บทที่ 155 กลุ่มนักผจญภัย
เงยหน้ามองชายร่างใหญ่โตนั้น หนิวลี่เหม่อลอยไปชั่วขณะ
พอได้สติ หนิวลี่รีบลุกขึ้นยืนแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีท่านนักดาบผู้ยิ่งใหญ่อับเนอร์ คุณมีธุระอะไรกับฉันเหรอ?”
“เรียนท่านนักเวทผู้ทรงเกียรติ ผมเป็นนักดาบผู้ยิ่งใหญ่ระดับสูงเผ่ายักษ์ หวังว่าจะได้ติดตามท่าน”
“ติดตามฉัน?” หนิวลี่รู้สึกงุนงง
“ใช่แล้ว ผมขอร้องให้ท่านนักเวทรับผมไว้เถอะ” อับเนอร์ดูจริงใจมาก ใบหน้าซื่อ ๆ แบบเผ่ายักษ์ทำให้เห็นได้ทันทีว่าเป็นคนตรงไปตรงมา
หนิวลี่มองคนแคระ หวังว่าเขาจะอธิบายให้ฟัง
แต่คนแคระกลับมองหนิวลี่อย่างประหลาดใจ “นักเวทหนิวลี่ ท่านไม่รู้เหรอว่านักเวทต้องมีผู้ติดตาม? ในสมัยโบราณ นักดาบผู้ยิ่งใหญ่คือผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ที่สุดของนักเวท!”
หนิวลี่เข้าใจแล้ว เรื่องนี้เคยอ่านเจอในหนังสือ นักดาบผู้ยิ่งใหญ่กับนักเวทถือเป็นคู่หูที่เข้ากันได้ดี เป็นการผสมผสานระหว่างการโจมตีระยะใกล้และไกล โดยเฉพาะนักเวทที่เก่งกาจมักจะมีนักดาบหลายคนอยากติดตาม เพราะอยู่ข้างนักเวทมีโอกาสรอดชีวิตสูง
โดยเฉพาะบนดาวรกร้างที่ห้ามใช้อาวุธเทคโนโลยีขนาดใหญ่ การมีนักเวทอยู่ด้วยถือเป็นหลักประกันความอยู่รอดที่แข็งแกร่ง
หนิวลี่มองสีหน้าจริงใจของชายร่างยักษ์ตรงหน้า รู้สึกสะท้อนใจ จึงพยักหน้าเบา ๆ “ได้ ต่อไปนายก็ตามฉันไปแล้วกัน”
อับเนอร์ดีใจจนยิ้มออกมา แล้วพูดอย่างเขินอาย “ท่านนักเวท ผมไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้ว จะขอ…”
หนิวลี่มองอับเนอร์อย่างขบขัน แล้วโบกมือเรียกบริกรในบาร์
“ท่านนักเวทผู้ทรงเกียรติ ท่านต้องการอะไรครับ?” บริกรถามอย่างนอบน้อม
“เอาอาหารเย็นมาหนึ่งชุดตามมาตรฐานของเขา” หนิวลี่พูดเบา ๆ
บริกรโค้งตัวเล็กน้อยพลางพยักหน้า “ได้ครับ ท่านนักเวท”
ยักษ์อับเนอร์ดีใจมาก มองหนิวลี่พลางยิ้มเขิน ๆ
โต๊ะนี้ดูแปลกตาขึ้นมาทันที
จากสูงไปต่ำ แบ่งแยกสามเผ่าพันธุ์อย่างชัดเจน
หนิวลี่หยิบขนมขบเคี้ยวจากโลกออกมาจากแหวน แล้วดึงเหล้าออกมาขวดหนึ่ง ทำให้คนแคระตาเป็นประกาย ส่วนอับเนอร์ก็มองถุงน่องไก่น้ำลายไหล
“เอาเถอะ แม้ว่าจะมาติดอยู่ที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่การได้รู้จักกับลาตินและอับเนอร์ก็ถือเป็นโชคชะตาอย่างหนึ่ง มาชนแก้วให้กับโชคชะตากันเถอะ”
หนิวลี่กล่าวเบา ๆ พลางรินเหล้าให้ทุกคน
คนแคระตื่นเต้นที่สุด เมื่อได้กลิ่นเหล้าอย่างดีที่ทำให้ตัวเองน้ำลายสอ เขาพยักหน้าหนัก ๆ พลางพูดว่า “หนิวลี่ ท่านเป็นเพื่อนของพวกเราชาวคนแคระอย่างแน่นอน! โอ้ เหล้านี่หอมจริง ๆ!”
ชาวยักษ์ก็อดไม่ได้ที่จะสูดดมกลิ่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความปรารถนา
ทุกคนดื่มเหล้าจนหมด คนแคระลาตินอดไม่ได้ที่จะดื่มด่ำกับรสชาติอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงชื่นชมว่า “เมื่อเจ็ดสิบปีก่อน ฉันเคยแอบดื่มเหล้าชนิดหนึ่งของมนุษย์ในห้องเก็บไวน์ของผู้อาวุโสใหญ่ในเผ่า แต่เมื่อเทียบกับเหล้านี้แล้ว ก็ยังห่างไกลมาก! เหล้าของท่านหนิวลี่ต้องเป็นเหล้าที่ดีที่สุดของมนุษย์แน่ ๆ!”
หนิวลี่แอบทึ่งกับอายุอันยืนยาวของคนแคระ แต่ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่แน่นะ ถ้ามีโอกาสฉันจะหาเหล้าอีกชนิดมาให้คุณลอง นั่นต่างหากที่เป็นของชั้นเลิศ!” หนิวลี่นึกถึงเหล้าเหมาไถ*[1] ที่มีกลิ่นหอมแต่ไม่ทำให้เมา นั่นต่างหากที่สุดยอด!
“จริงเหรอ!” คนแคระตื่นเต้นดีใจมาก
ไม่นานหลังจากนั้น บริกรก็นำอาหารจานเด็ดมาเสิร์ฟ เป็นสัตว์อสูรย่าง อับเนอร์ที่หิวโหยมานานก็กินอย่างตะกละตะกลาม
หลายคนในบาร์ต่างจับตามองโต๊ะของหนิวลี่ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ ทุกคนต่างพิจารณาพลังของหนิวลี่ และดูเหมือนจะเกรงกลัวนักดาบยักษ์ด้วย
กินดื่มไปได้ครึ่งทาง หนิวลี่จึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่มีเงินของโลกนี้ ใจเต้นตึกตัก คิดสักครู่แล้วหยิบแก่นพลังที่ดูดีออกมาให้คนแคระ พลางถามว่า “ลาติน นี่มันมีค่าเท่าไหร่เหรอ?”
คนแคระที่ดูเหมือนจะคลุกคลีกับสังคมมานาน มองแก่นพลังด้วยสายตาเมามาย จึงพูดว่า “นี่เป็นแก่นพลังของสัตว์อสูรระดับต่ำ มีค่าร้อยสี่สิบเหรียญ”
“แค่ร้อยสี่สิบเหรียญเองเหรอ?” หนิวลี่ผิดหวังเล็กน้อย
คนแคระได้ยินดังนั้นก็ตาโต “อะไรกัน แค่ร้อยสี่สิบเหรียญ? แก่นพลังอันเดียวนี่พอให้พวกเรากินดื่มแบบนี้ได้ตั้งครึ่งเดือนเลยนะ!”
“อ้อ งั้นก็ถือว่าเยอะอยู่นะ” หนิวลี่ดีใจขึ้นมาทันที รีบเรียกบริกรมาแล้วหยิบแก่นพลังสองอันให้เขาไปแลกเงิน
เห็นได้ชัดว่าการแลกแก่นพลังเป็นเงินแบบนี้เป็นเรื่องปกติ บริกรรับไปแล้วเดินจากไป
ครู่ต่อมา บริกรก็นำถุงใหญ่ใส่เหรียญกลมสีฟ้ามาให้ ตรงกลางเหรียญมีจุดสีเหลืองอมน้ำตาล
หนิวลี่มองอย่างไรก็เหมือนทองคำ แต่เขาไม่กล้าถาม ไม่งั้นคนอื่นจะมองเขายังไง
เก็บเงินเข้ากระเป๋าแล้วโยนให้บริกรผิวเขียวหนึ่งเหรียญ บริกรดีใจมากเดินจากไป
เห็นได้ชัดว่าอับเนอร์กินจุกว่าที่หนิวลี่คาด พอกินหมดโต๊ะ อับเนอร์ก็มองหนิวลี่อย่างน่าสงสารอีกครั้ง หนิวลี่ไม่ใช่คนตระหนี่ จึงสั่งอาหารมาอีกโต๊ะทันที
ตอนนั้นเอง ประตูบาร์ก็เปิดออกอีกครั้ง มีกลุ่มคนเดินเข้ามา
ทุกเผ่าพันธุ์ในบาร์ต่างเงยหน้ามอง
ผู้ที่เข้ามาคือคนกลุ่มหนึ่ง มีด้วยกันหกคน ประกอบด้วยมนุษย์สามคน เอลฟ์หนึ่งตน และอีกสองคนที่ปกคลุมร่างด้วยเสื้อคลุมสีดำลึกลับ
เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ในบาร์ต่างตะลึง
ฟอเรสท์บาร์ไม่ได้อยู่ใกล้หมู่บ้านที่อันตราย และก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร ทำไมวันนี้ถึงมีคนนอกมาติด ๆ กันล่ะ? เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ อดคิดไม่ได้
บริกรผิวเขียวในบาร์รีบเดินมาหากลุ่มนั้น แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “นักผจญภัยที่เคารพ เชิญนั่งด้านในเลยครับ”
หนิวลี่มองไปที่กลุ่มนั้นแล้วก็ตะลึง
เอลฟ์ไม่ต้องพูดถึง เหมือนกับเตียวเสี้ยน แต่เป็นผู้ชาย หน้าตาสวยงาม แต่สีหน้าเย็นชา ไม่น่ารักเหมือนเอลฟ์น้อย
ส่วนมนุษย์สามคนเป็นชายสองหญิงหนึ่ง ชายสองคนแต่งตัวแบบนักดาบ สีหน้าเคร่งขรึม สายตาเฉียบคม ให้ความรู้สึกกดดัน
ผู้หญิงสวยมาก แต่งตัวแบบป่าเถื่อน โฉบเฉี่ยว และยังดูอ่อนเยาว์
เมื่อได้ยินคำถามของบริกร ทุกคนมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนเธอจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม ทำให้ต้องระมัดระวังในการปฏิบัติ
“เอาเหล้ารัมมาหกเหยือก” หญิงสาวพูด เสียงใสไพเราะ
“ได้ครับ เชิญทางนี้เลยครับ” บริกรผิวเขียวยิ้มอย่างดีใจ สั่งเหล้ารัมทีเดียวหกเหยือก นี่ก็เป็นลูกค้าใหญ่อีกรายแล้ว
หญิงหัวหน้ากลุ่มเดินนำเข้าไปในบาร์ด้วยสีหน้าเย็นชา เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ที่นั่งอยู่ตามโต๊ะที่พวกเขาเดินผ่านต่างรู้สึกถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากกลุ่มนี้ ทุกคนสีหน้าหวาดหวั่น รู้ว่ากลุ่มนี้อันตราย
แต่เมื่อหญิงหัวหน้ากลุ่มเดินผ่านโต๊ะของหนิวลี่ เธอหยุดชะงักเล็กน้อย มองหนิวลี่ด้วยสีหน้าประหลาดใจและสงสัย
หนิวลี่พยักหน้าทักทายอย่างสุภาพ
หญิงหัวหน้ากลุ่มไม่แสดงอาการอะไร แต่นักดาบสองคนที่อยู่ด้านหลังเธอกลับจ้องหนิวลี่ด้วยสายตาดุดัน
หนิวลี่ยิ้มขื่น แต่ไม่ได้สนใจ แค่ผู้ติดตามสองคนเท่านั้น ไม่คู่ควรที่จะกล่าวถึง
กลุ่มนี้นั่งลงที่โต๊ะว่างห่างจากหนิวลี่สามโต๊ะ
คนแคระมองโต๊ะของกลุ่มนั้นด้วยสายตามึนเมา แล้วพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “คืนนี้ช่างน่าหลงใหลจริง ๆ เมืองเล็กในป่านี้ไม่ได้ต้อนรับคนนอกมากขนาดนี้มานานแล้ว” แล้วหันไปมองหนิวลี่พูดว่า “ท่านหนิวลี่ ต่อไปท่านจะไปผจญภัยที่ไหนล่ะ?”
สีหน้าของหนิวลี่หม่นลงทันที เขาส่ายหน้าเบา ๆ พูดว่า “คนสนิทของฉันพลัดพรากกันบนดาวรกร้าง จุดประสงค์หลักของฉันคือการตามหาคนสนิทที่พลัดพรากไป”
“ขอเทพกูร์โมอวยพร ให้ท่านพบคนสนิทโดยเร็ว” ลาตินไม่คิดว่าหนิวลี่จะพบเจอเรื่องที่เจ็บปวดเช่นนี้ ดวงตาของเขาฉายแววไม่สบายใจชั่วขณะ แล้วจึงอวยพรอย่างจริงใจ
หนิวลี่ยิ้มขอบคุณ ถ้ามันง่ายขนาดนั้นก็คงดี แต่หลังจากพบแล้วล่ะ? เส้นทางกลับโลกต่างหากที่ยากที่สุด
“อับเนอร์จะช่วยท่านนักเวทหาคนสนิทแน่นอน!” นักดาบยักษ์ที่กำลังแทะขาสัตว์อสูรพูดขึ้นอย่างจริงจัง
หนิวลี่ยิ้มกว้าง พอใจมากกับยักษ์ยากจนที่เขารับเข้ามา
“นักเวท!”
ไม่คิดว่าคำพูดของยักษ์จะส่งไปถึงกลุ่มนักผจญภัย ทันใดนั้นสมาชิกกลุ่มนักผจญภัยที่กำลังเงียบอยู่ก็หันมามองด้วยสายตาประหลาดใจ
[1] เหล้าเหมาไถ แบรนด์สุราระดับพรีเมียมของจีน มีรสชาติที่นุ่มนวล กลมกล่อม เพราะผ่านกรรมวิธีนึ่ง 9 ครั้ง หมัก 8 ครั้ง และกลั่น 7 ครั้ง โดยมีวัตถุดิบหลักคือ ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี และน้ำที่ต้องมาจากแม่น้ำฉื่อสุ่ยในมณฑลกุ้ยโจวเท่านั้น
MANGA DISCUSSION