'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 119 ฉันคือราชินีฉันจะกลัวใคร!?
คนสามคนที่กำลังรอกงเส่าถิงในตอนแรกได้ยิน แต่ละคนก็หันไปมองยังทิศทางที่อยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมา
เยี่ยอีเหรินเดินมาอย่างรีบร้อน
เธอเอาบุหรี่Black Devilจากในมือของเยี่ยหลานซานโยนทิ้งลงไปในทะเล: “แกมันยิ่งอยู่ยิ่งไม่ได้เรื่องใหญ่แล้ว!”
ใจที่มันกังวลในตอนแรกแค่แตะก็แตกสลาย ได้รับการสัมผัสจากโลกภายนอก เยี่ยหลานซานราวกับถอดเปลือกนอกที่เงียบๆของเธอออกไปจนหมด มุมปากมีรอยยิ้มที่ทำให้คนรู้สึกเกรงกลัว
นั่นคืออาการก่อนจะระเบิด
น่าเสียดาย เยี่ยอีเหรินมองแล้วไม่เข้าใจ
เธอสั่งออกมาอย่างก้าวร้าว “แกออกไปจากวงการนักแสดงเดี๋ยวนี้เลยนะ! ห้ามแสดงอีกต่อไป!”
อย่างนี้ เธอกับเฉียวเฟยฝานก็ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว ความฝันที่จะแต่งงานเข้าไปอยู่ในตระกูลเฉียวของซินซินก็รักษาเอาไว้ได้แล้ว
เยี่ยหลานซานมองไปยังเยี่ยอีเหรินโดยไม่ได้เกรงกลัวเลยสักนิด นัยน์ตาเต็มไปด้วยแววหยิ่งยโสและดูถูก “คุณเอาสถานะไหนมาสั่งฉัน?”
“ฉันเป็นแม่ที่คลอดแกมา!”
“แม่ที่คลอดมา แต้ไม่ได้เลี้ยง ก็เรียกว่าแม่เหรอ?”
“แก-”
หลังจากที่เยี่ยอีเหรินที่โดนสวนกลับ ถึงได้รู้ตัวว่าที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอสองแม่ลูก
ยังมีฉืออวี้เฟิง
ยังมีเป๋าจิงเหริน
เธอเหมือนกับลาที่ถูกดึงหาง อยู่ๆก็เริ่มโจมตี ยกมือ แล้วก็สะบัดไปที่ใบหน้าของเยี่ยหลานซาน
ถ้าเกิดว่านี่ถูกแพร่ออกไป ลูกสาวของเธอคนนี้ไม่ได้เคารพเธอเป็นแม่ เธอยังมีหน้าไปเจอกับพวกชนชั้นสูงอีกไหม? จำเป็นที่จะต้องสักสอนบ้าง!
“หลานซาน!”
นัยน์ตาของฉืออวี้เฟิงหดลง แล้วก็พุ่งตัวไปด้านหน้าเพื่อจะห้าม
เป๋าจิงเหรินก็ยกมือขึ้นมาในทันทีเหมือนกัน
แต่ว่าพวกเขานั้นก็ยังไม่เร็วเท่าเยี่ยหลานซาน
เธอนั้นจับข้อมือของเยี่ยอีเหรินเอาไว้ได้ แล้วก็ดึงตัวเธอมาอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วตบกลับ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วแล้วจัดการกดเยี่ยอีเหรินเอาไว้บนราวบันได
ดวงตาของเธอ ส่งอารมณ์รุนแรง “คุณเคยตบฉันไปครั้งนึงแล้ว ยังคิดอยากจะตบครั้งที่สองอีกเหรอ?!!”
น้ำเสียงของเธอ โมโหมากๆ
เหมือนกับพายุดีเปรสชั่นที่ก่อตัวมานาน แค่เผลอไปนิดเดียว ก็จะเกิดพายุขึ้น
“แก……แกถึงกับกล้าทำกับฉันอย่างนี้เลยเหรอ? แกไม่กลัวฟ้าผ่าหรือไง?”
การสั่งสอนของเยี่ยอีเหรินทั้งหมดล้วนถูกทิ้งไว้ในที่ว่างเปล่าและห่างไกลแล้ว ตอนนี้ เธอเพียงต้องการใช้อารมณ์โมโหระบายความไม่พอใจที่อยู่ภายในใจของตัวเอง
“ฟ้าผ่า?”
อยู่ๆเยี่ยหลานซานก็หัวเราะออกมา หัวเราะออกมาได้ประหลาดมาก
เธอค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เยี่ยอีเหริน ลมหายใจถูกพ่นออกมาเบาๆ ตบลงไปบนใบหน้าที่ถูกแต่งจนเข้มของเยี่ยอีเหริน: “ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถูกฟ้าผ่า แต่ฉันรู้ว่า เพียงแค่ฉันใช้แรงนิดหน่อย วันนี้ในปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของคุณ” เธอมีความแข็งแรงมาก ในแววตามีความต้องการฆ่าอยู่ เยี่ยอีเหรินช็อกกับสถานการณ์ตรงหน้าจนพูดไม่ออก
อยู่ๆลมทะเลก็พัดแรงขึ้น คลื่นก็สาดกระทบกับตัวเรือไม่หยุด เสียงซ่าๆๆ เหมือนกับเสียงเรียกของความตาย
ในที่สุดเยี่ยอีเหรินก็สติแตก
เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นลูกของตนเองใช่ไหม?
ถึงกับจะฆ่าเธอที่เป็นแม่!
กลางลมทะเล ใบหน้าของเธอขาวซีดเหมือนกับถูกแปรงไปด้วยสีขาวปลอดชั้นหนึ่ง ต่อให้ไม่ใช่ผู้ชนะ แต่จะต้องสร้างบาดแผลให้เยี่ยหลานซานบ้าง แต่คิดไม่ถึงว่า……
เธอพูดตะกุกตะกักและเบิกตามองหญิงงามที่อยู่ตรงหน้า
ทั้งๆที่ดูแล้วก็เป็นคนนุ่มนิ่ม เหมือนกับซาลาเปาที่จะถูกบีบแบบไหนก็ได้ ทำไมแรงอาฆาตถึงได้แรงนัก?
ประสบความสำเร็จด้านการทำให้กลัวจนเยี่ยอีเหรินเกี่ยวจะฉี่รดกางเกงอยู่แล้ว เยี่ยหลานซานถึงได้ปล่อยเธอ
เธอดึงกระดาษทิชชู่เปียกข้างๆมาเช็ดมือไป แล้วก็ค่อยๆพูดเตือนออกมา “คุณหญิงเยี่ย ฉันจะเตือนคุณด้วยความใจกว้างอีกครั้ง มีบุญคุณเรื่องการเลี้ยงดูถึงจะมีสิทธิ์สอนได้ มิฉะนั้น พวกเราก็แค่คนแปลกหน้าที่มีสายเลือดซ้ำกัน ฉันไม่ใช่เยี่ยหลานซานเมื่อสองปีก่อนที่เพิ่งจะมาถึงตี้ตูแล้วโหยหาความรักจากแม่แล้ว ถ้าเกิดคุณยังด่าทอและทำร้ายร่างกายฉัน ต่อให้ฉันไม่สู้กลับ แต่ก็มีสิทธิ์ในการแจ้งตำรวจมาจับคุณ คุณเข้าใจไหม?”
“……”
เยี่ยอีเหรินเพิ่งจะดึงสติกลับมาจากความหวาดกลัวได้ สีหน้าเปลี่ยนไปสีม่วง อีกนิดก็เกือบจะโมโหจนอกแตกตายแล้ว
เธอชี้มายังเย่หลานซาน ครู่ใหญ่ที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ปัญหาร้ายแรงคลี่คลาย เกาซินซินวิ่งขึ้นมา จับเยี่ยอีเหรินมาดูแล “พี่ พี่ทำแบบนี้กับแม่ได้ยังไง!”
“เหอะ”
เยี่ยหลานซานหัวเราะ
รอยยิ้มนั้น ช่างเย็นเยียบ
เธอเหลือบมองเกาซินซิน แววตาดูถูกนั้นชัดเจน: “อย่ามาพูดเหมือนเราสนิทกัน เธอเป็นแค่แม่ของแก”
พูดจบ เธอตั้งใจพูดออกมาเสียงเบา: “เมื่อกี้แกสงสัยว่าทำไมฉันถึงทำแบบนี้กับคุณหญิงเยี่ย หรือว่า ก่อนหน้านั้นแกก็ยืนอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว? ถ้าเกิดเป็นห่วงคุณหญิงเยี่ยขนาดนี้ ทำไมตอนนี้เพิ่งจะวิ่งขึ้นมาล่ะ? แกกลัวอะไร?”
ทันใดนั้นใบหน้าของเกาซินซินก็ซีดเผือดในทันที
มีปากแค่หนึ่งปาก เห็นว่าหนทางทั้งหมดถูกดักเอาไว้แล้ว อธิบายเพิ่มขึ้นก็กลายเป็นการปกปิด
แต่ว่าเธอจำเป็นที่จะต้องสู้อธิบายต่อ: “เมื่อกี้ฉันตกใจจนทำอะไรไม่ถูก”
หันหน้ากลับไป จ้องมองแขนของเยี่ยอีเหริน ร้องไห้แล้วก็บอกออกมา: “แม่ หนูคิดไม่ถึงจริงๆ พี่จะทำกับแม่แบบนั้น ในตอนนี้สมองของหนูว่างเปล่า ก็เลยเพิ่ง……”
“เหอะ” เยี่ยหลานซานเลิกคิ้วขึ้นมาด้วยท่าทางหยิ่งผยอง แล้วพูดขึ้นมาตัดบทเธอ “ชัดเจนว่าแกกลัวตาย”
……
ฉืออวี้เฟิงมองลูกสาวของราชินีผู้แข็งแกร่งคนนั้น อดไม่ได้ที่จะหดคอลง: “น้าสะใภ้แข็งแกร่งจริงๆนะ สีหน้าเปลี่ยนไป ไม่ใจอ่อนเลย”
เป๋าจิงเหรินยักคิ้ว “ไม่อย่างนั้น แค่ซาลาเปาที่นุ่มนิ่มจะเอาอะไรมาเป็นอาสะใภ้ฉันล่ะ?”
ฉืออวี้เฟิงพูดออกมาอย่างหมดคำพูด “พี่ตามจีบเสี่ยวซือจือมาตั้งหลายปีแล้ว ยังไม่คิดจะยอมแพ้?”
“ถ้าพี่ไม่ได้ไปอยู่บนทะเบียนบ้านของเขา พี่ไม่มีทางยอมแพ้!”
ฉืออวี้เฟิงกลอกตามองบนในทันที: “ในตอนนั้นทำไมพี่ไม่บอกเสี่ยวซือจือออกไปตรงๆเลยว่าต้องการจะไปอยู่บนทะเบียนบ้านของเขา? พวกเขาเข้าใจกันว่าพี่น่ะชอบน้าของผม!”
“พวกเขาเป็นไอ้งั่งเหรอ? กงเส่าถิงไม่ยุ่งกับผู้หญิง ทำไมฉันต้องชอบเขาด้วย? แล้วฉันก็ไม่ได้ชอบทำร้ายตัวเอง!”
“แต่เสี่ยวซือจือก็ไม่ได้ชอบพี่อ่ะ……”
“ยังไงก็ความชอบทางเพศก็ยังปกติอยู่”
ฉืออวี้เฟิงกลายเป็นคนโง่ไปโดยสิ้นเชิงแล้ว: “ความชอบรื่องเพศของน้าก็ยังปกติอยู่ พี่ดูสิ เขาทำกับเยี่ยหลานซานก็……”
“เขาเพียงแค่เป็นปกติกับเยี่ยหลานซาน ผู้หญิงคนอื่นๆ ในสายตาของเขาไม่ได้ต่างอะไรกับผู้ชาย”
“……”
ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังซุบซิบคุยกัน เยี่ยหลานซานก็เดินมา ท่าทางเย็นชาเล็กน้อย: “ไปกันเถอะ”
“หา?”
ฉืออวี้เฟิงตกใจ พยักหน้าเหมือนท่อนไม้
ความเร็วในการเปลี่ยนสีหน้าของเขายังเร็วกว่าพลิกหน้าหนังสือ แค่นาทีเดียวก็ยิ้มออกมา ทำท่าทางประจบเอาใจ: “น้าสะใภ้ เมื่อกี้เท่ห์มากๆครับ!”
น้าสะใภ้!!!
เยี่ยหลานซานขมวดคิ้ว: “นายรู้มาตั้งนานแล้วเหรอ?”
เธอไม่ได้ว่าเพิ่งจะตอบตกลงคุณลุงไปเหรอ? จากนิสัยของคุณลุง ไม่น่าจะเป็นคนปากโป้งนี่?!
“!!!”
ฉืออวี้เฟิงเพิ่งรู้ว่าตัวเองนั้นพูดผิดไปแล้ว ก็รีบกลายเป็นเต่าหดตัวในกระดองทันที
เป๋าจิงเหรินหัวเราะออกมา ยิ้มออกมาอย่างยั่วยวน อธิบายแทนเสี่ยวชื่อจึ: “สายตาที่แม่ลูกคู่นั้นจ้องเธอนั้นไม่ยินยอมเลยนะ”
“ก็ไม่ใช่แค่วันสองวันเสียหน่อย”
ถึงแม้ว่าเมื่อกี้เยี่ยหลานซานจะโหดร้ายมาก แต่ว่าภายในใจเจ็บปวดก็เป็นเรื่องจริงเหมือนกัน
เธอทำว่าอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูดออกมา ทิ้งเพียงแค่แผ่นหลังที่ดูสง่างามสูงส่งไว้ให้ทุกคน
ด้านหลังของเธอ เป๋าจิงเหรินหัวเราะออกมาด้วยความพอใจ: “นี่ถึงจะเป็นผู้หญิงที่เป๋าจิงเหรินชอบ! เท่ห์มาก!”
ฉืออวี้เฟิงหลบจากหายนะได้ครั้งหนึ่ง ในพริบตาก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ยิ้มแล้วเดินมาเข้ามาใกล้ เดินเอาไหล่มาชนเธอเหมือนกับพี่น้องที่สนิทกันมาก “คำพูดนี้ของพี่ ทำไมฟังดูแล้วเหมือนว่าน้าสะใภ้เป็นผู้หญิงของพี่เลย?”
เป๋าจิงเหรินกลอกตามองบนอย่าไม่เกรงใจ ใช้นิ้วจิ้มเข้าไปที่หัวเขา หัวเราะออกมาอย่างมีเลศนัย ใบหน้าที่ตอนแรกงดงามอยู่แล้วมีรอยยิ้มที่ไม่ได้หวังดี
เธอโบกมือน้อยๆไปมา “ไม่เกรงใจน้าสะใภ้ในอนาคตของนายเลยนะ เชื่อหรือไม่เชื่อฉันจะตีแก”
……
เยี่ยหลานซานหลีกออกมาจากดาดฟ้าเรือ แล้วก็เดินลงไปที่ใต้ท้องเรือ
เพียงแต่ เพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ห้องโถงก็มีเสียงเปรี๊ยะแล้วก็เข้าสู่ความมืด……