วันถัดมา , ช่วงเย็นของวันศุกร์
ผมลากตัวเองที่เหนื่อยล้าไปถึงลานจอดจักรยานในที่สุด
ใช่—ในที่สุดการไปเยี่ยมชมชมรมต่าง ๆ ติดต่อกันหลายวันก็จบสักที
แถมเทียร่าซังก็เลี่ยงการทะเลาะกันในตอนท้ายได้ด้วย เก่งมากๆ
…ว่าแต่ ตกลงหาคนสนับสนุนได้รึยังนะ
ถ้ากะจะปล่อยให้มันเลยตามเลยจนผมรับหน้าที่มาเองล่ะก็ บอกไว้เลยว่าผมไม่เล่นด้วยหรอกนะ
อย่าดูถูกกันเกินไปนะ ผมไม่ใช่พวกใจอ่อนแล้วจะยอมตามกระแสง่าย ๆ หรอก—ผมตัดสินใจแน่วแน่แล้ว
ขณะที่กำลังคิดแบบนั้นอยู่ ผมก็สังเกตเห็นว่า โคมาริกำลังยืนอยู่ตรงหน้าจักรยานของผม
[ โคมาริ มาอยู่ตรงนี้ทำไมเหรอ? ]
[ ฉะ…ฉันรอนายอยู่ ]
…ก็คิดไว้อยู่แล้วแหละ ผมเกาหัวอย่างเก้ๆ กังๆ
[ ขอโทษนะ ช่วงนี้ไม่ได้แวะไปที่ชมรมวรรณกรรมเลย ยานามิซังยังมาอยู่มั้ย? ]
[ กะ…ก็แวะมาบ้างเป็นบางครั้ง แล้วก็ยัดแซนด์วิชหมูทอดให้ฉันกิน ]
ดูเหมือนยานามิก็มีวิธีหาเสียงของเธอสินะ…แต่เดี๋ยวจะอ้วนเอานะ
[ อาทิตย์หน้าผมจะไปที่ชมรมแล้ว บาโซริซังก็ดูจะยุ่งกับงานกีฬาสีเหมือนกัน ]
[ คะ…คราวนี้จริงแน่นะ? ]
[ อา ที่เหลือก็แค่เขียนคำปราศรัยแสดงเจตจำนงกับถ่ายรูปโปสเตอร์แล้วหลังจากนั้นจนถึงวันเลือกตั้งก็ทำอะไรออกหน้าได้ไม่มาก…จริงๆนะ ]
โคมาริจ้องมาด้วยสายตาเย็นชาโดยไม่พูดอะไร
[ ก็บอกไปหลายครั้งแล้วนะ ผมไม่เข้าร่วมสภานักเรียนหรอกนะ ]
[ ตะ…แต่นายก็ช่วยรองประธานอยู่นี่นา ]
[ ครับ… ]
ผมหลบสายตาอีกรอบ
[ นุ…นุคุมิซึ พอถึงเวลาจริง ๆ ก็ยอมตามง่าย ๆ ทุกที ]
[ ไม่ใช่นะ ผมไม่ใช่คนยอมอะไรง่าย ๆ ขนาดนั้นหรอก ]
ผมพยายามเถียงเบา ๆ แต่โคมาริก็จ้องผ่านหน้าม้าด้วยสายตาอันคมกริบ
[ ละ…ลืมชมรมกลับบ้านไปแล้วเหรอ? ]
[ ครับ… ]
ผมไม่มีคำจะเถียงแล้วจริง ๆ ระหว่างที่ก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด โคมาริก็เริ่มพูดอ้อมแอ้ม
[ พะ…พรุ่งนี้ ว่างมั้ย? ]
[ วันเสาร์เหรอ? ไม่น่ามีแผนอะไรนะ ]
[ งะ…งั้น ทำตัวให้ว่างไว้ด้วย มะ…มีเรื่องจะคุย้วย ]
โคมาริพูดอย่างกระชับแล้วสะบัดกระโปรงวิ่งจากไป
อะไรเนี่ย ชวนไปเดท…คงไม่ใช่หรอก แถมยังดูเหมือนจะโกรธอีกด้วย น่ากลัวชะมัด…
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วโยนกระเป๋าใส่ตะกร้าหน้าจักรยาน
◇
เช้าวันเสาร์ เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า ท้องฟ้านั้นสดใสจนน่าเวียนหัว
ผมมายืนอยู่หน้าร้านดิสเคาน์สโตร์ขนาดใหญ่ ห่างจากสถานีโทโยฮาชิประมาณสิบกว่านาทีโดยรถบัส
พลางมองดูป้ายเพนกวินที่ใส่หมวกซานต้า ก็พึมพำออกมา
[ …โดนดุแน่ ๆ ]
โคมาริชวนมาทันทีแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แปลว่า—ต้องโดนสั่งสอนอะไรสักอย่างแน่ ๆ
ยิ่งเปลี่ยนที่นัดจากห้องสมุดกลางมาเป็นที่นี่ก่อนหน้าไม่นานก็ยิ่งชัดเจน
ยังไงที่นี่ก็เป็นจุดรวมพลของพวกสายฮอตในเมืองแน่ ๆ โคมาริคงจะฉวยโอกาสไล่ต้อนผมที่กำลังอ่อนแอ…ถึงเธอเองก็คงจะอ่อนแอพอกันนั่นแหละ
ถ้าเป็นแบบนี้ ต้องหาของมาง้อเธอสักหน่อยแล้ว
ถ้าเป็นยานามิล่ะก็แค่ให้มันเทศอบก็พอ แต่ถ้าเป็นโคมาริ…ต้องของเกี่ยวกับ BL หรือเปล่านะ ?
แต่ BL มันก็มีรสนิยมเฉพาะตัว…บัตรห้องสมุด ? ไม่สิ แบบนี้เอาเงินสดไปเลยดีมั้ย ?
ขณะผมกำลังดูเงินในกระเป๋าสตางค์ โคมาริก็จ้องผมอยู่
เธอใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นผ้าฝ้ายกับกระโปรง เสื้อกั๊กสีน้ำตาล ไม่มีอะไรแต่งเติมเกินจำเป็น ความเชยแบบนิด ๆ กลับดูน่ารักดี…แต่ถ้าพูดออกไปก็จะโดนดุ เลยต้องเงียบไว้
โคมาริก้มหน้าด้วยท่าทางเก้อเขินพร้อมพึมพำเบา ๆ
[ นุ…นุคุมิซึ รอนานรึเปล่า ]
[ หือ? เด็กพวกนั้น… ]
ใช่แล้ว—ซูซุมุคุงกับฮินะจัง พี่น้องฝาแฝดตัวจิ๋ว กำลังยืนประกบข้างโคมาริอยู่
[ อะ…เอ่อ พ่อแม่ฉันดันต้องไปทำงานกะทันหัน…ละ-เลยต้องพาเจ้าตัวเล็กมาด้วย ]
เธอพูดพลางเล่นกับหน้าม้าอย่างประหม่า
ซูซุมุคุงเห็นพี่สาวก็เลยโค้งหัวให้ผม
[ พี่ชาย วันนี้ฝากตัวด้วยนะครับ ]
[ อ่า เช่นกันนะ ]
ซูซุมุคุง น่าจะอยู่ ป.4 เองมั้ง แต่ดูแล้วเป็นผู้ใหญ่กว่าผมกับพี่สาวเสียอีก ตอนผมอายุเท่านี้ยังคิดแต่เรื่องเกมอย่างเดียวเลย
แล้วเด็กหญิงที่แอบอยู่หลังโคมาริก็คือ โคมาริ ฮินะ
คาดว่าอายุราว ๆ 4 ขวบ นับเป็นสิ่งมีชีวิตน่ารักอันดับต้น ๆ ของเมืองโทโยฮาชิเลยก็ว่าได้
[ …เพื่อนของพี่สาวเหรอ ]
[ ใช่ๆ ไม่ได้เจอกันนานเลยเนอะ พี่ชื่อนุคุมิซึนะ ]
ผมยิ้มน้อย ๆ พร้อมสบตาเธอ ฮินะจังก็ค่อย ๆ ออกมาจากด้านหลังโคมาริ
[ …นุคุมิซึ ]
[ ใช่แล้ว นุคุมิซึ ]
ฮินะจังพยักหน้าเบา ๆ แล้วหลบกลับไปอยู่หลังโคมาริอีกครั้ง…น่ารักเกินไปแล้ว
โคมาริเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจโล่งอก
[ นะ…แน่ใจนะว่าโอเค? ]
[ ไม่มีปัญหาเลย ไม่สิ แบบนี้ยิ่งดีกว่าอีก ]
ถ้าพาเด็กมาด้วย แบบนี้เธอก็คงไม่กล้าดุผมแรง ๆ แน่นอน ผมจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือเด็ดขาด
ผมย่อตัวลงแล้วยิ้มให้ฮินะจัง
[ เอาล่ะ ฮินะจัง วันนี้อยากไปไหนล่ะ? ]
ฮินะจังยังจับชายกระโปรงพี่สาวไว้แน่น ก่อนตอบเสียงเบา
[ ฮินะ จะไปซื้อของ ]
[ โอเค พี่ชายจะพาไปซื้ออะไรก็ได้เล— ]
[ มะ…ไม่ใช่สิ อย่าพูดอะไรตามใจแบบนั้นนะ ! ]
โดนดุเข้าจริง ๆ ซะแล้ว พี่สาวนี่ดุจังเลยนะ
[ งั้น ไปกันเลยมั้ย? จะซื้ออะไรเหรอ? ]
[ ฮะ…ฮินะจะ— ดะ…เดี๋ยวก่อน อย่าวิ่งสิ! ]
โคมาริรีบวิ่งตามเจ้าตัวน้อย ที่จูงมือกันเข้าไปในร้าน
ผมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนคิดถึงอะไรบางอย่าง แล้วก้าวตามเข้าไปในร้านผ่านประตูอัตโนมัติ
◇
ภายในร้านที่เต็มไปด้วยผู้คนคึกคักนั้น มีสินค้าวางเรียงรายจนแทบไม่มีช่องว่าง ป้ายราคาที่ใช้สีสดใสจนทำให้ผมรู้สึกเวียนหัวไปหมด
ระหว่างที่เดินตามหลังเจ้าตัวเล็กไปพร้อมกับโคมาริ สายตาผมก็สะดุดเข้ากับโปรโมชั่นของน้ำยาซักผ้า
อันนี้ราคาถูกแฮะ…ผมหยุดเดินโดยไม่รู้ตัว โคะมาริก็รีบคว้าแขนเสื้อฉันแล้วดึงเบา ๆ
[ นุ… นุคุมิซึ อย่าเดินหลงไปสิ ]
[ ก็น้ำยาตัวนี้มันไม่ค่อยลดราคาน่ะ… ]
[ วะ… วันนี้ห้ามซื้อนะ ]
ก็ได้ครับ ไม่ซื้อก็ได้
มองไปก็เห็นเจ้าตัวเล็ก ๆ กำลังยืนมองชุดของขวัญขนมอยู่ที่มุมของขวัญฤดูร้อน
[ เมื่อกี้ฮินะจังบอกว่าจะมาซื้อของ อย่าบอกนะว่าจะซื้อของขวัญไปให้ใคร? ]
[ มะ… ไม่ใช่ ! ก็จะมีค้างคืนที่โรงเรียนอนุบาลน่ะ ละ..เลยมาซื้อชุดนอนใหม่ ]
อืม… เด็กสี่ขวบนี่คงยังไม่ถึงขั้นให้ของขวัญฤดูร้อนให้ใครสินะ
โคมาริที่คอยมองดูน้องชายและน้องสาวที่วิ่งวุ่นไปมา พอเห็นพวกเขาเริ่มไปไกลก็รีบวิ่งตามไปจับมือทั้งสองคนไว้
[ อ๊ะ อย่าเดินไปไกลสิ เดี๋ยวจะหลงทางเหมือนนุคุมิซึนะ ]
โคมารินี่เก่งเรื่องดูแลเด็กจังแฮะ ผมที่กำลังมองภาพนั้นอย่างอบอุ่น ก็ถูกโคมาริส่งสายตาเย็นชามาให้
[ มะ… มองอะไร ทำหน้าตาหยะแหยงอีก ]
[ คิดว่าโคมารินี่…..ในอนาคตน่าจะเป็นคุณแม่ที่ดีนะ ]
[ หวา?! ปะ…ไปตา──]
โคมาริกำลังจะโพล่งอะไรบางอย่างออกมา แต่พอเห็นสายตาของฮินะจังที่มองมา เธอก็รีบกระแอมแล้วพูดใหม่
[ นุ… นุคุมิซึ ก็เป็นซะแบบนี้ไง.. ]
พอเห็นโคะมาริเปลี่ยนคำพูด ฮินะจังก็ทำตาเป็นประกายแล้วพูดตาม
[ นุคุมิซึ ก็เป็นซะแบบนี้ไง ! ]
[ ใช่ๆ พี่ชายก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ นั่นแหละ ]
ฮินะจังที่เลียนแบบนี่น่ารักจริง ๆ ส่วนโคมาริก็หันมามองผมด้วยสายตารังเกียจอย่างกับมองขยะ
พอโคมาริชี้ทางนำ พวกเราก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปจนถึงแผนกของเล่น
ทันทีที่ถึง เจ้าตัวเล็กก็วิ่งออกไปด้วยตาเป็นประกาย โคมาริก็ถอนหายใจ
[ ตะ… เตรียมใจไว้เลย แบบนี้ล่ะก็ ต้องวุ่นวายแน่ ]
เมื่อเห็นโคมาริวิ่งตามฮินะจังไป ผมก็เดินตรงไปหาซูซุมุคุง
ซูซุมุคุงยืนหยุดอยู่ตรงนั้น แล้วมองไปยังเข็มขัดแปลงร่างของฮีโร่แบบเหลือบ ๆ
…ของสมัยนี้ดูอลังการดีนะ ผมหยิบเข็มขัดตัวอย่างขึ้นมาดู
[ หือ? นี่มันทำงานยังไงนะ ]
[ การ์ดไม่ใช่แค่เสียบไว้นะ ต้องเลื่อนเข้าไปถึงจะอ่านได้ ]
เหรอ แบบนี้นี่เอง ผมลองทำตามที่บอก พอการ์ดถูกอ่าน เข็มขัดก็เปล่งแสงแล้วฮีโร่ก็ร้องชื่อท่าไม้ตายออกมา
[ อ๋อ แบบนี้เอง แล้วเสียงมันเปลี่ยนไปตามการ์ดเลยเหรอ? เจ๋งดีแฮะ ]
[ ไม่ใช่แค่นั้นนะ ถ้าใส่เป็นคอมโบพร้อมกันหลายใบก็จะมีเอฟเฟกต์พิเศษด้วย ! ]
อะไรน่ะ สุดยอดเลย
พอลองเล่นตามที่ซูซุมุคุงสอนจนครบ ถึงได้รู้ว่าของเล่นสมัยนี้น่าทึ่งจริง ๆ
[ ซูซุมุคุงลองเล่นดูมั้ย ? ]
[ ไม่เป็นไรหรอก ผมเลิกเล่นพวกนี้แล้วน่ะ ]
งั้นเหรอ ผมดันเล่นจริงจังเลยแฮะ…
[ งั้นเดี๋ยวนี้ที่โรงเรียนฮิตอะไรกันเหรอ? ]
[ เกมไงล่ะ รู้จักเกมมอนโทเระมั้ย ? ]
อ้อ เกมล่าแย้แบบเล่นกับเพื่อนนั่นสินะ
ภาคล่าสุดนี่ได้เสียงชมเยอะเลย ผมก็แอบสนใจอยู่เหมือนกัน
[ รู้จักนะ แต่เกมนั้นต้องเล่นเป็นทีมไม่ใช่เหรอ? เล่นคนเดียวไม่เหงาเหรอ? ]
[ แน่นอน ต้องเล่นกับเพื่อนสิ! ]
งั้นเหรอ… ต้องเล่นกับเพื่อนสินะ งั้นเหรอ…
หลังจากโซนของเล่น ผมก็เดินผ่านโซนเกมด้วยกันกับซูซุมุคุง เขาหยิบกล่องเกมขึ้นมาดู
[ มีแต่ผมที่ยังไม่มีเลย ได้แต่มายืนมองทุกที แต่ถ้าได้ค่าขนมเดือนหน้าก็น่าจะซื้อได้แล้ว ]
[ เจ๋งเลยนี่ เก็บเงินเก่งแฮะ ]
[ ใช่มั้ยล่ะ ผมไม่ได้ใช้อะไรเลยช่วงนี้]
ซูซุมุคุงยิ้มเขิน ๆ อย่างภูมิใจ พี่สาวของเขาน่าจะเอาแบบอย่างบ้างนะ
ระหว่างที่ผมกำลังประทับใจ ซูซุมุคุงก็ถามขึ้นด้วยเสียงเบา ๆ
[ นี่… วันนี้มานัดเดทกับพี่สาวเหรอ? ]
[ เปล่านะ ]
ผมตอบไปโดยไม่คิดมาก เขาก็ทำหน้างง ๆ
[ แล้วไปเที่ยวด้วยกันสองคนกับเดทต่างกันยังไงเหรอ ? ]
เออ… พูดแบบนั้นก็จริงแฮะ
ก็มีเดทกับยากิชิโอะแค่ครั้งเดียวเอง…
[ ความต่างของเดทกับเที่ยวเล่นน่ะเหรอ…]
[ ต่างกันตรงไหนเหรอ? ]
ผมสบตาซูซุมุคุงอย่างจริงจัง
[ ก็คือ… การจับมือนั่นแหละ ]
[ จับมือเหรอ? ผมก็จับมือฮินะกับพี่สาวอยู่บ่อย ๆ นะ ]
[ พี่เองก็จับมือน้องสาวเป็นปกตินะ แต่น่าเสียดายที่ครอบครัวไม่นับนะ ผู้ชายกับผู้หญิงที่ควรจะเป็นคนแปลกหน้า ออกไปเที่ยวกันแค่สองคนและจับมือกัน──แบบนี้ถึงเรียกว่าเดท ]
ผมพูดอย่างภาคภูมิใจ ซูซุมุคุงก็ทำหน้าหงอยนิด ๆ
[ พี่สาวผมเลือกเสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อวานเลยนะ นึกว่ามาเดทซะอีก ]
เห… โคะมาริก็เริ่มใส่ใจเรื่องแฟชั่นแล้วสินะ
ผมนึกประทับใจในความเติบโตของโคมาริ แล้วซูซุมุคุงก็หันซ้ายขวา มองไปรอบ ๆ
[ ว่าแต่ ฮินะอยู่ไหนแล้วล่ะ? ]
[อยู่กับพี่สาวนะ น่าจะอยู่นู่นแหละ]
ผทกับซูซุมุคุงเดินไปหาพวกโคมาริ แล้วเราก็เจอพวกเธออยู่ที่มุมหนึ่งของแผนกของเล่น
ของเล่นยอดนิยมตั้งแต่สมัยก่อน ที่เป็นตุ๊กตาสัตว์ตัวเล็ก ๆ อาศัยอยู่ในบ้านจิ๋ว ๆ นั่นเอง
พอฮินะจังเห็นผมก็หยิบตุ๊กตากระต่ายกับหมีขึ้นมาโชว์
[ นี่ พี่สาวกับพี่ชาย ! ]
[ งั้นเหรอ อันนี้คือพี่สาวกับพี่ชายสินะ ]
อืม… หมายความว่ายังไงกันแน่นะ?
ผมส่งสายตาไปขอความช่วยเหลือ โคมาริก็ลูบหัวฮินะจังพลางตอบ
[ ก็…เธอชอบตั้งชื่อตุ๊กตาเป็นชื่อของฉันกับซูซุมุ แล้วเล่นบทบาทสมมติน่ะ ]
อ๋อ อย่างนี้นี่เอง กระต่ายกับหมีเป็นพี่น้องกันเหรอ ดูซับซ้อนดีแฮะ…
ขณะที่กำลังคิดถึงความหมายของคำว่าครอบครัว ฮินะจังก็หยิบตุ๊กตานากขึ้นมา
[ นี่ นุคุมิซึー! ]
หะ…ผมเหรอ? งั้นหมายความว่าผมเป็นพี่ชายของฮินะ…หรือว่าเป็นพ่อ?
ก็ไม่เลวแฮะ ขณะที่กำลังจ้องนากตัวนั้นอย่างละเอียด
[ อ๊ะ! ]
ฮินะจังเอื้อมมือไปหยิบกล่องเล็ก ๆ บนชั้น เป็นเตียงสามชั้นขนาดจิ๋วที่ดูน่ารัก
[ นี่แหละ! อันนี้แหละที่หาที่ไหนก็ไม่มี! ]
[ ม-ไม่เอานะ ไม่ซื้อหรอก ]
พอโคมาริจะหยิบคืน ฮินะจังก็โอบกล่องนั้นแน่นเข้ากับอก
[ ฮินะหามานานแล้วนี่นา ]
[ ม-ไม่ซื้อหรอกน่า ม-มาเถอะ ไปกันเถอะ ]
[ นี่ โคมาริ ]
โคมาริทำท่าพาซูซุมุคุงเดินหนีออกมา…แต่ก็แค่แกล้งทำเท่านั้น เธอแอบไปซ่อนอยู่หลังชั้นที่อยู่ใกล้ ๆ
…เห็นชัดเลยว่า ทั้งหัวที่ขยับไปมา ทั้งหน้ายังโผล่ออกมาอีก
พอฉันเดินเข้าไปใกล้ โคมาริก็รีบส่ายหน้า
[ น-นุคุมิซึ อย่าให้รู้ว่าเราซ่อนอยู่นะ]
[ รู้หมดแล้วล่ะ ผมจะดูแลฮินะจังเอง พวกเธอสองคนไปก่อนเถอะ ]
โคมาริหันมามองผมด้วยสายตาเคลือบแคลง แล้วพึมพำออกมาเบา ๆ
[ ม-ไม่ต้องซื้อให้เชียวนะ ]
…อืม จะพยายามนะ
พอโคมาริกับซูซุมุคุงไปจากตรงนั้น ผมก็นั่งยอง ๆ ลงข้างฮินะจัง
[ ชอบอันนั้นมากเลยเหรอ? ]
ฮินะจังพยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร
[ ที่บ้านน่าจะมีคล้าย ๆ กันอยู่นะ วันนี้อดทนไว้ก่อน แล้วลองไปหาที่บ้านดูดีมั้ย? ]
[ ของที่บ้านมันไม่เหมือนกัน มันมีแค่สองเตียงเอง ]
…อ๋อ เข้าใจล่ะ ของที่มีอยู่เป็นเตียงสองชั้น แต่ของอันนี้เป็นเตียงสามชั้น
สิ่งที่คนอื่นอาจไม่เข้าใจ แต่สำหรับเจ้าตัวแล้วมันคือเรื่องใหญ่
ผมได้เรียนรู้ความสำคัญของสิ่งเล็ก ๆ แบบนี้จากรุ่นพี่ใส่แว่นคนนึง คอยยกตัวอย่างเรื่องมือขวาซ้ายให้ฟังอยู่บ่อย ๆ
[ งั้นเหรอ แน่นอนว่ามันเท่ดีจริง ๆ ฮินะจังชอบตรงไหนเหรอ? ]
ฮินะจังยังคงเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพูดเบา ๆ ออกมา
[ เพราะจะได้นอนด้วยกันสามคน ทั้งพี่สาว พี่ชาย ]
อา…แบบนี้นี่เอง สำหรับฮินะจังแล้ว ถ้าถูกห้ามคงเสียใจมากแน่ ๆ
แต่ถ้าซื้อเองตามใจไป โคมาริก็คงดุแน่…
[ แต่รู้มั้ย ถ้าแต่ละคนแยกกันนอนคนละเตียง มันก็น่าเหงาเหมือนกันนะ ]
[ เหงาเหรอ? ]
ฮินะจังถามด้วยความแปลกใจ ผมก็พยักหน้าให้
[ ใช่ พี่ซูซุมุแล้วก็พี่สาว ก็ยังอยากนอนด้วยกันกับฮินะจังอยู่นะ เพราะงั้นช่วยนอนด้วยกันอีกสักพักได้มั้ย ? ]
ฮินะจังนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ พยักหน้าเบา ๆ แล้ววางกล่องคืนไว้บนชั้น
[ เก่งมาก งั้นไปหาพี่สาวกันเถอะ ]
ผมจับมือฮินะจังไว้ แล้วเดินไปตามทางที่โคมาริไป
ความอบอุ่นเล็ก ๆ ที่ส่งผ่านมาทางฝ่ามือ ทำให้นึกถึงตอนที่ตัวเองยังเด็ก
รู้สึกหงุดหงิดเวลาความในใจสื่อออกไปไม่ได้
แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกนั้นดีพอด้วยซ้ำ…
[ ฮินะจังนี่ก็เป็นผู้ใหญ่แล้วเหมือนกันนะ ]
พอเผลอพูดออกมาแบบนั้น ก็เกือบชนกับโคมาริที่ซ่อนตัวอยู่หลังชั้น
[ เหวอ!? อะ เอ่อ… ]
[ อ้าว โคมาริ อยู่ตรงนี้เองเหรอ ]
ฮินะจังปล่อยมือผม แล้วเข้าไปกอดโคมาริแน่น
[ พี่สาว อยู่ตรงนี้เอง! ]
[ อ-อยู่สิ ไปซื้อของกันเถอะ]
[ อื้อ! ]
ฮินะจังเริ่มเกาะติดโคมาริแล้วเดินต่อเหมือนลืมผมไปหมดแล้ว
รู้สึกเหงานิดหน่อย เลยเร่งฝีเท้าเดินไปข้าง ๆ พวกเธอ
[ เรามาซื้อชุดนอนให้ฮินะจังใช่มั้ยนะ ]
[ ช-ใช่ ไปที่แผนกเสื้อผ้าเด็กกัน ]
ถ้าจำไม่ผิด น่าจะมีงานค้างคืนที่โรงเรียนอนุบาล
ตอนที่กำลังคิดย้อนถึงช่วงอนุบาลของตัวเอง โคมาริก็พูดขึ้นมาเหมือนบ่นคนเดียว
[ ฮิ-ฮินะ ได้เสื้อผ้าที่พี่กับซูซุมุใส่ต่อมาเยอะ เลยอยากซื้อของใหม่ให้ ]
ของที่พี่ใส่มาก่อนสินะ ผมเป็นพี่คนโตซะด้วยสิ ส่วนคาจูจังกลับอยากได้เสื้อผ้าต่อจากผมแทน จนทำให้พ่อแม่ลำบาก
ตอนที่กำลังคิดเรื่องต่างๆกับตัวเองอยู่นั้นเอง โคมาริก็มองไปรอบ ๆ เหมือนสังเกตอะไรบางอย่าง
[ น-นุคุมิซึ ซูซุมุไปไหนแล้วล่ะ?]
[ เอ๊ะ ไม่ได้อยู่กับโคมาริเหรอ? ]
[ จ-จะไปดูหน่อย ]
โคมาริรีบวิ่งไปทางโซนของเล่น แล้วทันใดนั้นซูซุมุก็โผล่มาจากอีกทาง
เขายื่นถุงพลาสติกสีเหลืองให้ฮินะจัง
[ ฮินะ เอ้า ]
[ พี่ชาย นี่อะไรเหรอ? ]
[ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ]
พูดเสียงห้วนแล้วก็หันหน้าหนี
ฮินะจังหยิบของในถุงออกมาด้วยความสงสัย แล้วใบหน้าก็สว่างขึ้นทันที
สิ่งที่อยู่ข้างในคือเตียงสามชั้นจิ๋วที่เธออยากได้เมื่อกี้นั่นเอง
[ พี่ชาย! อันนี้ของฮินะเหรอ!? ]
[ ก็เลยบอกไง ว่าอย่าให้พี่สาวรู้ล่ะ เก็บดี ๆ ]
[ อื้อ! ]
ซูซุมุคุงแอบไปซื้อให้นี่เอง
ขณะที่ผมกำลังประทับใจอยู่ โคมาริก็วิ่งกลับมาหอบแฮ่ก ๆ
[ ซ-ซูซุมุ…อย่าเดิน…มั่วซั่วสิ…]
ซูซุมุหันหน้าหนีจากพี่สาวที่หอบเหนื่อยอยู่
[ แค่ไปซื้อของนิดหน่อยเอง ]
โคมาริมองดูถุงในมือฮินะจังแล้วก็คงเข้าใจทุกอย่าง
เธอหัวเราะแห้ง ๆ แล้วลูบหัวเด็ก ๆ
[ ฮิ-ฮินะ ขอบคุณพี่ชายหรือยัง? ]
[ ยะ──ยังเลย ! ขอบคุณนะ! ]
[ ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย ก็แค่อยากได้เองเหมือนกันนั่นแหละ ไปซื้อของต่อเถอะ ]
ความรักที่พี่ชายมีให้น้อง…เป็นซึนเดเระที่ดีจริง ๆ
[ ม-ไม่เอานะ ซูซุมุ อย่าวิ่งสิ ]
[ พี่ชาย รอด้วยー ]
ซูซุมุคุงวิ่งหนีไปเพราะเขิน แล้วโคมาริกับฮินะจังก็รีบวิ่งตาม
ผมก็เดินตามช้า ๆ อยู่ข้างหลัง เพื่อทำหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ให้ดีที่สุด
MANGA DISCUSSION