บันไดหนีไฟ ณ อาคารเรียนเก่าของโรงเรียนมัธยมปลายซึวะบุกิตรงนี้คือจุดนัดพบกับยากิชิโอะ เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของคนอื่นผมขึ้นจากชั้นหนึ่งไปจนถึงยอด แต่ก็ไม่เห็นเงาของยากิชิโอะผมมองออกไปยังพื้นดินไกล ๆ จากชานพักของบันได ด้านล่างมีเพียงไม่กี่คนที่ยังคงใช้ชีวิตในวัยเยาว์อย่างมีชีวิตชีวา< ฉันอยากฟังคำตอบของนาย >“คำตอบ” ที่ว่า คงจะเป็นเรื่องเข้าชมรมกลับบ้านด้วยกัน ไม่ต้องสงสัยเลยผมตัดสินใจเรื่องคำตอบของตัวเองไว้แล้วแต่สิ่งที่ควรพูดกับยากิชิโอะหรือไม่ควรพูดนั้น ผมยังไม่ได้ตัดสินใจเลยผมสูดลมหายใจลึกๆ และเสียงฝีเท้าเบาๆก็ดังขึ้นจากด้านล่าง[ ขอโทษที่ให้รอนะ นุกคุง ][ …อ่า ฉันก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน ]ยากิชิโอะมายืนข้างผม ในขณะที่ผมเกาหัวตัวเองอย่างประหม่าสายลมอ่อน ๆ จากสนามเด็กเล่นพัดผ่าน ทำให้ผมของยากิชิโอะปลิวไหวเบา ๆดวงตาสีน้ำตาลที่ล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอนของเธอ ดูเปียกชื้นราวกับคิดบางอย่างอยู่ในใจ[ นานแล้วสินะ ที่เรามาไม่ได้ที่นี่ด้วยกัน ]เสียงของยากิชิโอะที่ดูร่าเริง พยายามทำลายความเงียบอันแสนอึดอัดผมไม่รู้จะพูดอะไร เธอจึงส่งยิ้มมาให้[ นี่ จำได้มั้ย ? ตอนที่นายแกล้งโคมาริจังตอนประชุมประธานชมรมครั้งแรก ตั้งแต่นั้นเราก็ไม่ได้รวมตัวกันแบบนั้นอีกเลย ][ ไม่ได้แกล้งสักหน่อย ]ยากิชิโอะหัวเราะเบา ๆ แล้วส่งยิ้มที่ดูยุ่งยากมาให้[ …ขอโทษนะ ที่มาคุยเรื่องนี้ในวันจบการศึกษา นายคงมีคนอื่นที่อยากเจอมากกว่าใช่มั้ย? ][ ไม่เป็นไรหรอก แล้วเธอล่ะ โอเคแน่นะ? ]ยากิชิโอะพยักหน้าเบา ๆ[ อืม ฉันบอกความรู้สึกต่างๆไปหมดแล้ว ต้องขอบคุณรุ่นพี่สึคิโนะกิเลย ][ รุ่นพี่สึคิโนะกิ? ]ยากิชิโอะพยักหน้าเหมือนเด็กเล็ก[ เหมือนเธอช่วยผลักหลังฉันน่ะ ปกติฉันมักจะคิดมากแล้วก็ลังเล แต่ฉันรู้ว่าต้องพูดความรู้สึกออกมาให้ชัดเจน ][ งั้นเหรอ…ช่วยผลักดันเธอสินะ… ]ผมกังวลอยู่ครู่หนึ่ง แต่พอมาคิดอีกที ผมก็ตัดสินใจเชื่อเธอเป็นครั้งสุดท้ายและในตอนนั้น ผมก็เห็นจังหวะเหมาะที่จะเริ่มพูดคุย[ …ทำไมเธอถึงอยากออกจากชมรมล่ะ? ] ยากิชิโอะอธิบายหลังจากหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง[ นายก็รู้ว่าทีมวิ่งคาดหวังในตัวฉันมากใช่มั้ย? ][ ใช่ เธอเป็นตัวหลักของทีมวิ่งมาตั้งแต่ม.ต้นแล้วนี่ ]ยากิชิโอะพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะพูดต่อ[ ฉันคิดว่าฉันน่าจะได้ไปแข่งวิ่ง 100 เมตรระดับชาติตอนปีสอง ][ นั่น…น่าทึ่งไปเลย ]คำตอบโง่ๆของผมทำให้เธอยิ้มอย่างเหนื่อยใจ[ มันไม่ใช่ว่าฉันเก่งอะไรขนาดนั้นหรอก แต่พอคิดว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไง ฉันก็เริ่มกังวล ]หลังจากนั้น…? อย่างเช่นไปแข่งระดับโลก ?ยากิชิโอะพูดต่อไป ในขณะที่ผมยังคงทำหน้างุนงง[ ตอนอยู่ม.ต้น ฉันทำอะไรก็ไม่ลงตัวเท่าไหร่ เลยไม่ได้ไปถึงระดับชาติ ฉันเลยคิดว่า คงจะดีถ้าได้ไปช่วงม.ปลาย แต่ถึงแม้ฉันจะมีความสุขเวลาวิ่ง หรือรู้สึกผิดหวังเวลาแพ้ ทุกอย่างมันก็คือเรื่องของฉันเอง ไม่ใช่เหรอ? ][ …ก็คงงั้นแหละ แข่งวิ่งมันก็เป็นกีฬาประเภทเดี่ยวนี่ ][ โค้ชเองก็เอาแต่สนใจฉัน คนอื่นคงไม่พอใจ แต่พวกเขาไม่พูดอะไรออกมาเลย ถ้าพวกเขาเกลียดฉันหรือพูดประชดประชันบ้าง ฉันจะรู้สึกโล่งใจแทนซะอีก ]ยากิชิโอะวางข้อศอกบนราวบันได มองออกไปในระยะไกล[ โค้ชอยากให้ฉันลงแข่ง 200 เมตรกับวิ่งข้ามรั้วด้วย แต่เพราะมีจำนวนจำกัดของนักกีฬาจากแต่ละโรงเรียนที่จะลงแข่งได้ ถ้าฉันลงแข่ง ก็หมายความว่าจะมีคนอื่นที่ลงแข่งไม่ได้ ]เธอประสานมือไว้หน้าผาก หลับตาแน่น[ …เพราะฉัน เพราะความพอใจของตัวฉันเอง มันเหมือนฉันกำลังบดขยี้ความฝันและเป้าหมายของทุกคนทีละนิด มันรู้สึกหนักใจมากเลย ]ไม่มีคำพูดใด ๆ ที่ผมจะพูดได้การสัมผัสถึงความทุกข์ของยากิชิโอะทำให้ผมเข้าใจคำพูดในใจของผม มันไม่สามารถปลอบโยนความกังวลของเธอได้เลยแต่ถึงอย่างนั้น ผมก็รวบรวมคำพูดธรรมดา ๆ ออกมาและพูดไป[ …ผมอาจจะไม่เข้าใจเรื่องการวิ่งมากนัก แต่มันเป็นกีฬาประเภทเดี่ยวใช่มั้ย? บางทีมันก็คงเลี่ยงไม่ได้ เคยได้ยินคนพูดว่าโค้ชส่วนมากจะให้ความสำคัญกับนักกีฬาที่มีศักยภาพมากกว่า ][ แต่นั่นก็คือการเสียสละคนอื่นเพื่อประโยชน์ของตัวเองยู่ดี ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่พอสำหรับการแข่งระดับชาติ….ให้ตกรอบคัดเลือกยังถือว่าเป็นเรื่องดีเลยด้วยซ้ำ ][ เป็นแบบนั้นจริงเหรอ? ][ อืม เป็นแบบนั้นแหละ ]ยากิชิโอะลืมตาขึ้นก่อนจะยืดแขนทั้งสองข้าง[ อย่างเคโกะเอง เธอพยายามฝึกกระโดดสูง ถ้าเธอเปลี่ยนจังหวะเท้าตอนวิ่งเข้าใกล้ที่กระโดด ก็น่าจะดีขึ้นได้ ส่วนมิซูซึเองก็ติดตอนเข้าโค้ง และโนะโนะจังก็กลัววิ่งข้ามรั้ว ถ้าโค้ชใส่ใจพวกเธอมากขึ้น พวกเธอน่าจะพัฒนาได้ ]ยากิชิโอะหันกลับมามองผม[ ทุกคนจะทำได้ดีกว่านี้ถ้าฉันไม่อยู่ตรงนั้น ]เธอพูดด้วยรอยยิ้มรอยยิ้มนั้นใสสะอาดจนน่าประหลาด ดูสวยงามแต่ก็ดูโดดเดี่ยวเหลือเกิน[ สิ่งที่ฉันรักจริง ๆ คือการวิ่ง ถึงจะต้องวิ่งคนเดียวฉันก็วิ่งเป็นงานอดิเรกได้ ฉันอาจจะหมกมุ่นกับกิจกรรมชมรมและผลงานมากเกินไป ]ยากิชิโอะพูดต่อราวกับพยายามโน้มน้าวตัวเอง[ ฉันเกลียดความครึ่ง ๆ กลาง ๆ เพราะงั้น บางทีฉันควรลาออกจากทั้งทีมวิ่งกับชมรมวรรณกรรม หลังเลิกเรียน ฉันจะได้ไปเที่ยวกับเพื่อน หรือ เรียนพิเศษ ใช้ชีวิตแบบเด็กมัธยมปลายธรรมดา ๆ ]คำพูดของยากิชิโอะเปล่งประกายราวกับเม็ดทรายที่ร่วงหล่นจากขวด สว่างไสวและหายวับไปผมยืนนิ่งไปเพราะทำอะไรไม่ได้[ แต่รู้มั้ย ฉันกลัวที่จะทำมันคนเดียว ทั้งการละทิ้งทุกสิ่ง การหักหลังทุกอย่าง และยังคงต้องยิ้มต่อไป ]ยากิชิโอะมองมาที่ผมตรง ๆ สีหน้าของเธอจริงจัง[ นั่นแหละเหตุผลที่ฉันอยากให้นายมาด้วยกัน ]—ทำไมต้องเป็นผม ?คำถามนั้นในที่สุดก็แวบเข้ามาในหัวของผมแต่ตอนนี้ ผมรู้แล้วว่านั่นไม่ใช่คำถามที่ควรพูดออกไป[ …ยากิชิโอะ เธอแน่ใจจริง ๆ เหรอ? ]เปลือกตาของเธอสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด[ แน่ใจสิ ฉันคิดเรื่องนี้มานานแล้ว ไม่ใช่แค่ความคิดชั่ววูบ… ]ผมส่ายหัว[ ถ้านั่นคือสิ่งที่เธอต้องการจริง ๆ ผมจะสนับสนุนเธอ แต่เธอลังเลมาตลอด แม้แต่ตอนนี้ก็ยังลังเล นั่นคือเหตุผลที่เธอยอมออกมาเจอผ- ][ ถึงจะเป็นแบบนั้นก็เถอะ ! ]ยากิชิโอะพูดแทรกขึ้นมาเธอพยายามจะพูดต่อ แต่กลับหยุดไปแล้วก้มหน้าลง ราวกับดอกไม้ที่ร่วงโรย[ …เคยพูดไว้แล้วใช่มั้ย ว่าฉันเหนื่อยนิดหน่อย ]เธอส่ายหน้าไปมาอย่างช้า ๆ[ ฉันไม่มีความมั่นใจที่จะเดินหน้าต่อไปอีกแล้ว ฉันแบกรับการที่ตัวเองต้องพรากโอกาสและเป้าหมายของเพื่อนร่วมทีมไปไม่ได้ ]คำพูดของยากิชิโอะไม่มีคำโกหกเธอไม่ใช่คนที่ชอบวางแผนซับซ้อน และเธอก็อ่อนไหวกว่าที่ผมคิด[ ผมไม่เห็นด้วยหรอก หมายถึง ผมจะสนับสนุนเธอเรื่องทีมวิ่งเอง เพราะงั้น ไม่อยากให้เธอพูดเรื่องลาออก ][ แต่นั่นก็แค่… ][ ใช่ ก็แค่ความเห็นแก่ตัวของผมเอง เพราะงั้น เธอควรเห็นแก่ตัวมากกว่านี้บ้างสิ ]ผมก้าวไปข้างหน้า จ้องมองยากิชิโอะที่ดูลังเลใจ[ อย่าไปสนใจคนอื่นหรือกลัวว่าเธอจะรบกวนใคร วิ่งเพื่อเธอเอง วิ่งในแบบที่เธอชอบ และถ้าวันไหนเธอเกลียดการวิ่งจริง ๆ นั่นแหละคือวันที่เธอควรเลิก ][ นั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันควรออกจากชมรม… ][ แต่เธอไม่อยากออกใช่มั้ยล่ะ ? ]เสียงของผมดังขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ[ เธอรักการวิ่ง สนุกกับการวิ่ง และการพัฒนาตัวเองตลอด เธอรักทั้งสองอย่าง แต่เธอก็ปล่อยเพื่อนๆไปไม่ได้ และเธอก็กดดันตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม ตอนนี้เธอกำลังเสียโอกาสในสิ่งที่เธออยากทำจริง ๆ ไม่เข้าใจเธอเลย ยากิชิโอะ ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมต้องลาออกจากชมรมแล้วทิ้งทุกคนไปเพราะเรื่องแบบนี้? ]ยากิชิโอะที่วิ่งให้ชมรมกรีฑาดูสดใสและเปล่งประกายเสมอเหมือนเธอเป็นคนที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงได้[ การมีคำบ่นหรือความไม่พอใจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในการแข่งขันครั้งก่อน เธอเอาชนะคนอื่นมาได้ การแพ้ชนะมันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะนี่คือการแข่งขัน เพราะงั้น… ]ผมสูดลมหายใจลึกๆก่อนพูดต่อ[ ทำในสิ่งที่เธอรักมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นความลำเอียงหรืออะไรก็ตาม แต่นี่ก็เพราะความสามารถของเธอที่ทำให้เธอมาถึงตรงนี้ ]ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมพูดมันเห็นแก่ตัวผมเป็นแค่คนนอกที่พูดปลุกใจให้คนที่ทำงานหนักที่สุดต้องเดินหน้าต่อไปยากิชิโอะที่เงียบมาตลอด ดูเหมือนจะตัดสินใจได้แล้ว เธอพูดออกมา[ …นุกคุง ถ้านายพูดถึงขนาดนั้น งั้นมาแข่งกันเถอะ ][ หา? แข่ง? ][ ใช่ แข่งวิ่ง 100 เมตรสักครั้ง ไม่ว่าเราจะร้องไห้หรือหัวเราะ มันจะจบแค่นั้น ]หมายถึง……วิ่ง100เมตร? ผมกับยากิชิโอะ?[ ไม่ๆ ไม่ได้หรอก เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ ผมชนะเธอไม่ได้หรอก ][ ฉันก็ไม่ได้มั่นใจว่าจะชนะนายเหมือนกัน ]ยากิชิโอะยักไหล่บาง ๆ ด้วยรอยยิ้มที่เจือความขี้เล่น[ ถ้าฉันลงแข่ง ก็ย่อมยังมีคนที่เร็วกว่าฉัน และถ้าไปถึงระดับชาติ ฉันก็จะรายล้อมไปด้วยคนที่ฉันไม่มีทางเอาชนะได้ คนอย่างเราวิ่งไปเพื่อต้องแพ้ในที่สุดไงล่ะ ]เธอยิ้มให้ผม เป็นรอยยิ้มที่ดูน่ารักเกินกว่าจะเรียกว่าท้าทาย[ ถ้านายชนะ ฉันจะฟังนาย ไม่ว่าจะมีใครบ่นยังไง ฉันจะไม่ยอมให้พวกเขาบ่น ฉันจะทุ่มเททั้งหมด ทั้งในชมรมวรรณกรรม ทั้งใน ชมรมกรีฑา ฉันจะแสดงให้พวกเขาเห็นเอง ]ยากิชิโอะยื่นมือออกมาแตะหน้าอกผมเบา ๆ[ แต่ถ้าฉันชนะ นุกคุงต้องเข้าชมรมกลับบ้านกับฉัน ][ แต่จะชนะได้มัน… ][ ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันจะต่อให้นายเอง นุกคุง นายวิ่ง 100 เมตรได้เวลาเท่าไหร่? ]เอ๋? ตั้งแต่ตอนเรียนพละในเทอมแรกผมก็ไม่ได้จับเวลาเลย คิดว่าน่าจะ…[ ประมาณ 16 วิ มั้ง…? ][ ช้าน่าเกลียดไปแล้ว! ][ มันเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิเลยนะ ก็สมเหตุสมผลนี่นา ตอนนี้อาจจะเร็วกว่านี้นิดหน่อย ][ คนเรามันไม่ได้วิ่งเร็วขึ้นเองหรอกนะ? ฮึ่ม แบบนี้มันลำบากจริง ๆ ][ งั้นฉันจะต่อให้นาย เอาตามเวลามาตรฐานของเด็กปีหนึ่งเทียบกับสถิติส่วนตัวของฉัน แบบนี้แฟร์มั้ย? ][ แฟร์…เหรอ? จริงดิ ? เอาสถิติส่วนตัวของผมก็ได้นะ ][ ไม่ได้หรอก ถ้านายจะขอช่วงชีวิตวัยเยาว์ของฉันก็ต้องทำให้ได้ประมาณนี้แหละ ][ เปล่านะ ไม่ได้ขอช่วงวัยเยาว์ของเธอสักหน่อย… ]ยากิชิโอะฟาดหลังผมอย่างแรง ข้ออ้างที่พยายามพูดออกมาถูกปัดตกไปหมด มันเจ็บนะ[ ฉันจริงจังนะ นุกคุงเองก็ควรจะจริงจังเหมือนกัน ]พร้อมกับรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าที่เหมือนอะไรบางอย่างในใจเธอถูกปลดปล่อยออกมา
MANGA DISCUSSION