ทางเหนือของถนนโทคิวะโดริ หน้าสถานี มีร้านกาแฟเล็กๆ อยู่ร้านหนึ่ง
ร้านนี้ตั้งอยู่บนชั้นสองของอาคาร ให้บรรยากาศที่สงบและดูเป็นร้านเก่าแก่ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีอายุกันพอสมควร
[ ไม่ใช่นะคะ… ไม่ใช่อย่างนั้นจริงๆ… ]
สองวันแล้วหลังจากเหตุการณ์คอสเพลย์สุดช็อคนั่น
คนที่กำลังฟุบหน้าลงบนโต๊ะแล้วส่งเสียงครวญออกมา ก็คือเทียร่าซัง
เสียดายนิดหน่อยที่กลับมาไว้ผมทรงเดิมแล้ว
[ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่ท่าทางตอนนั้นของเธอน่ะ ดูเต็มที่เลยไม่ใช่เหรอ? ดูเหมือนจะสนุกออก ]
บนหน้าจอมือถือที่ผมยื่นให้ เป็นโปสเตอร์หาเสียงของผู้สมัครประธานนักเรียน เทียร่า บาโซริ
เทียร่าซัง กำลังทำท่าจิกะเปียวหรือก็คือชูนิ้วชี้ทั้งสองข้างแล้วหมุนๆอย่างร่าเริง
[ ก็ทำไงได้ล่ะคะ! เขาบอกให้โพสท่า ก็เลยเผลอทำท่าที่ซ้อมเอาไว้… อย่ามาดูรูปตรงนี้สิคะ! ]
เทียร่าซังดีดตัวขึ้นทันที รู้สึกโล่งใจหน่อยที่ยังดูสดใสดี
ดูเหมือนพอจะตั้งสติได้แล้ว เธอก็มองไปรอบๆ ร้านด้วยท่าทางแปลกใจ
[ …แล้วนี่ทำไมถึงพาฉันมาที่นี่เหรอคะ ]
[ บาโซริซังเองบอกว่าอยากออกไปนอกโรงเรียนใช่มั้ย แล้วอีกอย่าง เรื่องนี้… เธอไม่ตอบอะไรเลย ก็เลยจัดการให้เอง ]
พอผมวางแก้วน้ำองุ่นสีแดงลงตรงหน้า เทียร่าซังก็มองด้วยความสงสัย
[ …ไม่ใช่กาแฟเหรอคะ ]
[ บาโซริซังไม่ค่อยชอบกาแฟนี่ ]
[ รู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ชอบกาแฟ? ]
[ ก็วันก่อนตอนเราไปคาเฟ่บอร์ดเกมด้วยกัน เธอเติมน้ำตาลกับนมเยอะมาก แล้วก็ดื่มรวดเดียวหมดเลย ]
ผมยกแก้วน้ำองุ่นของตัวเองขึ้นมา
[ อีกอย่าง เวลารู้สึกเหนื่อย หวานๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ปกติก็กินแต่กาแฟ วันนี้เลยลองสั่งดูบ้าง ]
เทียร่าซังนิ่ง มองแก้วอยู่สักพัก ก่อนจะค่อยๆ ดูดจากหลอด
[ …อร่อยดีค่ะ ]
[ ใช่มั้ยล่ะ? เค้าบอกว่าใช้องุ่นจากไร่องุ่นแถวอะคุโมโนะนี่เอง ]
พอเห็นเธอดูใจเย็นลง ผมก็ยกแก้วดื่มตามบ้าง
แต่แล้วเทียร่าซังก็พึมพำเสียงเบาด้วยสายตาเย็นชา
[ …เก่งจังนะคะ ]
[ หือ? หมายถึงอะไร? ]
[ นุคุมิซึซังนี่ เหมือนจะชำนาญการปลอบใจผู้หญิงที่กำลังอ่อนแอจริงๆนะคะ พามาที่ร้านกาแฟสงบๆ ที่มองจากข้างนอกไม่เห็น แถมยังใช้ของหวานมาล่ออีก ]
.. ถูกกล่าวหาแรงไปหน่อยแล้วมั้ง
[ ตอนเด็กๆ ก็แค่เคยมาที่นี่กับพ่อแม่เท่านั้นเอง ]
[ อ๋อ สรุปมันเลยกลายเป็นที่พาผู้หญิงประจำเวลามาแบบนี้สินะคะ ]
หยาบคายจริง เธอเป็นผู้หญิงคนแรกนอกจากคาจูที่ผมพามาที่นี่เลยนะ
เอาล่ะ ถ้าเทียร่าซังกลับมาเป็นปกติแล้ว ก็คงได้เวลาคุยเรื่องสำคัญกันสักที
[ ว่าแต่ วันนั้นทำไมถึงแต่งตัวแบบนั้นเหรอ? ]
ค่อกๆ ! เทียร่าซังพ่นน้ำองุ่นออกมา
เธอรีบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดปาก ก่อนจะมองผมด้วยสายเหมือนจะร้องให้
[ ตะ… ต้องอธิบายด้วยเหรอคะ? ]
[ ก็มันเกี่ยวกับการเลือกตั้งนี่ ]
[ เอ่อ… นั่นมัน… ]
งั้นก็ช่วยไม่ได้นะ
ผมเอารูปโปสเตอร์บนมือถือให้ดู เทียร่าซังก็รีบเอนตัวมาข้างหน้า
[ ก็… ใช้เสน่ห์ค่ะ ! ตั้งใจใช้เสน่ห์มาหว่านล้อมนุคุมิซึซัง ให้ยอมเป็นผู้สนับสนุนให้ฉันค่ะ ! ]
เธอหอบหายใจ ก่อนจะดูดน้ำองุ่นอีกครั้ง
…ที่แท้วันนั้นก็โดนใช้เสน่ห์มัดใจอยู่เหรอเนี่ย ไม่รู้ตัวเลยสักนิด
[ สรุปคือ จะมาทำเสียงอ้อนๆแบบ ได้โปรดเป็นผู้สนับสนุนให้ฉันเถอะค่ะ… เหมียว อะไรแบบนั้นเหรอ? ]
[ ใช่ค่ะ ! …แต่ไม่ได้เหมียวหรอกนะคะ ! ]
เทียร่าซังพูดพลางวางแก้วเปล่าเสียงดัง
[ งั้นขอพูดตรงๆ เลยได้มั้ยคะ? ฉันอยากให้นุคุมิซึซังเป็นผู้สนับสนุนฉันจริงๆ ค่ะ ]
เธอยืดหลังตรง พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง มองผมไม่วางตา
…ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้นกันนะ ผมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไป
[ แต่ทำไมต้องเป็นผมล่ะ? ให้ครูช่วยให้คงได้คะแนนเสียงมากกว่าแน่ๆ ]
[ ก็อาจจะใช่ค่ะ… แต่อยากให้นายช่วยจริงๆ ]
เป็นคำตอบที่วนกลับมาจุดเดิม คงต้องปฏิเสธให้ชัดเจนแล้วล่ะ
แต่พอจะอ้าปากพูด เทียร่าซังก็รีบขัดขึ้น
[ นุคุมิซึซังรู้มั้ยคะ ว่าทำไมฉันถึงถูกเลือกให้เป็นรองประธาน? ]
[ น่าจะเพราะชิกิยะซังแนะนำใช่มั้ย? ]
เทียร่าซังพยักหน้า แล้วมองแก้วเปล่าในมือ
[ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ฉันไม่ค่อยได้คุยกับเธอเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ไม่กล้าถามว่าทำไมเขาถึงเลือกฉัน ไม่กล้าถามว่าทำไมถึงให้ฉันเป็นรองประธาน ]
เธอพูดต่อ ราวกับกำลังค้นหาความทรงจำในใจ
[ ตอนแรกที่ได้เจอพวกเขา ก็แค่ไปช่วยงานสภานักเรียนในฐานะอาสาสมัคร บอกตรงๆ ว่าไม่ได้ช่วยอะไรมากนักหรอกค่ะ ]
[ ไม่จริงหรอก— ]
เทียร่าซังส่ายหน้า
[ นายก็รู้ดีว่าฉันเป็นคนหัวแข็ง เอาแต่ใจ ชอบขัดแย้งกับคนอื่น จนต้องให้ประธานมาช่วยไกล่เกลี่ยอยู่บ่อยๆ พอถูกขอให้เป็นผู้สนับสนุนในการเลือกตั้งปีที่แล้ว ฉันยังคิดว่านั่นมันตลกสิ้นดี ]
เธอจับแก้วน้ำแน่น มองผิวน้ำที่สั่นไหว
[ ตอนนี้คิดๆ ดูแล้ว… บางทีเขาอาจจะแค่สงสารฉันก็ได้ เห็นฉันขัดแย้งกับทุกคนเลยอยากให้ฉันอยู่ในสายตาเขาตลอด ]
แล้วเทียร่าซังก็เงยหน้าขึ้น
[ นั่นแหละค่ะ ฉันเลยอยากชนะ อยากอยู่ในสภานักเรียนต่อไป ในฐานะเพื่อนที่เท่าเทียมกันกับทุกคน ]
[ แล้ว… ทำไมต้องเป็นผม? ]
[ ก็เพราะ… ทุกคนในสภานักเรียนให้ความสำคัญกับนุคุมิซึซังมากขนาดนั้น เลยคิดว่า สิ่งที่ฉันขาดไป คงเป็นสื่งที่อยู่ในตัวของนาย ]
สายตาจริงจังคู่นั้น…
ผมไม่อาจละสายตาจากดวงตาของเทียร่าซังได้ จึงได้แต่ยิ้มแห้งๆ
[ พูดเกินไปแล้วมั้ง… ]
[ ไม่เลยค่ะ ]
เธอตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคงและไม่มีความลังเล
[ ตอนฉันขึ้นไปพูดสนับสนุนประธานโฮโคบารุเมื่อปีที่แล้ว ขาฉันสั่นเลยค่ะ ]
[ งั้นเหรอ? บาโซริซังก็เคยขึ้นไปพูดสนับสนุนด้วยนี่นะ ]
[ ……นุคุมิซึซังก็น่าจะได้ยินอยู่แล้วนี่ ]
อืม พอฟังแล้วก็เหมือนจะจำได้
เทียร่าซังกระแอมแล้วก็เริ่มพูดอีกครั้งเหมือนจะตั้งหลักใหม่
[ “ยัยนั่น เหมือนจะได้ใจเกินไปแล้วนะ ใช้อำนาจบารมีของประธานมาอวดเบ่ง “ ──ตลอดปีที่ผ่านมา คนก็พูดแบบนั้นกันมาเรื่อย แต่ปีนี้ฉันเป็นผู้สมัครเอง ต้องยืนอยู่จุดนั้นเหมือนที่ประธานเคยยืนเมื่อปีก่อน พูดตรง ๆ เลยนะคะฉันกลัวแทบแย่ ]
เธอเอามือทาบหน้าอก สูดหายใจลึกแล้วพูดต่อ
[ ฉันอยากได้คำพูดจากนุคุมิซึซัง…แค่เป็นกำลังใจให้ก็ได้ ขอแค่นั้น ฉันก็คิดว่าตัวเองคงจะยืนอยู่ตรงนั้นได้อย่างสง่าผ่าเผย เพราะงั้น──]
เทียร่าจังจ้องมาที่ผมอย่างตรงไปตรงมา
[ แค่ตอนนี้…ช่วยสนับสนุนแค่ฉันแค่คนเดียวได้มั้ยคะ ]
คำพูดของเทียร่าซังเหมือนระบายความในใจ
ผมเจอความตรงไปตรงมานั้นเข้าก็ไม่รู้จะตอบยังไง ได้แต่เงียบไว้
[ ขอโทษนะคะ จู่ๆก็พูดอะไรแบบนี้ ]
[ ไม่ เป็นไรหรอก…… ]
ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง
เหมือนจะพยายามเปลี่ยนบรรยากาศ เทียร่าซังเลยเรียกพนักงานที่เดินผ่านมาหยุดไว้
[ สั่งกาแฟเถอะค่ะ เดี๋ยวเลี้ยงเอง ]
[ หา? เธอไม่ชอบกาแฟไม่ใช่เหรอ ]
[ ค่ะ ไม่ชอบจริง ๆ แต่ถ้านุคุมิซึซังชอบ ก็คิดว่าจะพยายามค่อยๆชินให้ได้ ]
ทำไมถ้าผมชอบกาแฟ แล้วเธอต้องพยายามฝืนด้วยล่ะ…?
ขณะที่ผมสงสัยอยู่ เทียร่าซังก็ควักกระดาษพับ ออกจากกระเป๋ามา
[ ฉันไปเอาหนังสือพิมพ์โรงเรียนมาแล้วค่ะ การวิเคราะห์การเลือกตั้งทำได้ดีเกินคาดเลย ]
เทียร่าจังกางกระดาษบนโต๊ะ
[ หืม หนังสือพิมพ์โรงเรียนถึงขั้นวิเคราะห์การเลือกตั้งแล้วเหรอ ]
[ เหมือนพวกเขาไปทำแบบสอบถามเกี่ยวกับการลงคะแนนมาน่ะค่ะ ดูนี่สิ ]
นิ้วเรียวยาวของเทียร่าซังชี้ไปที่กราฟวงกลม แสดงอัตราการสนับสนุน
ซากุไรคุง 45, เทียร่าซัง 30, ยังไม่ตัดสินใจ 25──
แถมยังมีการวิเคราะห์ตามชั้นปี เพศ ชัดเจนไปอีก
ซากุไรคุงดูเหมือนจะได้แรงสนับสนุนจากผู้หญิงปี 1 และ ปี 3 และผู้ชาย ปี2 ส่วนเทียร่าซังเองก็สูสีในหมู่ผู้ชาย ปี1
ดูแล้วก็ไม่มีข้อมูลไหนที่เข้าข้างเทียร่าซังนัก
พอเห็นสีหน้าหนักใจของเธอ ผมเลยหยิบหนังสือพิมพ์โรงเรียนขึ้นมาอ่าน
[ แต่หนังสือพิมพ์นี่ก็มีแต่ข่าวซุบซิบทั้งนั้น อย่าไปซีเรียสเกินเลยนะ ซากุไรคุงก็โดนหาว่าเป็นศัตรูของผู้หญิง อะไรก็ไม่รู้ด้วย ]
ถึงจะเป็นคู่แข่งกัน แต่เห็นซากุไรคุงโดนใส่ร้ายก็ไม่สบายใจนัก
พอพูดจบ เทียร่าก็ทำสีหน้ายากจะอธิบาย
[ เป็นอะไรไปน่ะ ]
[ ……คำว่า ศัตรูของผู้หญิง ในนี้ ฉันว่ามันหมายถึงนุคุมิซึซังนะคะ ]
[ หา?! ผมไม่เคยมีแฟนสักคน จะไปหลายใจได้ยังไงกัน ]
[ ค่ะ เข้าใจค่ะ ว่านุคุมิซึซังน่ะ…ชอบผู้ชายมากกว่า ]
[ ไม่ใช่สักหน่อยครับ ! ]
ผมรีบเถียงจนภาษาสุภาพหลุดปากออกไป เทียร่าซังกลับหยิบสมุดโน้ตออกมาเฉย
[ ทำอะไรน่ะ ]
[ ขอโทษค่ะ พอมีเรื่องที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ฉันจะจดลงโน้ตไว้ก่อน แล้วเอาไว้อ่านใหม่ตอนสติกลับมา ]
แล้วตอนนี้เธอไม่มีสติเหรอ…เมื่อกี้ยังพูดตั้งยาว
เทียร่าซังพึมพำเบา ๆ แล้วก็เขียนอะไรสักอย่างลงไปในโน้ต
[ เอ่อ…นุคุมิซึซัง…ไม่เกี่ยง…ทั้งชาย…ทั้งหญิง… ]
ไม่ใช่เลย อย่ามองผมแล้วเขียนไปด้วยสิ
อยากจะโวย แต่ก็ต้องอดทน ไม่อยากไปรบกวนการบำบัดของเธอ
ผมเลยก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์โรงเรียนต่อ
พอคิดว่าบทความนี้เขียนถึงตัวเองแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันมั่วเอามาก ๆ
ในนี้เขียนว่าผมเป็นคนโปรยเสน่ห์ไปทั่ว แต่ไม่ยอมคบใครจริงจัง เป็นคนเลวไม่มีใครเกิน
แล้วยังบอกว่า ‘สาวสวยปีสอง A’ หมายถึงยานามิ รึเปล่า? เขียนซะมั่วไปหมดแต่บางจุดก็เหมือนจะแอบตรงอยู่…น่าหนักใจจริง ๆ
──เสียง ปึบ ของการปิดสมุดโน้ต ทำให้ผมหลุดจากความคิด
[ ขอบคุณที่รอค่ะ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ]
เทียร่าซังยิ้มสดใส ก่อนจะยกกาแฟที่เพิ่งมาเสิร์ฟขึ้นจิบอย่างลังเล
[ แบล็ค…โอเคเหรอ ]
[ อืม…แปลกดี แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ขอเติมน้ำตาลนิดนึงนะคะ ]
ผมมองเทียร่าซังใส่น้ำตาลลงไปพลางยิ้มบาง ๆ แล้วก็ลองจิบกาแฟบ้าง
[ ……เอ๋ อร่อยผิดคาดเลยนะ? สั่งอะไรมาเหรอ ]
[ คิลิมันจาโรค่ะ เขาบอกว่าเป็นราชาแห่งกาแฟ ]
นั่นของแพงเลยนะ ดีแล้วล่ะที่เธอเลี้ยง…ใช่มั้ย ?
ผมที่ระแวงทุกอย่างเพราะคนบางคน ก็จิบกาแฟไปพลางดูเธอเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ
[ เอาล่ะ จะหกโมงเย็นแล้วสินะ ]
เอ๋? หรือว่าเธอมีเคอร์ฟิว ?
เทียร่าซังหยิบมือถือออกมา
[ หนังสือพิมพ์โรงเรียนฉบับที่สองจะปล่อยตอนหกโมงเย็นค่ะ ]
[ อ๋อ แบบที่เขียนไว้ว่า ‘ตอนต่อไปอ่านได้ในเว็บ’ นั่นสินะ ]
[ ไม่รู้ว่าเขาจัดการยังไง แต่ถ้าจ่ายเงินก็จะอ่านได้หมดเลยนะคะ ฉันสมัครรายปีไปแล้ว เห็นว่าคุ้มดี ]
ไม่เข้าใจก็อย่าไปสมัครมั่ว ๆ สิ…
เทียร่าซังที่กำลังจ้องหน้าจออย่างจริงจัง อยู่ดี ๆ ก็หันจอมาให้ผมดู
[ นุคุมิซึซัง ดูนี่สิ! ]
[ เอ่อ… รองประธานบาโซริใส่ชุดคอสเพลย์โชว์แบบเสียเงิน── ]
[ ไม่ใช่ตรงนั้นค่ะ! ]
เทียร่าซังให้ผมดู ผลโพลโหวตล่าสุด
ซากุไรคุงขึ้นจากครั้งก่อนนิดหน่อยเป็น 50 ส่วนเทียร่าซัง──ขึ้นมา 15 คะแนนจนเป็น 45 แล้ว
เทียร่าซังตาเป็นประกาย โน้มตัวมาข้างหน้า
[ สุดยอดเลย ! สงสัยคำปราศรัยเมื่อกี้คงเข้าถึงใจคนได้จริง ๆ นะคะ ]
[ อาจจะนะ…ขอดูสรุปผลคะแนนหน่อยสิ ]
ผมเอาผลโพลล่าสุดไปเทียบกับผลโพลก่อนหน้านี้…
คะแนนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากครั้งก่อนคือคะแนนเสียงจากผู้ชาย ส่วนคะแนนเสียงจากผู้หญิงกลับลดลง อืม… เอ่อ พูดยากนิดหน่อยนะ…
ผมลังเลจนพูดออกมาไม่ได้ เทียร่าซังก็โน้มตัวเข้ามาใกล้
[ อะไรเหรอคะ? อย่าเกรงใจเลยค่ะ บอกมาเถอะ ]
[ โปสเตอร์หาเสียงที่เธอใส่คอสเพลย์… น่าจะเป็นที่ชื่นชอบนะ ]
เมื่อได้ยินคำนั้น เทียร่าซังก็สะดุ้ง
[ ฉะ… ฉันในชุดนั้น…? ]
อืม… ก็ไม่ได้แย่นะ
ผมยืมมือถือจากเทียร่าซังแล้วกวาดตาอ่านบทความ
[ อ๊ะ เว็บของชมรมหนังสือพิมพ์มีบอร์ดด้วยแฮะ ]
[ บอร์ด? เขียนอะไรกันบ้างคะ? ]
[ เอ่อ… แป๊บนึงนะ ]
ผมซ่อนหน้าจอจากเทียร่าซัง
มันเป็นบอร์ดที่นักเรียนมัธยมโพสต์โดยไม่เปิดเผยชื่อ ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรกันบ้าง
<คนนี้ทำไมแต่งคอสเพลย์อะ?> <แบบนี้ไม่ไหวมั้ง> < ขายความเซ็กซี่เรอะ? >
แน่นอนว่ามีความคิดเห็นเชิงลบเยอะทีเดียว
รูปถ่ายโปสเตอร์หาเสียงที่เป็นมุมถ่ายแบบยั่วๆ พร้อมกับสีหน้าแตกตื่น ของเทียร่าซัง เป็นภาพที่ดึงดูดมาก แต่ดูเหมือนจะกระตุ้นมากเกินไปสำหรับนักเรียนสึวะบุกิที่เอาจริงเอาจัง
โพสต์ถัดไปก็เหมือนจะลุกลามกลายเป็นประเด็นร้อนแบบนี้… ผมไม่อาจให้เทียร่าซังเห็นได้──
< เขตแดนศักดิ์สิทธิ์ ! ><จะลงคะแนนให้แน่นอนครับ> < จิกะเปียว จิกะเปียว จิกะเปียวเปียว!>
…อืม ไม่ให้ดูแน่นอน
[ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? ]
[ แบบนี้… คนที่เป็นเจ้าตัวเองไม่ควรเห็นน่ะ ]
[ ฉันก็โชว์ชุดนั้นให้ทุกคนในโรงเรียนดูไปแล้วนะคะ จะมาห้ามดูตอนนี้ก็สายไปแล้ว ]
เทียร่าซังพูดอย่างตรงไปตรงมา แล้วคว้ามือถือกลับไปจากผม
เทียร่าซังมองหน้าจอเงียบๆ แล้วหรี่ตาลง
[ …มีทั้งปฏิกิริยาที่คาดไว้ และที่คาดไม่ถึงค่ะ ]
[ เอ่อ… เสียงเชียร์นั่นเป็นมุกจากตอนเบสบอลในอนิเมะตอนที่ 8 ซีซันแรก… ]
[ ฉันรู้ค่ะ ก่อนจะใส่ชุดนั้น ฉันดูอนิเมะ จบครบ 12 ตอนแล้ว ]
งั้นเหรอ ซีซัน 2 ก็เริ่มแล้วด้วยนะ ดูต่อให้ครบด้วยล่ะ
[ แล้ว ‘หวุดหวิดไปเลยนะ เปียว’ นี่หมายความว่าอะไรคะ? ]
[ ไม่รู้สิ… แต่อย่าไปค้นนะ ]
ที่สึวะบุกินี่ ดูเหมือนจะมีพวกที่น่าจะเป็นเพื่อนกันได้เยอะเลยนะ
อย่างน้อยเทียร่าซังก็ดูไม่สะทกสะท้านกับคอมเมนต์ด่าทอพวกนั้น
ดีแล้ว… แต่สิ่งที่ผมกังวลคือผลโพลสำรวจคะแนนเสียง
ผลต่างเหลือแค่ 5 คะแนน แต่คะแนนเสียงลอยๆ ก็เหลือแค่ 5 คะแนน
ถ้าลงคะแนนตามโพลเป๊ะๆ ต่อให้เทียร่าซังได้คะแนนลอยๆ หมด ก็คงแค่ตีเสมอ
ถ้าจะชนะจริงๆ ต้องเจาะฐานเสียงของพวกที่สนับสนุนซากุไรคุง
[ ซากุไรคุงก็ถูกพูดถึงนะคะ คนที่เชียร์เขาส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงค่ะ ]
[ อย่าไปเชื่อเรื่องเพศบนบอร์ดนักเลย ]
ผมสอนมารยาทบนอินเทอร์เน็ตพลางคิดถึงฝั่งซากุไรคุง
ถ้าซากุไรคุงชนะ ยานามิก็จะได้เป็นรองประธานนักเรียน
ชมรมวรรณกรรมที่มีคนอยู่น้อยนิด ตอนนี้แม้แต่โคมาริยังเขียนนิยายช้าลง ถ้าจะเสียกำลังคนอีก คงไม่ดีแน่…
ขณะที่ผมคิดเรื่องนี้ เทียร่าซังก็ถอนหายใจยาว
[ ก่อนหน้านี้ ฉันคิดว่าตัวเองน่าจะไม่มีโอกาสชนะ แต่ตอนนี้… น่าจะสู้ได้ค่ะ ]
เทียร่าจ้องมองผมด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
[ ฉันอยากชนะค่ะ ไม่ใช่เพราะความสงสาร แต่ด้วยพลังของตัวเอง ไม่ขอให้มาเข้าร่วมสภานักเรียนหรอก ขอแค่ช่วยมาเป็นเป็นผู้สนับสนุนให้ฉันก็พอ ]
…การที่เธอได้เป็นรองประธาน ไม่ใช่เพราะความสงสารแน่
ทั้งประธาน ทั้งชิกิยะซัง ทั้งซากุไรคุง… ทุกคนเชื่อใจเทียร่าซัง
แต่ก็คงเพราะแบบนั้น พวกเขาเลยกังวลและเป็นห่วงเธอมากพอๆ กัน
เพราะแบบนี้..เทียร่าซังเลยไม่อาจเชื่อใจตัวเองได้เต็มที่
ผมยกถ้วยกาแฟที่เริ่มเย็นขึ้นมาดื่มจนหมด วางถ้วยลงบนโต๊ะ
[ …..ผมไม่อยากลงการแข่งที่รู้ว่ายังไงก็ต้องแพ้ ]
เทียร่าซังพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร
[ แต่ถ้าจะให้ผมเป็นผู้สนับสนุนล่ะก็ ขออย่างเดียว ]
[ คะ?! หรือว่า── ]
[ ไม่ใช่อย่างที่คิดนั่นหรอก ]
ผมรีบเบรกความเข้าใจผิดสีชมพูของเธอ แล้วเปิดภาพโปสเตอร์เลือกตั้งในมือถือให้ดู
[ ในวันหาเสียง เธอต้องใส่ชุดนี้ขึ้นเวที ]
[ แค่นั้นเหรอ──เอ๊ะ?! ]
เทียร่าซังเพ่งมองรูปโปสเตอร์
[ …เข้าใจแล้วค่ะ แบบนี้นี่เอง ]
[ เข้าใจใช่มั้ย? ]
เทียร่าซังพยักหน้าต่ำๆ
[ พูดง่ายๆ ก็คือ…โชว์ความน่าอาย── ]
[ ไม่ใช่สิ ]
ให้ตายสิ… เธอเนี่ยนะ
ผมถอนหายใจ แล้วอธิบายราวกับกำลังสอนเด็กเล็ก
[ ดูจากโพล ผู้ชายปี 1 สนับสนุนเธอมากขึ้นใช่มั้ย? ]
[ แต่คะแนนผู้หญิงลดลงนะคะ? ]
[ คะแนนที่ลดลงคือผู้หญิงปี 2 เป็นธรรมดาที่คนในรุ่นเดียวกันจะโดนวิจารณ์แรง ให้ดูผลโพลอีกทีสิ ]
เทียร่าซังเปิดเว็บไซต์ข่าวโรงเรียนในมือถือแล้ววางไว้กลางโต๊ะ
[ ส่วนซากุไรคุง คะแนนขึ้นเพราะผู้หญิงเกือบทั้งหมด ส่วนคะแนนจากผู้ชาย ปี 1 และปี 3 กลับลดลง ]
ผมกับเทียร่าซังก้มดูจอด้วยกัน
[ ซากุไรคุงน่ารักจริง แต่ไม่ใช่ประเภทที่ผู้ชายจะโหวตให้ ถ้าเขารู้สึกสนใจ เขาอาจจะกดคะแนนให้ฝ่ายตรงข้ามเพื่อปฏิเสธความรู้สึกตัวเองก็ได้ ]
[ …มีแบบนั้นจริงๆ เหรอคะ ]
[ จริง… แต่ไม่ต้องถามละเอียดนะ ]
[ เพราะฉะนั้น… แผนคือ ใช้ชุดจิกะเปียวดึงเสียงผู้ชายให้ได้มากที่สุด ถ้าจะกลับมาแซง ก็คงต้องเดิมพันกับวิธีนี้ ]
[ แต่… แบบนั้นจะโดนผู้หญิงเกลียดมากกว่าเดิมมั้ยคะ? ]
[ ยังไงก็ไม่มีแฟนคลับผู้หญิงแล้ว ไม่เป็นไร ]
[ อึก! ]
เทียร่าซังกุมอก เจ็บปวดกับความจริงอันโหดร้าย… แต่ต้องยอมรับ ถ้าอยากไปต่อ
[ ว่าไง ? ]
[ …สะ , สัญญาแล้วนะคะ ]
เทียร่าซังเงยหน้าขึ้นมา หน้าแดงนิดหน่อย
[ ถ้าวันจันทร์หน้า ฉันต้องขึ้นเวทีหาเสียงในชุดนั้น… ]
[ อืม ผมก็จะขึ้นไปพูดในฐานะผู้สนับสนุนให้เธอ ]
ผมเงยหน้าจากมือถือเช่นกัน
ใบหน้าของเทียร่าซังอยู่ตรงหน้า… ใกล้มาก
[ [ …! ] ]
เราต่างรีบผละออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วคว้าถ้วยกาแฟขึ้นมา
[ …เอาล่ะ งั้นก็ลุยตามนี้ ]
[ ค…ค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ ]
เรายกถ้วยกาแฟขึ้นพร้อมกัน แต่ก็ยิ้มแห้ง เมื่อเห็นว่ามันว่างเปล่า
[ เป็นอะไรไปเหรอคะ นุคุมิซึซัง เหมือนพยายามกลั้นหัวเราะอยู่นะ ]
[ เทียร่าซังนั่นแหละ ไม่ต้องกลั้นหรอก ]
เราเงยหน้าสบตากันแล้วหัวเราะออกมาพร้อมกัน
เมื่อหัวเราะจนพอใจแล้ว เทียร่าซังก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับรอยน้ำตา
[ อย่าทำให้ฉันหัวเราะขนาดนี้บ่อยนักนะคะ แล้วก็นุคุมิซึซัง ]
[ อะไรเหรอ? ]
[ อย่าเรียกฉันด้วยชื่อจริงแบบนั้นสิคะ ]
เทียร่าซังพูดด้วยเสียงที่ฟังดูร่าเริงอย่างประหลาด
ชูมือขึ้นแล้วหมุนๆ ~
MANGA DISCUSSION