บทที่ 257 วงแหวนเพลิงพิโรธ

“โฮกกก!”

“กรรร!”

“ตึก ตึก ตึก!”

เสียงร้องและเสียงสัตว์อสูรวิ่งดังมาจากที่ไกล ๆ

ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง หนิวลี่ก็รับรู้ได้ด้วยพลังจิตแล้ว

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างประหลาดในชั่วพริบตา หนิวลี่หันไปถามมิเรียมว่า “อีกาพิษเพลิงใต้พิภพเป็นสัตว์อสูรระดับสามจริง ๆ เหรอ”

มิเรียมอธิบายว่า “อีกาพิษเพลิงใต้พิภพระดับต่ำสุดเป็นสัตว์อสูรระดับสาม แต่สัตว์อสูรก็สามารถเพิ่มระดับได้ แม้จะค่อนข้างยาก แต่ถ้ามีจำนวนมาก ก็ต้องมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สามารถขึ้นไปถึงระดับสี่ ระดับห้าได้”

หนิวลี่พึมพำกับตัวเอง “งั้นก็หมายความว่า ในกลุ่มอีกาพิษเพลิงใต้พิภพนี้ ยังมีตัวที่เก่งกาจอยู่ด้วย!”

“หมายความว่ายังไง?” มิเรียมสงสัย

หนิวลี่ยิ้มขื่น “เรื่องใหญ่แล้ว อีกาพิษเพลิงใต้พิภพนี่รู้จักไล่ต้อนสัตว์อสูรมาสู้กับพวกเรา ดูท่าแล้ว ในกลุ่มอีกาพิษเพลิงใต้พิภพนี้คงมีอีกาพิษเพลิงใต้พิภพระดับสูงปรากฏตัวขึ้น ฉันว่าอย่างน้อยก็ต้องเป็นสัตว์อสูรระดับแปดขึ้นไป!”

“อีกาพิษเพลิงใต้พิภพระดับแปด!” มิเรียมอ้าปากค้าง จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปพลางถาม “นายบอกว่ามีสัตว์อสูรจำนวนมากกำลังบุกมาทางพวกเราเหรอ?!”

หนิวลี่พยักหน้า แล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าคงไม่มีทางซ่อนฝีมือได้แล้ว ทุกคนเตรียมพร้อม เตรียมโจมตีอย่างเต็มกำลัง!”

มิเรียมและคนอื่น ๆ สูดหายใจลึก แล้วเริ่มเตรียมตัวกันอย่างเงียบ ๆ

หนิวลี่หันไปพูดกับพ่าวเม่ยว่า “เตรียมพลังงาน ปืนอนุภาคขนาดเล็ก อย่ายิงพลาด”

พ่าวเม่ยพยักหน้า

ครู่ต่อมา สัตว์อสูรที่ถูกอีกาพิษเพลิงใต้พิภพไล่ต้อนมาก็ปรากฏตัวให้เห็นทั้งหมด

นี่คือกลุ่มสัตว์อสูรหลากหลายชนิด มีทั้งระดับสูงและระดับต่ำ ระดับสูงมีสัตว์อสูรระดับหก ระดับเจ็ด ส่วนระดับต่ำก็อย่างน้อยระดับสาม ดูเหมือนจะมีจำนวนหลายร้อยตัว!

“ไอ้อีกาบ้า! ใช้หมาป่าไล่เสือสินะ สมัยนี้สัตว์อสูรก็รู้จักใช้กลยุทธ์กันแล้ว” หนิวลี่กลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกขมขื่นในใจ

สัตว์อสูรทั้งหลายต่างวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว ไม่เลือกทางหนี โดยไม่ทันสังเกตว่าพวกมันถูกล่อให้วิ่งมาทางนี้โดยอีกาพิษเพลิงใต้พิภพขนาดใหญ่

และที่อยู่ด้านหน้าของสัตว์อสูรเหล่านั้น สิ่งแรกที่จะต้องเผชิญก็คือกลุ่มของหนิวลี่

“พ่าวเม่ย!” หนิวลี่ตะโกนเรียก

พ่าวเม่ยยกมือทั้งสองขึ้นทันที ลูกแสงสีขาวจ้าปรากฏขึ้นตรงหน้ามือทั้งสอง เล็งไปยังสัตว์อสูรบ้าคลั่งที่กำลังวิ่งเข้ามา

หนิวลี่จ้องมองอย่างเคร่งเครียด รอให้สัตว์อสูรเหล่านั้นเข้ามาใกล้ภายในระยะสามสิบเมตร หนิวลี่ตะโกนสั่งเสียงดัง

“ยิง!”

ลำแสงสีขาวจ้าพุ่งออกจากมือทั้งสองของพ่าวเม่ยทันที พุ่งตรงไปข้างหน้าเป็นเส้นตรงราวกับสายฟ้าไปไกลกว่าร้อยเมตร ทะลุร่างของสัตว์อสูรที่กำลังตื่นตระหนกนับสิบตัวตลอดทางลำแสงตกลงบนพื้น หลังจากหดตัวลง คลื่นสีขาวจ้าวงหนึ่งแผ่ขยายออกไปโดยรอบ ครอบคลุมพื้นที่ในรัศมีหนึ่งร้อยเมตร ภายในคลื่นสีขาวจ้านั้น สัตว์อสูรที่กำลังวิ่งอยู่หายวับไปท่ามกลางเสียงร้องอย่างทรมาน กลายเป็นอนุภาคเล็ก ๆ

แสงสีขาวจ้าแผ่ขยายออกไปจนถึงจุดสิ้นสุดห่างจากการป้องกันของหนิวลี่ไม่ถึงสิบเมตร แต่นอกรัศมีสิบเมตรนั้น เสียงวิ่งของสัตว์อสูรหายไปเกือบหมดในชั่วพริบตา

เมื่อเห็นภาพนี้ แม้แต่หนิวลี่ที่เตรียมใจไว้แล้วก็ยังต้องเบิกตาโพลงอ้าปากค้าง ส่วนเอลฟ์น้อยและคนอื่น ๆ ถึงกับตาเป็นประกายมองดูพ่าวเม่ยด้วยความชื่นชม

“นายท่าน พลังงานถูกใช้ไปเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ถึงขีดจำกัดที่อาจทำให้ระบบล่ม ขอรับการเติมพลังงาน” พ่าวเม่ยพูดอย่างเย็นชา

“บ้าเอ๊ย ฉันว่าทำไมพลังทำลายล้างถึงมากขนาดนี้ ที่แท้ก็ใช้พลังงานไปเยอะมากนี่เอง” หนิวลี่รู้สึกเจ็บปวดในใจ พลังงานเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของพ่าวเม่ยต้องใช้พลังงานพื้นฐานเกือบหนึ่งหมื่นหน่วยในการเติม แม้แต่เหลิงต้านก็ต้องใช้เวลาสิบชั่วโมงในการดูดซับอย่างต่อเนื่อง

โชคดีที่โลกนี้มีพลังงานธรรมชาติเพียงพอและบริสุทธิ์กว่ามาก ถ้าเป็นในโลกมนุษย์ จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเติมพลังงาน

หนิวลี่รีบนำพลังงานพื้นฐานหลายพันหน่วยจากคลังสำรองของเหลิงต้านมาให้พ่าวเม่ย ท่ามกลางเสียงเคลื่อนไหวของกระดูกและกล้ามเนื้อ พ่าวเม่ยกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

การใช้พลังงานมากก็แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของมัน

หลังจากแสงสีขาวจ้าหายไป บนพื้นดินในรัศมีร้อยเมตรด้านหน้าปรากฏพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ ต้นไม้ ดอกไม้ หญ้า และสัตว์อสูรทั้งหมดหายไปอย่างสิ้นเชิง

ภายใต้ปืนอนุภาคขนาดเล็กอันทรงพลังของพ่าวเม่ย ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นอนุภาคไปหมด

“พวกเรารีบไปกันเถอะ”

หนิวลี่ไม่ได้ลืมอันตรายที่อยู่ตรงหน้า เขาตะโกนดังลั่นแล้วนำหน้าวิ่งไปข้างหน้า

ทุกคนรีบตามไปอย่างรวดเร็ว

ในตอนนี้ อีกาพิษเพลิงใต้พิภพบนท้องฟ้าก็ถูกปืนอนุภาคขนาดเล็กของพ่าวเม่ยข่มขู่เอาไว้ พลังอันทรงอำนาจนั้นไม่ใช่สิ่งที่สัตว์อสูรระดับต่ำหรือระดับสูงจะทำได้ มันเป็นอาวุธที่สามารถสังหารสัตว์อสูรระดับสูงได้ในวงกว้างในพริบตา

ผู้นำที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่อีกาพิษเพลิงใต้พิภพเงียบไป มองดูหนิวลี่และคณะที่กำลังบุกทะลวงไปทางทิศเหนืออย่างรวดเร็วด้วยสายตาเฉยเมย โดยไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ

ในทางกลับกัน กลุ่มนักผจญภัยที่อยู่ด้านหลังดูเหมือนจะอ่อนแอลงเรื่อย ๆ อีกาพิษเพลิงใต้พิภพจำนวนมากสนใจและเข้าไปโจมตี ทำให้จำนวนคนในกลุ่มนักผจญภัยลดลงอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาเหลือเพียงสี่คนที่รวมตัวกันอยู่ในโล่ผู้พิทักษ์ เดินไปพร้อมกับต่อสู้ไปด้วย

“กา กา กา!”

เสียงร้องของอีกาขนาดใหญ่ดังขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง ดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างที่สำคัญ อีกาพิษเพลิงใต้พิภพนับไม่ถ้วนรวมตัวกันอีกครั้ง ล้อมวงไล่ตามหนิวลี่และกลุ่มคน

“บ้าเอ๊ย พวกอีกาบ้านั่นตามมาอีกแล้ว ฉันจะจัดการพวกมันอย่างหนักเลย!” หนิวลี่ตัดสินใจอย่างดุดัน เขาหมุนตัวและหยุดยืน ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาร่ายคาถาโบราณ

“ธาตุไฟแห่งสวรรค์ จงฟังคำบัญชา รวมพลัง!”

เมื่อเวทมนตร์โบราณถูกเปล่งออกมา ธาตุต่าง ๆ ในรัศมีเกือบพันเมตรก็ตอบสนองในทันที

เวทมนตร์โบราณที่เปล่งออกมาเป็นเวทมนตร์นั้น ขึ้นอยู่กับพลังจิตวิญญาณ ยิ่งพลังจิตวิญญาณแข็งแกร่ง พลังเวทที่ถูกผูกมัดก็จะยิ่งทรงพลัง หากพลังจิตวิญญาณแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่ง การเปล่งเวทมนตร์โบราณออกมาอาจถึงขั้นพลิกแผ่นดินและทำให้ภูเขาราบเป็นหน้ากลองได้

พลังจิตวิญญาณของหนิวลี่นั้นถือว่าเหนือกว่าคนทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับการใช้เวทมนตร์โบราณแล้ว ก็ถือว่าเพียงพออย่างหวุดหวิด

ดังนั้น หากหนิวลี่ต้องการใช้เวทมนตร์โบราณที่ทรงพลัง เขาจำเป็นต้องทุ่มเทสุดกำลัง อีกทั้งยังต้องรวมพลังจิตวิญญาณของเอลฟ์น้อยและจิ้งจอกสาวเข้าด้วย ไม่เช่นนั้น ธาตุทั้งหลายจะเพียงแค่ตอบสนอง แต่จะไม่แปรเปลี่ยนเป็นเวทมนตร์

เมื่อพลังจิตวิญญาณของเอลฟ์น้อยและจิ้งจอกสาวรวมเข้าสู่จิตสำนึกของหนิวลี่ ในชั่วพริบตา พลังจิตวิญญาณของหนิวลี่ก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

ดวงตาของเขาเปล่งประกายวูบหนึ่ง หนิวลี่เปล่งเวทมนตร์โบราณออกมาอีกครั้ง

“ธาตุไฟแห่งสวรรค์ จงฟังคำบัญชา รวมพลัง!”

ธาตุที่ตอบสนองถูกดึงดูดด้วยพลังจิตวิญญาณ ทันใดนั้นก็เริ่มหลอมรวม ชั่วครู่ต่อมา ธาตุไฟในรัศมีพันเมตรถูกบีบอัดเหลือเพียงสิบเมตร ทำให้ท้องฟ้าในรัศมีสิบเมตรนั้นปราศจากธาตุอื่น และกลายเป็นสีแดงอ่อน

“ธาตุไฟแห่งสวรรค์ จงฟังคำบัญชา บีบอัด!”

ธาตุไฟในรัศมีสิบเมตรถูกบีบอัดลงเหลือเพียงหนึ่งเมตร สีแดงอ่อนเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ธาตุไฟมหาศาลกลายจากสิ่งไร้รูปเป็นสิ่งที่มีรูปร่างในชั่วพริบตา หนิวลี่ก็มีเหงื่อเม็ดโตหยดลงมาบนหน้าผากในขณะนี้เช่นกัน

เขากัดฟันแน่น เปล่งเสียงอีกครั้ง “ธาตุไฟแห่งสวรรค์ จงฟังคำบัญชา วงแหวนเพลิงพิโรธ!”

พร้อมกับการเปล่งเสียงครั้งสุดท้ายนี้ หนิวลี่ก็อ่อนยวบลงราวกับหมดเรี่ยวแรง

อับเนอร์ที่ได้รับคำสั่งไว้ก่อนแล้วรีบเข้าไปประคองไว้ทันที ส่วนอีกด้านหนึ่ง เอลฟ์น้อยและจิ้งจอกสาวก็มีสีหน้าซีดเผือดเช่นกัน ราวกับได้รับบาดเจ็บในทันใด พวกเขาถูกพ่าวเม่ยประคองไว้เช่นกัน

เบื้องหน้าของทุกคน ธาตุไฟมหึมาที่ถูกบีบอัดอยู่ภายในระยะหนึ่งเมตร หลังจากหนิวลี่ร่ายเวทมนตร์สุดท้าย ธาตุไฟที่หมุนวนอยู่ดูเหมือนจะตอบสนองต่อการชี้นำลึกลับบางอย่าง ในชั่วพริบตาก็เปลี่ยนเป็นวงกลม พลังธาตุไฟที่หมุนวนพุ่งตรงไปยังฝูงอีกาพิษเพลิงใต้พิภพที่มืดทะมึนอยู่บนท้องฟ้า

“กา กา กา!”

สัญชาตญาณของสัตว์อสูรนั้นแข็งแกร่งน่าตกใจ ฝูงอีกาพิษเพลิงใต้พิภพขนาดใหญ่ที่ไล่ตามมารู้สึกถึงกลิ่นอายแห่งความพินาศในทันที พวกมันต่างตกใจไม่ไล่ตามอีกต่อไป พยายามจะบินกลับ แต่อีกาพิษเพลิงใต้พิภพด้านหลังยังคงบินพุ่งไปข้างหน้า ในชั่วพริบตาอีกาพิษเพลิงใต้พิภพบนท้องฟ้าก็วุ่นวายไปหมด อีกาพิษเพลิงใต้พิภพจำนวนไม่น้อยร่วงหล่นลงพื้น

ในขณะนี้ เวทมนตร์โบราณ วงแหวนเพลิงพิโรธ ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ธาตุไฟที่หมุนวนพองตัวขึ้น วงแหวนไฟที่ชัดเจนก็ระเบิดออกทันที ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เพียงไม่กี่วินาทีก็มีขนาดใหญ่ถึงหลายสิบเมตร และยังคงขยายตัวอย่างรวดเร็ว

วงแหวนไฟกำลังหมุน ภายใต้การหมุนของธาตุไฟอันมหึมา อีกาพิษเพลิงใต้พิภพนับไม่ถ้วนบนท้องฟ้าก็กลายเป็นประกายไฟมากมายภายใต้วงแหวนไฟ ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้อีกาพิษเพลิงใต้พิภพจำนวนมากตื่นตระหนกและแตกฝูงอย่างไร้ทิศทาง

ในขณะที่วงแหวนไฟยังคงขยายตัวและเติบโตขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ชั่วครู่ต่อมา บนท้องฟ้ามีเพียงเปลวไฟลุกโชนไปทั่ว ไม่เห็นอีกาพิษเพลิงใต้พิภพสักตัวส่งเสียงร้อง

แม้ว่าบนพื้นดินยังมีอีกาพิษเพลิงใต้พิภพที่เหลืออยู่จำนวนมาก แต่หลังจากสูญเสียอย่างหนัก พวกมันก็ตกใจกลัววงแหวนไฟขนาดมหึมานั้น ไม่กล้าบินขึ้นมา ต่างหดตัวซ่อนอยู่ในกิ่งไม้ใบไม้ รอคอยให้ธาตุไฟอันน่าสะพรึงกลัวสลายไป

หนิวลี่เห็นภาพนี้แล้วก็ยิ้มอย่างมีชัย วงแหวนเพลิงพิโรธไม่ทำให้ผิดหวัง พลังของเวทมนตร์โบราณระดับสูงนี้ช่างทรงพลังจริง ๆ

ในขณะเดียวกัน นักผจญภัยที่เหลืออีกสี่คนในกลุ่มซึ่งถูกหนิวลี่ทิ้งห่างไปไกลแล้ว ต่างก็มองดูเปลวไฟที่ลุกโชนบนท้องฟ้าด้วยความตกตะลึง ความรู้สึกสั่นสะเทือนในใจไม่อาจบรรยายได้

ส่วนในพื้นที่อื่น ๆ ของป่าไร้ทางกลับ ก็มีผู้แข็งแกร่งหลายคนรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางนี้ ต่างก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นไม่น้อย ครั้งนี้ผู้แข็งแกร่งที่บุกเข้าไปในเส้นทางโบราณของดาวรกร้างนี้มีไม่น้อยเลยจริง ๆ