วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 124 หนีออกจากที่นี่
ตอนที่ 124 หนีออกจากที่นี่
วัจสาไม่ได้รู้สึกกลัวเลย เธอแค่รู้สึกโมโหมาก เสียงนี้เป็นเสียงของธัชชัย รูปร่างก็เป็นของธัชชัย
เธอเหมือนกับกำลังมองดูคนๆหนึ่งแปลงร่าง แต่นี่ไม่ใช่ละคร และไม่ใช่ภาพยนตร์ ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ใช่ฝัน ผู้ชายคนนี้อาศัยอยู่ในโลกของตัวเองจริงๆ และโกหกเธอมานานแสนนาน
ในตอนที่ความจริงอยู่ตรงหน้าตัวเองแล้ว วัจสาก็รู้สึกว่าโหดร้ายเกินไป โหดร้ายจนเธอยืนยังยืนไม่นิ่ง แต่เธอไม่สามารถอ่อนแอต่อหน้าผู้ชายคนนี้ได้ ไม่สามารถให้เขาเห็นว่าตัวเอง……
ตั้งแต่แต่งเข้ามาในตระกูลศรีทองก็อยู่ในเกมของเขาแล้ว ตัวเองยังเป็นเหมือนคนโง่ที่แสดงร่วมกับเขา ถ้ามีรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม เขาต้องได้รับรางวัลนั้นแน่ๆ
“ธัชชัย คนเลว! คนเลว!”
“ฉันทำผิดอะไรกันแน่นายถึงได้ทำแบบนี้กับฉัน?! เหมือนกับฉันเป็นคนโง่ ฉะนั้นก็เลยรู้สึกสนุก อยากจับฉันอยู่แต่ในกรงหรอ?!”
การตอบสนองที่รุนแรงและการซักถามของเธอน่ากลัวมาก เธอตะโกนจนเสียงแหบไปหมด แล้วน้ำตาก็ไหลตามลงมา
ผู้ชายอึ้งไปเลย เขายื่นมือไปเช็ดน้ำตาของวัจสาโดยไม่รู้ตัว “วัจสา……เธอสงบสติอารมณ์หน่อย ฉันค่อยๆอธิบายให้เธอได้ไหม?”
วัจสาใช้แรงสะบัดมือเขาออก “ให้ฉันสงบสติอารมณ์? อธิบาย? ยังมีอะไรน่าอธิบายอีก?”
“ในสายตาของนาย ธัชชัย ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาฉันก็เป็นผู้หญิงประเภทที่เห็นแก่เงิน เพื่อเงินสามารถขายร่างกายของตัวเองได้! ในสายตานายฉันเลวขนาดนั้นเลยใช่ไหม!”
“ฉะนั้นนายก็เลยดูถูกฉัน กลั่นแกล้งฉัน ทำเหมือนฉันเป็นคนโง่คนหนึ่ง!”
“แต่ว่านายเคยคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างไหม? หัวใจของฉันไม่ใช่เนื้อหรอ? ถูกเห็นว่าเป็นผู้หญิงแบบนั้น ฉันจะไม่เสียใจหรอ? ถูกโกหกปิดบังมามากมายขนาดนี้ ฉันยังสามารถดื่มชากับนายอย่างสบายใจได้หรอ?”
หลังจากวัจสาพูดจนจบ น้ำตาของเธอก็ไหลเต็มหน้าแล้ว แม้กระทั่งใบหน้าที่มองผู้ชายคนนี้เธอก็เห็นไม่ชัดเจน
“วัจสา เธอกำลังพูดอะไร? ต้องโมโหขนาดนี้เลยหรอ? ฉันไม่ได้ทำเรื่องคอขาดบาดตายซะหน่อย”
ธัชชัยไม่มีทางยอมรับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ ทำให้เขารู้สึกเจ็บใจ และเขาก็ไม่อยากยอมรับว่าที่เขาเสียใจเพราะน้ำตาของผู้หญิงคนนี้ เขาจึงใช้ความเย็นชามาปิดบังความรู้สึกพวกนั้น
เขาไม่อยากเผชิญหน้ากับการกระทำโหดร้ายพวกนั้นที่ทำให้ทำร้ายเธอ สิ่งที่เขาไม่รู้คือ วัจสาตกหลุมรักเขาตั้งนานแล้ว
เธอทรมานอยู่ในศีลธรรมครั้งแล้วครั้งเล่า
ถ้าหากว่าเธอตกนรกแล้วจริงๆ หัวใจของวัจสา ต้องแตกสลายแน่นอนเธออยากจะลากผู้ชายคนที่เธอรักลงนรกด้วยกันจริงๆเผชิญกับประโยคนี้ของธัชชัยแล้ว จู่ๆเธอก็หมดแรงไป“ต้องโมโหขนาดนี้เลยหรอ? ใช่สิ นายไม่ได้ทำเรื่องคอขาดบาดตายนิ นายก็แค่เห็นว่าฉันเป็นคนโง่แล้วเล่นตลกกับฉันแค่นั้นเอง ขอถามหน่อย คุณชายรองเล่นเบื่อหรือยัง……ไม่ ไม่สิ ฉันเล่นเบื่อแล้ว ฉันไม่อยากเล่นกับคุณอีกต่อไปแล้ว”วัจสาหัวเราะได้อย่างอนาถมาก ใบหน้าที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าความหมดหวัง ทั้งตัวของเธอกำลังสั่น เธอรู้สึกแค่ว่าเย็นไปหมด หัวใจก็เริ่มเย็น “ธัชชัย ในสายตาของนาย แม้กระทั่งสุนัขหรือแมวฉันก็ยังสู้ไม่ได้หรอ? แม้กระทั่งแจ็คก็ยังสู้ไม่ได้สินะ? ฉันก็แค่คุณผู้หญิงปลอมๆ! ฉะนั้นนายก็เลยไม่เคยเห็นค่าฉันเลย!”วัจสาใช้แรงทั้งหมดในการตะโกน “ฉันเกลียดนาย! คนที่เกลียดที่สุดก็คือนาย! ธัชชัย!”หลังจากเธอตะโกนเสร็จแล้ว เธอก็รีบวิ่งออกไปทางข้างนอก น้ำตาถูกไหลลงมาจนแห้งตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อาจจะเป็นตอนที่เธอกำลังถามผู้ชายคนนั้น อาจจะเป็นตอนที่ผู้ชายคนนั้นพูดว่า “ต้องโมโหขนาดนี้เลยหรอ” หรือไม่อาจจะเป็นหลังจากที่เธอพูดว่าเธอเกลียดเขา……ป้าอ้อยที่อยู่บนตึกเห็นว่าวัจสาดูผิดปกติ เธอวิ่งออกไปทางข้างนอกคนเดียว ป้าอ้อยอยากจะห้ามเธอไว้ แต่วัจสากลับใช้แรงผลักออกในสมองเธอมีเพียงแค่ความคิดเดียว ออกไปจากที่หนี! ยิ่งไกลยิ่งดี!ทั้งชีวิตนี้ เธอไม่อยากกลับมาอีกเลย!ข้างนอกดึกมากแล้ว ป้าอ้อยที่ถูกผลักจนล้มลุกขึ้น แล้ววิ่งออกไปตามด้วยความเป็นห่วง “คุณผู้หญิง เป็นอะไรคะ? ทำไมถึงร้องไห้? ตอนนี้ดึกขนาดนี้แล้วคุณจะไปไหน……”เธอใช้แรงดึงวัจสาไว้ แต่ว่าตอนนี้วัจสาฟังคำพูดของใครก็ไม่เข้าหัวทั้งนั้นพอคุณภูษิตได้ยินเสียงร้องก็ออกมาดู เห็นภาพที่ป้าอ้อยกำลังห้ามวัจสาที่จะวิ่งไปทางข้างนอก“ทุกคนรวมหัวกันโกหกฉัน! ฉันรู้หมดแล้ว พวกขี้โกหก! ไม่ต้องแตะต้องตัวฉัน! ฉันเกลียดพวกคุณ เกลียดพวกคุณที่สุด”วัจสามีแต่ความหมดหวัง คำพูดที่เธอพูดออกไปก็เพื่อที่จะให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น แต่ว่าความจริงที่เธอพูดออกมากลับทำให้ป้าอ้อยและคุณภูษิตกระวนกระวาย ดูเหมือนว่าเรื่องที่คุณชายรองปลอมตัวเป็นคุณชายใหญ่น่าจะถูกจับได้แล้ว ฉะนั้นคุณผู้หญิงถึงได้โมโหขนาดนี้ ยังรู้สึกเสียใจอีกด้วย“พวกเราผิดเอง แต่ว่าดึกขนาดนี้แล้ว คุณจะไปไหน? นั่งลงก่อน เรามาคุยกันดีๆก่อนดีไหม” คุณภูษิตรีบเดินมาแล้วพูดเขาคิดไม่ถึงว่าคุณผู้หญิงจะโมโหขนาดนี้ เธอชอบคุณชัยแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ? น่าจะต่างคนต่างเงียบไปสักพักไม่ก็ทะเลาะกันนิดหน่อยก็ผ่านไปละนิ? ไม่ถึงขั้นต้องหนีออกจากบ้านหรอกมั้งคุณภูษิตไม่ค่อยเข้าใจความคิดของผู้หญิง เป็นเพราะวัจสาหวั่นไหวต่อธัชชัย ฉะนั้นก็เลยเสียใจและโมโหขนาดนี้ ผู้ชายที่ตัวเองชอบ กลับไม่ให้เกียรติความรู้สึกและเล่นกับความรู้สึกของตัวเอง เปลี่ยนเป็นคนอื่น ใครก็ต้องรู้สึกแย่กันทั้งนั้นวัจสาใช้แรงผลักป้าอ้อยออกอีกครั้ง หันหลังแล้วพุ่งตรงไปทางท้องฟ้าที่มืดตอนนี้เธอไม่อยากอยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว แค่จะออกห่างจากสถานที่โหดร้ายนี้ และไม่กลับมาอีกคลอดไป สถานที่ที่ทำให้เธอเสียใจ“คุณผู้หญิง……คุณอย่าวิ่งสิ” คุณภูษิตตะโกนเรียกไปด้วย วิ่งตามไปด้วย ตามความเร็วเท้าของเขาแล้วยังสามารถวิ่งตามวัจสาทันอยู่ แต่ในตอนที่กำลังจะวิ่งตามถึง รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็กำลังพุ่งเข้ามา“วัจสา! ขึ้นรถ!” คนที่อยู่บนรถตะโกนเรียกเธอ วัจสาจึงขึ้นรถไป จากนั้นก็ตะโกนร้องออกไปคุณภูษิตไม่มีทางวิ่งตามรถมอเตอร์ไซค์ทันแน่ๆ และตรงนี้ก็ไม่มีแท็กซี่ด้วย ตอนนี้จะเรียกภูผาออกมาก็สายเกินไปแล้ว ฉะนั้นก็เลยทำได้แต่มองดูภาพข้างหลังที่จากไปของพวกเขาแต่ว่าเมื่อกี้ที่รถคันนั้นออกมากะทันหัน ยังตะโกนชื่อคุณผู้หญิงด้วย ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคนๆหนึ่ง ปรมะที่จะมาหาคุณผู้หญิงในวันนั้นป้าอ้อยที่ถูกผลักล้มลงพื้น คุณผู้หญิงไปแล้วจริงๆ ถ้าเธอท้องคุณหนูขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าอาจจะเกิดเรื่องได้……เพราะผ่านการทรมานนี้มา!เหมือนกับว่าคิดอะไรขึ้นได้กะทันหัน ป้าอ้อยพยายามวิ่งไปทางห้องนอนแขกธัชชัยในเวลานี้ได้ถอดหน้ากากยางออกแล้ว กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ราวกับว่าไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับวัจสาที่จากไปอย่างเสียใจ“คุณชายรอง……แย่แล้ว! คุณผู้หญิงหนีออกจากบ้านค่ะ! ฉันห้ามไว้ก็ห้ามไม่อยู่! เธอวิ่งออกไปขณะที่กำลังร้องไห้อยู่ ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะเสียใจมาก……”ป้าอ้อยพูดอย่างเร่งรีบ กลัวว่าธัชชัยจะไม่รู้ที่จริงป้าอ้อยไม่ต้องพูดอะไรพวกนี้ เขาเองก็ได้ยินแล้ว ผู้หญิงคนนั้นตะโกนร้องบอกว่าพวกเขาร่วมมือกันโกหกเธอ เขาได้ยินชัดเจนมากคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงจะมีนิสัยรุนแรงขนาดนี้ โมโหขึ้นมาเรื่องกลับใหญ่มาก เขาจับก็จับไม่ไหวแล้วป้าอ้อยเห็นว่าคุณชายรองยังคงทำตัวสบายๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในใจก็รีบมาก “คุณชายรอง คุณยังไม่รีบไปตามคุณผู้หญิงอีก? ยังไงเราก็เป็นฝ่ายผิด เธอโมโหตอนนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลไม่ใช่หรอคะ? คุณรีบตามไปขอโทษเธอ ไม่แน่อาจจะไม่เป็นไรแล้วก็ได้ค่ะ ฉันรู้สึกว่าคุณผู้หญิงเองก็ชอบคุณ……”ธัชชัยตอบกลับเสียงอ่อนๆ “ใช่หรอ? ตามกลับมามีประโยชน์อะไร? ให้เธอเชื่อใจฉันต่อ ผู้หญิงน่ะเอ็นดูไม่ได้ เธออยากไปก็ให้เธอไป”ธัชชัยรู้สึกไม่สบายใจ สีหน้าแย่มาก แต่ว่าเขาก็ยังปากแข็ง ทำแต่ใช้ความเย็นชามาปกปิดแต่พอป้าอ้อยได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ในใจก็รู้สึกตกใจมาก“คุณไม่ได้จะรับคุณผู้หญิงกลับมาแล้วหรอ? ดึกขนาดนี้แล้ว จะให้ผู้หญิงอยู่ข้ามคืนข้างนอกคนเดียวหรอคะ?”“เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ควรจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ หรือว่าป้าอยากให้ฉันตามเธอกลับมา แล้วขังไว้บนตึกสาม?” สีหน้าของธัชชัยทำเอาป้าอ้อยตกใจมาก เธอไม่เคยเห็นคุณชายรองที่เย็นชาขนาดนี้มาก่อนเลยแต่สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือเขาจะขังคุณผู้หญิงไว้บนตึกสาม? งั้นสู้ไม่ตามกลับมายังจะดีกว่าอีกมอเตอร์ไซค์ที่วัจสานั่งมุ่งตรงไปข้างหน้าในยามข้ามคืน ไม่หยุดเลยแม้แต่วินาทีเดียวเพราะกลัวว่าจะมีคนตามมาวัจสาไม่มีแรงจะทำอะไรอีกแล้ว เธอพิงหลังของผู้ชายอย่างเงียบๆ แล้วร้องหายอย่างอิสระ เมื่อกี้ร้องไห้หนักเกินไป ฉะนั้นตอนนี้ยังไม่สามารถหยุดได้ เธอรู้สึกแค่ว่าเสียใจมากผลการทบที่โหดร้ายนี้ใหญ่เกินไปสำหรับเธอที่พึ่งอายุยี่สิบต้นๆ เธอไม่สามารถทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ตอนนี้แค่อยากร้องไห้ออกมา จากนั้นค่อยโยนชีวิตในอดีตทิ้งครึ่งชั่วโมงต่อมา มอเตอร์ไซค์ที่มุ่งตรงไปแต่ข้างหน้าได้หยุดลง วัจสาพบว่า นี่เป็นอาคารอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ใกล้มหาลัยหมวกกันน็อคสีดำถูกถอดออก ใบหน้าที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าของวัจสาคือปรมะ เธอรู้อยู่แล้วว่าเป็นเขา ในตอนที่เขาเรียกเธอขึ้นรถ เธอก็รู้แล้ว ไม่งั้นเธอคงไม่ขึ้นรถของคนที่เธอไม่รู้จักหรอกแต่ว่ารู้ได้ไงว่าตัวเองจะหนี? หรือว่าเขาเฝ้ารอตัวเองที่หน้าบ้านศรีทองมาโดยตลอด? ดูเหมือนว่าเขาแน่ใจแล้วว่าตัวเองจะเป็นเรื่องตลกขบขันสินะเธอร้องไห้เสียงต่ำ ปรมะก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วสูดหายใจ จากนั้นก็ยื่นกระดาษทิชชู่ให้ ให้วัจสาเช็ดน้ำตาและน้ำมูกบนใบหน้า ตอนนี้เธอทรุดโทรมมาก แต่ว่าไม่สนแล้วเขาคิดไปสักพักจากนั้นก็ถอดเสื้อกันหนาวของตัวเอง แล้วทาบลงบนไหล่ของวัจสาเบาๆคิดดูสักพักแล้วพูดว่า “ถ้าทนไม่ได้จริงๆ ก็ร้องไห้หนักๆบนไหล่ฉันเถอะ”ทั้งสองลงจากรถแล้ว วัจสาค่อยๆส่ายหัว นั่งลงบนพื้นหน้าอาคารอพาร์ตเมนต์ เสียงร้องไห้ที่ต่ำของผู้หญิงแข็งมาก ผู้ชายนั่งเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆไม่ง่ายเลยกว่าวัจสาจะหยุดร้องไห้ได้ เธอพูดพร้อมกับน้ำมูกว่า “ขอบคุณนะ ปรมะ”“ขอบคุณที่ฉันช่วยถอดหน้ากากของธัชชัย?” ผ่านไปสักพักปรมะก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ถ้ารู้ว่าเธอจะเสียใจขนาดนี้ ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่บอกเธอแน่ๆ”เขารู้ ที่วัจสาเสียใจขนาดนี้คงจะเป็นเพราะเธอใส่ใจเขามาก ถ้าไม่ใส่ใจ ก็จะไม่เสียใจเหมือนตอนนี้และยังมีความรู้สึกอีกแบบหนึ่งด้วย ธัชชัยน่าจะทำอะไรกับเธอ ทำอะไรไม่ดีกับวัจสาแล้ว แต่ว่าเขาไม่กล้าเปิดปากถาม และก็เกรงใจด้วย ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาถามอะไรพวกนี้