'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 107 ตอบกลับอย่างสวยงาม
เฉียวหย่วนฟานดูเหมือนจะตระหนักว่าหลายคนไม่ได้ตั้งใจฟังคำพูดของเขา ดังนั้นสายตาของเขาจึงพุ่งไปที่กงเส่าถิง
ไม่คาดคิดเลยว่าชายคนนี้จะปรากฏตัวออกมาเอง ปกติแล้วทุกตระกูลทุกกลุ่มธุรกิจส่งเชิญไปยังตระกูลกงและตี้กรุ๊ป ล้วนแต่เป็นกงฉีกลินออกหน้าไปเชิญ วันนี้ลมอะไรพัดก็ไม่รู้ คุณชายที่ไม่สนใจโลกภายนอกถึงถูกลมพัดมานี่
เขาพูดจบและตรงไปที่กงเส่าถิงเพื่อเชิญ “เชิญคุณกงให้โอวาทบนเวทีหน่อยครับ”
โอวาท?
ใช้คำอะไรกันเนี่ย?
ริมฝีปากของเยี่ยหลานซานกระตุก
ในวันเกิดของเฉียวหย่วนฟานเขาขอให้ลุงขึ้นมาพูดบนเวที
เขาประจบสอพลอ? ยังอยากให้ลุงขึ้นเวทีอีกเหรอ?
กงเส่าถิงค่อยๆกดไฟแช็กและมองไปที่เปลวไฟสีฟ้าที่พุ่งทะยาน พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ “หนึ่งนาทีบนเวที ทำงานนอกเวทีสิบปี ฉันไม่สามารถร้องเพลงหรือเต้นรำได้ ดังนั้นฉันจะไม่สามารถขึ้นเวทีได้ ไม่เหมือน…. ”
เขาลุกขึ้น ดวงตาของเขากวาดไปทั่วทุกคน
จากฝูงชนจำนวนมากเขาพบเยี่ยหลานซานได้ในพริบตา
ภายใต้แสงไฟ ร่างกายของเธออาบไปด้วยสีทองจาง ๆ ส่องให้เห็นช่วงคิ้วและตาเธอจาง ๆ ของเธอซึ่งเป็นสัมผัสแห่งความน่าหลงใหลที่ทำให้ผู้คนหลงใหลโดยไม่ต้องปรุงแต่ง
เขามองไปที่เธอโดยตรง แววตาแปลก ๆ สะท้อนอยู่ในดวงตาที่ลึกล้ำของเขา
หลานซาน
ในขณะที่ทั้งสองสบตากัน เขาอดไม่ได้ที่จะเดินผ่านฝูงชนไปที่ด้านข้างของเธอ และจับเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา
แม้ว่าจะอยู่ห่างไกล แต่เยี่ยหลานซานยังคงอยู่ในสายตาของเขส
เธอหันศีรษะและจงใจหาหัวข้อที่จะคุยกับฉืออวี้เฟิง
กงเส่าถิงสอดส่ายสายตาและจับจ้องไปที่เกาซินซิน “เป็นการดีกว่าที่จะให้ลูกสะใภ้ของประธานเฉียวขึ้นมาบนเวทีเพื่อร้องเพลงให้ทุกคนฟัง”
“……”
“เธอเป็นนักแสดง มีความสามารถ เหมาะสมจริงๆ” กงเส่าถิงโยนไฟแช็กทิ้ง หยิบไวน์แดงบนโต๊ะ ยกแก้ว “สุขสันต์วันเกิดประธานเฉียว”
ทุกคนรีบยกแก้ว “สุขสันต์วันเกิดประธานเฉียว”
“……”
ซอมเมอลิเยร์นำไวน์ไปและส่งให้เฉียวหย่วนฟาน
เขายกแก้วขึ้น รู้สึกทำตัวไม่ถูก
จะดื่มก็ไม่เชิง ไม่ดื่มก็ไม่ใช่
ถ้าดื่มมัน ก็เท่ากับเห็นด้วยทางอ้อมกับข้อเสนอของกงเส่าถิงที่จะให้เกาซินซินขึ้นเวทีในฐานะสะใภ้ในอนาคตใช่หรือไม่?
ฮึ่ม ผู้หญิงคนนั้น!
เธอจะคิดเอาว่าเขายินดี มีดีอะไรกัน มีคุณสมบัติอะไรที่จะมาเป็นลูกใภ้บ้านเฉียวแล้วยืนต่อหน้าทุกคน
แต่ถ้าไม่ดื่มมันก็หมายความว่าไม่ให้เกียรติคุณชายหรอกหรอ?
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกคนมากมายที่กำลังมองเขาอยู่!
เขาถอนหายใจ ยิ้มอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างสุภาพ ชนแก้วกับกงเส่าถิงและส่งสัญญาณให้ทุกคน “เชิญ”
เยี่ยหลานซานเฝ้าดูจากข้าง ๆ และแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่
แม้ว่าผู้ลุงจะยกระดับตัวตนของเกาซินซิน แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่าเกาซินซินร้องเพลงเพี้ยน เธอร้องเพลง ใครจะฟังลงล่ะ?
ฮ่าฮ่าฮ่า ลุง ใจร้ายได้มากกว่านี้อีกไหมเนี่ย?!
“……”
ออกโรงปกป้องเธอ?
ในอดีตเยี่ยหลานซานจะคิดว่าลุงแค่มีน้ำใจที่จะช่วยเหลือเหมือนเพื่อน ๆ
แต่ตอนนี้ฟังแล้วมันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
แสดงออกถึงความสเน่หา~กลิ่นของความรู้สึก
เธอยิ้มเบา ๆ โดยไม่ตอบ
ในเวลานี้ บางคนในห้องโถงเริ่มโห่ร้องขึ้นมา พวกเขาทั้งหมดต้องการให้เกาซินซินร้องเพลงบนเวที
“พี่เฉียว คุณรู้ไหม ฉัน… ” ฉันร้องเพลง มันฟังได้ที่ไหนกัน
มีคนโห่ร้องมากขึ้นเรื่อย ๆ และใบหน้าของเฉียวหย่วนฟานก็ยิ่งขรึมขึ้น
เฉียวเฟยฝานมีความคิดอยู่ในใจ เขาส่งสายตาปลอบพ่อ ในขณะเดียวกันก็ปลอบเกาซินซิน”ฉันจะไปเตรียมตัว”
เกาซินซินเข้าใจในทันทีและพยักหน้าอย่างซาบซึ้ง
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่เพียงแต่เกาซินซิน แต่ศิลปินในแสงดาวภาพยนต์โทรทัศน์ทั้งหมดก็ขึ้นเวทีเพื่อร้องเพลงให้กับประธานที่เคารพ
เพลงนี้เป็นเพลง “พรุ่งนี้จะดีกว่าเดิม” ขับร้องโดยนักแสดงหญิงในการประชุมประจำปีของแสงดาว ภาพยนต์โทรทัศน์เมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้พูดได้ว่าไร้ที่ติ การประสานเสียงปกปิดเสียงเพี้ยนของเกาซินซิน ไม่ได้มีเรื่องน่าอาย
เกาซินซินแสดงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อเห็นเยี่ยหลานซานยืนอยู่ที่นั่นคนเดียวความคิดชั่วร้ายก็แวบเข้ามาในใจของเธอ
เขาหรี่ตาและตะโกนผ่านไมโครโฟน “พี่สาว คุณไม่ได้เตรียมเพลงให้ลุงเฉียวเหรอ?ช่วงนี้คุณก็ซ้อมตลอดหนิ!”
แม้ว่าเธอจะยังคงยิ้ม แต่คิ้วและดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยเรื่องตลก
ทุกคนมองตามเธอ —
ข้างฉืออวี้เฟิงมีหญิงสาวที่สวยงามยืนอยู่
เธอสวมชุดราตรียาวสีดำส่วนบนของกระโปรงมีการแต่งด้วยด้ายสีทองอย่างเรียบง่ายมีการปักลายฟีนิกซ์สีทองที่ชายเสื้ออย่างสง่างามซึ่งทำให้เธอดูสง่าและน่าสนใจยิ่งขึ้น
มันน่าทึ่งมากที่ได้เห็นในตอนแรก
แวบที่สองทำให้คนหลง
เมื่อถูกผู้คนจำนวนมากจ้องมอง เยี่ยหลานซานขมวดคิ้วเล็กน้อย โอเคเกาซินซิน เธออยากจะให้ฉันอับอาย?
เธอไม่รู้จริงๆว่าถ้าเธอขายหน้าจะนำประโยชน์อะไรมาสู่เกาซินซินได้ แต่ถูกขังไว้ที่นี่ หากเธอหลบหน้า เธอก็กลัวว่าเธอจะต้องทำให้หวงเจวี๋ยกรุ๊ปอับอาย
เธอต้องยอม
ดวงตาสีเข้มของเธอมองตรงไปที่เกาซินซิน และมุมริมฝีปากของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มสง่า “เอาล่ะงั้นก็เอาตามที่เราซ้อมก่อน ฉันร้องเพลง เธอเต้น”
เกาซินซิน: “……?”
แม้ว่าเธอจะรู้สึกหัวเสียเล็กน้อยที่เยี่ยหลานซานแก้เกมส์ แต่โชคดีที่การเต้นเป็นจุดแข็งของเธอและเธอพอจะรับมือกับมันได้
“พี่สาว เชิญค่ะ”
เธอเว้นตำแหน่งนักร้องนำไว้ให้ รอเยี่ยหลานซาน
ฉันเคยได้ยินเธอร้องเพลงมาก่อน มันน่าเกลียดจริงๆ แค่คำเดียวก็ฆ่าคนได้ แม้ว่าเธอจะเรียนอย่างหนักในภายหลัง แต่ข้อบกพร่องของพรสวรรค์นี้ก็ไม่สามารถแก้ไขได้
วันนี้ เธอจำทให้ยัยบ้านนอกคนนั้นละอายใจสักครั้ง!
เยี่ยหลานซานยกเท้าขึ้นและเดินขึ้นไปบนเวทีเดินอย่างมั่นคงราวกับราชินี
สายตาของกงเส่าถิงจ้องตามเธอและอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เกาซินซินกล้าที่จะชวนเธอร้องเพลง มีโอกาสชนะ เขาเป็นห่วงเธอในตอนแรก แต่เมื่อเห็นว่าเธอนิ่งมาก เขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเธอจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆแน่
เขากำลังรออยู่
รอให้ผู้หญิงคนนี้โจมตีอย่างตระการตา
……
เยี่ยหลานซานไม่ทันจะได้พูดอะไรสักหน่อย ก็เดินมาถึงกลางเวท่
ทันใดนั้นแสงไฟบนเวทีก็ค่อยๆหรี่ลงและในที่สุดก็กลายเป็นแสงสีขาวขุ่น
เมื่อมองย้อนกลับไป เกาซินซินหัวเราะ และเมื่อเกาซินซินรู้สึกไม่ดี เธอก็เปิดปากออก—-
“บินไปกับสายลม ให้สายลมโอบกอด
ล่องลอยไปในสายลม ในอ้อมกอดของสายลม … ”
เมื่อเยี่ยหลานซานพูดทุกคนก็ตกใจ
เสียงนั้น…..
มันเซ็กซี่
มันแหบ
มันคลาสสิค
มันเท่ห์
ด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออันเป็นเอกลักษณ์ของเขาเอง
เธอยืนอยู่บนเวทีโดยถือไมโครโฟนไว้ในมือทั้งสองข้างและโยกตัวเล็กน้อย
นกฟีนิกซ์บนกระโปรงของเธอพริ้วตามเธอเบา ๆ และลอย ราวกับว่าเธอกำลังจะสลัดขนนก และเริ่มการเกิดใหม่
แสงนั้นกลายเป็นเสริมให้เด่นและร่างกายของเธอดูเหมือนจะเปล่งแสงสีทองออกมา
การจัดการการแสดงออกของเกาซินซินอยู่เหนือการควบคุมโดยสิ้นเชิง