หลังจากซื้อของเสร็จ พวกเราก็มารวมตัวกันที่โซนฟู้ดคอร์ท
การได้นั่งเก้าอี้เตี้ย ๆ ในโซนเด็ก แล้วกินสปาเกตตีราดซอสเหนียว ๆ นี่รู้สึกแปลกประหลาดชะมัด
ขณะที่ผมนั่งมองโคมาริที่กำลังดูแลฮินะจัง ก็โดนเธอส่งสายตาแปลก ๆ กลับมา
[ มะ…มีอะไร ไม่กินหรือไง ]
[ โคมาริ เดี๋ยวเปลี่ยนกันเองก็ได้ เธอแทบไม่ได้กินเลยนี่ ]
[ ดะ…ได้อยู่ นายช่วยดูแลซูซุมุที ]
[ ไม่เป็นไรแล้วน่าพี่ ผมกินเองได้แล้ว]
ซูซุมุพูดเสียงบูด ๆ พร้อมกับหยิบครีมโคร็อกเกะที่เป็นท็อปปิ้งโยนเข้าปากไป
สิ่งที่พวกเรากำลังกินกันอยู่นั้น ก็คือสปาเกตตีราดซอสแบบดังของร้านชื่อดังในโทโยฮาชิ ชาโอะ
แม้จะเป็นร้านในฟู้ดคอร์ท แต่ได้กินของร้านนี้ก็ถือว่าโชคดี เพราะพาสต้านี่ปริมาณเยอะมาก
โคมาริกับซูซุมุช่วยกันแชร์คนละครึ่ง ส่วนฮินะจังได้เป็นเซ็ตเด็ก
ส่วนผมนี่สิ ต้องลุยพาสต้าไซส์ผู้ใหญ่คนเดียว…จะมียานามิหรือใครสักคนโผล่มาช่วยกินบ้างมั้ยนะ…
ขณะที่กำลังคีบเส้นพาสต้าเข้าปากอย่างเงียบ ๆ ฮินะจังก็หยิบของในถุงพลาสติกออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
[ ชุดนอนลายเดียวกับของพี่สาวเลย ]
[ มะ…ไม่เอานะ กินให้เสร็จก่อนสิ ปากเลอะหมดแล้ว ]
โคมาริเช็ดปากให้ฮินะจัง ผมนั่งดูพลางใช้ส้อมพันพาสต้าที่เริ่มไหม้ตรงกระทะเหล็กเบา ๆ
นี่มันกิจกรรมของครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์ชัด ๆ แล้วทำไมผมถึงมาอยู่ในนี้ได้ล่ะ…?
ความรู้สึกประหลาดใจยังไม่หายไป ผมก็ก้มหน้าก้มตากินพาสต้าคำสุดท้ายเข้าไปในปาก
◇
หลังจากซื้อของและทานมื้อกลางวันเสร็จ พวกเราก็ทำธุระทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว──จึงมายืนอยู่ในเกมเซ็นเตอร์ข้าง ๆ
ผมลูบท้องที่อิ่มเกินไปไปพลาง มองเจ้าตัวเล็กวิ่งวุ่นอยู่ท่ามกลางเกมคีบตุ๊กตา
[ พวกเด็ก ๆ พลังเหลือล้นดีจังเลยนะ ]
[ ก็…ก็เพราะวันนี้นายมาด้วยล่ะมั้ง เลยดูเรียบร้อยขึ้นนิดหน่อย ]
จริงเหรอ โคมาริ…แบบนี้เธอก็คงเหนื่อยน่าดู
พอเห็นเจ้าตัวเล็กกำลังเล่นกันอย่างสนุก โคมาริก็ยิ้มอ่อนออกมา
[ แต่…แต่เห็นพวกเขาสนุกกันแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ ]
[ คงจะสนุกกันแหละมั้งนะ ]
โคมาริพยักหน้าเบา ๆ
[ คะ…คือ คุณพ่อเขามีงานด่วน เลยยกเลิกนัดไปเที่ยว ฮินะก็ร้องไห้ใหญ่เลย… ]
[ เข้าใจล่ะ งั้นวันนี้ผมก็เป็นพ่อแทนแล้วกัน ]
[ อึ๊ก!? ]
หลังเผลอหลุดพูดเล่นออกไป ผมเตรียมใจโดนด่าทันที แต่โคมาริกลับแค่หน้าแดงแล้วเงียบกริบ สั่นเล็กน้อย
[ เอ่อ…ไม่ได้หมายความว่าแปลก ๆ หรอกนะ? ]
[ บะ…บ้า ]
โคมาริเบือนหน้าหนีไปทางอื่น …โอ๊ะ เล่นผิดจังหวะเข้าแล้วสิ…
ขณะที่กำลังรู้สึกผิด เด็ก ๆ ก็วิ่งมาหาพวกเรา
[ พี่จ๋า เล่นอันนั้นกันเถอะ! พอดีมีสี่คนพอดีเลย! ]
[ เอ๋…คะ แค่รอบเดียวนะ ]
[ อันนั้น นี่หมายถึงอะไรเหรอ?]
[ ทางนี้ๆ !]
[ นุคุมิซึทางนี้ !]
พอปล่อยให้เจ้าตัวเล็กลากผมไป ก็มาถึงโต๊ะเครื่องเล่นแอร์ฮอกกี้
[ เล่นกันสี่คนเลยเหรอ? ]
[ กะ…กลัวเหรอ?]
โคมาริส่งสายตาท้าทายพลางยิ้มนิด ๆ
โอ้…งั้นถือว่าเป็นคำประกาศสงครามก็แล้วกัน ผมเริ่มยืดเส้นยืดสาย เตรียมตัวข้าง ๆ ซูซุมุที่มายืนข้างกัน
แปลว่าโคมาริจะจับคู่กับฮินะจังสินะ
[ ไม่ต้องให้แต้มต่อเหรอ? ]
[ หะ…ให้นุคุมิซึน่ะเหรอ]
เธอสวนกลับอย่างมั่นใจและหยอดเหรียญเข้าเครื่องด้วยท่าทีไม่หวั่นไหว
[…พี่สาวผมเก่งนะ! ]
ซูซุมุพูดด้วยสีหน้าจริงจัง …พูดแบบนี้ เหมือนเคยได้ยินมาก่อน
ถึงจะว่าเก่งก็เถอะ แต่ก็แค่เล่นกับพวกเด็ก ๆ ไม่ใช่เหรอ…
ลูกพัคสีแดงค่อย ๆ เลื่อนออกจากด้านข้าง
เกมเริ่มแล้ว พัคไหลไปตรงหน้าโคมาริ…แล้วในเสี้ยววินาทีถัดมา──
ปัง !
เสียงดังฟังชัด ลูกพัคพุ่งเข้าโกล์ฝั่งผมอย่างแม่นยำ
[ !? เดี๋ยวนะ มองไม่ทันเลยนะเนี่ย!? ]
[ เห็นมั้ย !บอกแล้ว ! อีกลูกมาแล้วนะ! ]
หา? ไม่ใช่ตาฝั่งผมเหรอ?
ขณะที่ผมยังงุนงง ลูกพัคเล็ก ๆ จำนวนมากก็ถูกปล่อยลงสนามพร้อมกัน
นี่มัน…แอร์ฮอกกี้รุ่นใหม่มีโหมดแบบนี้ด้วยเหรอ?!
ในขณะที่ผมยังตั้งตัวไม่ทัน ลูกพัคก็พากันเข้าประตูฝั่งผมรัว ๆ
[ นุคุมิซึ ! ตั้งรับดี ๆ หน่อย! ]
[ จะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่มองไม่ทันจริง ๆ นี่นา!? ]
และผลคะแนนสุดท้าย── 870 ต่อ 120 เรียกว่าโดนถล่มฝ่ายเดียวก็ว่าได้
ขณะที่สองพี่น้องโคมาริแตะมือไฮไฟว์กันอย่างสะใจ ซูซึมุก็เดินมาตบไหล่ผมเบา ๆ
[ ไม่เป็นไรหรอก พี่นุคุมิซึ ]
โดนเด็ก ป.4 ปลอบใจแล้วแหละ ซูซุมุนี่ใจดีจริง ๆ
แล้วสีหน้าภาคภูมิของโคมาริก็ยิ่งตอกย้ำบาดแผลในใจผม
[ …โคมาริ เครื่องแลกเหรียญอยู่ไหน? ]
ผมหยิบธนบัตรพันเยนออกมา โคมาริก็หัวเราะเบา ๆ
[ คะ แค่นั้นจะพอเหรอ? ]
[ ไม่ต้องห่วง ยังมีชิบูซาวะ เออิจิ สำรองอยู่ ]
ผลการแข่งขันหลังจากนั้น…ขอไม่เล่าจะดีกว่า ขอเขียนแค่สิ่งเดียวก็พอ──
ชิบูซาวะซังในกระเป๋าสตางค์ผม กลายเป็นอาจารย์คิตาซาโตะหลายใบไปซะแล้ว
MANGA DISCUSSION