'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 70 ฉันคงไม่มีทางแต่งงานกับเธอ!
“ครับ”
กงเส่าถิงตอบด้วยน้ำเสียงในลำคอ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์แล้วออกจากห้องนั่งเล่นไป
เขาเดินไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ค่อยสนใจหลิงมู่วาน
ท่าทางเย็นชานั้นของเขาทำให้หลิงมู่วานรู้สึกอึดอัดมาก แต่เพื่อให้ได้แต่งงานเข้าวัง เธอก็จะทนกับความขมขื่นและความเย็นชานี้ที่เขามอบให้เธอต่อไป…
นายหญิงกงจ้องมองอย่างไม่ละสายตา ในระหว่างที่ 2 คนนั้นเดินไปด้วยกัน แล้วหันกลับมาถอนหายใจ ก่อนจะบ่นกับนายใหญ่กงว่า “เส่าถิงตอนเด็ก ๆ ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างนี้เลย พอถึงวัยแต่งงานแบบนี้แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมเปิดใจให้สาว ๆ ดูบ้าง”
เธอเริ่มรู้สึกกังวลอย่างอื่น “เขาคงจะไม่ได้ ชอบผู้ชายสินะ…”
“จะเป็นไปได้ยังไง!”
นายใหญ่กงรีบค้านขึ้นทันที!
ลูกชายของเขาปกติดี จะชอบผู้ชายด้วยกันได้อย่างไร!
แต่พอนึกถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในใจของเขาก็เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาเหมือนกัน
เพื่อระงับสิ่งที่ภรรยาคาดเดามา เขาจึงพูดขึ้นมาอย่างจนปัญญาว่า “แม้ว่าหญิงสาวจากตระกูลหลิงจะดูดี แต่คุณก็ยังต้องระมัดระวังเรื่องการแต่งงานครั้งนี้หน่อยนะ แล้วก็ไม่ต้องไปกังวลมากเกิน เดี๋ยวผมจะให้พ่อบ้านจัดเตรียมของฝากให้เธอนำติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย ส่วนเรื่องสร้อยข้อมือประจำตระกูลกง…คุณก็ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้น”
นายหญิงกงมองออกไปนอกหน้าต่าง และกระพริบตาอย่างแผ่วเบา “รอมานานตั้งหลายปี ฉันก็ต้องรู้สึกกังวลบ้างแหละนะ”
พอเหลือบมองไปที่เครื่องประดับที่หลิงมู่วานให้มานั้น ก็เห็นถึงความตั้งใจของเธอจริง ๆ
นายหญิงกงรู้สึกถูกใจกับมันมาก และต้องการให้ทั้งสองคนนั้นได้ลงเอยอยู่ด้วยกัน “ฐานะของตระกูลหลิงและตระกูลของเรามันมีช่องว่างระหว่างกลางอยู่นิดนึงก็จริง แต่เด็กหญิงมู่วานคนนั้นช่างสง่างาม และเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม อีกอย่างพวกเขา 2 คนต่างก็เคยเรียนด้วยกันที่ลอนดอน ดู ๆ ไปมู่วานก็เหมือนว่าจะชอบเส่าถิงจริง ๆ ด้วย ฉันคิดว่าพวกเขาเหมาะสมกันมากเลยนะ”
ฉืออวี้เฟิงที่กำลังฟังอยู่ก็เงียบนิ่ง
คุณย่ากับคุณปู่ชอบใจหลิงมู่วานมากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!?
นั่นทำให้เขารู้สึกกดดันมากกว่าเดิม!
…………
แสงอาทิตย์ในยามเช้า บวกกับสายลมที่พัดพากลิ่นของดอกไม้นานาชนิดที่กำลังเบ่งบานอยู่ในสวน จนทำให้ทั้งสวนนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกไม้
ในระหว่างที่กงเส่าถิงเดินไปที่สวน เขาก็ต่อสายหาเสี่ยวจินไปด้วย “เกิดอะไรขึ้นกับหลานซานที่กองถ่าย?”
เสี่ยวจินบ่นด้วยความโมโห “มีนักข่าววิ่งเข้ามาสัมภาษณ์พี่เยี่ยถึงในกองถ่ายค่ะ และบีบให้พี่เยี่ยตอบมาว่าตอนนี้พี่เยี่ยมีเสี่ยเลี้ยงอยู่จริงหรือไม่ แล้วยังพูดจาเสีย ๆ หาย ๆ กับพี่เยี่ยอีกด้วยนะคะ พี่เยี่ยเธอโกรธมาก ก็เลยเตะตัดขาชายคนนั้นไปแล้ว!!”
ดวงตาของกงเส่าถิงเบิกกว้าง “นี่สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น?”
พวกนักข่าวคงไม่วิ่งแจ้นเข้ามาถามคำถามเหล่านี้หรอก นอกจากว่าจะมีคนจุดประเด็นขึ้น
“ฉันก็ไม่แน่ใจค่ะ”
เสี่ยวจินเม้มปากคิด ก่อนจะพูดต่อ “ทีแรก พวกเขาก็มาดักรอกันอยู่หน้าทางออกของโรงแรมเมื่อเช้านี้! แถมยังพูดอีกว่าเสบียงต่าง ๆ ที่ส่งมาในกองถ่ายนั้นเป็นฝีมือของชายที่ส่งเสียเลี้ยงดูพี่เยี่ยค่ะ!”
กงเส่าถิงนิ่งเงียบพูดไม่ออก
งั้นก็แปลว่า นักข่าวพวกนั้นกำลังสงสัยว่า เขาส่งเสียเลี้ยงดูหลานซานเหรอ?
และเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ทั้งเธอและเขาได้แนบชิดตัวติดกันเมื่อคืน คิ้วของเขาเปื้อนรอยยิ้มออกมาทันที
แล้วตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าที่เธอเตือนเขาก่อนหน้านี้เรื่องข่าวอื้อฉาว ก็คือเรื่องนี้นี่เอง
สีหน้าของเขาผ่อนคลายลง และพูดกับเสี่ยวจินทิ้งท้ายไปว่า “ดูแลเธอให้ดี ๆ นะ”
“…”
ร่างสูงโปร่งของกงเส่าถิงเดินเร็วจนหลิงมู่วานเดินตามไม่ค่อยจะทัน เนื่องจากเธอสวมรองเท้าส้นสูงมาด้วย แต่เธอก็ตามมาได้ทันได้ยินกงเส่าถิงหยุดคุยโทรศัพท์พอดี
เธอได้ยินแค่เพียงประโยคสุดท้ายแบบไม่ค่อยชัดว่า “ดูแลเธอให้ดี ๆ…”
ภายใต้แสงแดดจ้านั้น เขายืนอยู่ท่ามกลางสวนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นจาง ๆ ของดอกไม้นานาพันธุ์ ออร่าในตัวเขาไม่เย็นชาเหมือนกับตอนที่อยู่ในห้องนั่งเล่น หากแต่ว่ามันเป็นอาร่าของความนุ่มนวลชวนหลงใหลของเด็กหนุ่มที่กำลังมีความรัก
เขา กำลังมีความรักเหรอ?
เสียงกระดิ่งดังขึ้นในใจของเธอ และในตอนที่เธอรีบพรวดพราดเข้ามาหาเขานั้น เขาก็ได้วางสายไปเรียบร้อยแล้ว
“พี่ถิงคะ”
เธอมองหน้าของกงเส่าถิงใกล้ ๆ
ใบหน้าของเขางดงามและมีเสน่ห์ แต่เมื่อดวงตาเรียวยาวคู่นั้นมองมาที่เธอ มันก็แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชาในทันที
เขาจ้องมองเธออย่างสงบและยิ้มให้อย่างไม่แยแส
ไร้ความรู้สึก
และดูเหมือนว่าเขาน่าจะเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว
แต่ท่าทางที่แสนจะอ่อนโยนของเขาเมื่อสักครู่ มันยังตราตรึงอยู่ในใจของเธออย่างชัดเจน
มันกระแทกใจของหลิงมู่วานอย่างรุนแรง
เธอพยายามรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้ แล้วชวนกงเส่าถิงคุย “พี่ถิงคะ เมื่อกี้ฉันเห็นพี่คุยโทรศัพท์ แล้ววันนี้ก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี ที่บริษัทยังมีเรื่องอะไรเหรอคะ?”
“หลิงมู่วาน”
เขาเรียกชื่อเธอขึ้น
เสียงทุ้มต่ำเป็นเอกลักษณ์นั่น ถึงแม้ว่าไร้ซึ่งความอบอุ่นนุ่มนวล แต่ก็ยังน่าฟังอยู่ดี
หลิงมู่วานยิ้มหวานก่อนจะตอบกลับไป “คะ”
กงเส่าถิงจ้องมองเธอด้วยความเฉยเมยเช่นนี้ แต่แววตาของเธอกลับเปล่งประกายสว่างไสว นั่นทำให้เขางงจนถึงกับต้องหรี่ตา “ฉันไม่ได้ชอบเธอ แล้วก็คงไม่มีทางแต่งงานกับเธอด้วย”
“…”
รอยยิ้มของหลิงมู่วานค้างเติ่งไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกปฏิเสธ
เธอเป็นเหมือนนางฟ้าในสายตาของชายหลาย ๆ คน และยังเป็น 1 ใน 4 หญิงงามที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลวงอีกด้วย
คนอย่างเธอนี่แหละ ที่ลงทุนลดน้ำหนักก่อนจะมาเจอเขา แต่สุดท้ายกลับถูกปฏิเสธ…
หลิงมู่วานรู้สึกจุกอก จนแทบจะทรุดลงไป
เห็นได้ชัดว่าดวงอาทิตย์ที่อยู่เหนือศีรษะของเธอนั้นมันดูอบอุ่น แต่คำพูดของกงเส่าถิงเมื่อสักครู่นี้ มันเหมือนน้ำเย็นจัดที่สาดเข้าใส่ตัวเธอ จนตัวเธอนั้นชาไปหมด
เธอใช้เวลาพักใหญ่ กว่าจะพูดออกมาได้ “เราต่างคนต่างก็ก็ห่างกันไปตั้ง 4 ปี และฉันเองก็ไม่คิดว่าเราจะได้กลับมาพบกันอีกในโอกาสแบบนี้ พี่ถิงคะ ถ้าพี่ไม่ชอบฉัน มันก็สมควรอยู่แหละค่ะ”
เธออ้างเหตุผลไปอย่างไม่เต็มใจนัก
ความหยิ่งทะนงนี้ทำให้ตัวเธอเองรู้สึกไม่ค่อยสบายใจมากเท่าไหร่ เธอยกมือขึ้นป้องแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมากระทบหน้า และยิ้มอย่างอาย ๆ ก่อนจะพูดอย่างสุภาพต่อไปว่า “วันนี้อากาศร้อนมากเลย เรากลับกันเถอะค่ะ”
พูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินจากไป
แม้ว่าเธอจะแสร้งทำเป็นสงบลง แต่เธอก็ยังไม่สามารถควบคุมความเร็วของฝีเท้าตัวเองได้
……
บรรยากาศของการนัดดูตัวในวันนี้กลายเป็นแปลก ๆ ไปในทันที
กงเส่าถิงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
หลิงมู่วานเองก็รู้สึกหดหู่ใจ
หลังมื้ออาหาร เธอแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะชวนผู้อาวุโสทั้งสองคุยต่อ จึงหาข้ออ้างขอตัวกลับก่อน
ฉืออวี้เฟิงเสนอตัวที่จะพาเธอไปส่งบ้าน
และในทันทีที่ฉืออวี้เฟิงกับหลิงมู่วานเดินออกไป นายใหญ่กงก็หันไปจ้องหน้าลูกชายตัวเองด้วยสายตาดุร้าย “ลูกพูดอะไรกับเธอไปรึเปล่า!?”
“ผมบอกเธอไปว่า…”
ในขณะที่ทั้งพ่อและแม่ของกงเส่าถิงจ้องมองเขาด้วยความอยากรู้ เขาก็เม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ผมบอกเธอไปว่าผมไม่ชอบการนัดดูตัวครั้งนี้”
พ่อของกงเส่าถิงเงียบพูดไม่ออก
คนเป็นแม่ก็เช่นเดียวกัน…
นี่เขากำลังต่อต้านพ่อกับแม่อยู่รึเปล่า?
ทั้งสองคนทำตัวไม่ถูกกันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่พ่อของเขาจะขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจออกมาโดยไม่ทันคิด “ลูกไม่ชอบนัดดูตัว!? หรือไม่ชอบเธอกันแน่!?”
บุคคลผู้เป็นแม่ทำหน้างง ก่อนจะถามสามีว่า “นี่คุณ ไม่ใช่ว่าคุณยืนยันอย่างหนักแน่นแล้วเหรอ ว่าลูกชายของคุณไม่มีทางชอบผู้ชายด้วยกันเอง? ทำไมคุณถึง…?”
กงเส่าถิงไร้เรี่ยวแรงที่จะอธิบายยืดยาว “พ่อครับแม่ครับ ผมรับรองว่า บางอย่างของผมยังปกติดีครับ!”
นายใหญ่กงยังคงสงสัยบางอย่างอยู่ “งั้นลูก…”
“ผมแค่ไม่อยากนัดดูตัวครับ”
“ถ้าลูกหาแฟนได้ซักคน ลูกคิดว่าพ่อกับแม่จะบีบบังคับให้ลูกต้องนัดดูตัวกับมู่วานอย่างนี้เหรอ?” นายหญิงกงติดใจหลิงมู่วานจริง ๆ และต้องการให้เธอได้เข้ามาเป็นสะใภ้ของตระกูลในวังอีกด้วย และที่สำคัญความต้องการนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง “อย่างไรก็ตาม แม่ดูแล้วมู่วานคนนี้เป็นผู้หญิงที่ดี ลูกกับมู่วานเจอกันบ่อย ๆ สนิทกันเข้าไว้ เดี๋ยวลูกก็ต้องชอบเธอได้แน่ ๆ”
กงเส่าถิงแสร้งทำเป็นหูทวนลม
จนคนเป็นแม่ต้องสะกิดแขน “แม่กำลังพูดอยู่นะ ลูกได้ฟังบ้างรึเปล่า?”
กงเส่าถิงก้มดูนาฬิกา “… ช่วงนี้ที่บริษัทกำลังจะมีโครงการใหม่ ผมต้องไปแล้วนะครับ”
สิ้นเสียงพูด เขาก็ลุกขึ้น จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เรียบร้อยก่อนจะเดินจากไป
ใบหน้าของบุคคลผู้เป็นแม่ดูเหมือนจะจนปัญญา และรู้สึกใจสลายกับลูกคนนี้ “เราจะละเลยเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว ฉันต้องคิดหาวิธีใหม่แล้วล่ะ…”