วันที่สองของงานเปิดบ้านคือวันจันทร์ ใช่ วันนี้วันจันทร์ผมพลาดโอกาสดี ๆ ในการพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ และตอนนี้ต้องอดทนกับการเรียนทั้งสัปดาห์ ผมรู้สึกไม่สบอารมณ์ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อามานัตสึเซนเซมีนิสัยแบบนี้ก็ได้…ผมวางคางไว้บนมือและเหม่อลอยในคาบโฮมรูม[ โอเค ทั้งหมดก็มีเท่านี้ ]เสียงใส ๆ ของอาจารย์อามานัตสึดึงผมกลับมาสู่ความเป็นจริงผมนั่งตัวตรงเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกชื่อ แต่อามานัตสึเซนเซดูอารมณ์ดีมากในวันนี้[ เมื่อวานมีงานเปิดบ้าน นักเรียนหลายคนดูเหมือนจะมีอนาคตสดใส ]อาจารย์ยิ้มอย่างไร้กังวลขณะพิงตัวไปข้างหน้าบนโพเดียม[ การเป็นครูนั้นจะพบเจอเรื่องราวทุกรูปแบบ ใช่แล้วล่ะ พวกเขาคือผู้หญิงที่เติบโตแล้ว พวกเธอมีเสน่ห์ที่ทำให้พวกหนุ่ม ๆ วัยรุ่นไม่อาจละสายตาได้ ใช่ ฉันรู้ว่าพวกเธอคิดอะไรกันอยู่ ]…อย่าบอกนะว่าเธอกำลังพูดถึงทาจิบานะคุงแต่ผมไม่คิดว่าเธอจะเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน คงอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้สินะ[ พวกเธอคงเคยปลื้มสาวสวยๆมาก่อน แต่เซนเซก็คงจะไม่ตอบรับหรอก ฮ่าฮ่า ]อามานัตสึไม่สนใจบรรยากาศที่เงียบเหงาในห้องเลย เธอยังคงพูดถึงเรื่องความรัก (หรือเปล่า?) ต่อไปผมไม่อยากฟังเรื่องที่อาจารย์เคยเป็นที่นิยมเลยสักนิด เพราะงั้นผมจึงเลือกที่จะไม่สนใจและนึกถึงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา…ปีนี้ผมได้รับช็อกโกแลตแล้วนะถึงจะเป็นแค่ชิ้นเดียวและมันเป็นแค่ช็อกโกแลตตามารยาทก็เถอะ แต่มันก็นับว่าเป็นก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้วผมไม่ได้รับช็อกโกแลตจากสมาชิกชมรมวรรณกรรม แต่มันก็คงจะวุ่นวายถ้าจะให้ผมตอบแทน เพราะงั้นจะบอกว่าดีแล้วที่ไม่ได้อะไรมาเลยก็ไม่เกินจริงนัก พูดจริง ๆ นะ[ -เอาล่ะ พวกเธอกำลังจะขึ้นปีสองแล้ว การแยกสาขาวิทย์กับศิลป์ใกล้เข้ามาแล้ว และพวกเธอทุกคนจะอยู่ในห้องเรียนที่แตกต่างกันไป อย่าคิดว่ามีเวลามากมายก่อนจะจบการศึกษานะ มีโอกาสแค่ครั้งเดียวในช่วงปีหนึ่งและปีสอง จงรักษาโมเมนต์นี้ไว้ อย่าให้เสียใจเหมือนครูเลยนะ ]ทันใดนั้นเซนเซก็เลื่อนบทสนทนาไปสู่เรื่องเศร้าเรื่องราวที่เซนเซเคยเป็นที่นิยมช่างว่างเปล่ากว่าที่คิดเธอให้กำลังใจตัวเองและตบโต๊ะเช็คชื่อบนโพเดียม[ เอาล่ะ ในสัปดาห์นี้ก็สู้ ๆกันต่อไปนะทุกคน! ]◇ห้องชมรมหลังเลิกเรียนสามสาวในชมรมวรรณกรรมมองหน้ากันและอ้าปากค้างหลังจากได้ยินเรื่องราวเมื่อวาน[ ไม่นึกเลยว่าทาจิบานะคุงจะสนใจอามานัตสึเซนเซ…รู้สึกแย่แทนเขาจริง ๆ … ]ยานามิพูดพึมพำขณะเคี้ยวขนมคาคิโนะทาเนะ (ขนมข้าวอบรูปพระจันทร์เสี้ยว)[ ทาจิบานะคุงก็คือเด็กคนนั้นที่เดินเล่นกับนุคคุงที่ถนนใช่มั้ย? ดูไม่ออกเลยนะเนี่ย ]ยากิชิโอะพยักหน้าโดยถืออุปกรณ์ออกกำลังกายมือในมือโคมาริหันไปมองทั้งสองคนและทำหน้ากังวล[ เซนเซคนนั้นน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ? ][ อามานัตสึจังเป็นครูที่ดีนะ แค่เธอออกจะ… ]ยานามิเหมือนจะสังเกตเห็นสายตาผม เธอเขย่าถุงขนมคาคิโนะทาเนะ ส่งเสียง “ชะ ชะ”[ นุคุมิซึคุงจะเอาบ้างมั้ย? ][ เอ่อ ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ ว่าแต่ยานามิซัง เธอแน่ใจนะว่าจะไม่เป็นไรน่ะ ? เมื่อวานเธอกินขนมหวานเยอะขนาดนั้น ไม่ใช่เธอบอกว่าจะเริ่มลดน้ำหนักเหรอ? ][ ฉันเริ่มลดน้ำหนักแล้วล่ะ ]ยานามิพูดขณะเคี้ยวขนมคาคิโนะทาเนะต่อนี่เธอจะเปลี่ยนความหมายของการลดน้ำหนักอีกแล้วสินะ?[ อีกอย่าง เมื่อวานฉันไม่ได้กินอะไรทั้งเช้าและเที่ยงเลย มันก็โอเคอยู่ ][ แต่กินขนมหวานเยอะขนาดนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก…]ประโยคของผมเหมือนจะโดนจุด เธอไหวไหล่อย่างหมดหนทาง[ เฮ้อ นุคุมิซึคุงไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับการลดน้ำหนักเลยใช่มั้ย งั้นให้ฉันสอนนายเอง ][ …เอาเลย สอนหน่อยสิ ]ยานามิตอบกลับสายตางง ๆของผมด้วยใบหน้ายิ้มเยาะ[ ความจริงเกี่ยวกับการลดน้ำหนักคือการหลอกลวงร่างกายของตัวเอง ]เธอพูดอะไรแปลก ๆ ตามเคย[ หมายความว่าเธอต้องหลอกร่างกายไม่ให้มีโอกาสอ้วน ร่างกายจะลดการป้องกันถ้าไม่ได้ทานมื้ออาหารที่ถูกต้อง ถูกเวลา นั่นแหละคือจังหวะที่เธอสามารถกินขนมได้ ขนมมีน้ำตาลน้อยกว่ามื้ออาหารจริง ๆ มันก็เหมือนกับการอดอาหารนั้นแหละ ]…ทฤษฎีของเธอดูเหมือนจะอิงพลังเหนือธรรมชาติมากขึ้นทุกที[ อืม แคลอรี่ที่เผาผลาญไปมันก็ไม่ต่างกันมากหรอกใช่มั้ย? การกินแบบไม่เป็นปกติแบบนี้จะทำให้อัตราการเผาผลาญลดลง ทำให้ลดน้ำหนักยากขึ้นไปอีกไม่ใช่เหรอ? ][ มันไม่เป็นไรจริง ๆ ฉันเคยลองวิธีนี้มา 5 ครั้งแล้ว ได้ผล 2 ครั้ง ]อัตราความล้มเหลวสูงกว่าอีกท้ายที่สุดเธอก็แค่ต้องการรักษาความสำเร็จที่หายากนี้ ผมควรหยุดบ่น[ น-นุคุมิซึคุง นี่ นิตยสารชมรมของน้องสาวนาย ]โคมาริยื่นนิตยสารชมรมสามเล่มที่คาจูและเพื่อน ๆ ลืมไว้ให้ผมพูดถึงเรื่องนี้ พวกเธอก็กลับบ้านไปโดยไม่กลับมาที่ห้องชมรมเลยผมพยายามจะรับนิตยสารมา แต่โคมาริไม่ยอมปล่อยมือ[ เอ๊ะ มีอะไรหรือเปล่า? ][ ..ม-มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างนายกับน้องสาวหรือเปล่า? ][ ก็เล่าไปแล้วนี่ว่าเธอช่วยทาจิบานะคุงไปพบอามานัตสึเซนเซไงล่ะ ]ผมใช้โอกาสนั้นดึงนิตยสารชมรมมายานามิและพวกเธอยังไม่รู้ว่าผมทะเลาะกับคาจูผมไม่คาดหวังให้คนอื่นเข้าใจเรื่องนี้หรอก ไม่จำเป็นต้องบอกใครด้วยซ้ำ[ นุคคุง น้องสาวเธอไม่ได้มีแฟนหรอกนะ แต่เธอก็ดูไม่ค่อยมีความสุขเลย ][ ก็ใช่… ]ผมหลบสายตาจากยากิชิโอะและเปิดนิตยสารชมรมออกมามันเป็นหน้าที่มีนิยายของคาจูอยู่เรื่องราวจบลงที่พี่น้องต้องแยกทางกัน แต่เวลาที่พวกเขาใช้ร่วมกันจะไม่มีวันหายไปพี่ชายเดินทางสู่โลกใหม่ ขณะที่น้องสาวยังคงใช้ชีวิตประจำวันของเธอสงสัยว่าคาจูรู้สึกยังไงเวลาเขียนเรื่องนี้—ประตูห้องชมรมเปิดออกเหมือนจะขัดจังหวะความคิดของผม[ ท่านพี่ ! คาจูมาแล้วค่ะ! ]ห๊ะ!? ผมอ้าปากค้างทันที คาจูวิ่งพุ่งเข้ามานั่งบนตักของผมทันทีเธอนั่งลงและกอดคอผมไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง[ เดี๋ยวนะ เธอมาทำอะไรที่นี่เนี่ย!? แล้วยังต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ? ]คาจูไม่สะทกสะท้านต่อคำถามของผมเลย เธอแสดงบัตรที่ห้อยอยู่ใต้คอของเธอให้ดู[ ฮิฮิ ดูนี่สิคะ ]มีบัตรประจำตัวห้อยอยู่ที่คอของคาจู มีคำว่า “เข้าออกชั่วคราว” พิมพ์ไว้ด้านบนจากนั้นผู้ที่ออกบัตรก็คือ-สภานักเรียน[ สภานักเรียน… คาจู เธอได้บัตรนี้มาได้ยังไง? ][ สภานักเรียนของโรงเรียนสึวะบุกิอนุญาติให้คาจูมาดูการทำงานของพวกเขาอย่างใกล้ชิดค่ะ ][ อ่า… งั้นแค่สำหรับวันนี้ใช่มั้ย? ]คาจูยิ้มและกอดคอผมแน่นขึ้น[ ประธานเขาชอบคาจูมากเลยนะ เขาบอกว่าคาจูจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ]…หมายความว่า—[ จากนี้ไปจะรบกวนด้วยนะคะ ท่านพี่ ]เมื่อพูดจบ คาจูก็เอาหัวมาถูที่แก้มของผมอ่า… คาจูจะมาเข้าๆ ออกๆ โรงเรียนสึวะบุกิจากนี้ไปสินะ?[ เดี๋ยวก่อน ใจเย็นก่อนนะ ]ผมดึงคาจูออกไป[ คาจูค่อนข้างใจเย็นอยู่นะคะ? ][ งั้นฟังที่พี่พูดก่อน เธอยังต้องทำงานกับสภานักเรียนของโรงเรียนม.ต้นเธออยู่ไม่ใช่เหรอ? ][ ใช่ค่ะ คาจูจะทำให้ดีที่สุดในการจัดการทั้งสองด้านเลยค่ะ ]…อ๋อ เธอจะทำให้ดีที่สุดสินะ?คาจูยื่นหน้าเข้ามาใกล้และมองตาผมขณะที่ผมพยายามคิดหาวิธีที่จะโน้มน้าวเธอ[ คาจูเข้าใจสิ่งหนึ่งหลังจากฟังท่านพี่เมื่อวานค่ะ ][ เข้าใจอะไรเหรอ? ][ ค่ะ คาจูเข้าใจทั้งหมดแล้วค่ะ มันเป็นความทรมานที่จะไม่ยอมเผชิญหน้ากับปัจจุบันเพราะกลัวว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ความทรงจำในอดีตคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะอย่างนั้น คาจูจึงตัดสินใจที่จะสร้างประวัติศาสตร์ที่สวยงามให้มากที่สุดกับท่านพี่ค่ะ ][ ดูเหมือนว่าเธอจะตัดสินใจไปแล้วสินะ ][ ค่ะ คาจูได้ตัดสินใจแล้วค่ะ] …นี่คงจะลำบากแน่ผมมองไปรอบๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ สามสาวในห้องชมรมมองผมด้วยท่าทางงุนงง[ นุคุมิซึคุง นี่เราอยู่ในห้องชมรมกันนะ จะอดทนหน่อยไม่ได้เหรอ? ][ เอ่อ…ยินดีด้วยละกันนะ ][ ป-ไปตายซะ ]…อืม ผมก็ไม่คาดหวังว่าพวกเธอจะพูดอะไรดีๆ หรอกนะผมรู้สึกหมดหวังนิดหน่อย คาจูยิ้มให้พวกเธอ[ อ่อ คาจูทำเค้กมาดแลนมาให้ทุกคนด้วยค่ะ ][ ยินดีต้อนรับจ้ะ คุณน้องสาวจ๋า! ]ยานามิก็หลงไปกับเธอทันที[ โคมาริจัง มาเล่นบ้านพวกเราบ้างก็ได้นะคะ คาจูเตรียมสารอาบน้ำแบบใหม่ไว้แล้วค่ะ ][ จริงเหรอ!? ง-งั้น… ฉันจะไปละกันนะ ]โคมาริก้มหน้าอย่างเขินอายยานามิแสดงท่าทางเคร่งขรึมทันทีหลังได้ยินเรื่องนั้น[ สารอาบน้ำเหรอ…? โคมาริจัง เล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังหน่อยสิ ][ อ๊า!? ป-เปล่า! น-นุคุมิซึเป็นคนเติมสารอาบน้ำน่ะ- ][ หา? ]นี่มันคือการส่งต่อที่อันตรายเลยล่ะยากิชิโอะเป็นคนที่จ้องผมอย่างไม่พอใจในครั้งนี้[ …นุคคุง นายทำอะไรกับโคมาริจังเหรอ? ][ นี่มันเข้าใจผิดนะ! คาจูช่วยอธิบายหน่อย! ]คาจูยิ้มและพยักหน้า ดีเลย ที่ผมฝากเธอไว้—[ คาจูจะสนับสนุนทุกอย่างที่ท่านพี่ทำค่ะ เชิญทำตัวตามสบายได้เลยนะคะ! ][ [ นายทำบ้าอะไรไปเนี่ย!? ] ]ยานามิกับยากิชิโอะตะโกนพร้อมกันผมไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย……………ใช่แล้ว ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยจริงๆผมกอดคาจูและลุกขึ้นยืน[ นั่นไม่สำคัญหรอก ข้ามเรื่องนั้นไปก่อนแล้วเริ่มกิจกรรมชมรมกันเถอะ! ก่อนอื่น มาสรุปการทัวร์เมื่อวานนี้ก่อน ][ จะบอกว่าให้ข้ามเรื่องนั้นไปก่อนเหรอ…? ]ยานามิแทะเค้กมาดแลนและจ้องมองผมด้วยสายตาสุดดุดันมันค่อนข้างน่ากลัวนะ แต่ผมก็เตรียมใจไว้หมดแล้วคิดว่าโคมาริจะข้ามเรื่องสารอาบน้ำไปผมสามารถพูดถึงกิจกรรมต่อได้ทันทีที่เธอเริ่มพูด และเราก็ลืมไปเลย-[ ม-ไม่สำคัญ…? ต-ตายไปซะเถอะ! ][ ฉันผิดหวังในตัวนายนะ นุคคุง! ]…แผนของผมถูกทำลายไปแล้ว แม้แต่ยากิชิโอะก็มองผมเหมือนเป็นอาชญากรเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง? ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย…ใช่มั้ย ?ผมยอมรับการต่อว่าและมองขึ้นไปที่เพดาน ขณะที่คาจูยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหู[ จากนี้พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะคะ — ท่านพี่ ]
MANGA DISCUSSION