ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! - ตอนที่ 19 นี่ก็คือพี่สะใภ้ใช่ไหมล่ะ
บทที่ 19 นี่ก็คือพี่สะใภ้ใช่ไหมล่ะ
สายตาทุกสายตาต่างจ้องไปยังรูปถ่ายขนาดใหญ่ตรงหน้า ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอยู่นานสองนาน
หลังผ่านไปสักพักใหญ่ จึงเริ่มดึงสติกลับมา ก่อนจะต่างคนต่างหันมองหน้ากันด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ สายตาราวกับกำลังบอกว่า“ดูผิดใช่ไหม? มือถือของท่านประธานจะมีรูปของผู้หญิงได้ยังไง?”
แต่กลับไม่ใช่!
ทุกคนคิดไปต่างๆนาๆ ยากที่จะเก็บความอยากรู้อยากเห็นเอาไว้ ต่างพากันชูคอเพื่อที่จะดูผู้หญิงอยู่บนจอให้ชัดๆว่าเป็นใคร
มีคนเดาว่า อาจจะเป็นคุณหนูของสักตระกูล
บางคนจินตนาการไปไกลถึงขั้นคิดว่าเป็นภรรยาของท่านประธานในอนาคต……
แต่พวกเขายังไม่ทันดูให้ดี รูปของสาวสวยคนนั้นก็หายวับไปอย่างไร้วี่แวว
จิ้นเฟิงเฉินทำยังกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาดึงมือถือออก ท่าทางนิ่งๆไม่รีบไม่ร้อนอะไร พร้อมกับพูดขึ้นด้วยสายตานิ่งเฉย“การประชุมในวันนี้ เสร็จสิ้นลงแค่นี้ แยกย้ายกลับไปทำงานกันต่อได้”
ทุกคนพากันหันสายตากลับ ในใจแอบรู้สึกเสียดาย
ทำไมถึงปิดเร็วขนาดนี้ล่ะ? ยังดูไม่ชัดเลย!
คิดไปคิดมา แต่ไม่กล้าที่จะแสดงสีหน้าใดๆออกมา เก็บของแล้วรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เหลือเพียงแค่……จิ้นเฟิงเหรา
เห็นแต่เขาที่กำลังจ้องพี่ชายของตัวเองด้วยสายตาเยาะเย้ยพร้อมกับพูดขึ้น“ตะกี้มันคือพี่สะใภ้ในอนาคตของผมใช่ไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินหันมามองน้องชายของเขาด้วยสายตาเย็นชา“ทำไมนายถึงยังไม่ไป?”
จิ้นเฟิงเหราทำหน้าซื่อตอบอย่างตรงไปตรงมา“ไปทำไม ผมจะอยู่ดูพี่สะใภ้ของผม!พี่ยังไม่ต้องพูดอะไรนะ แค่แว็บเดียวเมื่อตะกี้ แม้ว่าจะเห็นแค่ข้างๆ ดูก็รู้ว่าสวยแน่นอน!พี่เนี่ย ตาถึงมากจริงๆ”
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำประจบประแจงของน้องชาย ชำเลืองตาไปมองเขานิ่งๆ“ใครเป็นคนบอกกับพ่อแม่นะ ว่าเรื่องราวมันยังไม่ทันเกิดขึ้น แต่พอมาตอนนี้ก็เรียกพี่สะใภ้แล้ว ไม่เร็วเกินไปหน่อยเหรอ?”
“ไม่นี่ ทำไมเหรอ? มันยากนะกว่าที่พี่จะมีความสนใจผู้หญิงสักคน ต่อให้เธอน่าเกลียดเกินจะบรรยาย ผมก็ต้องหลอกกลับเอามาให้พี่อยู่ดี”
พอพูดถึงตรงนี้ คุณชายรองจิ้นดูเหมือนจะเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมา เขาพูดแหย่ขึ้น“หรือว่า……คืนนี้จะให้ผมไปรวบตัวเธอมา? ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร จัดการรวบหัวรวบท้ายเธอก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
ช่างป่านเถื่อนสิ้นดี!
จิ้นเฟิงเฉินได้ยินแบบนั้น ก็มองเขาด้วยสายตาท้าทายให้ขาลองทำ“ถ้านายกล้า ก็ลองดูสิ!”
น้ำเสียง ทั้งเย็นชาและอันตราย
จิ้นเฟิงเหรายอมแพ้ทันที พูดขึ้นอย่างหยอกล้อ“ไม่กล้าหรอกครับ ไม่กล้าหรอก ผมก็แค่เป็นห่วงว่าพี่จะจัดการไม่ได้ก็แค่นั้นเอง”
ก็รู้ๆอยู่ พี่ชายของตัวเองใช้ชีวิตมายี่สิบเก้าปีแล้ว แม้แต่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนยังไม่เคยมีสักคน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องตามจีบผู้หญิง ไร้ประสบการณ์ยิ่งกว่าเด็กประถมเสียอีก
เขาที่เป็นน้องชาย ก็เป็นกังวลใจไม่น้อย
แต่พี่ชายเขาดันไม่สนใจใยดีนี่สิ แถมยังพูดตอบกลับมาด้วยสีหน้ารังเกียจอีก“ถ้านายว่างขนาดนั้น ไม่ลองไปนัดดูตัวซะเองเลยล่ะ เป็นห่วงเรื่องของฉันให้น้อยๆหน่อย”
พูดจบ ก็เดินกลับไปห้องทำงานทันที โดยไม่รอให้น้องชายตอบกลับ
พอรอจนมั่นใจแล้วว่าไม่มีคนมารบกวน จิ้นเฟิงเฉิน ก็เอามือถือขึ้นมาเปิดข้อความนั้นอีกครั้ง
รูปนั้นยังอยู่
หญิงสาวในรูปดูเงียบสงบ เครื่องหน้าชัดเจน ดูละมุน หน้าตาสวยงามเกินจะบรรยาย ทุกๆส่วนให้ความรู้สึกสวยจนบอกไม่ถูก สองตาใสแป๋ว ราวกับน้ำในฤดูใบไม้ร่วง แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน
จิ้นเฟิงเฉินแววตาดูนิ่งลึกขึ้น นิ้วมือกดลงไปที่แป้นพิมพ์บนหน้าจอ เพื่อที่จะพิมพ์ประโยคประโยคหนึ่ง ก่อนจะส่งกลับไป“ที่นี่คือโรงพยาบาล?”
เซิ่นมู่ป๋ายตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว“ใช่เธอจริงๆด้วย!”
จิ้นเฟิงเฉิน“?”
เซิ่นมู่ป๋าย“โรงพยาบาลนั่นแหละ ดูเหมือนว่าจะมาเยี่ยมไข้ ผู้หญิงวัยกลางคนท่านหนึ่ง สงสัยจะเป็นแม่ของเธอ”
จิ้นเฟิงเฉินชะงักไปเล็กน้อย นึกถึงตอนที่ตรวจสอบประวัติเจียงสื้อสื้อ ในเอกสารเขียนไว้อย่างถูกต้องว่า เธอมีแม่ที่อัมพาตหนึ่งคน
เขาขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับถามกลับไป“แล้วอาการเป็นยังไงบ้าง?”
เซิ่นมู่ป๋ายตอบ“จู่ๆก็อาการกำเริบ แต่ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”
ความรู้สึกกังวลเมื่อตะกี้ของจิ้นเฟิงเฉิน ก็ค่อยๆคลายลง ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่สายตาจ้องลงมายังรูปรูปนั้น ในตาเหมือนมีแสงประกายเล็กๆปรากฏออกมาอย่างบอกไม่ถูก
……
ในช่วงเช้าทั้งเช้า เจียงสื้อสื้อใช้เวลาอยู่แต่ที่โรงพยาบาล จนใกล้เวลาอาหารกลางวัน เธอถึงเดินออกมา
หลังจากออกมา เธอก็ทำสีหน้าท่าทางร่าเริงขึ้นอีกครั้ง
ตอนนี้ ค่ารักษาพยาบาลของแม่ใกล้เข้ามาแล้ว งานก็ไม่มีแล้ว สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ก็คือ ต้องรีบหางานใหม่ให้เร็วที่สุด
แต่ว่า ก่อนหน้านี้ เธอไปที่ห้างสรรพสินค้ามา เพื่อไปเลือกของขวัญให้กับเสี่ยวเป่าโดยเฉพาะ
ของขวัญชิ้นนั้นก็คือ สร้อยคอ เลือกตามราศีของเสี่ยวเป่า ราคาไม่แพง แต่ว่าสำหรับคนที่ฐานะไม่ได้ร่ำรวยแบบเธอแล้ว กลับถือว่าราคาไม่ถูกเลย
ช่วงบ่ายสามโมง เจียงสื้อสื้อก็ได้มาถึงบริเวณหน้าตึกของจิ้นกรุ๊ป
นี่เป็นครั้งแรกของเธอ
ก่อนหน้านี้เคยเห็นแต่ในข่าว รู้ดีว่าที่นี่เป็นหนึ่งในจุดแลนด์มาร์คของเมืองจิ่น
พอวันนี้มาเห็นใกล้ๆ ก็ยิ่งดูอลังการมากขึ้นไปอีก
จำนวนชั้นที่สูงตระหง่าน ดูสวยงามตระการตาอย่างมาก การที่ได้เป็นถึงหนึ่งในห้าร้อยบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก
จิ้นกรุ๊ปก็เลยดูยิ่งใหญ่จนทำให้ผู้คนต่างอดรู้สึกช็อกไม่ได้
เจียงสื้อสื้อจู่ๆก็รู้สึกขี้ขลาดขึ้นมา กังวลว่าตัวเองยังไม่ทันได้เข้าไป ก็โดนเขาไล่ออกมาเสียก่อน
ในขณะที่กำลังลังเลอยู่นั้น จู่ๆก็มีคนคนหนึ่งเดินออกมาจากในบริษัท
คนคนนั้นสวมชุดสูทรองเท้าหนัง ดูโก้เก๋ เดินสับเท้าด้วยความรวดเร็ว ที่มือกำลังควงกุญแจรถ ท่าทางหล่อเหล่าและดูอินดี้ไม่สนโลก
นั่นมันจิ้นเฟิงเหรา!
พนักงานผู้หญิงบริเวณนั้นที่เดินสวนกับเขา ต่างกล่าวทักทาย“คุณชายรองสวัสดีค่ะ”
“โอ้ ไม่ได้เจอกันไม่กี่วัน สวยขึ้นนะเนี่ย!”
จิ้นเฟิงเหรายกมุมปากพูดชม สองตามีเสน่ห์ทั้งหยอดทั้งอ่อยจนทำให้สาวๆพวกนั้นถึงกับหน้าแดงใจเต้นแรงไปตามๆกัน แทบจะตกหลุมรักในทันที
จิ้นเฟิงเหราดูเหมือนจะพออกพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ เขาโบกมือลาคนเหล่านั้นแล้ว ก่อนจะเดินต่อ ตามองกวาดไปทั่วทุกสารทิศ
ขณะที่สายตามองไปมองมาอย่างไม่ได้ได้ตั้งใจอยู่นั่น ก็หันมาหยุดอยู่ตรงเจียงสื้อสื้อ ……ทันที คุณชายรองจิ้นที่กำลังมีสุขความสมหวังอยู่นั้นเอง ก็ราวกับถูกหยุดชะงักไว้ ขยับเท้าเดินต่อไม่ได้
“แม่เจ้า……ฉันกำลังเห็นอะไรอยู่เนี่ย?”
เขาขยี้ๆตา ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เกรงว่าตัวเองจะเห็นภาพลวงตา
พอขยี้ตาเสร็จ ก็เพ่งมองดูอีกรอบ
ยังอยู่!
คุณชายรองจิ้นรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที“นั่นคือสาวสวยที่อยู่ในรูปอย่างที่คิดไว้เลย!”
พี่สะใภ้ในอนาคตของเขา!
ตอนที่อยากรู้ก็ไม่ได้รู้ แต่พอเผลอแล้วดันมาโผล่ออกมาซะอย่างนั้น เขายังไม่ทันไปรวบตัวเธอมาเลย เธอก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาเองแล้ว
คุณชายรองจิ้นตื่นเต้นสุดๆ สับขาเดิน ไม่กี่ก้าวก็มาถึงตรงหน้าของเจียงสื้อสื้อ
“ไง!”เขาทักทายเจียงสื้อสื้อด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เจียงสื้อสื้อ ร้องออกมาด้วยความรู้สึกตกใจ“คุณจะทำให้ฉันตกใจตายเลยหรือไง?”
พูดเสร็จ แล้วจึงหันมามองเขา ก็รู้สึกว่าคุ้นหน้าเขาไม่น้อย
จิ้นเฟิงเหราเจ้าของคนที่สองของจิ้นกรุ๊ป ลูกชายของตระกูลที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียง มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาถึงขั้นสะกดใจคน มักจะเป็นตัวแทนของจิ้นกรุ๊ป จะเห็นได้ในนิตยาสารธุรกิจบ่อยๆ ประวัติดีเลิศ บวกเข้ากับวิธีการทำธุรกิจที่มีศีลธรรม เป็นชายคนรักในฝันของสาวๆจำนวนไม่น้อยในเมืองจิ่น
เมื่อก่อนเจียงสื้อสื้อเคยเห็นเขาในนิตยสาร ก็เลยไม่แปลกตาเท่าไร แต่ก็รู้สึกอึดอัดไม่ใช่น้อย พูดจาก็ตะกุกตะกัก “คุณ……คุณชายรอง”
“สวัสดีครับ คนสวย”
จิ้นเฟิงเหรารอยยิ้มยิ่งดูสดใสขึ้น สายตามองสำรวจเธอไปทั่ว ราวกับอันธพาล จากนั้นก็มีเสียงพูดขึ้นต่อทันที“คุณมาหาพี่ชายของผมเหรอ?”