วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 117 ไม่ทันระวังอาจจะแท้งลูกได้
ตอนที่ 117 ไม่ทันระวังอาจจะแท้งลูกได้
ทางหนึ่งเธอไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ อีกทางหนึ่งก็รู้สึกผิดต่อสามีของตัวเอง ที่จริงถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าธัชชัยเป็นสามีที่แท้จริงของเธอ เธอก็คงไม่ทรมานแบบนี้สินะ?
แต่น่าเสียดายที่คุณชายรองไม่เคยคิดจะปล่อยวัจสาไป อีกทั้งยังอยากเล่นตลกแบบนี้อีกต่อไป
หญิงสาวที่ยี่สิบต้นๆจะเล่นอะไรพวกนี้ของสุนัขจิ้งจอกที่แก่ไหวได้ไงล่ะ?
เหตุผลที่สำคัญอีกอย่างในใจของวัจสาคือ ไม่อยากทำร้ายความสัมพันธ์ของพี่น้องทั้งสอง ชีวิตนี้ของธัชชัย เป็นชีวิตที่วรพลแลกมาด้วยชีวิตของตัวเองสินะ? ฉะนั้นเธอไม่อยากเห็นว่าพวกเขาจะมีความแค้นต่อกันเพียงเพราะผู้หญิงแบบนี้
วรพลร่างกายไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ถ้าได้รับผลกระทบเพราะเรื่องนี้ งั้นตัวเองก็กลายเป็นคนที่ทำผิดต่อตระกูลศรีทองสิ
วัจสาค่อยๆนอนลงบนเตียง ให้น้ำตาในดวงตาไหลลงมายังบนใบหน้าเธออย่างอิสระ ค่อยๆลิ้มรสความรู้สึกเจ็บปวดนี้อย่างสงบ
หลังจากที่วัจสากลับห้องแล้ว ป้าอ้อยก็รีบขึ้นไปห้องรักษาที่ชั้นสอง
วรพลพึ่งถอดออกซิเจนออก “ป้าอ้อยมีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมรีบอย่างนี้?”
“คุณชายใหญ่ คุณยังไม่รู้ วันนี้คุณผู้หญิงหาคู่นัดบอดให้คุณชายรองแล้วค่ะ! นี่พวกเขาจะทำอะไรกัน? ภรรยาตัวเองหาคู่นัดบอดให้สามี? อีกอย่างเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าคุณผู้หญิงชอบคุณชายรอง เธอก็ยังทำแบบนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ถึงแม้ภายหลังคุณผู้หญิงจะรู้ความจริงแล้ว ไม่แน่อาจจะไม่ให้อภัยคุณชายรองก็ได้นะคะ”
ป้าอ้อยใช้สัมผัสที่หกของผู้หญิงคิด ถูกโกหกไปซะขนาดนี้ เธอเองก็น่าจะไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับสามีที่ตัวเอง “กลั่นแกล้ง” ยังไง ทำไมคุณชายรองถึงไม่พูดความจริงออกมาล่ะ? ถึงแม้จะวิตกกังวล แต่ว่าอยู่ด้วยกันนานขนาดนี้ คุณผู้หญิงไม่มีทางเป็นเหมือนกนิษฐาแน่ๆ
“นัดบอด? ธัชชัยก็ไปหรอ?” วรพลเองก็ไม่รู้เรื่องนี้ ‘วรพล’ ที่วัจสาพูด เธอตั้งใจพูดโกหกธัชชัย
“ใช่แล้ว ไปแล้วค่ะ ฝ่ายตรงข้ามเหมือนจะเป็นคุณผู้หญิงสองตระกูลเดิมขุนทด”
คุณภูษิตที่ยืนอยู่ข้างๆก็พูดแทรก เขาไม่พอใจกับพฤติกรรมของผู้หญิงคนนั้นมาก “คุณผู้หญิงภาวินี? หญิงสุภาพสตรีที่สวยเพียงรูปลักษณ์ภายนอกแต่ภายในกับโหดร้ายอีกแล้ว ตอนแรกพวกเขาพี่น้องทั้งสามคนต่อต้านที่จะแต่งเข้ามาในตระกูลศรีทอง หากพวกเขามีใครคนหนึ่งยอมตกลง งั้นพวกเขาก็คงเป็นคุณผู้หญิงของคุณชายรองแล้ว!”
“คุณภูษิต คุณก็พูดแย่ไป คุณลองคิดดู ตอนนั้นธัชชัยใช้นามของฉันไปสู่ขอ ใครก็รู้ว่าฉันเป็นคนพิการและหน้าตาแปลกประหลาด จะมีผู้หญิงคนไหนยอมแต่งเข้ามาล่ะ? โทษพวกเขาไม่ได้”
ก่อนที่วรพลยังไม่เสียโฉม เธอเป็นคุณชายที่อบอุ่นในเมือง S มีทั้งการศึกษา ใจกว้าง ก็ว่าล่ะ เปลวไฟสามารถทำให้เขาเสียได้แค่เพียงภายนอก แต่ความดีที่อยู่ในใจไม่สามารถทำลายได้ ในกระดูกของเขายังมีความเป็นสุภาพบุรุษที่มักจะคิดเผื่อคนอื่นอยู่เสมอ
ป้าอ้อยเงียบไปสักพักแล้วเปิดปากพูดว่า “คุณชายใหญ่ ที่จริงฉันดูออกว่าคุณผู้หญิงเสียใจมาก ในใจลึกๆของเธอก็ชอบคุณชายรองอยู่ แต่ว่าถ้าทั้งสองยังเข้าใจผิดแบบนี้อีกต่อไป ก็ไม่ใช่เรื่องนิคะ อีกอย่างครั้งที่แล้วพวกเราก็ได้เปลี่ยนยาคุมของคุณผู้หญิง ไม่แน่ในท้องเธออาจจะมีลูกน้อยแล้วก็ได้”
“ผู้หญิงอารมณ์ไม่คงที่ ง่ายมากที่จะส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ ฉันกลัวว่าไม่ทันระวังอาจจะแท้งลูกก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เลวร้ายมากจริงๆ”วรพลปิดตาแล้วคิดไปสักพัก ที่จริงเขาก็รู้ว่าคำพูดที่ธัชชัยพูดในครั้งนั้น ธัชชัยสามารถทำได้ ถ้าเขาบอกความจริงกับวัจสา งั้นธัชชัยก็จะทำร้ายเธอ ทำให้เธอทรมานมากยิ่งขึ้นแต่ถ้าเทียบกับอันตรายที่อาจจะแท้งลูกได้ ในตอนนี้ เป็นการโจมตีคูณสอง สู้บอกความจริงกับเธอตั้งแต่แรกยังดีกว่า ไม่แน่เธออาจจะไม่กดดันความรู้สึกของตัวเองแล้วก็ได้เขาลืมตา แล้วพูดด้วยเสียงแหบว่า “ป้าอ้อย ป้าไปเรียกวัจสามาให้หน่อย บอกว่าฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”ในที่สุดป้าอ้อยก็นำพาให้คุณชายใหญ่เดินผ่านจุดนั้นแล้ว เธอเดินลงตึกไปอย่างดีใจ หวังว่าคุณชายรองไม่ต้องดื้อรั้นเกินไป พวกเขาทั้งสองก็สามารถอยู่ด้วยกันได้แล้ววัจสาล็อกตัวเองอยู่ในห้อง ป้าอ้อยไม่มีกุญแจ เลยต้องเคาะประตูอยู่หน้าห้องวัจสาที่อยู่ข้างในกำลังรีบอาบน้ำให้เสร็จ แล้วห่อตัวเองเหมือนเด็กน้อยอบยู่บนเตียง ไม่ต้องสงสัยเลย นี่เป็นท่าทางของเธอตอนนี้——หาเรื่องใส่ตัว แต่ว่ามีแต่แบบนี้ เธอถึงรับรู้ได้ว่ามีความปลอดภัย“คุณผู้หญิง เปิดประตูหน่อยค่ะ! คุณชายใหญ่มีเรื่องหาคุณค่ะ!” ข้างนอกมีเสียงของป้าอ้อยส่งผ่านมาวัจสาอึ้งไปเลย วรพลหาเธอ? ต้องเป็นเพราะเรื่องการนัดบอดของธัชชัยแน่ๆ แต่ว่าตอนนี้ชื่อที่เธอไม่อยากได้ยินที่สุดก็คือธัชชัยอารมณ์ของเธอแย่ถึงขั้นไม่อยากพูดอะไรเลย“ป้าอ้อย ฉันไม่ไป ป้าบอกวรพลว่า ฉันนอนแล้ว ไว้คุยกันพรุ่งนี้”วัจสาไม่เพียงแต่เจ็บใจ ยังรู้สึกโมโหด้วยคนในบ้านศรีทองเห็นว่าเธอเป็นอะไรกันแน่? สาวใช้ที่เรียกใช้เมื่อไหร่ก็ได้หรอ? ภรรยาของวรพลที่วสวยงามสง่า แต่กลับไม่มีอำนาจอะไรเลยมีสิทธิ์อะไรที่วรพลอยากเจอเธอ ก็ให้ป้าอ้อยมาเรียกเธอ ไม่รู้เลยจริงๆว่าตัวเองมาทำอะไรที่บ้านศรีทองกันแน่ตอนนั้นที่เธออยู่นอกห้องรักษา เธอขอคุณภูษิตและคุณหมอภาคินให้เธอเข้าไป ทำไมเขาถึงไม่แยแสอะไรเลยล่ะ? แม้กระทั่งไม่ช่วยเธอพูดสักคำ ความไม่พอใจของวัจสาที่สะสมกันมาจะระเบิดออกแล้ววัจสาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอด เพราะเห็นว่าวรพลเป็นคนไข้ เธอสงสารเขา และเห็นใจเขา แต่ว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ความเชื่อใจซึ่งกันและกันก็ไม่มี ความสัมพันธ์แบบนี้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน น่าจะมีสักกวัน พวกเขาจะต้องเดินถึงจุดที่หย่ากันแน่ๆป้าอ้อยได้ยินแล้วก็รีบมาก วันนี้ทำไมคุณผู้หญิงถึงปากแข็งขนาดนี้ล่ะ?“คุณผู้หญิง คุณชายใหญ่มีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ คุณออกมาเถอะ!”มาอีกแล้ว วรพลบอกจะต้องได้เจอเธอ ก็ต้องได้เจอ แต่ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกเธอเลย? ยังเป็นคืนนี้อีก ในตอนที่วัจสาอารมณ์แย่มากๆ เธอยิ่งไม่อยากเจอเขาอยู่แล้ว“มีเรื่องอะไรค่อยพูดพรุ่งนี้เถอะค่ะ ป้าอ้อยวันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ไม่อยากลุกมาแล้ว” วัจสามุดลงในผ้าห่ม เธอไม่อยากได้ยินเสียงข้างนอกแล้วแต่เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะความโมโหในเวลาหนึ่งของเธอ ทำให้เธอพลาดจากการหลุดพ้นชีวิตที่ทรมานนี้ ถ้ารู้ในภายหลังคงจะไม่ทันแล้ว“คุณผู้หญิง ไม่นานมากค่ะ แค่สองสามคำก็เรียบร้อยแล้ว อีกอย่างคุณชายใหญ่จะพูดเรื่องของคุณและคุณชายรองค่ะ” ป้าอ้อยรีบจะตายอยู่แล้ว เหลือแค่ไม่ได้พูดเนื้อเรื่องทั้งหมดออกมามีความเกี่ยวข้องกับธัชชัย? วัจสายิ่งไม่อยากสนใจผู้ชายคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองแล้ว! เธอไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องแล้ว! ไม่ให้ความเคารพกับพี่สะใภ้ตัวเองอยู่แล้ว ตัวเองยังจะไปดีกับคนที่ไม่แยแสตัวเองทำไมล่ะ?เดินในทางที่ต่างคนต่างไม่รู้จักกันก็ได้แล้วนิ!“ป้าอ้อย ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่สบายจริงๆ นอนแล้วนะ ป้ารีบไปบอกวรพลว่าไม่ต้องรอฉัน ฉันไม่สบายจริงๆ ฝันดีค่ะ”ที่จริงแล้ววัจสาเป็นห่วงสุขภาพของวรพล แต่ว่าป้าอ้อยบอกว่าเป็นเรื่องของเธอกับธัชชัย ในเมื่อไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญอะไร พูดพรุ่งนี้ก็เหมือนกัน เธอก็เลยตัดสินใจไม่ออกไปแล้วถึงแม้ตอนนี้เธอจะไม่โมโหเธอก็ไม่อยากไปพบวรพล ถ้าหากว่าตัวเองเสียอาการต่อหน้าเขาขึ้นมา จะทำยังไงล่ะ?ป้าอ้อยก็ยังคงเรียกเธอต่อ “คุณผู้หญิง ฉันคิดว่าถ้าคุณฟังแล้วคุณน่าจะดีใจแน่นอน คุณลุกมาแปปหนึ่งเถอะ เปิดประตูนะ……”ถ้าหากว่าทำได้ ป้าอ้อยอยากจะพูดคำพูดของคุณชายใหญ่ออกมามาก แต่ว่าเธอเป็นแค่คนใช้ ไม่สามารถทำเกินหน้าที่ได้ ก็เลยได้แต่รีบอย่างเดียววัจสาไม่ได้พูดอะไร แต่ยิ้มอย่างลับๆ กับผู้ชายคนนั้นจะมีข่าวดีอะไร? ฟังแล้วจะรู้สึกดีขึ้นแน่นอน? นี่เป็นไปไม่ได้ตอนนี้ขอแค่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับธัชชัย เธอได้ยินแล้วก็รู้สึกแย่มาก!ป้าอ้อยรออยู่ข้างนอกอย่างไม่ตายใจไปสักพัก พบว่าวัจสาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่พบคุณชายใหญ่ เธอถอนหายใจยาว หันหลังแล้วค่อยๆเดินจากไปถ้าหากว่าค่อยพูดพรุ่งนี้ ก็อาจจะได้ ในเมื่อคุณผู้หญิงตกลงแล้ว เธอก็ทำได้แต่ขึ้นมารายงานวรพลแบบนี้ณ บ้านพักตากอากาศภูผาวันนี้เป็นวันที่ภาวินีออกหน้าและโดดเด่นมาก คุณผู้หญิงคุณนายต่างๆและสุภาพสตรีต่างก็มองเธอด้วยแววที่อิจฉาแน่นอน นั่นเป็นเพราะข้างๆของตัวเองมีผู้ชายที่หล่อเหลานั่งอยู่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าธัชชัยจะมาจริงๆและยังมานั่งกินข้าวกับตัวเอง ภายนอกที่โดดเด่นและหล่อเหลา บวกกับฐานะที่โดดเด่น ผู้ชายคนนี้ช่างเพอร์เฟคมากจริงๆหลังจากวัจสาพบปะกับผู้คนแล้ว ก็ได้รับฉายาสุภาพสตรีในเมือง S ไม่ใช่บุคคลธรรมดา เธอมองคนแม่นมาก รู้ว่าต้องสนทนาอะไรฝ่ายตรงข้ามจึงจะสนใจ ไม่พูดไม่ได้เลยว่าเธอมีความสามารถในการสื่อสารสุดยอดมากฉะนั้นตลอดทั้งคืน บทสนทนาของภาวินีวนเวียนอยู่แต่รอบตัวของวัจสา ธัชชัยจากตอนแรกที่เบื่อหน่ายก็กลายเป็นมีความสนใจมากยิ่งขึ้น ยังตอบกลับสองสามคำในครั้งคราวด้วยรอยยิ้มอ่อนๆบนใบหน้าของธัชชัยและรอยยิ้มที่เบิกบานของภาวินีต่างก็สว่างไสว ในแววตาของคุณนายพวกนั้น กลายเป็นความเหมือนกัน มีความรู้สึกที่เข้าใจซึ่งกันและกันจะต้องรู้ว่า ในเวลาที่ธัชชัยคุยด้วยยิ้มด้วยกับผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ได้มีมากนัก“ตั้งแต่เล็กพี่วัจสาก็ถูกฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านพวกเรา แต่ว่าตอนนั้นรสรินยังไม่รู้เรื่องอะไร มักจะรังแกพี่วัจสา ถ้าตอนที่ฉันอยู่ฉันจะช่วยเธอ ตอนฉันไม่อยู่ พี่วัจสาก็ไม่ได้เสียเปรียบ ที่จริงแล้วเธอฉลาดมาก แต่แค่ทุกครั้งที่เธอไม่มีความสุขเธอก็จะมาร้องไห้ที่ฉัน เธอไม่ค่อยสนิทกับพี่ใหญ่ แต่สนิทกับฉันมากกว่า”ภาวินีพูดไปด้วยย้ายบทสนทนามาทางเรื่องของตัวเองไปด้วย เธอรู้สึกว่าขอแค่เธอแสดงออกมาว่าความสัมพันธ์ของเธอกับวัจสาดนั้นดี แค่นี้ก็พอแล้วถึงแม้เรื่องที่เธอพูดจะจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายเธอธัชชัยมองดูนาฬิกา จู่ๆก็ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว ภาวินีจะเป็นคนที่ฉลาดขนาดไหนเนี่ย?เธอลุกขึ้นมาอย่างสง่า “ ขอบคุณที่วันนี้คุณชายมานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนนะคะ อาหารมื้อนี้ ภาวินีมีความสุขมากค่ะ”-โปรดติดตามตอนต่อไป 10/11/2019-