วันธรรมดาวันแรกของเดือนเมษายน ช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิอันแสนสั้นกำลังจะสิ้นสุดลงผมเดินไปตามทางเดินของอาคารฝั่งตะวันตก มุ่งหน้าไปยังห้องชมรมวันนี้พวกเรามีนัดประชุมเพื่อเตรียมงานต้อนรับนักเรียนใหม่สิ่งแรกที่ต้องทำคือเตรียมกิจกรรมแนะนำชมรม ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นภาคเรียน เราจะต้องขึ้นไปบนเวทีกลางโรงยิมและพูดนำเสนอต่อหน้านักเรียนชั้นปีหนึ่ง ถ้าต้องทำกับโคมาริแค่สองคนคงพังไม่เป็นท่าแน่สมาชิกอีกสองคนที่เหลือมีทั้งตัวท็อปของโรงเรียน แต่ยากิชิโอะได้กลับไปเข้าชมรมกรีฑาและเปลี่ยนมาแข่งวิ่งระยะกลางอย่างจริงจังเธอบอกว่าเล็งเป้าไปถึงการแข่งขันระดับประเทศ แต่เธอคงไม่มีเวลามาช่วยชมรมวรรณกรรม และคงไม่เหมาะที่จะใช้เธอเป็นจุดขายของชมรมในตอนนี้ขณะที่ผมคิดเรื่องนี้ ผมก็มาถึงห้องชมรม ตั้งสติแล้วเปิดประตูเข้าไป—[ เธอกินโปรตีนเชคของฉันทำไม ยานะจัง!? ][ มันช่วยลดน้ำหนักไม่ใช่เหรอ? รสช็อกโกแลตอร่อยดีนะ ][ แค่กินมันไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักนะ!? ]…ยากิชิโอะอยู่ที่นี่เหมือนเดิมดูเหมือนว่ายากิชิโอะกับยานามิกำลังทะเลาะกันเรื่องขวดโปรตีนเชค[ เอ่อ พวกเธอทำอะไรกันอยู่? ][ ยานะจังกินโปรตีนเชคของฉัน! พูดอะไรกับเธอหน่อยสิ นุกคุง! ][ ยากิชิโอะ เธอไม่ควรเก็บอาหารไว้ในห้องชมรมนะ ยานามิซังจะกินเรียบหมดทุกอย่าง ]โคมาริที่นั่งอ่านหนังสืออยู่มุมห้องพยักหน้าเห็นด้วย[เดี๋ยวสิ คิดว่าฉันเป็นมอนสเตอร์กินทุกอย่างในห้องชมรมหรือไง? ฉันไม่ได้กินหมดสักหน่อย ยังเหลือไว้อยู่นะ ]ไม่ใช่เรื่องกินหมดหรือไม่หมดนะ[ อีกอย่าง ชมรมกรีฑาก็มีห้องชมรมไม่ใช่เหรอ? เธอควรเก็บไว้ที่นั่นสิ ]ยากิชิโอะลุกขึ้นพร้อมชนเก้าอี้ล้ม[ ฟังนะ นุกคุง! ทุกคนในชมรมกรีฑาใจร้ายมาก! ]เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น? เธอโดนแกล้งเพราะโดดซ้อมหรือเปล่า?ยากิชิโอะทำหน้ามุ่ยแล้วเริ่มบ่นให้ฟังในขณะที่ผมเริ่มรู้สึกตึงเครียด[ มีกฎในชมรมกรีฑาว่าถ้าเธอเก็บโปรตีนเชคไว้โดยไม่เขียนชื่อติดไว้ ใครๆ ก็สามารถดื่มมันได้ ฉันเพิ่งซื้อมานะ แต่มันหายไปครึ่งขวดแล้ว! ][ แล้วทำไมไม่เขียนชื่อไว้แล้วเก็บไว้ในล็อกเกอร์ล่ะ…? ]คำแนะนำที่ฟังดูสมเหตุสมผลของผมทำให้ยากิชิโอะกอดอกและทำหน้าขมวดคิ้ว[ นั่นไม่ใช่ประเด็น การรับโปรตีนควรเป็นเรื่องอิสระมากกว่า ร่างกายต้องการเมื่อไหร่ก็ได้- ][ อ๊ะ นี่มีรสวนิลาด้วย ผงมันอร่อยดีนะ ][ กินแบบเป็นผงไม่ได้นะ!? ]…เราเหมือนมีคนที่อิสระสุดๆ อยู่ตรงนี้ผมรอให้ความวุ่นวายเรื่องผงโปรตีนสงบลง และหันมามองทั้งสามคน[ เอ่อ กลับมาที่เรื่องเดิม เรามาคุยเรื่องการต้อนรับนักเรียนใหม่กันเถอะ ผมมีไอเดียสำหรับการแนะนำชมรม ]ยานามิที่หน้ายังเปื้อนผงโปรตีนกระพริบตาอย่างแปลกใจ[ เราจะทำอะไรพิเศษหรอ? ][ ใช่ มีแผนอยู่ เอ่อ น่าจะอยู่ตรงนี้… ]ผมหยิบถุงกระดาษออกมาแล้วยื่นให้ยานามิ[ นี่คืออะไร? ][ ยานามิซัง ช่วยใส่นี่ก่อนนะ ][ ทำไม ? ]เธอถามว่า ‘ทำไม’ ซึ่งผมก็เตรียมคำตอบไว้แล้วผมวางสลัดไก่หนึ่งซองตรงหน้ายานามิยานามิพยักหน้า หยิบสลัดไก่ใส่กระเป๋า แล้วใส่ถุงกระดาษบนหัว ซึ่งก็ดูเหมาะกับเธอจนน่าประหลาดใจ[ …แล้วนี่…..เกี่ยวกับอะไร? ][ คิดว่าเธอใส่นี่ในช่วงแนะนำชมรมได้ คิดว่ายังไงกันทุกคน? ]โคมาริกับยากิชิโอะจ้องไปที่ถุงกระดาษ[ ..พ-เพิ่มโบว์หน่อยดีมั้ย? ][ หรือเขียนข้อความตกแต่งเหมือนเสื้อที่มีลายเซ็น? ][ ฟังดูดี เอาทั้งสองไอเดียเลย ]ผมจดไอเดียพวกนั้นลงไป แต่จู่ๆ ยานามิก็ดึงถุงกระดาษออก[ เดี๋ยว ทำไมฉันต้องใส่นี่ด้วย!? ฉันเหมือนโดนเซ็นเซอร์หรือไง!? ][ ชมรมวรรณกรรมมักจะดึงดูดแต่พวกเก็บตัวไม่ใช่เหรอ? ถ้ายานามิซังแสดงหน้าตาออกไป— ][ แล้วไง? ]…ถ้าพูดไป เธอคงจะไม่พอใจแน่ ผมเลยกระแอมเบาๆ เพื่อถ่วงเวลา[ ยานามิซัง เธอเป็นเหมือนอาวุธลับของชมรมวรรณกรรม ถ้าเราไม่เปิดเผยตัวเธอ มันจะดูลึกลับกว่า ][ ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ชมรมแบบนั้นหรอก… ][ พวกที่อยากเข้าชมรมวรรณกรรมก็คงชอบอะไรแบบนั้นล่ะ ช่วยใส่ไว้ตลอดช่วงต้อนรับนักเรียนใหม่น่ะ ][ ไม่มีทาง! ]ความพยายามโน้มน้าวของผมล้มเหลวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในฐานะประธานชมรม ผมคงต้องเป็นคน—[ แต่จริงๆ แล้วใส่แล้วมันก็ไม่ได้อึดอัดอะไรนะ ฮ่าๆ มองอะไรไม่เห็นเลย ]ยากิชิโอะใส่ถุงกระดาษเข้าไปเองซะงั้นเดี๋ยวก่อนนะ ถ้ายากิชิโอะปิดบังตัวเองแบบนี้ คนก็จะไม่รู้ว่าเธอแอบหนีชมรมกรีฑามาช่วยเรานี่?[ งั้น ยากิชิโอะ เธอช่วยใส่ถุงกระดาษตัวแทนพวกเราได้มั้ย? ส่วนยานามิซังก็เล่นคาสตาเน็ทบนเวที ][ …งั้น ฉันก็จะใส่มันด้วย ]เอ๊ะ ทำไมล่ะ? ยานามิรีบดึงถุงกระดาษออกจากยากิชิโอะแล้วเอาไปใส่ให้โคมาริแทน[ อุ๊นา!? ][ ในเมื่อเรื่องมันยุ่งแบบนี้แล้ว พวกเราทุกคนใส่ถุงกระดาษขึ้นเวทีหมดเลยดีมั้ย? แบบนั้นแหละ ]ไม่อะ มันดูแปลกเกินไปหรือเปล่า? ถึงผมจะอยู่ในจุดที่จะพูดอะไรไม่ค่อยได้ก็เถอะ..เด็กผู้หญิงอีกคนที่ดูชอบอะไรพิลึกๆ ก็ตบมือเห็นด้วย[ ดูน่าสนุกดีนะ! ปีหน้าพวกเราเป็นชมรมวรรณกรรมสวมหน้ากากกันเถอะ! ][ ช-ชมรมวรรณกรรมสวมหน้ากากบ้านเธอสิ—ว้าก! ]โคมาริที่ยังใส่ถุงกระดาษอยู่ ลุกขึ้นยืนแล้วสะดุดล้มทันทีเสียงร้องของเธอยังน่ารักเหมือนเดิม ผมสูดลมหายใจลึกแล้วนั่งลงบนเก้าอี้เดือนเมษายนนี้ ชมรมวรรณกรรมจะมีเพียงนักเรียนปีสองเท่านั้นนี่คือชมรมที่ถูกส่งต่อมาจากรุ่นพี่ผมรู้สึกกังวลเล็กน้อยว่าทุกอย่างจะไปได้ดีหรือเปล่า แต่ที่ผ่านมาเราก็ประคองกันมาได้พวกเราคงทำได้ในแบบของเราเองถ้าเพียงเราส่งต่อมันให้รุ่นถัดไปได้อย่างราบรื่น—ทันใดนั้น ผมก็มองอะไรไม่เห็น[ นุคุมิซึคุง เหมาะกับนายมากเลยนะ ][ ใช่เลย นุคคุง เหมือนถูกสร้างมาเพื่อนายเลยล่ะ ][ อ-อยู่กับมันตลอดไปเลยเถอะ ]…เข้าใจแล้ว การใส่ถุงกระดาษนี่ให้ความรู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาดขณะที่ฟังเสียงสาวๆ ในชมรมวรรณกรรมที่เริ่มถ่ายรูปกันรอบๆตัวผม ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างเงียบๆรู้สึกว่าวันเวลาในฐานะนักเรียนปีสองที่กำลังจะมาถึงนี้ อาจจะยากยิ่งกว่าที่ผ่านมา—
MANGA DISCUSSION