'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 37 จุดเปลี่ยนของบทบาท
เธอมองไปที่ชายสี่คนในชุดดำที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าประตูมีอาวุธครบมือ เธอกระพริบตาแล้วถามว่า "พวกคุณคือ?"
"บอสออกคำสั่งมาครับ จากนี้พวกเราทั้งสี่คนจะปกป้องคุณทุกย่างก้าว!" หนึ่งในสี่บอดี้การ์ดมองไปที่คนที่แก่กว่าเล็กน้อยแล้วเอ่ย
เยี่ยหลานซานพยักหน้าอย่างเชื่องช้าให้พวกเขาและต่อสายไปหากงเส่าถิงทันที: "ลุง บอดี้การ์ดสี่คนเลยงั้นหรอ?"
เขาไม่ตอบคำถาม: "เธอจะออกไปข้างนอกหรอ"
"อื้ม ฉันจะกลับไปกองถ่ายเพื่อถ่ายทำวันนี้"
“ให้พวกเขาตามไปปกป้องเธอเถอะ”
เยี่ยหลานซาน: "… "
เธอมองไปที่บอดี้การ์ดผู้สง่างามทั้งสี่แล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้: "ฉันเป็นแค่แสตนด์อินเอง มันจะดูเว่อร์ไปไหมถ้ามีบอดี้การ์ดถึงสี่คนตามไปด้วย"
กงเส่าถิงนิ่งเฉย: "ยังไม่พบคนที่อยู่เบื้งหลังเรื่องเมื่อวานตอนเย็นเลย ยังไงตอนนี้เธอก็ไม่ปลอดภัย"
เยี่ยหลานซานรู้ด้วยว่าเขาทำดีกับเธอ แต่การไปกองถ่ายอย่างใหญ่โตแบบนี้ เธอรับไม่ได้จริงๆ "ฉันจะดูแลตัวเอง…"
เขาขัดจังหวะเธอ: "เด็กดี"
“……”
น้ำเสียงที่อ่อนโยนเต็มไปราวกกับน้ำผึ้ง เสียงอ่อนโยนเหมือนกำลังกล่อมเด็ก
เยี่ยหลานซานถึงกับเดินสะดุด
เธอยังคงต้องการที่จะต่อต้าน แต่กงเส้าถิงก็พูดขึ้นมาก่อนว่า: "ฉันเกือบจะถึงที่หมายแล้ว ต้องวางสายก่อน"
วินาทีต่อมา "บี๊บบี๊บ" ดังขึ้นในหูของเยี่ยหลานซาน
เธอคว้าโทรศัพท์ไว้แล้วหันกลับไปมองบอดี้การ์ดที่ที่สูงใหญ่และองอาจทั้งสี่ที่อยู่ข้างหลัง เธอทําได้เพียงแค่ต้องเชื่อฟังเขาไปก่อน
…………
ณ สตูดิโอจ้งเหิง
ความร้อนของฤดูร้อนยังคงร้อนแถบจะแผดเผาแต่กองถ่ายก็ยังคงถ่ายทำ เยี่ยหลานซานเดินผ่านนักแสดงที่สวมชุดต่างๆ
ดวงตาที่มีความฝันมีความคาดหวังและความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ
แม้จะมีค่าจ้างเพียงเล็กน้อยและอาหารกลางวันแบบข้าวกล่องสำหรับนักแสดงเป็นกลุ่ม แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดดวงดาวที่พร่างพราวในใจของพวกเขาได้
เธอเคยเป็นหนึ่งในนั้น
สิ่งเดียวที่แตกต่างคือตอนนั้นเธอทําเพื่อเฉียวเฟยฝาน
วันแล้ววันเล่าทำงานเป็นแสตนด์อินที่สุดแสนจะอันตราย แต่ตราบใดที่เห็นเขาเธอก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
ตอนนี้เฉียวเฟยฝานได้ออกจากโลกของเธอไปแล้ว หลังจากนั้นเธอจึงรู้สึกโล่งใจ เธอกลับมาเดินบนเส้นทางสู่ความสว่างไสวอีกครั้ง ในหัวของเธอมีเพียงการแสวงหาความฝันเท่านั้น
ถนนสายนี้ในอนาคตเธอจะมีเพียงเธอคนเดียว!
ไม่ว่าจะเป็นความยากลำบากหรือการใส่ร้ายอะไรก็ตามเธอจะไม่หันหลังกลับแน่นอน
ดวงตาจิ้งจอกพราวสเน่ห์ของเธอเต็มไปด้วยความแน่วแน่
"ทีมงานอยู่ข้างหน้าเต็มไปหมด ฉันจะเข้าไปคนเดียวนะ"
เยี่ยหลานซานออกคำสั่งกับบอดี้การ์ดทั้งสี่คนที่ติดตามเธอและมาในกองถ่าย "จิ้งจอกเก้าหาง"
"หลานซาน!"
เยี่ยเสี่ยหมิ่นหนึ่งในทีมแสตนด์อินวิ่งผ่านมา
เพราะนามสกุลเยี่ยเหมือนกัน ดังนั้นในวันแรกของการเข้ามาทำงานในกองถ่ายทำให้เยี่ยเสี่ยวหมิ่นสนิทกับเยี่ยหลานซานมาก
เธออายุมากกว่าเยี่ยหลานซานหนึ่งปีและเธอมักเรียกแทนตัวเองว่าพี่เสมอและทั้งสองก็คนก็ยังเข้ากันได้ดีอีกด้วย
เมื่อเธอวิ่งเข้ามาก็ดึงเยี่ยหลานซานไปด้านข้างและเอ่ยถามอย่างหลบๆซ่อนๆว่า "หลานซาน เธอกับผู้กํากับต่ง พวกเธอเป็นอย่างที่ว่าจริงๆหรอ…ทีมงานในกองถ่ายเม้ากันให้แซ่ด! "
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดต่อไปแต่สายตาที่คลุมเครือของเธอก็ชัดเจนว่าสายตาที่มองมารู้สึกว่าเธอและผู้กำกับต่งมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม
"นี่มันเรื่องอะไรกัน?'
ข่าวลือที่เล่าลือกันมานั้นรุนแรงมาก ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นอีกแล้ว
เยี่ยเสี่ยวหมิ่นยังคงลดเสียงลงและพูดต่อ "ผู้กํากับต่งไม่ได้ออดิชั่นนักแสดงบทเซิงเกออยู่เหรอ? แม้ว่าตัวละครตัวนี้จะเป็นนางเอกเบอร์สามที่ได้รับบทนี้ไป แต่ได้ยินมาว่าบุคลิกของเธอมันมากเกินไป ผู้กํากับต่งให้ความสําคัญกับเรื่องนี้มาก และเขายังไม่ได้ตัดสินใจเลย แต่…วันนี้มีข่าวว่าผู้กำกับต่งได้ตัดสินใจที่จะให้เธอเล่นเป็นเซิงเกอ"
“เซิงเกอ!”
อย่าว่าแต่เยี่ยเสี่ยวหมิ่นที่ตกใจเลย แม้แต่เยี่ยหลานซานเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เพราะต้องเป็นแสตนด์อินของเกาซินซิน บางครั้งก็ยังมีโอกาสได้ไปถ่ายอีกหลายเรื่อง เพื่อให้เข้าใจถึงบทบาทนี้ได้มากขึ้นเธอจึงใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการอ่านนิยายต้นฉบับของ "จิ้งจอกเก้าหาง"
เซิงเกอนักบุญแห่งเผ่าพันธุ์สวรรค์
ช่วงแรกๆเธอเย็นชาโดดเดี่ยวและเย่อหยิ่งโดยไม่มีใครอยู่ในสายตาเธอ เธอเป็นเทพธิดาที่สูงส่ง
ในกลางเรื่องเธอหลงรักเจ้าแห่งสวรรค์โม่อู๋เฉิน นิสัยของเธอจึงกลายเป็นอ่อนโยนดั่งสายน้ำ ผู้หญิงที่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากล้างแค้นเพื่อคนที่รักและแลกกับชีวิตของเธอเป็นแสนๆปีเพื่อปกป้องเขา
ต่อมาเธอถูกโม่อู๋เฉินปฏิเสธอย่างเย็นชา ความหยิ่งผยองเธอไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าเธอถูกปฏิเสธได้และบวกกับความหมกมุ่น "ข้าไม่สามารถรับมันได้ คนอื่นๆก็อย่าได้คิดเลย" เธอเริ่มบ้าคลั่งและใช้อายุขัยครึ่งชีวิตของเธอเพื่อขโมยและขายความลับของเผ่าสวรรค์ จากเทพธิดาสาวกลายเป็นแม่มดที่ชั่วร้าย แม้ต่อหน้าไม่อู๋เฉินผู้เป็นที่รักในอดีต เธอก็ไม่ลังเลที่จะสังหารด้วยวิธีการที่โหดร้ายและไร้ความปรานี
ผู้ที่ตกอยู่ในความบ้าคลั่งไม่มีจุดจบและในที่สุดเธอก็ถูกตัดหัวโดยโม่อู๋เฉินและมู่หรงฉิง
เมื่ออ่านนิยายฉบับเต็มทั้งหมด และเมื่อเทียบกับมู่หรงฉิงแล้วเซิงเกอของเธอนั้นถือว่ามีบทบาทที่ใหญ่ที่สุด ความหลงใหลในความรักนั้นไม่เพียงพอที่จะอธิบายมรสุมชีวิตของเธอได้
ตัวละครที่มีบุคลิกหลากหลายเช่นนี้ผู้กำกับต่งจะขอให้เธอท้าทายมันจริงหรือๆหรอ? !
ดวงตาของเยี่ยหลานซานเป็นประกายเจิดจ้า
นั่นคือบทบาทที่เธอปรารถนา
เยี่ยเสี่ยวหมิ่นแอบคิด: ดูเหมือนว่าหลานซานเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ เป็นไปได้ไหมว่าข่าวลือที่เลวร้ายที่ทีมงานพูดนั้นไม่จริง?
ยิ่งเธอคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเป็นไปได้มากขึ้นเท่านั้น
เยี่ยเสี่ยวหมินจ้องใบหน้าเล็กๆขาวเนียนผ่านภายใต้แสงตะวันของเยี่ยหลานซานแล้วถอนหายใจอย่างอ่อนไหว "แต่พูดตามตรง ทิ้งพวกข่าวลือที่ทีมงานกองถ่ายเม้ากัน ฉันคิดว่าเธอน่ะเหมาะสุดแล้วกับการแสดงเป็นเซิงเกอเทพธิดาแห่งเผ่าสวรรค์จริงๆ"
ดวงตาสดใสของเยี่ยหลานซานฉายความดีใจ: "เสี่ยวหมิ่น ขอบใจนะ"
ทันทีที่เสียงของเธอเบาลง ไม่ไกลออกไปมีเสียงของเฉินปาผีก็ดังขึ้นมา "เฮ้ พวกเธอเห็นเยี่ยหลานซานไหม? เธอยังไม่มาอีกหรอ? ผู้กำกับกำลังตามหา! "
"เดี๋ยวมานะ"
หลังจากบอกลาเยี่ยเสี่ยวหมิ่นแล้วเยี่ยหลานซานก็เดินไปหาเฉินปาผีทันที
วันนี้เธอสวมเสื้อยืดสีขาวเรียบง่ายและกางเกงยีนส์ขาสั้นบวกกับใบหน้าบริสุทธิ์ที่ไร้เครื่องสำอาง
พอเห็นเฉินปาผี เธอก็ยิ้มทักอย่างสุภาพและไม่ได้กล่าวทักทายอะไร แล้วเดินตรงไปยังห้องรับรองของผู้กํากับต่ง
เฉินปาผีขมวดคิ้วอย่างดูถูกเหยียดหยามและพึมพำ: "ก็แค่เพราะเกาซินซินเลยทำมีชื่อเสียง เธอไม่มีทางหรอกไม่รู้ว่าท้องฟ้าสูงและหนาแค่ไหน! เหอะ!"
ถึงแม้จะด่าทอเธอ แต่ในฐานะผู้จัดการกองถ่ายแล้วเขาก็ยังคงเดินตามไปเพื่อทำตามหน้าที่
ผู้กํากับต่งเห็นเยี่ยหลานซานเดินมา แม้ใบหน้าจะไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นแฟนคลับ แต่บุคลิกโดดเด่นของเธอ ต่อให้เป็นแค่แสตนด์อินที่ไม่เคยมีชื่อเสียง แต่เธอกลับมีออร่าที่ไม่ธรรมดาเลย พอที่จะแย่งชิงความฮอตกับเหล่านางเอกในเมืองตี้ตูได้เลย
เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ครั้งแรกที่เขาเห็นเยี่ยหลานซานแสดงละคร เขารู้สึกว่าเขาปั้นเธอได้ หลังจากที่พบกันอยู่หลายครั้งก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอเป็นไข่มุกที่สูญหายไปในวงการบันเทิง
เธอเกิดมาเพื่อยืนอยู่บนเวทีใหญ่และเพลิดเพลินไปกับแสงไฟและแฟน ๆ
“ผู้กำกับต่งคะ”
เยี่ยหลานซานทักทายอย่างสุภาพและรอรับคำสั่ง
ผู้กำกับต่งยิ้มและยื่นสัญญาให้กับเธอ: "ผมออดิชั่นหาคนเล่นบทของเซิงเกอมานานแล้วและผมก็คิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดว่าเธอเหมาะที่สุดที่จะรับบทนี้ ยังไงก็ตาม…."
เขาหยุดและมองไปที่เยี่ยหลานซานด้วยรอยยิ้ม: "ฉันมีเงื่อนไข"