วันถัดมาหลังเหตุวุ่นวายที่ห้าง AEON Mall Toyokawa (?)หลังเลิกเรียน ผมเดินตรงกลับบ้านทันทีโดยไม่แวะที่ห้องชมรม— คำสารภาพทั้งน้ำตาของชิราทามะซัง ความรู้สึกที่เธอมีต่อทานากะเซ็นเซ และความลับของเธอต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยเพื่อทำความเข้าใจกับเรื่องทั้งหมดนี้[ ยินดีต้อนรับกลับค่ะ ท่านพี่ ]เสียงฝีเท้าเบาๆ ของรองเท้าแตะดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าคาจูกำลังเดินมาหา[ กลับมาแล้ว คาจู วันนี้กลับบ้านเร็วเหรอ? ][ ใช่ค่ะ งานสภานักเรียนของโรงเรียนโมโมโซโนะเพิ่งเบาลงนิดหน่อย ][ เข้าใจแล้ว เธอคงยุ่งมากเลยสินะ ]คาจูยืนขวางทางตอนที่ผมกำลังจะเข้าไปในห้องนั่งเล่น[ ท่านพี่ จะไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเหรอคะ? ][ อยากดูอนิเมะที่อัดไว้—แต่ทำไมไม่ให้พี่เข้าไปในห้องนั่งเล่นล่ะ? ][ เดี๋ยวจะชงชาอุ่นๆ ให้ค่ะ ทำไมท่านพี่ไม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนล่ะ? มีขนมข้าวเกรียบด้วยนะคะ ][ เดี๋ยวก่อนสิ— ]คาจูกันผมเหมือนผู้เล่นบาสที่ป้องกันคู่แข่ง พร้อมกับพาผมเดินขึ้นบันไดไปคาจูทำถึงขนาดนี้ ต้องมีอะไรบางอย่างในห้องนั่งเล่นแน่ๆผมเดินไปที่ห้องของตัวเองอย่างเชื่อฟัง แต่ก็หยุดมือที่กำลังจับลูกบิดประตูไว้— มีอะไรบางอย่างในห้องของผมเหรอ?จากพฤติกรรมของคาจู คิดว่าน่าจะมีอะไรในห้องนั่งเล่น แต่ตอนนี้ก็มีอีกความเป็นไปได้หนึ่งแวบเข้ามาในหัวเธออยากให้ผมไปที่ห้องของตัวเองหรือว่า…เธอเจอบางอย่างในห้องของผม ?ไม่นะ หวังว่าไอ้ของที่อยู่ใต้พรมนั่นจะยังปลอดภัยอยู่ผมเปิดประตูเข้าไปอย่างรีบร้อน[ โอ๊ะ ในที่สุดก็กลับมาแล้ว นุคุมิซึคุง ][ นะ-นายมีความกล้ามากเลยนะ ที่มาปรากฏตัวในห้องนี้ได้ ]คนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดกำลังยืนอยู่ตรงนั้นยานามิ อันนะ และ โคมาริ จิกะ ทั้งคู่ก็กำลังรื้อชั้นหนังสือของผมอยู่ ได้โปรดหยุดเถอะ[ พวกเธอสองคนมาทำอะไรที่นี่? ]ผมเดินเข้าไปในห้อง พยายามทำตัวให้ใจเย็น ทั้งคู่หันมามองผมด้วยสายตาเรียบเฉย[ ดูไม่ชัดหรือไง? นายหนีไปเมื่อวานโดยไม่อธิบายอะไรเลย เกิดอะไรขึ้นกับชิราทามะจัง? ][ น-นายคือศัตรูของผู้หญิง ]ครั้งนี้ผมคงเถียงไม่ได้จริงๆ…แต่เอาเข้าจริงๆ พอคิดดูแล้ว ผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ ใช่ ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย[ เดี๋ยวก่อนนะ ทั้งสองคน มันก็จริงที่ผมออกไปกับชิราทามะซังโดยไม่ได้พูดอะไร แต่มันมีเหตุผลนะ] [ เหรอ? งั้นก็บอกมาสิว่ามีเหตุผลอะไรที่เธอซบไหล่ร้องไห้ในคาเฟ่แมว? ]ผมพยักหน้าอย่างจริงจังตอบยานามิ[ ใช่ มันมีเหตุผลว่าทำไมเธอถึงร้องไห้แถมซบไหล่… ][ -คาจูก็อยากฟังเหตุผลนั้นเหมือนกันค่ะ ][ อึก! ]ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงจากข้างหลัง หันไปก็เจอคาจูกำลังยิ้ม ถือถาดใส่ชาและขนมข้าวเกรียบ[ คาจู มาตั้งแต่เมื่อไหร่? ][ เพิ่งมาค่ะ เอาชาอุ่นๆ มาให้แล้วค่ะ ท่านพี่ ]คาจูเริ่มจัดชาบนโต๊ะ[ ขอบใจนะ แต่พวกเรากำลังคุยเรื่องของผู้ใหญ่กันอยู่ ช่วยให้พื้นที่ส่วนตัวหน่อยได้มั้ย? ][ ไม่ต้องห่วงค่ะ คาจูเป็นผู้ใหญ่แล้ว ]คาจูวางถ้วยชาถ้วยที่สี่ลงก่อนจะนั่งลงอย่างสบายๆยานามิและโคมาริก็นั่งล้อมโต๊ะโดยที่ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย[ เอ้า นุคุมิซึคุง มานั่งสิ ][ ยะ-ยอมแพ้เถอะ ][ ท่านพี่ ชากำลังจะเย็นนะคะ ]โคมาริและคาจูตบเบาะเชิญชวน ยานามิกำลังเคี้ยวขนมข้าวเกรียบเงียบๆ พร้อมกับพยักหน้าให้ผม…เอาจริงๆ ผมไม่อยากนั่งท่ามกลางพวกเธอเลยแม้แต่คาจูที่ผมคิดว่าน่าจะช่วยกัน ก็ยังเข้าร่วมวงล้อมไร้ความปรานีนี้ด้วยสุดท้าย ผทก็นั่งลงอย่างจำยอม ยานามิกลืนขนมข้าวเกรียบที่เหลือในปากลงไป ขอร้องเคี้ยวให้ละเอียดด้วยเถอะ[ เอาล่ะ นุคุมิซึคุงใช้เวลาหนึ่งนาทีเต็มกว่าจะนั่งลง ]ยานามิเริ่มพูดเหมือนครูใหญ่[ เอ๋ หมายความว่ายังไง…? ][ นายขโมยเวลาเราไปสามนาที สามนาทีเท่ากับเวลาที่ใช้ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเลยนะ คิดดูสิ? ]ไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมต้องคิด และรู้อยู่แล้วว่าเธอจะเริ่มกินมันหลังผ่านไปแค่สองนาทีพอได้ยินยานามิพูดอะไรบ้าๆ แบบเดิม ผมก็เริ่มผ่อนคลาย พลางจิบชาร้อนช้าๆ[ งั้นเริ่มจากตรงไหนดี? ถามอะไรก็ได้เลย ]ยานามิหยิบขนมข้าวเกรียบชิ้นที่สองขึ้นมา แล้วเริ่มพูด[ ก่อนอื่นเลย เมื่อวันอาทิตย์ พวกนายสองคนแอบหนีไปทำอะไรกัน? ][ อืม นั่นมันเรื่องส่วนตัว มีคำถามอื่นมั้ย ? ][ …… ]กรอบแกรบ เสียงข้าวเกรียบในปากยานามิดังอย่างน่าพอใจเมื่อเธอกัดมันหลังจากที่เหลือบมองยานามิที่เงียบไปอย่างรวดเร็ว โคมาริก็โน้มตัวเข้ามาใกล้[ ถ-ถ้างั้น ทำไมนายถึงทำให้ธะ-เธอร้องไห้ล่ะ? ]อืม ยิงคำถามได้คมกริบเลยนะ โคมาริ[ นั่นเป็นเรื่องระหว่างผมกับชิราทามะซัง เป็นสิ่งที่อยากเก็บไว้ลึกๆ ในใจ คำถามต่อไปเลย ]ขณะที่ผมเอื้อมไปหยิบข้าวเกรียบ คาจูก็เลื่อนถ้วยข้าวเกรียบออกไปจากผม[ …หนูรู้สึกเสียใจมากเลยค่ะ ท่านพี่ ][ เอ๋? อะไรเหรอ? ]คาจูส่งถ้วยข้าวเกรียบให้ยานามิพร้อมกับทำหน้าหม่นหมอง[ ท่านพี่ หนูเสียใจที่ท่านเย็นชากับคาจู ท่านพี่ เคยบอกว่า สมาชิกชมรมวรรณกรรมก็เหมือนครอบครัว- ][ นายเคยพูดอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ!? ]ยานามิสะดุ้งจนกลืนข้าวเกรียบชิ้นที่สามลงไปโดยไม่ได้เคี้ยวให้ละเอียด[ …ไม่มีทาง ][ ท่านพี่ไม่ได้พูด แต่ดวงตามันบอกความจริงค่ะ ]เข้าใจละ ดวงตาผมนี่เชื่อไม่ได้เลยตอนนี้สายตาสามคู่ที่เชื่อใจผมน้อยยิ่งกว่ากำลังจ้องมองมาที่ผม[ มันไม่ใช่ว่าทำอะไรไม่ดีกับชิราทามะซัง… ]ผมเริ่มพูดแก้ตัวไปแบบงงๆ แต่สีหน้าของพวกเธอไม่มีท่าทีเปลี่ยนเลยยานามิถอนหายใจแล้วหยิบการ์ดสีดำเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าของโคมาริ[ ถ้าจะเล่นแบบนี้นะ นุคุมิซึคุง พวกเราก็คงไม่มีทางเลือกแล้ว ][ …? นั่นอะไร? ][ SD Card มันถูกแปะไว้ใต้พรมในห้องนี้ ]อ๊ะ เอามานี่เลยขณะทีผมเอื้อมไปคว้าการ์ดนั้น ก็สังเกตเห็นสายตาของคาจูและทำเป็นมองไปทางอื่นอย่างเนียนๆ[ …มันก็แค่ข้อมูลสำหรับจัดการเกรดของผม มันมีรหัสผ่านป้องกันไว้ ]ยานามิส่งSD Card ให้คาจูโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน[ น้องสาวจัง พอจะมีไอเดียเกี่ยวกับรหัสผ่านมั้ย? ][ รหัสผ่านของท่านพี่ปกติจะเป็นวันเกิดของนักพากย์ที่เขาชอบ ให้หนูใช้เวลาสักหน่อยนะคะ ][ หา!? ]แย่ละ ไม่ใช่แค่เพราะรูปภาพที่ผมสะสมไว้ แต่ชื่อโฟลเดอร์ที่จัดระเบียบไว้มันก็…มีปัญหาเหมือนกัน พอนึกดูดีๆ ชิราทามะซังก็พูดไว้ว่าผมเล่ารายละเอียดได้ถ้าจำเป็นที่คาเฟ่แมว ดังนั้น บอกพวกเธอไปคงไม่เป็นไร ใช่ ไม่มีปัญหาเลย…มั้ง[ …โอเคๆ งั้นจะพูดเอง จะเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นเลย ]ผมทำสีหน้าจริงจังแล้วมองไปรอบๆ ใบหน้าของทั้งสามคนพวกผู้ขู่แบล็กเมล์กลืนน้ำลายอย่างประหม่า— และผมไม่ได้ขายน้องปีหนึ่งเพราะถูกแบล็กเมล์แน่นอน ไม่มีทาง◇ [ …ปะ-ไปตายซะ ]นั่นคือคำแรกที่มุ่งตรงมาหาผมหลังจากที่อธิบายจบโคมาริมองผมเหมือนเป็นเศษขยะขณะที่กำลังเคี้ยวข้าวเกรียบ[ ฟังเรื่องที่เล่าไปบ้างมั้ยเนี่ย? เห็นชัดเจนเลยว่าไม่ผิด ผมเป็นรุ่นพี่ที่ดีที่คอยปลอบใจรุ่นน้องผู้กล้าหาญต่างหาก ]ไม่มีใครเข้าใจผมเลยจริงๆผมถอนหายใจพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบข้าวเกรียบ แต่คาจูก็หยิบชิ้นสุดท้ายไปก่อน[ ท่านพี่ คนๆ นั้นไม่เหมาะสมกับท่านค่ะ มันเร็วเกินไปสำหรับท่านพี่ ][ แต่— ][ คาจูบอกว่าไม่ก็คือไม่ค่ะ ]คาจูเบือนหน้าหนีพร้อมกับพองแก้มด้วยความขุ่นเคืองทำไมคาจูถึงเป็นแบบนี้ด้วยล่ะ? เฮ้อ ยานามิก็คงจะไม่พอใจถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปผมเตรียมใจรับสิ่งที่แย่ที่สุด และหันไปหายานามิ แต่กลับพบว่าเธอกำลังซับน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้า[ …ฮึก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ]ผมประหลาดใจที่เห็นยานามิร้องไห้หนักมาก น้ำตาไหลจริงจัง
[ เอ๊ะ? ยานามิซัง เป็นอะไรเหรอ? ]ยานามิเอนตัวมาข้างหน้าแล้วทุบโต๊ะต่ำเสียงดัง[ นุคุมิซึคุง นายไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ? ฉันรู้สึกแย่มากๆกับชิราทามะจังนะ ! เราจะปล่อยให้คนทำลายความสัมพันธ์มาพรากเพื่อนสมัยเด็กของเธอไปไม่ได้! เราควรเขียนกฎหมายเรื่องนี้เลยนะ! ][ พี่สาวของชิราทามะซังก็เป็นเพื่อนสมัยเด็กเหมือนกัน ถ้าจะพูดจริงๆ ชิราทามะซังนั่นแหละที่เป็นตัวทำลายความสัมพันธ์ที่ควรโดนลงโทษตามกฎหมาย ][ หา? การลงโทษเพื่อนสมัยเด็กมันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ…? ] เพื่อนสมัยเด็กไม่ใช่อาวุธโกงแบบในเกมหรอกนะยานามิสูดน้ำมูกพลางทำหน้าใช้ความคิดและเอียงคอด้วยความงุนงงถ้าจะปิดเรื่องนี้ลงก็ต้องตอนนี้แหละ นี่คือโอกาสเดียวของผม[ ทั้งหมดที่อยากพูดก็พูดหมดแล้ว เราจบกันแค่นี้เถอะ ]ผมพยายามลุกขึ้นยืน แต่โคมาริกับคาจูก็ดึงเสื้อผมไว้จากทั้งสองด้าน[ ท่านพี่ คาจูยังฟังไม่หมดเลยค่ะ ][ หา? แต่พี่เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนั้นหมดแล้วนี่ ] [ น-นายรู้ใช่มั้ยว่าทำไมเธอถึงโดนพักการเรียน? ]โคมาริจ้องมาที่ผมด้วยสายตาเอาจริงเอาจังผ่านเส้นผมที่ปรกหน้า[ อ่า ผมบอกว่าจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้บอกว่าจะเล่าทุกอย่าง…เอาเถอะ จะเล่าหมดก็ได้ ]ยอมแพ้ไปเลยดีกว่าผมอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดเกี่ยวกับชิราทามะซังที่แอบเข้าไปในสถานที่จัดงานแต่งงาน ก่อนจะดื่มชาที่เย็นชืด[ นั่นแหละคือทุกอย่างที่รู้ ไม่มีความลับอะไรอีกแล้ว ][ ยอดเยี่ยมเลยค่ะ ท่านพี่ ]คาจูลูบหัวผมด้วยท่าทางเอ็นดู น้องสาวของผมนี่ช่างใจดีจริงๆส่วนยานามิที่ฟังอยู่ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ก็เป่าจมูกเสียงดังแล้วโยนกระดาษทิชชูที่ใช้แล้วลงถังขยะ[ นี่เธอโดนแค่พักการเรียนเองเหรอ? นั่นมันอาชญากรรมเลยนะ ]ยานามิพูดสิ่งที่ดูมีเหตุผลขึ้นมาครั้งแรกอย่างน่าประหลาดใจแต่เธอโยนพลาด มันไม่เข้าถังขยะน่ะ …ช่วยเก็บหน่อยเถอะ[ เธอแค่อยากใส่ชุดแต่งงานของพี่สาวแล้วถ่ายรูปในโบสถ์ มันเป็นความปรารถนาที่น่ารักมาก ดูเป็นผู้หญิงสุดๆ ][ ถึงอย่างนั้น การแอบเข้าไปในสถานที่จัดงานแต่งงานมันก็ไม่ปกติอยู่ดี ]ใช่ มันไม่ปกติเลย ยานามิดูเหมือนจะใช้โควต้าคำพูดที่มีเหตุผลสำหรับปีนี้หมดแล้วชิราทามะซังน่ารักก็จริง แต่เธอไม่ปกติเลยนี่คือคำพูที่มาจากปากคนที่รายล้อมไปด้วยสาวแปลกๆเลยนะไม่อาจปฏิเสธได้ว่าผมเมินความผิดปกติของชิราทามะซังไป เพราะอยากได้สมาชิกชมรมเพิ่ม[ เอาล่ะ คิดว่าความกังวลของยานามิซังมีเหตุผลนะ ][ ใช่ การบังคับให้เธอเข้าชมรมอาจไม่ดีต่อทั้งสองฝ่าย— ][ ต-แต่! ]ยานามิโดนโคมาริตัดบทด้วยเสียงแหลมสูงพวกเราหันไปมองโคมาริด้วยความตกใจ เธอก้มหน้าและเริ่มขยับตัวอย่างประหม่า[ ก-การพักการเรียนของเธอก็จบแล้ว ถ-ถ้าเรามุ่งไปที่อดีตของเธอมากไป มันอาจจะไม่ดี… ]แม้จะดูขี้อาย แต่คำพูดของโคมาริก็หนักแน่น ผมพยักหน้าเห็นด้วย[ ใช่ นั่นแหละสิ่งที่ผมอยากจะพูด ]ยานามิมองผมด้วยสายตาที่บอกว่า “นายโกหกใช่มั้ย?”แน่นอนว่าผมโกหก แต่ยังคงทำหน้าแน่วแน่ขณะมองพวกเธอทั้งสามคน[ พวกเราไม่ควรตัดสินใคร เราเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน และชิราทามะซังก็เป็นรุ่นน้องที่เราต้องดูแลตามคำขอของโคนุกิเซ็นเซ เราควรช่วยเธอเท่าที่จะทำได้ ]ห้องเงียบไปทันที ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่า?ผมรู้สึกไม่สบายใจ ขณะที่มองยานามิที่หันไปสบตากับโคมาริ แล้วพูดขึ้น[ อย่างที่ว่าไป เราเข้าใจสถานการณ์แล้ว งานแต่งยังไม่เกิดขึ้นใช่มั้ย? ถ้าเธอทำอะไรขึ้นมา ชมรมวรรณกรรมอาจต้องรับผิดชอบ ][ นั่นอาจจะจริง แต่ก็ยัง… ]ขณะทีผมลังเล ยานามิก็ยักไหล่เหมือนจะบอกว่า “เอาเถอะ”[ ถ้าอย่างนั้น เราจะคุยกับเธอเองดีๆ ] [ เอ๊ะ จริงเหรอ? ][ ใช่ บางครั้งผู้หญิงก็เข้าใจกันเองได้ดีกว่า แบบนี้โอเคมั้ย? ]ผมพยักหน้าและยานามิก็ยืดตัวอย่างสดชื่น[ โอเค! เลิกคุยเรื่องเครียดๆ กันเถอะ ฉันเริ่มหิวแล้ว! ]คาจูลุกขึ้นทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น[ คาจูจะไปเอาชาเพิ่มแล้วก็เอาขนมมาด้วยค่ะ ][ ขอโทษนะจ๊ะน้องสาว ดูเหมือนจะเร่งเธอเลย ]ยานามิโบกมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจบอกว่า เหมือน เหรอ? เธอกำลังเร่งเธอจริงๆ น่ะสิ… ผมหันไปหายานามิด้วยสีหน้าจริงจังหลังจากที่คาจูออกไปจากห้อง[ แล้วยานามิซัง เรื่องSD Card นั่น… ][ อ๊ะ ]ยานามิคลานไปหยิบกระดาษทิชชูที่ยับยู่ยี่จากพื้น[ ฉันพันมันไว้กับทิชชูที่ฉันใช้สั่งน้ำมูกแล้ว นายยังอยากได้มันอยู่มั้ย? ]ยานามิมองมาด้วยสายตาใสซื่อ ขณะที่ผมกลั้นความรู้สึกหลากหลายอย่างสุดความสามารถแล้วส่ายหัวยานามิยังคงมองมาด้วยสีหน้าไร้เดียงสาก่อนจะโยนทิชชูลงถังขยะอีกครั้ง
MANGA DISCUSSION