม่ใช่ชีวิตที่เธอเลือก หลังจากที่เธอรับปากกับคุณลุงและแต่งงานเข้าไปอยู่ในบ้านตระกูลศรีทองแล้ว เธอก็ไม่หลงเหลือสิทธิ์ในการเลือกอะไรเลยสักอย่าง เหมือนที่ผู้ชายคนนั้นเคยบอกเอาไว้ อิสรภาพของเธอตกอยู่ในกำมือของบ้านตระกูลศรีทองหมดแล้ว เธอไม่มีอิสรภาพส่วนบุคคลอีกต่อไปแล้ววัจสาครุ่นคิดอยู่อย่างนั้น พลางเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ทันใดนั้นก็มีร่างสูงโปร่งที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน ร่างนั้นดึงเธอเข้าไปกอดเอาไว้อย่างแน่นกลิ่นลมหายใจที่คุ้นเคยนั้นเตะเข้ามาในจมูกของเธอ“ไปไหนมา? ทำไมถึงกลับมาดึกดื่นแบบนี้?” เสียงของชายหนุ่มพูดดังขึ้นข้างหูของเธอเบาๆ น้ำเสียงนั้นเปี่ยมไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ บวกกับความทนรออย่างร้อนใจวัจสาตกใจซะจนแทบจะกัดโดนลิ้นของตัวเอง “ธัช……ธัชชัย? นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”