บทที่ 137 หนิวลี่ V5 ระเบิดอารมณ์อีกครั้ง
เมื่อเห็นทั้งสองถูกโจมตีอย่างดุเดือดกะทันหัน ถังเหรินเฟิงก็อุทาน พลางร้องปิดปากตัวเอง
หนิวลี่ขมวดคิ้ว พูดอย่างรวดเร็ว “ผมจะลงไปดู ทุกคนอย่าขยับย้ายไปไหน”
พูดจบก็รีบลงจากรถ วิ่งไปทางข้างหน้า
“ทั้งหมดหยุดมือกันเดี๋ยวนี้! ”
เสียงตะโกนดังขึ้น หนิวลี่แทรกเข้าไป
“โอ้โฮ ยังมีเด็กน้อยไม่กลัวตายอยู่อีกคน กล้ามาตะโกนใส่พวกพี่ ๆ แบบนี้ เบื่อจะใช้ชีวิตแล้วสินะ” ชายวัยกลางคนร่างใหญ่ท้วมหัวล้าน หนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้นเอ่ยอย่างดูแคลน
แม้จะพูดเช่นนั้น แต่พวกเขาก็หยุดมือ ปล่อยให้ทั้ง 2 คนที่อยู่บนพื้นมีเวลาลุกขึ้นมายืนข้างหนิวลี่
“พี่หลี่ พวกเราไร้ความสามารถ” พวกเขาพูดกับหนิวลี่ด้วยสีหน้าละอายใจ
“ไม่เป็นไร พวกนี้แค่อาศัยความได้เปรียบทางด้านจำนวนคนเท่านั้น! ”
หนิวลี่พูดอย่างดูแคลน จากนั้นก็จับมือทั้งสองคน ส่งพลังธาตุฟ้าดินจำนวน 5 แต้มเข้าไปในร่างกายของพวกเขา
“อย่าขยับ ฉันจะช่วยรักษาให้อีกหน่อย” หนิวลี่พูดเบา ๆ เร่งพลังเวทส่งพลังงานฟ้าดินเข้าสู่ร่างกายอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
ทั้งคู่ต่างอ้าปากค้าง มองหนิวลี่ที่ปล่อยมือออกอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ราวกับอยู่ในห้วงฝัน
“รู้สึกยังไงบ้าง? ” หนิวลี่ถาม
“พวกเรา… นี่… นี่… ”
หนึ่งในผู้ติดตามตื่นเต้นจนพูดไม่ออก แม้ทั้งสองคนจะผ่านการฝึกฝนมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นยอดฝีมือในยุทธภพ เพราะพวกเขาไม่มีพลังภายใน แต่หนิวลี่กลับใช้พลังฟ้าดิน 2 ก้อนเปิดเส้นลมปราณให้พวกเขากันคนละเส้น ซ้ำยังสร้างพลังยุทธ์ขึ้นมาอีกเล็กน้อย ทำให้พลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่าในทันที!
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว กลับไปคุ้มกันรถบัสให้ดี อย่าให้ใครเข้าใกล้”
“ครับ พี่หนิว”
คนหนุ่มพยักหน้าอย่างเคารพนบนอบ แล้วหมุนตัวกลับไปที่รถบัสอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมที่จะปิดประตูรถ
“เอ๊ะ โดนตีขนาดนั้นแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย มีฝีมือจริง ๆ ”
ทุกคนสังเกตเห็นความผิดปกติของทั้ง 2 คน จึงต่างตกตะลึงกันถ้วนหน้า ด้วยอดีตเป้าหมายต่างโดนต่อยและเตะหลายสิบครั้ง แต่กลับฟื้นมาเป็นปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังสามารถวิ่งไปวิ่งมาได้
กระนั้นที่ทุกคนไม่พอใจคือหนิวลี่ที่ไม่สนใจพวกเขามากกว่า เด็กน้อยคนหนึ่งมีความกล้า ทำตัวเก่งกาจแบบนี้ เป็นอะไรที่พวกเขาเกลียดที่สุด
หนิวลี่จึงมีเวลามองดูสถานการณ์ตรงหน้า และพบว่านอกจากคนที่มามุงดูแล้ว คนอีกกว่า 30 เป็นพวกเดียวกัน นำโดยชายวัยกลางคนร่างใหญ่หัวล้าน ที่มีรอยสักตะขาบอยู่บนตัว
บนพื้นไม่ไกลออกไป ยังมีคนอยู่อีก 2 คน คนหนึ่งนอนอยู่ อีกคนกำลังร้องไห้เบา ๆ
หนิวลี่ขมวดคิ้วเมื่อรับรู้ด้วยพลังจิตวิญญาณจำนวนเล็กน้อย
เพราะคนที่นอนอยู่บนพื้นคือสตรีวัยกลางคน ตอนนี้หมดสติไปแล้ว บนพื้นยังมีคราบเลือดอยู่
มองไปที่รถออดี้ด้านหน้า เห็นได้ชัดว่าเป็นอุบัติเหตุชนคน แต่ตอนนี้ดูเหมือนมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล คนที่ชนไม่กล้าพาไปโรงพยาบาล กลับมายืนล้อมวงดู ดูเหมือนจะไม่ยอมให้ใครพาไปโรงพยาบาลด้วย
หนิวลี่เหลือบมองไปที่ชายอ้วนวัยกลางคน ถามด้วยสายตาเย็นชา “พวกนายชนคนคนนั้นใช่ไหม? ”
ชายร่างอ้วนหัวล้านเลี่ยนมองเด็กหนุ่มที่ดูไม่กลัวฟ้ากลัวดินตรงหน้าด้วยความสนใจ พร้อมลูบหัวโล้น ๆ ของตัวเองแล้วหัวเราะ
“หนุ่มน้อยคนนี้ มาช่วยเหลือคนอื่นหรือ? ”
“ใช่หรือไม่ใช่? ” น้ำเสียงของหนิวลี่เข้มขึ้น
สีหน้าของชายร่างอ้วนแปรเปลี่ยนไป พร้อมพูดออกมาอย่างดุร้าย
“บ้าเอ๊ย นี่แกกำลังขู่ฉันเหรอ? ฮ่า ๆ พวก ดูสิ… ไอ้หนูนี่กำลังขู่ฉัน ฉันล่ะสุดแสนจะกลัวจริง ๆ เลย”
วัยรุ่นที่ดูเกียจคร้านแต่ไม่ใช่พวกอ่อนแอรอบ ๆ ต่างหัวเราะเยาะ หดวงล้อมขยับเข้ามา
“อ๊ะ! พวกเขาจะทำอะไร? เร็ว เราต้องแจ้งตำรวจ” ถังเหรินเฟิงบนรถบัสเห็นคนพวกนั้นจะทำร้ายหนิวลี่อีกก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
ผู้ติดตามทั้ง 2 คนรีบปลอบ “ไม่ต้องกลัว พี่หนิวฝีมือไม่ธรรมดา คนพวกนี้ทำร้ายเขาไม่ได้หรอก”
“ถูกต้อง พี่หนิวเป็นยอดฝีมือในยุทธภพ พวกเราทั้งห้องเห็นกับตา ฮ่า ๆ นานแล้วที่ไม่ได้เห็นพี่หนิวลงมือ คราวนี้จะได้ชมฝีมือกันแบบเต็ม ๆ ตาอีกแล้ว! ” เหมียวต้าเหวยรับชมเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างตื่นเต้น ไม่เป็นห่วงหนิวลี่เลยสักนิด
พอได้ยินคำพูดของเหมียวต้าเหวย เพื่อนร่วมชั้นก็พากันมารวมตัวแถวหัวรถอย่างตื่นเต้นเพื่อดูการแสดง ทำเอาถังเหรินเฟิงอ้าปากค้าง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
หนิวลี่กวาดตามองคนที่ล้อมเข้ามาอย่างเรียบเฉย ก่อนพูดเบา ๆ
“พวกนายเตรียมจะรุมฉัน? ”
“ไอ้บ้า แค่เด็กน้อยคนเดียวต้องถึงขั้นรุมด้วยเหรอ ฉันคนเดียวก็ส่งแกกลับบ้านได้แล้ว” วัยรุ่นหน้าเต็มไปด้วยสิวยิ้มเยาะ หักข้อมือเดินเข้ามาหา หนิวลี่ไม่พูดอะไรอีก
ในโลกใบนี้มีวิธีในการจัดการคนอยู่ 2 วิธี
สำหรับคนดี ให้ใช้คำพูดเข้าเจรจา
แต่สำหรับคนชั่ว ยังไง ๆ ก็ต้องใช้กำลัง
ในตอนนี้แค่คิด หนิวลี่ก็สามารถใช้เวทเหินเวหาเสริมพลังให้ร่างกายได้แล้ว พลังเวทแผ่ซ่านไปทั่วร่างในพริบตา ฝ่ามือทั้งสองกลายเป็นสีแดงอ่อน ข้างหนึ่งแตะเข้าที่หน้าอกของฝ่ายตรงข้าม อัคคีธาตุระเบิด พลังอันแข็งแกร่งทะลุเข้าไปถึงอวัยวะภายใน
รอยยิ้มเยาะหยันบนใบหน้าของวัยรุ่นหน้าสิวแข็งค้าง ริมฝีปากสั่น พูดอะไรไม่ออก
“ยังมีใครอยากส่งฉันกลับบ้านเกิดอีกไหม? ”
หนิวลี่กวาดตามองรอบ ๆ สายตาคบปลาบดุจสายฟ้า
ทุกคนตกใจ มองหนิวลี่ด้วยความหวาดกลัว
“บ้าเอ๊ย เป็นคนมีฝีมือนี่หว่า ทุกคน เข้าไปจัดการมันเลย ถ้าตายก็ไม่ต้องรับผิดชอบ” ชายหัวล้านพูดอย่างดุร้าย
ทุกคนยิ้มอย่างโหดเหี้ยม 30 กว่ารุม 1 ต่อให้เป็นยอดฝีมือในยุทธภพก็ต้องพ่ายแพ้แน่!
เสียงด่าทอดังขึ้น กลุ่มคนรีบล้อมเข้ามาอย่างรวดเร็ว
หนิวลี่ไม่อยากทำตัวเด่น ร่างของเขาเคลื่อนไหวเข้าออกกลุ่มคน สองมือปล่อยอัคคีธาตุออกมา ทุกฝ่ามือทะลวงเข้าไปถึงอวัยวะภายใน เพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถส่งเป้าหมายไปนอนพักฟื้นอย่างต่ำครึ่งปีได้
สองเท้าแฝงไว้ด้วยวายุธาตุ ทุกก้าวที่เตะออกไปมีพลังลมทะลุทะลวงร่างกาย วิชานี้โหดร้าย ด้วยยามวายุธาตุแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย สิ่งที่เหลือเอาไว้ในร่างกายทุกคนคือโรคประจำตัว วายุธาตุที่เหลือจะแทรกซึมผ่านไขกระดูก ทำให้ผู้ต้องพลังประสบกับโรคปวดข้อหรือโรคอื่น ๆ
ในสายตาของทุกคน หนิวลี่กลายเป็นเส้นสายเงาในชั่วพริบตา พอปรับสายตาให้กลับมามองชัดอีกครั้ง บนพื้นก็มีคนนอนล้มอยู่กว่า 20 คนแล้ว ทุกคนที่ล้มลงไปต่างลุกไม่ขึ้น บางคนแม้แต่จะเปล่งเสียงร้องครวญครางออกมายังทำไม่ได้ กลับกระตุกตัวสองสามทีก่อนหมดสติไป
ส่วนหนิวลี่ที่หยุดยืนอยู่นั้น สงบนิ่งดุจสายลมและเมฆขาว ไม่หอบ เหงื่อไม่ออก สายตาเรียบเฉย ไม่มีท่าทีรู้สึกผิดที่ทำร้ายคนหลายสิบคนบาดเจ็บสาหัสภายในระยะเวลาอันสั้นแต่อย่างใด
พวกหนุ่ม ๆ ที่เหลือขวัญหนีดีฝ่อ ต่างถอยห่างจากหนิวลี่ มองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว กลัวว่าวินาทีถัดไปเด็กผู้โหดเหี้ยมคนนี้จะเข้ามาใกล้ตัวเอง
ชายหัวล้านตัวอ้วนอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก
“ตอนนี้ ยังมีใครอยากส่งฉันกลับบ้านเกิดอีกไหม? ” หนิวลี่หันไปมองอีกฝ่าย
ผู้ถูกถามตกใจ อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปสองก้าว รีบยิ้มแหย ๆ “เข้าใจผิด ๆ น้องชายฝีมือไม่ธรรมดา ทำเอาฉันนับถือจริง ๆ ”
ส่วนเพื่อนร่วมชั้นบนรถบัสที่มองดูเหตุการณ์นี้ต่างตื่นเต้น ยอดฝีมือก็คือยอดฝีมือ ไม่ออกมือก็คือไม่ออก กระนั้นพอได้แสดงมันออกมาทีก็ทำเอาตกตะลึง! เท่สุด ๆ
แน่นอนว่าคนที่มีสายตาดีที่สุดคือผู้ติดตามทั้ง 2 คน พวกเขาเคยฝึกวิชามาบ้าง จึงเห็นชัดว่าหนิวลี่ยังไม่ได้ใช้พลังอย่างเต็มที่
นี่แหละคือยอดฝีมือทางวิชายุทธ์ตัวจริง
“เข้าใจผิด? ฉันไม่คิดว่านี่จะเป็นเพียงการเข้าใจผิดนะ ตอนนี้บอกฉันได้แล้วใช่ไหมว่าใครเป็นคนทำ? ” หนิวลี่ยิ้มเย็น
“ฉันเป็นคนทำเอง! ”
เสียงแปลกหูดังขึ้นจากด้านหลังฝูงชน
หนิวลี่เหลือบมอง เห็นชายหนุ่มใส่เสื้อแขนสั้นคนหนึ่งแทรกเข้ามา ด้านหลังชายหนุ่มมีรถ BMW จอดนิ่งอยู่
“คุณชายเฟย คุณมาแล้ว ดูนี่สิครับ… ” ชายร่างอ้วนพอเห็นชายหนุ่มก็ดีใจ พูดด้วยสีหน้าขมขื่น
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันรู้” ชายหนุ่มโบกมือ ไม่แม้แต่จะมองผู้พูด เขาเพียงจ้องมองหนิวลี่ด้วยสายตาเร่าร้อนแล้วพูด “ฝีมือของนายช่างยอดเยี่ยม ไม่ทราบว่าอยู่สำนักไหนเหรอ? ”
หนิวลี่หัวเราะเยาะ “เป็นเพียงผู้ฝึกฝนตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งบรรลุขั้นหลังฟ้าเท่านั้น ยังกล้ามาทำท่าใหญ่โตต่อหน้าฉัน นายไม่รู้สึกว่าตัวเองโง่ไปหน่อยเหรอ? ”
สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไป สายตาที่มองหนิวลี่กลายเป็นระมัดระวังขึ้น เพียงแค่มองปราดเดียวก็รู้พลังยุทธ์ของตน คนที่อายุน้อยกว่าตนคนนี้จะเก่งกาจกว่าตนได้อย่างไร?
ชายหนุ่มรู้สึกไม่อยากเชื่อ ตัวเขาถูกอาจารย์ยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะในการฝึกวรยุทธ์ที่หาได้ยากในรอบสิบปี ในโลกของนักสู้ขั้นสูงสุดของระดับหลังฟ้านี้ จะมีคนที่มีพรสวรรค์เหนือกว่าเขาได้อย่างไร? แม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน
สายตาของชายหนุ่มเปลี่ยนไป มองหนิวลี่แล้วกล่าว “พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ฉันมีตัวเลือกให้นาย 2 ทาง หนึ่ง… สู้กับฉันแล้วถูกฉันทำลายพลังยุทธ์ มีชีวิตที่แย่ยิ่งกว่าตาย หรือสอง ยอมจำนนต่อฉัน ฉันจะมอบเกียรติยศ ความร่ำรวย ผู้หญิงสวย ๆ รถแพง ๆ และชีวิตที่หรูหราที่สุดแก่นาย”
MANGA DISCUSSION