[…คาจูไปที่นั่นเพื่อคุยเรื่องวันวาเลนไทน์กับเด็กหนุ่มทาจิบานะ ]เธอแค่รู้สึกว่าไม่สะดวกใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้กับคนอื่น มันน่าอาย นั่นเป็นเหตุผลที่เธอเก็บเป็นความลับจากผม—[ ไม่สิ…มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ เธอไม่คิดอย่างนั้นเหรอ อาซากุโมะซัง? ][ นุคุมิซึซังเป็นคนเดียวที่ผิดปกติมาตั้งแต่ตอนนั้นนะ ]อาจจะจริง แต่เข่าของผมยังคงสั่นอยู่จากบทสนทนาของพวกเขา ทั้งคู่ดูสนิทกันพอสมควร ถึงแม้จะไม่รู้ว่าพวกเขาคบกันอยู่หรือเปล่า แต่ก็ไม่มีเด็กผู้ชายคนไหนในโลกนี้ที่จะไม่ตกหลุมรักคาจู—[ หมายความว่าเขาจะกลายเป็นน้องชายของผม… นี่พี่กำลังจะกลายเป็นพี่เขยเหรอ…? ][ โอเค เราพักกันสักครู่นะคะ ]อาซากุโมะซังวางมือลงที่แก้มซีดๆของผม[ เอ๊ะ พักอะไรล่ะ— ][ เอาล่ะ หายใจเข้าลึกๆ— ][ อ่า ได้เลย ]ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ[ แล้วก็หายใจออก! หายใจออกสิ! ]ผมสูดหายใจเข้าลึกๆอีกสองครั้ง หลังจากนั้นผมก็เริ่มสงบลงเล็กน้อยในครั้งที่สาม[ ดีขึ้นแล้วเหรอ…? ใช่สิ น้องสาวเธอแค่กำลังจีบกันเล่นๆนิดหน่อยเอง นายกับโอเน่ซังก็ทำเหมือนกันใช่นิ? ][ ไม่เคยเลย ]เธอไม่ใช่พี่สาวของผมนะ ?[ เอาล่ะ เราไปเจอเลม่อนซังกันเถอะ แล้วก็ใส่ชุดให้เรียบร้อยด้วยนะ ]อาซากุโมะซังเอื้อมมือไปที่คอของผมแล้วติดกระดุมเสื้อตัวบนให้อืม…เธอเป็นพี่สาวของผมจริงๆเหรอ? ผมเป็นคาซึคุงใช่มั้ย…คาซึคุงคือผม…ขณะที่จ้องหน้าผากตรงหน้าอย่างเหม่อลอย นักเรียนหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งก็เดินผ่านไปที่ทางเดินเธอหยุดเดิน ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยด้วยความไม่น่าเชื่อ[ หา? ห๊ะ!? ท่านพี่!? เกิดอะไรขึ้นคะ!? กลับไปเป็นนักเรียนม.ต้นอีกแล้วเหรอคะ!? ]ท่านพี่..อ่า ใช่…ผทมีน้องสาว…นี่คือ…น้องสาวของผม…?[ เธอคือคาจู…? ]ผมเพิ่งได้สติกลับมา แต่คาจูก็เข้ามาพิงตัวผมแบบติดหนึบ[ อุว๊ะ อุหว๊าาา ! ท่านพี่ในชุดนักเรียนของพวกเราดูหล่อมากเลยค่ะ ! ขอโทษนะคะ ขอคาจูถ่ายรูปที- ]คาจูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยตาที่เป็นประกาย[ เอ๊ะ? คุณคืออาซากุโมะซังใช่มั้ยคะ ? คาจูเคยเจอคุณที่บ้าน ทำไมถึงใส่ชุดนักเรียนของเราล่ะคะ ? ]อาซากุโมะซังยิ้มแล้วตอบ[ ไม่ได้เจอกันนานเลย วันนี้ฉันเป็นพี่สาวของคาซึคุง ]…เดี๋ยวนะ อย่าทำให้เรื่องมันซับซ้อนสิดวงตาของคาจูเริ่มส่องแสงแปลกๆหลังจากได้ยินคำว่า “พี่สาว”[ พี่สาวของท่านพี่…!? ไม่ยุติธรรมเลยค่ะ! คาจูอยากเป็นพี่สาวเหมือนกัน! ]เห็นมั้ย บอกแล้ว คาจูจับมือผมด้วยความตื่นเต้น[ ไม่ๆ ใจเย็นๆก่อน ][ ไม่เอา! ถ้าคาจูเป็นพี่สาว คาจูต้องป้อนข้าวคาซึคุง เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ถูหลังให้ และนอนด้วยกัน—อ๊ากก หนึ่งวันนี่ไม่พอเลย ! ]พี่สาวปกติไม่ทำอย่างนั้นหรอกเอาเถอะ สิ่งที่เธออยากทำมันก็ไม่ได้ต่างจากคาจูปกติมากนัก[ โอเค เข้าใจแล้ว พักกันก่อน นี่ คาจู มองที่นิ้วของพี่นะ ]ผมยกนิ้วชี้ของมือทั้งสองข้างขึ้น[ นิ้วสองนิ้วนี้กำลังวิ่งไล่กันอยู่นะ นิ้วนี้กำลังเข้าใกล้ แล้วก็แตะกับนิ้วนี้แล้ว ][ มันกำลังไล่กันอยู่ อ่า พวกมันแตะกันแล้ว… ] คาจูมองตามนิ้วของผม หนูสงบลงแล้วใช่มั้ย?เธอกลับมามีสีหน้าเคร่งขรึมแล้วก็ไอเบาๆ[ ใจเย็นลงแล้วใช่มั้ย? ][…ค่ะ ท่านพี่ ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น? ][ เอ่อ…คือว่า…]แย่ล่ะ นี่มันเกิดขึ้นทุกครั้งเวลาที่เรื่องต่างๆเริ่มสงบลง….ผมมองไปทางใครสักคนเพื่อขอความช่วยเหลือ อาซากุโมะซังพยักหน้าแล้วก้าวมาข้างหน้าโอเค ผมคาดหวังไว้สูงมากเลยนะ….โอเน่ซัง[ คาจูซัง เหตุผลที่คาซึฮิโกะซังกับฉันอยู่ในท่านี้ก็คือ— ][ อะไรเหรอคะ? ][ —นี่เป็นการแสดงน่ะ ][ เหมียว!? ]ความคาดหวังของผมถูกหักหลังไปซะแล้ว[ นักเรียนชายหญิงที่แอบเข้าไปในโรงเรียนเก่าของพวกเขาในชุดนักเรียนเก่าแล้วเล่นเป็นพี่น้องกัน—พวกเขาต้องสนุกกับการเล่นเกมที่ไร้ศีลธรรมแบบนี้แน่นอน นี่ไม่ใช่การสืบสวนลับๆหรอกนะ ฉันไม่มีทางคิดอะไรที่ไร้สาระมากขนาดนี้หรอก! ]อาซากุโมะซังพูดทุกอย่างเสร็จก็หันมามองผมอย่างภาคภูมิใจเอ่อ…คนๆนี้คิดว่านี่เป็นคำตอบที่ถูกต้องจริงๆอะ? ขอโทษนะถ้าเธอคิดว่านี่จะช่วยให้เรารอดไปได้คาจูอ้าปากแล้วก็ไอเบาๆก่อนจะพยายามพูดอย่างใจเย็น[ อ-เอ่อ ได้ค่ะ งั้นตามหนูมาเถอะ หนูจะพาไปหาครูฝ่ายปกครอง ]อาซากุโมะซังเอียงคออย่างสงสัย[ อาระ เราไม่ได้มาสืบสวนนะ นี่มันก็แค่การแสดงน่ะ ]…พอเถอะ คาจูกำลังมองผมด้วยสายตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนผมเตรียมใจสำหรับการประชุมครอบครัวคืนนี้แล้ว—แต่ทันใดนั้นร่างของคาจูก็ถูกยกขึ้น[ เมี๊ยววว!? ][ ฉันจับรองประธานได้แล้ว! ซาลาเปาเนื้อต้องเป็นของฉัน! ]คาจูถูกอุ้มแบบเจ้าหญิง คนที่ส่งเสียงด้วยความดีใจก็คือยากิชิโอะ
เด็กสาวจากชมรมกรีฑาตามมาในไม่ช้า พวกเธอปรากฏตัวที่หัวมุมทางเดิน[ เธอแซงพวกเราอีกแล้ว! รุ่นพี่เลม่อนก็ไวเกินไปนะ!] [ เดี๋ยวก่อน มันยังไม่จบหรอก! ]ยากิชิโอะมองรุ่นน้องของเธอด้วยรอยยิ้มเย่อหยิ่ง[ ฟุฟุ…ถ้าพวกเธอชิงรองประธานกลับไปจากมือของฉันได้ ซาลาเปาเนื้อจะเป็นของพวกเธอ ! ลองไล่ตามฉันดูสิ! ][ เอ๊ะ เดี๋ยวสิ ยากิชิโอะ เธอทำอะไร? ][ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะ! ]ยากิชิโอะขยิบตา แล้วเธอก็เริ่มวิ่งโดยที่ยังอุ้มคาจูอยู่เด็กสาวคนอื่นๆก็ไล่ตามเธอไปทันที[ เดี๋ยวสิ ซาลาเปาเนื้อ ! ] [ไปทางนั้นนะสาวๆ ! ] [ ฉันจะโจมตีจากชั้นสอง! }…พวกเธอทำอะไรกันเนี่ย?พวกเราที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้แต่มองตามไปด้วยอาการอ้าปากค้างหลังจากที่ยากิชิโอะกับรุ่นน้องของเธอหายตัวไปหลังจากที่ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง อาซากุโมะซังก็จิ้มไหล่ของผมเอ่อ คาจูถูกพาไปแล้ว แต่—ยากิชิโอะบอกให้ปล่อยเธอจัดการเอง…เอาเถอะ ปล่อยให้เธอจัดการแล้วกันผมพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วก็แกะกระดุมเสื้อของตัวเองออก✧✧✧✧ความทรงจำในวัยเด็กของผมไม่มีอยู่เลยาถึงแม้ผมจะจำได้ แต่ก็ลืมอย่างรวดเร็วในภายหลัง หรือไม่ก็เป็นเพราะผมมีความทรงจำอยู่แล้ว แต่นึกไม่ออกผมอายุเค่ 1 ขวบครึ่ง ตอนที่คาจูเกิด ปกติแล้วผมไม่ควรจะมีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะงั้น นี่เป็นความทรงจำที่ถูกสร้างขึ้นจากเรื่องราวของพ่อแม่และสิ่งที่ผมจำได้หลังจากโตขึ้นผมเคยเป็นศูนย์กลางของครอบครัว แต่พอถูกแทนที่ ผมเลยโวยวายใหญ่โตเป็นเรื่องธรรมดาที่จะคิดถึงเรื่องนี้ในตอนนี้ มันคงจะลำบากสำหรับพ่อแม่ของผมที่ต้องดูแลผมในตอนที่ยังเดินไม่คล่องเมื่อตอนที่คาจูเกิดมาในโลกนี้ชื่อของน้องสาวอ่านค่อนข้างยาก จนผมพูดไม่ถูกคิดว่าผมเคยรู้สึกเหงาและโกรธกับการปรากฏตัวของตัวละครใหม่ในโลกแห่งนี้แล้วในวันเกิดครบ2ขวบของผม ผมก็กลับมาเป็นศูนย์กลางของเวทีอีกครั้ง แต่ผมโกรธมากเมื่อแม่ต้องไปอยู่กับคาจูเพราะเธอร้องไห้ผมโยนมงกุฎกระดาษทิ้งแล้วม้วนตัวไปนอนอยู่ที่มุมห้องก่อนจะหลับไปในที่สุดคิดว่าเวลาผ่านไปไม่นานหลังจากที่ผมตื่นขึ้นมา[ อรุณสวัสดิ์ , โอนี่จัง ]แม่เมินความงอนของผมแล้วอุ้มผมขึ้นมาเธอพาผมไปที่เตียงเด็กของคาจูผมจ้องมองคาจูจากด้านบนในอ้อมแขนของแม่ เธอดูเหมือนมนุษย์ถึงแม้จะตัวเล็กกว่าผมมาก สำหรับผมแล้วมันไม่น่าเชื่อเลย[ คาจูก็ตื่นแล้วด้วย รีบพูดอรุณสวัสดิ์กับโอนี่จังสิ ]คาจูตื่นขึ้นมาแล้วยื่นมือเล็กๆ ออกมาผมลูบมันเบาๆ ด้วยนิ้วของผม คาจูจับมือของผมแน่นมันเล็กและอบอุ่น แต่ก็รู้สึกแข็งแรงกว่าที่ผมคิดผมหยุดนิ่งอยู่กับที่ แล้วทันใดนั้นคาจูก็หัวเราะขึ้นมาตอนนั้นผมก็รู้สึกตัว— ผมเป็นพี่ชายแล้วความทรงจำแรกของผมในฐานะพี่ชายเริ่มขึ้นตอนที่ผมอายุ 3 ขวบส่วนคาจู เธอยังคงตามผมไปเรื่อยๆ หลังจากที่เข้าเรียนมัธยมต้นนั่นคือเหตุผลที่ผมมักจะยึดมั่นในความทรงจำตอนนั้นและผลักวันเวลาที่คาจูจะออกห่างจากผมออกไปวันนั้นจะมาถึงในที่สุด—แต่ไม่ใช่วันนี้ ผมคิดแบบนั้น✧✧✧ก่อนที่ผมจะรู้ตัว ฟ้าก็มืดลงแล้ว ถนนก็เริ่มมืดตามไปด้วยสายตาของผมหลุบลงไปยังแผ่นหินบนทางเดินเท้า และผมก็สนใจเพียงแค่เดินไปข้างหน้าทางเท้าสิ้นสุดลง เมื่อแสงไฟส่องไปที่ทางข้ามถนนในขณะที่ผมกำลังจะก้าวเข้าทางข้ามถนน มีคนจับแขนผมไว้[ ระวังรถด้วย นุคุมิซึซัง! ]อาซากุโมะซังหยุดผมเธอมองผมด้วยสีหน้างุนงงในชุดเครื่องแบบสึวะบุกิของเธอ[ นี่ นายจะไปไหน? ][ …เอ๋? จะกลับบ้านไง ]หลังจากพูดเสร็จ ผมมองไปรอบ ๆ นี่มันไม่ใช่ทางที่บ้านของผมอยู่เลยดูเหมือนว่าผมจะเดินหลงมาที่สถานีโทโยฮาชิ[ ขอโทษนะ เธอตามผมมาถึงที่นี่เลยเหรอ? หลังจากนี้ผมโอเคแล้ว ไม่ต้องห่วง-]อาซากุโมะซังส่ายหน้าอย่างแรง[ ฉันปล่อยให้นุคุมิซึซังอยู่คนเดียวตอนนี้ไม่ได้หรอก ไปพักกันสักที่เถอะ ]คำพูดของเธอชวนให้คนเข้าใจผิดได้เลยนะ เธอพาผมไปที่ร้านชื่อ “มัทเทอร์ฮอร์น” ซึ่งเป็นร้านขนมตะวันตกเก่าแก่ในโทโยฮาชิ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเข้ามาในส่วนคาเฟ่ของพวกเขาผมนั่งลงและมองไปรอบ ๆ คาเฟ่สไตล์โบราณ อาซากุโมะซังยื่นโทรศัพท์ให้ผมดู[ ยากิชิโอะซังบอกลารุ่นน้องเธอแล้ว เธอกำลังมาที่นี่ ]พนักงานเสิร์ฟวางกาแฟถ้วยหนึ่งต่อหน้าผม ผมพยักหน้าเงียบ ๆ[ นายเอาแค่นี้เหรอ? ][ ผมไม่หิวน่ะ ]อาซากุโมะซังมีเค้กกับน้ำผลไม้รวมอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มของเธอค่อย ๆ หายไป[ …นายควรดูแลปริมาณน้ำตาลของนายนะ สมองที่เหนื่อยล้าต้องการการเติมเต็มให้เพียงพอ… ][ รู้แล้วๆ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงวันนี้นะ ]ผมเติมน้ำตาลลงในกาแฟและคนมัน อาซากุโมะซังยื่นส้อมที่มีเค้กชิ้นหนึ่งมาให้ผม[ นี่ อ้าม- ][ เอ๋? เดี๋ยวก่อน มีคนอยู่ที่นี่นะ ][ ฉันไม่ได้บอกเหรอว่าเราจะจีบกันทีหลังก็ได้น่ะ? โอเน่ซังไม่เคยผิดสัญญาหรอกนะ ]เกมนั้นยังไม่เลิกอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ยอมแพ้ งั้นก็ได้ ผมจะกินก็ได้ ความหวานละมุนลิ้นแบบที่คุ้นเคยแผ่กระจายเต็มปากอาซากุโมะซังสั่งเค้กมัทเทอร์ฮอร์นที่ตั้งชื่อตามชื่อร้าน สปันจ์เค้กบาง ๆ ผสมกับครีมและเกาลัด นานแล้วที่ผมไม่ได้กิน.. อร่อยอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ผมเป็นแฟนช็อกโกแลตมาโดยตลอด แต่การกลับมาลองความคลาสสิกดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน..ผมเห็นรอยยิ้มของอาซากุโมะซังขณะที่กำลังเอื้อมไปหยิบกาแฟ[ รู้สึกดีขึ้นหรือยัง? ][ ขอบคุณนะ ดีขึ้นมากแล้ว ]ในเมื่อเธอเป็นห่วงผมขนาดนี้ ผมก็ไม่ควรจะเศร้าอยู่ตลอดผมยิ้มอย่างไม่เต็มใจและเห็นกระเป๋ากีฬาข้างที่นั่งของอาซากุโมะซัง[ พวกเธอทำอะไรกันอยู่? ]ยากิชิโอะจ้องมาที่พวกเราด้วยดวงตาสีน้ำตาลโตของเธอ อุหวาา เธอเห็นเราในตอนที่ทำอะไรแปลก ๆ พอดี[ วันนี้ฉันเป็นพี่สาวของคาซึคุงน่ะ ][ อะไรอะ? น่าสนุกจัง! โอ๊ะ ขอโทษ! ]เอ๋ แค่นี้เธอก็เข้าใจแล้วเหรอ?ยากิชิโอะนั่งลงข้างๆอาซากุโมะซังหลังจากที่เธอสั่ง[ แล้วยังไง? ฉันได้ยินมาว่านายดูเศร้าพอตัว แต่ตอนนี้ก็ดูปกติดีนะ นายยังมีมาจีบกันต่ออีกนี่ ]เธอวางข้อศอกบนโต๊ะและพูดอย่างขี้เล่นถ้าอายาโนะรู้เรื่องคงจะยุ่งแน่ๆ ผมต้องเปลี่ยนเรื่อง[ ว่าแต่ ยากิชิโอะพาน้องสาว-คาจูไปไหนมา? เกิดอะไรขึ้นกับเธอ? ][ น้องสาวเหรอ? ดูเหมือนเธอจะสับสนหน่อยๆน่ะ ]แน่นอน นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากถาม[ เอ่อ เธอปล่อยคาจูไปแล้วใช่มั้ย? ][ ฉันส่งเธอไปที่ห้องสภานักเรียน ฉันชนะการแข่งด้วย ! ]ผมไม่รู้กฎหรอก แต่เธอชนะเหรอ?…เอาล่ะ ก็ดีที่เธอโอเคผมดื่มกาแฟ แล้วชาร้อนกับเค้กช็อกโกแลตของยากิชิโอะก็มาถึงเค้กของยากิชิโอะเป็นเค้กช็อกโกแลตกับสปันจ์เค้กที่มีช็อกโกแลตเคลือบ และ เป็นที่นิยมเสมอยากิชิโอะพูดด้วยน้ำเสียงสงบอย่างผิดปกติขณะที่จิ้มส้อมลงไปในเค้ก[ น้องสาวนายน่ะ จะว่าไงดีล่ะ? เธอโอเคหรือเปล่า? ][ …เธอคุยกับคาจูเหรอ? ][ ไม่เยอะหรอก ฉันมัวแต่ยุ่งวิ่งไปวิ่งมา แต่เธอก็สนิทกับคนรอบข้างดีนะ มีเพื่อนเยอะ จะว่าไงดีล่ะ? ]ยากิชิโอะกินเค้กคำหนึ่ง[ -เธอเป็นเด็กที่พึ่งพาได้ เธอมุ่งมั่นและมีความคิดเป็นของตัวเอง ฉันรู้ว่านายกังวลเรื่องของเธอ แต่ควรเชื่อใจเธอมากกว่านี้นะ ]ยากิชิโอะตักเค้กอีกชิ้นขึ้นมาด้วยส้อมและยื่นให้ผม[ นี่ คาซึคุง อ้าปากสิ ][ เฮ้ย นี่เธอทำอะไร ยากิชิโอะ? ]ผมหันหน้าหนีด้วยความกลัว ยากิชิโอะเข้าใกล้ผม[ นายกินของของจิฮะจังได้ แต่กินเค้กของเลม่อนโอเน่จังไม่ได้เหรอ? ][ เฮ้ย? เฮ?? ]บางครั้งยากิชิโอะก็ดูใจแข็งไม่เบา แม้แต่อาซากุโมะซังก็เข้าร่วมความสนุกนี้ด้วยช่วยไม่ได้ ผมกินเค้กเข้าไป รอยยิ้มที่พึงพอใจปรากฏบนใบหน้ายากิชิโอะ[ โอเค แก้ปัญหาแล้ว ทีนี้ กินเค้กของเราเถอะ ]แก้ปัญหาอะไรล่ะ? ยังไงก็เถอะ ในฐานะพี่ชาย ผมต้องเชื่อในคาจูให้มากขึ้น …พูดถึงเรื่องนี้ ถึงแม้พวกเธอจะสนิทกัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเธอจะเป็นแฟนกันหรอก ผมก็เป็นตัวอย่างที่ดีผมพยักหน้าอยู่คนเดียว ด้วยเหตุผลบางอย่าง อาซากุโมะซังมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความกังวล[ นี่ก็ดึกแล้วนะ นุคุมิซึซัง น้องสาวของนายกลับบ้านแล้วหรือยัง? ][ เธอมีงานต้องทำที่สภานักเรียน น่าจะยังอยู่ที่โรงเรียน คิดว่าเธอคงกลับบ้านดึกทั้งสัปดาห์ ][ งั้นนี่เป็นโอกาสที่ดี ]…? หมายความว่าไง?”ผมงง อาซากุโมะซังยื่นสมาร์ตวอทช์บนข้อมือมาให้ดู[ จิฮะจัง นั่นอะไรเหรอ? ][ สมาร์ตวอทช์ ด้วยสิ่งนี้ ฉันสามารถตรวจจับอุปกรณ์ดักฟังที่ฉันฝังไว้ทั่วโรงเรียนโมโมโซโนะได้-][ หยุดนะ อาซากุโมะซัง! ]ผมรีบขัดจังหวะเธอ อาซากุโมะซังพยักหน้าอย่างจริงจัง[ …นี่คือสมาร์ตบั๊ก มันไม่ใช่อุปกรณ์ธรรมดาหรอกนะ ]ผมบอกให้หยุดไม่ใช่หรอ?ยากิชิโอะมองข้อมือของอาซากุโมะซังด้วยตาเป็นประกาย[ อะไรน่ะ? เท่มาก! เหมือนอุปกรณ์ลับของนักสืบเลยใช่มั้ย? ][ ใช่แล้ว ฉันได้ยินเสียงจากที่ไกลๆได้ ด้วยพลังนักสืบนี้ ฉันจะได้ยินเสียงที่หน้าห้องสภานักเรียนชัดมาก ]พลังนักสืบนี่น่ากลัวจัง แป๊บหนึ่งนะ…?[ เรายังรับสัญญาณหลังออกจากโมโมโซโนะได้เหรอ? ]ผมถามอย่างสมเหตุสมผล อาซากุโมะซังตอบอย่างเป็นธรรมชาติ[ ฉันทิ้งตัวปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ไว้ที่โรงเรียน สัญญาณจากอุปกรณ์เสริมจะส่งตรงจากที่นั่นน่ะ ][ นั่นคือเหตุผลที่เธอสมัคร Wi-Fi งั้นเหรอ? เพื่อไอนี่เนี่ยนะ? จริงดิ? ]อาซากุโมะซังยิ้มและเริ่มปรับสมาร์ตวอทช์ของเธออย่างเงียบ ๆ…ช่างเธอเถอะ ทำอะไรก็ทำไป ผมยอมแพ้ขณะที่ดูพลังนักสืบของอาซากุโมะซัง[ เฮ้ จิฮะจัง! ไอนี่มันทำอะไรได้อีกเหรอ? มันเรืองแสงได้มั้ย? ][ ครั้งหน้าฉันจะเพิ่มไฟ LED ลงไป โอเค เชื่อมต่อแล้ว ]พวกเราจ้องไปที่สมาร์ตวอทช์…ได้ยินแต่เสียงจาง ๆ[ ไม่ได้ยินอะไรเลย ไม่มีใครอยู่ที่นั่นหรือเปล่า? ][ อ๊ะ! ฉันคิดว่ามีเสียงอะไรบางอย่างนะ! ]พวกเราได้ยินบางอย่างจริง ๆ ทุกคนกลั้นหายใจ แต่เสียงก็เงียบลงอีกครั้งจากนั้นอาซากุโมะซังก็ดูเหมือนจะตระหนักอะไรบางอย่างและเงยหน้าขึ้นทันที[ นี่ไม่ใช่สัญญาณ Wi-Fi แต่เป็นวิทยุตรงจากอุปกรณ์ดักฟัง ][ สมาร์ตบั๊ก ][ ใช่ สมาร์ตบั๊ก ]ดีใจที่เธอเข้าใจนะ นอกจากนี้ ถ้าอุปกรณ์ดักฟังอยู่ใกล้ นั่นหมายความว่า-[ มีคนใช้อุปกรณ์เดียวกันโดยบังเอิญเหรอ? ][ ไม่ นี่เชื่อมต่อกับแอป ไม่มีทางหรอก ]อาซากุโมะซังส่ายแขนขณะที่มองมาที่ผม แล้วเธอก็หยุด[ …ทำไมถึงมองมาแบบนั้นล่ะ? ][ นุคุมิซึซัง อะไรอยู่ในกระเป๋าของนาย? ][ หืม? ชุดนักเรียนโมโมโซโนะที่เพิ่งใส่ไง ]หน้าผากของอาซากุโมะซังเป็นประกายเมื่อผมเปิดซิปกระเป๋าวิทยุเริ่มแรงขึ้น มีอะไรบางอย่างอยู่ข้างในแน่นอนเอ๋ ไม่มีทางใช่มั้ย? ผมหยิบเสื้อออกมาและค้นหา สุดท้ายก็มีบางอย่างตกลงมาจากด้านหลังปก ผมเก็บมันขึ้นมา มันเป็นชิปสีดำเล็ก ๆ ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยเดี๋ยว มีตัวเลขอยู่ด้วย[…หมายเลข 1? ][ นี่คือสมาร์ตบั๊กที่ฉันฝังไว้ที่ประตูห้องสภานักเรียน… เดี๋ยวก่อน งั้นเสียงนี่ก็คือ-]อาซากุโมะซังล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าของเธอสักพักเธอก็หยิบชิปแบบเดียวกันออกมา[ หมายเลข 2- นี่คืออันที่ฉันฝังไว้ในชุดของน้องสาวนาย ]ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรลงไปเนี่ย? คิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่จะเรียกอาซากุโมะซังว่า “ผู้หญิงคนนี้” ใช่มั้ย?พวกเรานิ่งเงียบไป ยากิชิโอะถือส้อมและมองพวกเราอย่างสับสน[ เอ่อ ยังไงก็เถอะ เกิดอะไรขึ้น? ]อาซากุโมะซังเอานิ้วชี้มาวางที่คางและเอียงศีรษะอย่างเขิน ๆ[ ดูเหมือนว่าวัตสันโอนี่จังจะโดนมอริอาร์ตีตัวน้อยหลอกซะแล้วล่ะ ][ นั่นสินะ วัตสันโอเน่จังก็- ][ อืม ฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่ขอบคุณสำหรับอาหารนะ ]ยากิชิโอะปรบมือต่อหน้าวัตสันคุงทั้งสอง
MANGA DISCUSSION