เล่ม 4 บทที่ 1-2
เราไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้วตั้งแต่เธอออกจากชมรมวรรณกรรมหลังเทศกาลซึวะบุกิ ผมสัมผัสได้ถึงความยุ่งยากก่อนรู้สึกคิดถึงอีก กลัวว่าผมจะไม่ได้แค่คิดไปเอง
[ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ? ]
รุ่นพี่สึกิโนะคิ ปิดประตูอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้
[ …นานแล้วนะ พวกเธอสบายดีกันมั้ย? ]
ยานามิยิ้มและตอบ
[ ค่ะ นุคุมิซึคุงก็ยังเหมือนเดิมเลย รุ่นพี่สบายดีกับการเตรียมสอบมั้ย? ][ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฟังนะ มีเรื่องที่ยุ่งยากกว่านั้นอีก ]
มีอะไรที่ยุ่งยากยิ่งกว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับคนคนนี้เหรอ…?ความยุ่งยากจะมากขนาดไหนกันนะ? ยานามิกับผมแอบแลกสายตากัน
[ เอ่อ ดูเหมือนจะยุ่งจริง ๆ นั้นแหละ รุ่นพี่ เอาชามั้ยครับ ? ][ เดี๋ยวฉันไปเตรียมให้เอง นุคุมิซึคุงเอาด้วยมั้ย? ]
รุ่นพี่สึกิโนะคิหยุดพวกเราตอนกำลังจะลุกขึ้น
[ เดี๋ยวก่อน อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวสิ แค่แกล้งทำเป็นว่าพวกเธอโดนหลอกแล้วฟังฉันหน่อย ]
น่าเสียดายที่ดูเหมือนเราจะหนีไม่ได้ ไม่มีทางเลือกอื่น ยานามิกับผมนั่งกลับลงไป
[ โอเค จะยอมโดนหลอกก็ได้ พูดมาเลย ]
รุ่นพี่สึกิโนะคิพูดขึ้นอย่างจริงจัง
[ สรุปเลยคือ…นิยายBL(นิยายวาย)ของฉันโดนยึดเมื่อเช้านี้ ]
เธอหลอกเราจริง ๆ
[ ใกล้สอบอยู่แท้ ๆ ทำไมถึงไปเขียนอะไรแบบนั้นล่ะ? ]
รุ่นพี่สึกิโนะคิเอามือแตะหน้าผาก เธอจงใจทำอย่างนั้น
[ ตรงกันข้ามเลย ที่ทำไปเพราะความเครียดจากการเตรียมสอบล้วนๆ ฉันกล้าพูดได้อย่างมั่นใจและไม่เกินจริงเลยว่าฉันเป็นเครื่องบูชาที่น่าสงสารสำหรับสังคมที่แข่งขันสูงนี้ อืม ]
[ งั้นก็พยายามให้มากขึ้นแล้วเป็นคนที่ดีขึ้นเถอะ ลองเขียนจดหมายขอโทษแล้วขอให้คืนหนังสือมาสิ ]
แม้ว่าผมจะตอบอย่างไม่ใส่ใจ แต่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติเล็กน้อยในพฤติกรรมของรุ่นพี่ทำไมเธอถึงแอบเข้ามาในห้องชมรม ถ้ามันเป็นแค่หนังสือBLที่โดนยึดล่ะ…?
[ มันก็เรื่องปกติของนิยายBLไม่ใช่เหรอ? มีอะไรแย่ๆหรือเปล่า ? ]
คำถามของผมก็สมเหตุสมผลนะ อย่างไรก็ตาม รุ่นพี่ลังเลที่จะตอบ เธออธิบายต่อไปด้วยความไม่เต็มใจ
[ นั่นเพราะว่า…นิยายที่โดนยึดไปเป็นโดจินแต่งจากชีวิตจริง ซึ่งน่าจะเป็นปัญหาแน่ ๆ ใช่มั้ย? ][ …..แต่งจากชีวิตจริง? ]
ยานามิพูดซ้ำเพราะเธอไม่เข้าใจคำนี้
ดูเหมือนต้องมีการอธิบายเพิ่มเติมสำหรับยานามิที่ไม่คุ้นเคยกับคำนี้
[ มันเป็นเรื่องที่ตัวละครอิงจากคนในชีวิตจริง เป็นคำที่ใช้กันในวงการBL ]
นี่อาจจะกลายเป็นปัญหาได้จริง ๆ
[ เดี๋ยวก่อน เอาคนในโรงเรียนมาเป็นตัวละครด้วยเหรอ? ]
รุ่นพี่สึกิโนะคิพยักหน้า
[ พวกเธอรู้จักประธานนักเรียน โฮโคบารุมั้ย? มันคือนิยายBLสลับเพศของผู้หญิงคนนั้นน่ะ ][ นั่นเป็นความผิดของรุ่นพี่ชัดเจนเลย ควรจะสำนึกบ้างนะ ]
— ประธานนักเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายสึวะบุกิ โฮโคบารุ ฮิบาริ
เธอเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบและรอบรู้ แม้ว่าข้างในเธออาจจะแปลกนิดหน่อยยานามิยกมือขึ้นเบา ๆ
[ เอ่อ แล้วคำว่า…สลับเพศนี่หมายถึง ? ]
แน่นอนว่าต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ครั้งนี้รุ่นพี่สึกิโนะคิไปพูดขึ้น
[ ในนิยายของฉัน โฮโคบารุเป็นผู้ชาย ไม่มีเหตุผลพิเศษ แต่ก็เป็นแบบนั้นแหละ ]
เธอพูดอย่างไม่มีความลังเลเลย
เอาเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ต่างจากความเข้าใจเต็มที่ 100% ของผม ใบหน้ายานามิดูเหมือนว่าเธอเพิ่งกินหนอนที่คิดว่าเป็นลูกอม[ เอ่อ จำทำไปเพื่ออะไร…. อ๊ะ ไม่ต้องอธิบายแล้ว ]
ดูเหมือนยานามิจะเข้าใจแล้ว เพราะงั้นผมเลยพูดต่อ
[ ประธานก็เป็นรุ่นน้องของรุ่นพี่ตอนยังอยู่ในสภานักเรียนใช่มั้ย? ทำไมไม่ขอโทษแล้วขอให้คืนหนังสือมาอย่างจริงใจล่ะ? ]
ตึก ตึก ตึก รุ่นพี่โบกนิ้วชี้มาที่ผม
[ โดจินแบบนี้ต้องปิดเป็นความลับจากตัวจริง และให้เฉพาะคนที่สนใจร่วมกันเท่านั้นที่ได้สนุกกับมัน มันเป็นกฎของจักรวาล เธอยังไม่รู้เรื่องการมีอยู่ของโดจินนี้เลย นั่นคือเหตุผลที่ฉันอยากแก้ปัญหานี้เงียบ ๆ ฉันตั้งใจจะปิดบังนุคุมิซึคุงด้วยนะ แต่ก็ต้องตัดสินใจแบบฉุกละหุกตามสถานการณ์ ]
[ อืม เข้าใจๆ คงไม่อยากให้เธอเห็นอะไรแบบนี้- ]
…เอ๊ะ? เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?
[ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้พูดว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยใช่มั้ย? อย่าบอกนะว่าผมก็อยู่ในนิยายของรุ่นพี่? ]
[ ไม่เป็นไร นุคุมิซึคุงเป็นมือใหม่ ฉันเอาแบบง่าย ๆ ให้เธอเป็นท็อปเอง นิสัยเย็นชา ดุร้ายเหมาะกับนายอย่างคาดไม่ถึงเลยล่ะ พี่สาวโล่งใจแล้ว ]
เธอเคยคิดถึงความรู้สึกของผมบ้างมั้ย ?
[ ตอนนี้โดจินอยู่ที่ไหน? อย่าบอกนะว่าไปอยู่ในมือของครูแล้ว- ]
[ บาโซริซังจากสภานักเรียนยังเก็บมันไว้อยู่ ถึงฉันจะขอโทษแล้ว แต่เธอเกลียดฉัน เธอเลยปฏิเสธคำขออย่างเย็นชา แถมยังขู่ว่าจะส่งให้ที่ประชุมครูอ่านในพิธีปิดภาคเรียนด้วย ]
งั้นก็หมายความว่าครูจะได้อ่านแฟนฟิคนิยายBLเกี่ยวกับประธานสภานักเรียนกับผมในที่ประชุมครู ?
รุ่นพี่สึกิโนะคิพนมมือเข้าด้วยกัน
[ ช่วยฉันเถอะ ! ช่วยเอาหนังสือนั่นกลับมาจากผู้หญิงคนนั้นเพื่อชมรมวรรณกรรมที! ]
อืม… ทำไมผมต้องทำด้วยล่ะ?
[ แต่รุ่นพี่ออกจากชมรมแล้วนี่ ? นี่มันหาเรื่องใส่ตัวเองแล้ว มันไม่เกี่ยวกับชมรมวรรณกรรมเลยนะ ]
แน่นอนว่าถ้าผมเป็นประธานตอนนี้ ผมก็ต้องตัดสินใจอย่างเย็นชาเพื่อปกป้องชมรม หรือควรจะบอกว่าผมไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้เลยผมลังเลจะจบบทสนทนา แล้วก็สังเกตเห็นสายตาของรุ่นพี่ที่ลอยอย่างน่าอึดอัด
[ …มีอะไรอีกเหรอ? ][ ในหน้าเครดิตของนิยายBL มีชื่อชมรมวรรณกรรมอยู่ และชื่อผู้จัดพิมพ์ก็คือประธานนุคุมิซึคุงด้วยนะ ]
…หา? นี่เธอทำอะไรลงไป!?
[ ถ้ามีคนโดนเรียกไปที่ประชุมครู นุคุมิซึคุงกับฉันก็ต้องไปด้วย เพราะเธอเป็นประธานไง เพราะงั้น…เธอจะช่วยฉันใช่มั้ย ? ]
ผมอ้าปากค้าง ยานามิส่งถุงลูกอมเล็ก ๆ มาให้ผมเคี้ยวลูกอมรูปหินในปากอย่างดุเดือด
◇
หลังจากรุ่นพี่สึกิโนะคิไปแล้ว ยานามิกับผมเดินไหล่ชนไหล่ไปตามทางเดินด้านนอกที่ติดกับห้องโถงใหญ่ยานามิตามผมไปที่เครื่องขายเครื่องดื่มอัตโนมัติเพื่อซื้อเครื่องดื่ม
[ เอ่อ รุ่นพี่สึกิโนะคิก็ยังเหมือนเดิมเลยนะ รู้สึกโล่งใจอยู่บ้าง ]
ยานามิกำลังเคี้ยวลูกอมอยู่เหมือนเดิม
[ แต่ก็อยากให้เธอเปลี่ยนไปบ้างนะ…]
ครั้งนี้ผมโดนอะไรบางอย่างโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยจริงๆ
[ เทียบกับพวกเรา น่าจะให้รุ่นพี่ทามากิรับผิดชอบมากกว่านะ? พวกเราที่เป็นนักเรียนปีหนึ่งไม่ควรจะเข้ามาเกี่ยวข้องใช่มั้ย? ]
ทามากิ ชินทาโร่ เขาเป็นอดีตประธานชมรมวรรณกรรมและเป็นแฟนของรุ่นพี่สึกิโนะคิ คนเป็นแฟนก็ควรจะจัดการเรื่องวุ่นๆ ของแฟนตัวเองใช่มั้ยล่ะ?
[ รุ่นพี่ไม่ได้พูดถึงรุ่นพี่ทามากิเหรอ? เธอคงไม่อยากให้รุ่นพี่ทามากิรู้เรื่องนี้แหละ ]
ยานามิเอามือเข้าไปในกระเป๋าและทำหน้าเศร้า ดูเหมือนเธอจะกินลูกอมหมดแล้ว
[ …มันช่างเป็นจังหวะที่แย่ในทุกๆ ความหมายจริงๆ ]
รุ่นพี่สึกิโนะคิกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ต่างกับรุ่นพี่ทามากิ ซึ่งกำลังพยายามเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ
ถึงแม้ภายนอกจะดูใจเย็น แต่ก็คงกังวลเรื่องการจบการศึกษาแน่นอน ถ้าเป็นแบบนั้นก็อย่าเขียนอะไรแบบนี้เลย
[ นุคุมิซึคุง นี่เป็นคำขอจากรุ่นพี่ที่คอยช่วยเหลือนายตลอดไม่ใช่เหรอ? จะช่วยเธอก็เป็นเรื่องปกติใช่มั้ย? ]
ยานามิแกว่งตั๋วอาหารกลางวันฟรีที่ได้จากรุ่นพี่จนมีเสียงสวิงไปมา
[ อีกอย่าง ถ้านิยายนี้ใช้ชื่อของชมรมวรรณกรรม พวกเราก็หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ใช่มั้ย ? รุ่นพี่ไม่เคยส่งคำร้องขอลาออก เพราะงั้นในเชิงสัญลักษณ์แล้ว พวกเขาก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา ]
แม้ว่าเธอจะถูกติดสินบนด้วยตั๋วอาหารกลางวัน แต่เหตุผลของเธอก็ฟังขึ้น ผมพยักหน้าเงียบๆ
การลาออกจากชมรมไม่ได้เป็นเรื่องบังคับ แต่ก็สามารถอยู่ต่อจนถึงการจบการศึกษาได้ อย่างไรก็ตาม นี่ก็ยังถือเป็นการเปลี่ยนตำแหน่งในบางความหมาย
[ รุ่นพี่เคยอยู่ในสภานักเรียนตอนปีสองใช่มั้ย? ประธานคนปัจจุบันก็ยังเป็นรุ่นน้องของเธอในตอนนั้น คิดว่าเธอคอยปกปิดเรื่องฉาวของรุ่นพี่ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ]
[ ครั้งนี้เราบอกประธานไม่ได้ เพราะงั้นขอความช่วยเหลือจากรองประธาน บาโซริซังดีมั้ย? ]
[ การตรวจสอบของวันนี้เป็นการเล็งไปที่ชมรมวรรณกรรมโดยเฉพาะ รุ่นพี่สึกิโนะคิไม่ได้เป็นคนเดียวที่ได้รับความสนใจ ชมรมวรรณกรรมทั้งหมดกำลังโดนจับตามอง ]
ชมรมวรรณกรรมทำโดจินจากชิวิตจริงแนว BL ถ้านี่ถูกเปิดเผยออกไปล่ะก็…
[ ชมรมดูนกโดนระงับไปไม่กี่วันก่อน บางทีชมรมวรรณกรรมอาจจะจบลงเหมือนกัน ][ ดูนก? ฟังดูเหมือนกิจกรรมชมรมที่สงบสุขนะ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นอะ? ][ ตามรายงานการประชุมประธานชมรม พวกเขาแอบถ่ายภาพสาวๆ โรงเรียนซึวะบุกิแทนนก แม้ว่าจะไม่มีส่วนที่ลามกอนาจาร แต่พวกเขาก็ขายภาพของสาวๆ ที่ได้รับความนิยม ]
ผมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจากเธอ แต่มีคน 8 คนที่ซื้อภาพของยานามิ ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของยอดขายของยากิชิโอะและหนึ่งในสี่ของยอดขายของฮิเมมิยะซัง เธอควรจะมั่นใจในตัวเองนะ
[ถ้าชมรมของเราถูกระงับ จะเป็นปัญหาใหญ่แน่ จะไม่มีที่ให้นั่งกินขนมและทำการบ้านหลังเลิกเรียนแล้ว ][ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับชมรมวรรณกรรมมั้ย? ]
ผมหยุดอยู่หน้าเครื่องขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ จัดระเบียบความคิดในขณะที่มองหาน้ำที่อยากดื่มถ้าพูดถึงเทียร่าซัง เธออาจจะไม่ยอมรับข้อแก้ตัวของผมแม้จะบอกว่ารุ่นพี่สึกิโนะคิทำแบบนั้นคนเดียว ก่อนอื่น รุ่นพี่ยังคงเป็นสมาชิกชมรมวรรณกรรมอยู่ เราปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆไม่ได้เลยชมรมวรรณกรรมกำลังมุ่งหน้าสู่จุดจบจริงๆเหรอ…?
[ นั่น รุ่นพี่ชิกิยะจากสภานักเรียนใช่มั้ย? ]
เสียงของยานามิดึงความสนใจของผม
ผมมองไปทางนั้น คนที่ผมคุ้นเคยกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งในห้องโถงที่เย็นยะเยือก
— นั่นคือเลขาสภานักเรียน รุ่นพี่ ยูเมโกะ ชิกิยะ หรือ รุ่นพี่ซอมบี้
[ อากาศเย็นแบบนี้ เธอทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ? นุคุมิซึคุง เราควรทักทายเธอมั้ย ? ][ รอหน่อย การเข้าใกล้เธออย่างประมาทล่ะก็จะเป็นอันตราย ]
ผมหยิบสมุดโน้ตจากกระเป๋าเสื้อในชุดนักเรียนออกมา
[ นี่อะไรเหรอ? ][ นี่คือบันทึกการสังเกตการณ์ของผมเกี่ยวกับรุ่นพี่ชิกิยะไปในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ผมเคยเห็นสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ][ …เอ่อ ฉันไม่ได้เห็นนุคุมิซึคุงที่น่าขยะแขยงแบบนี้มานานแล้วนะ ][ อ๊ะ ไม่ ไม่ มันไม่ได้ขยะแขยงนะ มันแค่เหมือนกับไดอารี่สังเกตการณ์นกป่าเท่านั้นเอง ]
ผมเปิดสมุดโน้ตที่ไม่ขยะแขยงนั้น
[ การเคลื่อนไหวของรุ่นพี่ชิกิยะจะช้าลงเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 12 องศาเซลเซียส พฤติกรรมนี้ชัดเจนขึ้นในเดือนนี้ ][ …เห ]
ยานามิไม่มีสีหน้าอะไร ผมไม่สนใจและพลิกหน้าไปอีก
[ ในวันที่ไม่มีลม พฤติกรรมของเธอคือการเพิ่มอุณหภูมิร่างกายโดยการอาบแสงแดด เธอเป็นสัตว์เลือดเย็น ที่พบได้บ่อยในสัตว์เลื้อยคลาน ]
ยานามิพูด “…เห” อีกครั้ง เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
[ แต่ตอนนี้มันเย็นแล้ว พื้นที่รอบๆ ม้านั่งก็ร่มและเย็นหมดแล้ว ]
[ ร่างกายเธอเย็นลงในที่ร่มเพราะขาดความระมัดระวัง เธอก็จะเคลื่อนไหวไม่ได้ กล่าวอีกอย่างคือ รุ่นพี่ชิกิยะกำลังประสบภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติอยู่ตอนนี้และสติของเธอก็กำลังเลือนลาง ]
ผมเก็บสมุดโน้ตกลับเข้าไปและใส่เหรียญลงในเครื่องขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ
เอาล่ะ งั้นผมเอาน้ำเย็นแล้วกลับไปที่ห้องชมรมที่อุ่นๆดีกว่า
[ เอ๊ะ แน่ใจเหรอว่าจะปล่อยเธอไว้แบบนี้? เธอกำลังจะตายใช่มั้ย? ]
[ …ฉันก็รู้สึกแบบเดียวกัน ]
ผมกดปุ่มเลือกนมมา
ร้อน! ผมหยิบขวดพลาสติก แล้ววิ่งไปทางรุ่นพี่ชิกิยะ
◇
ตอนนี้เราอยู่ที่ร้านกาแฟที่ใกล้กับสถานีที่สุด ยานามิกับผมนั่งอยู่ตรงข้ามชิกิยะซัง
บนโต๊ะมีกาแฟ เค้ก และบอร์ดเกมแปลกๆ วางอยู่
ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นร้านคาเฟ่บอร์ดเกม ชิกิยะซังพาเรามาที่นี่เพื่อแสดงความขอบคุณที่ช่วยเหลือเธอที่ห้องโถง
[ ไม่เป็นไร… ครอบครัวของฉัน…ค่อนข้างมีฐานะ… ][ ต้องขอโทษที่ทำให้ต้องเสียเงินเลี้ยงพวกเรานะครับ ][ เอาล่ะ! กินเลย! ]
ยานามิรีบเอาเค้กเข้าปากทันทีหลังจากพูดแบบนั้นชีสเค้กอบแบบดั้งเดิมของร้านนี้ดูเหมือนจะทำเอง ผมตักคำแรก ความหวานและความเปรี้ยวที่สมดุลกันเปล่งประกายในปากของผมยานามิแทงส้อมไปยังคำสุดท้ายแล้ว ใบหน้าของเธอเป็นประกาย
[ รุ่นพี่ เค้กนี้อร่อยมากเลย! ][ ไม่เป็นไร… ถ้าชอบก็สั่งอีกได้… ]
แน่ใจเหรอ? เธอคงจะสั่งเต็มที่แน่ๆ
ผมเทน้ำตาลลงในกาแฟพลางสังเกตร้านรอบๆ ลูกค้ากำลังสนุกสนานกับบอร์ดเกม ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นนักศึกษามหาลัย แม้ว่าจะไม่ใช่วันหยุด แต่ที่นี่กลับมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมากชิกิยะซังเริ่มแจกชิ้นส่วนบอร์ดเกมอย่างชำนาญ
[ เกมนี้คือเกมอะไรเหรอ? ][ Fjords…แนวควบคุมพื้นที่… ]
ชิกิยะซังแจกชิ้นส่วนเล็กๆ อย่างเงียบๆ หลังจากพูดเบาๆ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ผมไม่ควรรบกวนเธอด้วยเหตุผลบางอย่าง ยานามิกลับจ้องเค้กของผมและพูดเบาๆ
[ นี่ นุคุมิซึคุง เราลองคุยเรื่องนั้นกับเธอดูมั้ย? ][ เรื่องนั้น? ][ เรื่องโดจินชิของรุ่นพี่สึกิโนะคิที่ถูกยึดไง รุ่นพี่ชิกิยะอยู่ในสภานักเรียนนี่นา บางทีเธออาจช่วยเราได้บ้างนะ ]
บางทีเธออาจจะถูกก็ได้ แต่ในทางหนึ่ง ชิกิยะซังก็เป็นคนจากอีกฝ่ายเหมือนกันเราพูดคุยกันเสียงเบา ชิกิยะซังเอียงคอเล็กน้อย
[ รุ่นพี่….สึกิโนะคิ…..? ]
ชิกิยะซังหยุดแจกชิ้นส่วนเมื่อได้ยินเรา
[ เกิด… อะไรขึ้นเหรอ? ]
ดวงตาสีขาวของชิกิยะซังมองมาที่ผมอย่างน่ากลัวควรจะบอกเธอมากน้อยแค่ไหนดี? แน่นอนว่าเธอสนใจชมรมวรรณกรรมมาก แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับรุ่นพี่สึกิโนะคิจะดีหรือแย่กันแน่นะ? มันรู้สึกกระอักกระอ่วน…
ผมขยิบตาให้ยานามิ เธอพยักหน้าเบาๆ
[ คือว่า จริงๆ แล้ว- ]
ผมตัดสินใจแล้วเริ่มอธิบาย
ชิกิยะซังถอนหายใจเบาๆ หลังจากฟังเรื่องนั้น
[ เทียร่า… เกลียด…รุ่นพี่….สึกิโนะคิ….. ]
เธอพูดอย่างเด็ดเดี่ยวโดยไม่พยายามปกปิดความจริง จากนั้นมือของเธอก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
[ พวกเธอสองคนไม่ได้ทำงานในสภานักเรียนพร้อมกันนี่ ? ทำไมถึงเกลียดกันล่ะ? ]
หลังจากแจกชิ้นส่วนเสร็จ ชิกิยะซังหยิบแผ่นดินเล็กๆ รูปหกเหลี่ยมออกมา
[ พวกเราสามคน… วาง… เรียงลำดับ… ][ เอ๊ะ? อ๋อ ได้สิ ]
ชิกิยะซังดูตั้งใจที่จะให้เกมดำเนินไปต่อเมื่อเล่นไป เราค่อยๆเข้าใจกติกาของเกมมากขึ้นตอนแรก เราสร้างค่ายโดยใช้แผ่นดินและชิ้นส่วน จากนั้นผู้เล่นจะวางชิ้นส่วนไวกิ้งตามลำดับและยึดครองพื้นที่ มันคล้ายๆ กับเกมโกะ(หมากล้อม)
[ อ่า ไม่มีที่เหลือให้วางชิ้นส่วนแล้วล่ะ ][ จบแล้ว… ใครที่ครองพื้นที่มากที่สุด… ก็ชนะ… ]
ชิกิยะซังชนะอย่างถล่มทลายในรอบแรก ส่วนผมจบอันดับสาม ถ้าพูดตรงๆก็คืออันดับสุดท้าย…ผมเกลียดความรู้สึกพ่ายแพ้แบบนี้ ผมแค่ไม่มีสมาธิเพราะมัวคิดถึงการสนทนา ถ้าจริงจังหน่อย มันไม่ควรเป็นแบบนี้
ในขณะที่คิดอยู่ ยานามิกระทุ้งผมด้วยศอก
[ นี่ นุคุมิซึคุง แบบนี้โอเคแน่เหรอ? ][ เดี๋ยวก่อน ยานามิซัง ผมจับเทคนิคได้แล้ว รอบหน้า ผมจะ… ][ เลิกสนใจเกมได้แล้วน่า! ตั้งใจคุยเรื่องที่เราต้องการสิ นุคุมิซึคุง ]
ใช่แล้ว ผมหันหน้ากลับไปหาชิกิยะซังอีกครั้ง
[ ขอโทษนะ เราขอต่อจากเรื่องเมื่อกี้ได้มั้ย? พวกเราต้องการวิธีในการเอาโดจินชิคืน- ][ วางไว้… ตรงนี้… ][ เอ๊ะ? อ๋อ ได้สิ ตาผมแล้ว ]
รอบสองเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าเราไม่ได้เล่นเพียงอย่างเดียว แต่ใช้มันเป็นกลยุทธ์ในการเจรจา ยานามิเริ่มต้นด้วยการบ่น แต่เธอก็ค่อยๆ สนใจเกมมากขึ้นเรื่อยๆ
[ นุคุมิซึคุง ถ้าเธอบล็อกตรงนี้ ฉันจะวางชิ้นส่วนไม่ได้เลยนะ! ][ ก็ใช่น่ะสิ นั่นแหละเป้าหมายของเกมนี้ ]
ผมบล็อกและโจมตียานามิที่เอาแต่บ่นไม่หยุด ชิกิยะซังดูเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่างและพึมพำเบาๆ
[ ฉัน… เข้าใจแล้ว… แต่… ]ชิกิยะซังวางชิ้นส่วนไวกิ้งสีดำด้วยนิ้วเรียวๆ ของเธอ
[ เทียร่า… ใช้อารมณ์มากเกินไป.….รุ่นพี่….กับสึกิโนะคิ….. ]
การถาม-ตอบในประเด็นปัญหาของเราก็เริ่มต้นขึ้นทันที
[ อีกอย่าง มันไม่ใช่แค่เรื่องของรุ่นพี่สึกิโนะคิ ประธานสภานักเรียนก็มีชื่อเสียงเป็นเดิมพันด้วย ฉันอยากให้เรื่องนี้จบลงอย่างสงบถ้าเป็นไปได้ ]
ชิกิยะซังพยักหน้า
[ เธอพูดถูก…หนุ่มน้อยซากุไร… จะเครียดจนปวดท้องแน่… ]
— หนุ่มน้อยซากุไร? ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ดูเหมือนเขาน่าจะเครียดจนน่ากังวล
มีความรู้สึกว่าผมสนิทสนมกับซากุราไรคุงคนนี้อย่างประหลาด ยานามิเอื้อมมือไปยังชิ้นส่วนของผมบนกระดาน
[ นี่ นุคุมิซึคุง เธอช่วยย้ายชิ้นส่วนหน่อยได้มั้ย? ][ ไม่ เรากำลังคุยเรื่องจริงจังกันอยู่นะ ]
ท้องของผมเริ่มปวดบ้างแล้ว ผมจิบกาแฟและเริ่มสนทนาใหม่อีกครั้ง
[ เพราะงั้น พวกเราหวังว่ารุ่นพี่ชิกิยะจะช่วยแทรกแซงหน่อยน่ะ รุ่นพี่สนิทกับบาโซริซังมากใช่มั้ย? ]
ชิกิยะซังกะพริบตาหลังจากได้ยินคำว่า “สนิทมาก”
[ ใช่…ฉันค่อนข้าง…สนิทกับเทียร่าจัง… ]
ชิกิยะซังถือถ้วยไว้ด้วยสองมือ ดวงตาสีขาวของเธอมองไปยังที่ไกลอย่างเลื่อนลอยเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ปากของชิกิยะซังขยับเล็กน้อย
[ โค่น…เทียร่าจัง…นายว่าไงบ้าง? ][ หา? โค่นอะไรเหรอ? ]
ผมงงงวย ชิกิยะซังพูดต่อ
[ ทำให้เธอ…ตกหลุมรักนายซะ ][ หา!? ]
ยานามิสำลักข้างๆ ผม เออใช่ นี่ยัยนี่กินเค้กของผมโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยผมเมินยานามิและส่ายหัวอย่างแรง
[ ไม่ๆไม่ๆ เป็นไปไม่ได้หรอก!? ผมเพิ่งรู้จักชื่อเธอเอง แล้วบอกว่าให้ไปจีบเธอ… ]
ยานามิตบหลังผมขณะที่พูดอยู่
[ นี่ นุคุมิซึคุง รุ่นพี่ไม่ได้พูดว่าเธอสองคนจะต้องคบกันใช่มั้ยล่ะ…? ]
ยานามิเอาผ้าเช็ดหน้าไปปิดปากขณะไอออกมา ดวงตาที่มีน้ำตาคลอของเธอจ้องเขม็งมาที่ผม
[ คำว่า ‘โค่น’ ที่ว่า… หมายถึงนั่นแหละ อย่าทำตัวซื่อไปเลย คิดให้รอบคอบซะเถอะ เรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ แน่- ]
พวกเราพูดคุยเรื่องไร้สาระกันต่อ ชิกิยะซังทำท่าหัวใจด้วยนิ้วของเธออย่างไม่คาดคิด
[ ไม่เป็นไร…เทียร่าจัง…เป็นคนง่ายๆ… ]
คนๆนั้นง่ายเหรอ? นั่นคือความรู้สึกของเธอหรือไง?
[ แต่ผมคงโค่นบาโซริซังไม่ได้แน่ ][ คิดมากไปแล้ว นุคุมิซึคุง นายแค่ต้องทำดีกับบาโซริซังหน่อย แล้วขอให้เธอคืนโดจินชิให้เรา จริงมั้ยคะรุ่นพี่? ]
[ อีกอย่าง ไม่ใช่ยานามิซังน่าจะเหมาะกับงานนี้มากกว่าเหรอ? ][ คนๆนั้นน่ากลัวนิดหน่อย ฉันไม่เอาด้วยหรอก ]
ผมก็กลัวเหมือนกัน ชิกิยะซังก็น่ากลัวพอๆ กันเลย
[ รุ่นพี่ ผมไม่คิดว่าผมจะเข้ากับบาโซริซังได้ ][ ง่ายๆ…ถ้านายเป็นคนดี…กับเทียร่าจัง…]
บาโซริ เทียร่า เป็นตัวละครสอนวิธีจีบในเกมจีบสาวหรือไง?
[ เอ่อ ไม่ แต่- ][ จับจุดอ่อนของเธอ…..ทวงบุญคุณเธอ…….ใช้ความรู้สึกผิดของเธอ…เพื่อปิดทางหนีของเธอไว้ ]
ชิกิยะซังพึมพำขณะวางหมากสีดำลงบนกระดานอย่างนุ่มนวล
[ เรามา……ร่วมมือกันดีมั้ย? ]
ผมเริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย คนๆนี้สนิทกับเทียร่าซังจริงๆ เหรอ?
ควรจะปฏิเสธเธอดีมั้ยเนี่ย? ชิกิยะซังจ้องมาที่ผม ดูเหมือนเธอจะมองทะลุความรู้สึกสับสนของผม
[ เธออยากได้…โดจินชิ…คืนใช่มั้ย…? ][ เอ่อ….ใช่ ]
ผมตอบติดๆขัดๆ ยานามิมองฉันด้วยความประหลาดใจ
[ จะให้รุ่นพี่ช่วยเรานี่ไม่ง่ายเลย นายควรจะทำใจไว้หน่อยนะ ? ][ สุดท้ายแล้ว ผมก็ไม่เก่งในการรับมือกับผู้หญิง แถมไม่ค่อยคุยเวลาที่ต้องเจอหน้าด้วย ][ นุคุมิซึคุง นายควรจะจำไว้บ้างนะว่าฉันก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ]
ยานามิยื่นจานเค้กเปล่าให้ผม เธอปรบมือแสดงความขอบคุณ ยัยนี่จริงๆแล้วเพิ่งขโมยเค้กของผมไป
[ มันดูแปลกสำหรับนายเพราะความคิดไม่บริสุทธิ์ของนายเอง นุคุมิซึคุง ดูสิ ไม่ใช่ว่านายใกล้ชิดกับน้องสาวมากๆ เหรอ? ทำไมไม่ลองคิดว่าบาโซริซังเป็นเหมือนน้องสาวของนายล่ะ? มันจะดีกว่ามั้ย? ]
คิดว่าเทียร่าซังเป็นเหมือนน้องสาว…?
ไม่ใช่ว่าผมทำไม่ได้หรอกนะ น้องสาวจู้จี้ซึนเดเระเป็นคลาสสิคในไลท์โนเวลอยู่แล้ว บางทีแบบนั้นผมอาจจะรับได้ อ่อ แบบนี้ดีกว่าให้เธอเรียกผมว่า “ไอพี่บ้า” หรือ “โอนี่จัง”ดีล่ะ…?
ผมหันไปหาชิกิยะซังหลังจากคิดถึงภาพจำลองไปหนึ่งปี
[ ขอถามอีกครั้งนะครับ ตามที่สังเกตมา บาโซริซังดูจะไม่ชอบชมรมวรรณกรรม และ ชมรมวรรณกรรมก็เป็นจุดที่เธอตรวจสอบของของเราตอนนั้น ]
ชิกิยะซังฟังผมด้วยอารมณ์และท่าทางที่นิ่งสนิท
[ ในฐานะประธานชมรมวรรณกรรม ผมต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เพียงคนเดียว อาจจะบอกว่าผมอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับบาโซริซัง รุ่นพี่โอเคกับเรื่องนี้ใช่มั้ย ? ]
ชิกิยะซังพยักหน้าเบาๆ อย่างเชื่องช้า
[ โอเค… บางทีเทียร่าจัง…อาจจะเกินไปบ้าง ]
[ เข้าใจแล้ว ได้โปรดช่วยกันหน่อยนะครับ แน่นอนว่าจะพยายามแก้ปัญหานี้ด้วยสันติ ]
ในเรื่องเล่าของผม เทียร่าซัง (น้องสาว) ยังเคยให้ผ้าพันคอที่ทำเองเป็นของขวัญวันเกิดกันด้วย ผมไม่อยากทำอะไรที่ไม่สุภาพกับเธอจนเกินไป
ผมตัดสินใจและพยักหน้าอย่างแน่วแน่
[ อืม….ฉันจะ…ช่วยเท่าที่ฉันทำได้… ]
ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นจากโทรศัพท์ของผม ผมเหลือบดูที่หน้าจอ ข้อความนั้นมาจากยานามิ
< ยานะจัง : เป้าหมายของนายไม่ใช่การเดทกับเธอนะ ห้ามออกตัวก่อนนะ โอเค๊? >
ทำไมเธอถึงส่งข้อความมาทั้งๆที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยเนี่ย…?
ยานามิวางชิ้นส่วนลงบนช่องสุดท้ายอย่างใจเย็น – และการันตีแล้วว่าผมได้อันดับสุดท้าย
MANGA DISCUSSION