'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 114 ทำไมถึงเศร้าใจเล็กน้อย?
สกุลเยี่ย เหตุผลที่เธอยังคงใช้จนถึงตอนนี้ก็เพราะให้ตัวเธอเองจำไว้ว่าในเวลานั้นเธอได้ถอนตัวออกจากตระกูลเกาอย่างไร
เธอจะใช้สกุลเยี่ย ชีวิตของเธอก็จะรุ่งโรจน์!
เธอจะตบพวกคนที่มองหน้าเธออย่างไม่ใยดี
แม้ว่าไม่สามารถให้เยี่ยหลานซานสืบทอดตำนานรุ่นต่อไปได้ แต่เธอก็จะเขียนการสืบทอดตำนานที่เยี่ยมยอดขึ้นมาใหม่
ทุกคนต่างปรบมือและโห่ร้องเสียงดังเนื่องด้วยฤทธิ์จากแอลกอฮอล์ “พี่น้องร่วมมือ! พี่น้องร่วมมือ! ร่วมือ!”
“………”
เยี่ยหลานซานหยิบไมโครโฟนขึ้นด้วยท่าทางมีความสุข หานเวยเองก็เตรียมเปิดทำนองเพลงจากในโทรศัพท์ของเธอ
เกาซินซินเหมือนกับถูกบังคับให้ยืนอยู่เช่นนั้น
เธอไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงแค่ฝึกปรือสมองของเธอ ออกแบบท่าเต้นให้เข้ากับการร้องเพลงของเยี่ยหลานซาน
สำหรับการเต้นแล้ว เธอเรียนรู้มาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย ดังนั้นแม้ว่าเธอจะไม่ได้เต้นตามมาตรฐาน แต่ก็ไม่ได้น่าประหลาดใจอะไรอาจพูดได้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจเต้นขนาดนั้น
จากนั้นผลลัพธ์ก็คือ…
เกาซินซินพ่ายแพ้ให้กับเยี่ยหลานซานอีกครั้ง!
เกาซินซินที่เพิ่งปรากฏตัวพร้อมกับกระแสที่ฮอตฮิต เธอได้กลายเป็นตัวประกอบอีกครั้งและถูกเพิกเฉยราวธาตุอากาศ
สายตาของคนเหล่านั้น ต่างจับจ้องไปยังหญิงสาวในชุดสีม่วงพาสเทล
แม้แต่เฉียวเฟยฝาน ในขณะนี้ก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังเยี่ยหลานซาน
เธอ…
ราวกับว่าเธอนั้นจะเป็นดาวโดดเด่นบนเวที
ทุกการเคลื่อนไหวของเธอ ทุกท่าทางรอยยิ้มของเธอนั้นน่าทึ่งและน่าหลงใหล
บทเพลงที่มาพร้อมความไพเราะ ภาพในอดีตของเขาและเธออดไม่ได้ที่จะปรากฎขึ้นในใจของเขา
ในทุกๆฉาก
ในทุกๆการกระทำ
ตั้งแต่ตอนที่ได้พบเธอ ได้คบกัน จนกระทั่งพาเธอไปยังบ้านตระกูลเกา ภาพฉากที่เธอยิ้มหัวเราะอย่างดีใจและกล่าว : ฉันจะไปในกองละครของคุณ ฉันอยากมองดูคุณพัฒนาไปเรื่อยๆจนคุณประสบความสำเร็จ
เขายอมรับว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หยิ่งในศักดิ์ศรี
เขาเป็นคนร่ำรวยที่เกิดมาพร้อมกับเงินทอง เขาเป็นที่ชื่นชมและรักของผู้คนมากมาย เขาควรจะคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีที่สุดถึงจะถูก ไม่ใช่การคบหากับตัวประกอบเล็กๆภายในกองถ่าย
หลักการที่ผิดปกติเช่นนี้เติบโตขึ้นทุกวันภายในใจ ทำให้เขาและเยี่ยหลานซานห่างกันมากยิ่งขึ้นในทุกวัน
ดังนั้น เมื่อเกาซินซินได้เข้ามา เขาก็ยอมรับเธอ
แต่ตอนนี้!
ทำไมจู่ๆถึงได้รู้สึกเสียใจเล็กน้อยเช่นนี้?
เยี่ยหลานซานนั้นเป็นดั่งอัญมณีที่มีฝุ่นเกาะอยู่มากมาย เขาคิดว่าเธอนั้นเป็นเพียงก้อนหินธรรมดาเท่านั้น แต่เมื่อเธอได้ส่องแสงสว่างขึ้น เขาจึงรู้สึกว่าตัวเขานั้นได้พลาดอะไรบางอย่างไป
เมื่อเยี่ยหลานซานร้องเพลงจบ เสียงปรบมือก็ได้ดังขึ้นทั่วทั้งห้องอีกครา
เมื่อได้เปรียบเทียบกับท่าจบที่น่าอึดอัดของเกาซินซิน เมื่อเธอหันศีรษะกลับมาก็เห็นว่าเฉียวเฟยฝานกำลังแสดงท่าทีและความรู้สึกที่สับสนกับเยี่ยหลานซาน เธอไม่สนใจเยี่ยหลานซาน เธอเดินไปด้านหน้าของเขา โอบแขนเขาพร้อมกับจงใจยิ้มหวานให้แก่เขา “พี่เฉียว พี่เยี่ยเธอร้องเพลงเพราะใช่ไหม พี่ถึงได้ฟังอย่างหลงใหลขนาดนั้น?”
เสียงที่มีเสน่ห์นั้นผสมปนเปกับเสียงหัวเราะเบาๆ แต่มันกลับราวกับฟ้าผ่าลงมายังใบหน้าของเฉียวเฟยฝาน
ร่างกายของเขานั้นแข็งทื่อทันที
ในสองวินาทีถัดมา เขาก็ส่งยิ้มที่แข็งทื่อให้กับเกาซินซิน “เมื่อกี้พ่อของผมบอกให้ผมออกไปสังสรรค์กับพวกเขา คุณอยู่กับกองถ่ายของคุณไปก่อน อีกเดี๋ยวผมจะกลับมา”
รอยยิ้มของเกาซินซินยังคงฝืนไว้
เฉียวเฟยฝานไม่ให้เธอปรากฏตัวในห้องโถงใหญ่ หรือว่า หากว่าเขาเองก็จะละทิ้งเธอและรู้สึกละอายใจ ถ้าอย่างนั้น เธอจะมีโอกาสพลิกผันได้อย่างไร?
เธอกัดริมฝีปากด้วยความน้อยอกน้อยใจ “เมื่อกี้พี่ดื่มไปเยอะแล้ว เดี๋ยวพี่ออกไปด้านนอกพี่ก็จะยังดื่มอีก ไม่อย่างนั้นให้หนูไปเป็นเพื่อนพี่ไหม หนูอาจช่วยกันไม่ให้พี่ดื่มได้”
เฉียวเฟยฝานเอาแขนของเขาออกจากแขนของเธอ “ผมเป็นผู้ชายจะมาให้คุณช่วยกันแอลกอฮอล์แทนได้อย่างไร คุณอยู่สนุกที่นี่เถอะ ผมเสร็จธุระเดี๋ยวผมกลับมา”
หลังจากกล่าวจบ เขาก็เข้าไปทักทายผู้กำกับต่งและจากไป เขาทิ้งเกาซินซินไว้เช่นนั้นราวกับลูกสุนัขที่ถูกทอดทิ้ง
เธอเฝ้ามองเขาที่กำลังเดินจากไป
เยี่ยหลานซานสังเกตเห็นรอยยิ้มฝืนของเธอ เธอเกิดความคิดภายในใจ : ความรักที่เกาซินซินไขว่คว้ามานั้นราวกับว่าไม่เป็นที่น่าพอใจนักแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝืนทนไปได้นานเท่าไหร่
นี่คือระยะห่างอย่างแท้จริง
ชายผู้สูงศักดิ์และนักแสดงธรรมดา เกาซินซินไล่ตามรอยเท้าของเฉียวเฟยฝานเสมอ ทำตามแบบเขาในทุกอย่าง
และเธอ เธอจะไม่เป็นคนแบบนั้น!
เยี่ยหลานซานนั้นยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเก่าและเธอจะขยันให้มากขึ้น!
เธอจะต้องยืนให้สูงกว่านี้ เธอถึงจะยืนเคียงข้างคนคนนั้นได้!
ก่อนหน้านี้นักแสดงเยี่ยหลานซานที่แข็งทื่อราวพระพุทธรูป ในตอนนี้ ในเวลานี้ เธอเต็มไปด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้!
หลังจากที่เยี่ยหลานซานได้ร้องเพลงอีกครั้งแสดงให้ทุกคนประหลาดใจ งานเลี้ยงเล็กๆก็งดงามอย่างสมบูรณ์ ทุกคนดื่มฉลองสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน
เยี่ยหลานซานมีทักษะการดื่มที่ไม่ดีนัก เธอดื่มไปเพียงสองแก้วก็เริ่มมีอาการมึนศีรษะ เธอถือน้ำน้ำผึ้งหนึ่งแก้วไปที่ระเบียง เธอยืนพิงบันไดเพื่อรับลม
หานเวยเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มสะใจบนใบหน้า “เธอเห็นสีหน้าของเกาซินซินหรือเปล่า หลักจากที่ถูกเฉียวเฟยฝานปฎิเสธไป เธอก็ทำหน้าซีดเซียวจนน่ากลัว”
เมื่อเห็นว่าเยี่ยหลานซานไม่ตอบอะไร เธอก็กล่าวต่อ “เฮอะ เธอคิดว่าเธอเป็นใคร คิดว่าจับเฉียวเฟยฝานได้แล้วจะเป็นสะใภ้ของตระกูลเฉียวงั้นสิ? อย่างที่ทุกคนรู้เฉียวเฟยฝานนั้นให้ความสำคัญกับผลประโยชน์มาก ให้เธอคบกับเฉียวเฟยฝานเล่นๆน่ะก็ได้อยู่หรอก แต่ถ้าจะให้แต่งเข้าบ้านนะ บอกคำเดียวเลยว่า ยาก นะจ๊ะ”
“………”
เยี่ยหลานซานเองก็ไม่อยากออกความคิดเห็นอะไรนัก
เกาซินซินนั้นเป็นคนที่ยอมแพ้อย่างง่ายดายงั้นใช่ไหมและเฉียวเฟยฝานเองก็ไม่ใช่คนที่ยอมฝืนทนกับกฏของคนรวยหรอก
แต่พวกเขาจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ?
ตอนนี้เธอคิดถึงเพียงแค่ความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกันระหว่างเธอกับคุณลุง
“ว้าววววววว”
จากนั้นก็มีเสียงเพลงดังขึ้น ทันใดนั้นเสียงหัวเราะร่าเริงดังมาจากทะเลอันเงียบสงบ ขัดกับความเงียบสงบในช่วงเวลาค่ำคืน
เยี่ยหลานซานมองไปตามทิศทางของเสียง
ร่างในชุดสีแดงมาพร้อมเรือสปีดโบ๊ทท่ามกลางแสงจันทร์
เธอยืนอยู่บนเรือสปีดโบ๊ท ผมยาวระดับเอวของเธอปลิวตามสายลม แสงเงาที่เป็นประกายในน้ำทะเลนั้นเป็นส่องสว่างอย่างงดงาม
แม้เยี่ยหลานซานจะเป็นหญิงสาว เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองเธอด้วยสายตาที่เป็นประกาย
“เธอสวยมาก”
เรือสำราญแล่นอย่างช้าๆ สปีดโบ๊ทก็หยุดอยู่ไม่ไกล หญิงสาวคนนั้นก็ลงจากสปีดโบ๊ทและขึ้นเรือสำราญ
เธอสวมชุดเดรสยาวสีแดงเพลิง ผมยาวเป็นลอนใหญ่ปลายผมพลิ้วไปตามสายลมอย่างแผ่วเบา
เมื่อมองผ่านแสงพระจันทร์ เยี่ยหลานซานก็มองเห็นใบหน้าที่งดงาม
ความสวยของเธอ ทุกท่าทีการย่างก้าวของเธอที่สามารถโจมตีทุกคนได้ ทำให้ทุกคนล้วนยอมสยบให้แก่เธอ
“เป๋าจิงเหริน?!”
หานเวยจำเธอได้ สีหน้าเธอมีความอิจฉาเล็กน้อย
เยี่ยหลานซานเอียงศีรษะและทำหน้าครุ่นคิด “เป๋าจิงเหริน? ชื่อนี้คุ้นจัง”
เป๋าจิ่งซื่อ?
เป๋าจิงเหริน?
หรือว่าเขาเป็นพี่น้องกัน?
สีหน้าหานเวยอิจฉาริษยา “นางแบบชั้นนำระดับนานาชาติแนวหน้าของประเทศ เป็นเพชรแห่งตระกูลเป๋า เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิ มีส่วนร่วมในการแสดงแบรนด์ชั้นนำตลอดทั้งปี เป็นที่รักแห่งวงการแฟชั่น สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งในเมืองนี้ ที่ฮอตฮิตเป็นประเด็นมากที่สุดก็คือ ครั้งหนึ่งเธอเคยให้คำสัญญาต่อหน้าสื่อ …”
เธอยิ้มและมองไปยังเยี่ยหลานซาน “คำกล่าวนี้เกี่ยวข้องกับเธอด้วย อยากฟังไหมล่ะ?”