ตอนที่ 8 ถังหยุนหยุน
“แฮ่กๆๆ” นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?
ชายคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีสุดชีวิต ราวกับมีเงาไล่หลัง เขาไม่รู้ว่าเหตุใดสิ่งนั้นถึงตามล่าตนเองอย่างไม่ลดละ ความคิดเดียวที่อยู่ในหัวคือการหาที่หลบภัยที่มีผู้คนพลุกพล่าน
เบื้องหน้าปรากฏซอยแคบๆ เป็นความหวังเดียวที่จะนำพาเขาไปพบกับผู้คนได้ เขาภาวนาให้เป็นเช่นนั้น
ปกติแล้วเขาประกอบอาชีพเป็นนายหน้าขายบ้าน แต่ช่วงเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างหนัก ทำให้เขาต้องดิ้นรนหาช่องทางสร้างรายได้เสริม
และช่องทางนั้นคือการค้าขายสินค้าผิดกฎหมาย ในช่วงแรกธุรกิจผิดศีลธรรมนี้กลับรุ่งเรืองเกินคาด แม้จะมีตำรวจเข้ามาวุ่นวายบ้าง แต่ด้วยอิทธิพลของผู้มีอำนาจที่คอยหนุนหลัง เขาก็ไม่เคยต้องหวาดหวั่นภัยใดๆ จนกระทั่งความชะล่าใจเริ่มกัดกิน
จนกระทั่งวันนี้ ขณะที่เขากำลังเดินทางไปซื้อสินค้าบางอย่าง เขาเลือกที่จะใช้ทางลัดที่เปลี่ยวร้างผู้คน เพราะต้องการประหยัดเวลา
เขาเดินลัดเลาะไปตามทางนั้น โดยไม่ได้เอะใจเมื่อเห็นชายคนหนึ่งสวมชุดสีดำทมิฬ เดินตามมาในระยะห่าง เขาเพียงคิดว่าเป็นผู้ที่สัญจรไปในทิศทางเดียวกันจึงไม่ได้ใส่ใจนัก
แต่เวลาผ่านไปกว่า 15 นาที ชายชุดดำคนนั้นก็ยังคงเดินตามมาไม่ลดละ ความหวาดระแวงเริ่มกัดกินจิตใจ เขาจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เปลี่ยนจากการเดินเป็นการวิ่งหนี เมื่อเห็นปากซอยอยู่เบื้องหน้า ความดีใจก็ฉายชัดบนใบหน้า ราวกับเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
เขาวิ่งเข้าไปในซอยอย่างมีความหวัง แต่แล้วสายตาก็พลันจับจ้องไปยังแสงไฟที่กระพริบถี่ ๆ อยู่ไม่ไกล หัวใจของเขาเต้นระรัว เลือดสูบฉีดจนใบหน้าแดงก่ำด้วยความยินดี
ทว่า…เพียงแค่ปลายเท้าพ้นขอบปากซอยไปได้ครึ่งก้าว มือปริศนาที่สวมถุงมือสีดำสนิทก็โผล่เข้ามาปิดปากเขาอย่างรวดเร็ว แล้วกระชากร่างเขากลับเข้าไปในความมืดของซอย
เขาหันกลับไปด้วยดวงตาเบิกโพลง ตื่นตระหนกและหวาดกลัวสุดขีด ภาพที่เห็นคือชายในชุดดำทั้งตัวกำลังปิดปากเขาแน่นหนา และมืออีกข้างของคนผู้นั้นกำลังถือมีดปลายแหลม
เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อขอความเมตตา วิงวอนขอชีวิต แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือนัยน์ตาคู่คมกริบที่จ้องมองกลับมาอย่างเย้ยหยัน ไร้ซึ่งความปราณี
จากนั้นคมมีดเย็นเยียบก็จ่อลงที่ลำคอ แล้วถูกกรีดลึกอย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมา ชายเคราะห์ร้ายเอามือกุมคอที่ถูกปาด ร่างทรุดลงกับพื้นช้าๆ แววตาค่อยๆ เลือนราง ไร้ซึ่งชีวิต อุณหภูมิร่างกายเริ่มลดลง จนกระทั่งกลายเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณที่นอนจมกองเลือด
…………………….
หวังปิงค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น เริ่มนึกย้อนไปยังความฝันเมื่อคืเมื่อครั้งที่ยังทำงานเป็นนักฆ่า เคยรับงานหนึ่ง งานนั้นคือการจัดการชายผู้ค้าขายสินค้าผิดกฎหมาย
ในตอนนั้น ความเบื่อหน่ายเข้าครอบงำ จึงคิดที่จะเล่นสนุกกับเหยื่อเพื่อดับความกระหายในจิตใจ มันหวนนึกถึงเกมเก่าแก่เกมหนึ่ง เกมแมวไล่จับหนู กลไกของเกมนั้นเรียบง่าย เพียงแค่ให้หนูวิ่งหนี และแมวผู้ล่าก็ตามไล่ตะครุบเหยื่อที่กำลังหลบหนี สุดท้าย…หนูก็ถูกแมวจับได้ในที่สุด
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจสังหารครั้งนั้น ก็กลับบ้านเพื่อพักผ่อน เตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่ที่ต้องไปโรงเรียน
หวังปิงยืนบิดขี้เกียจอยู่ข้างเตียงนอน แล้วเริ่มทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ “มันเป็นแค่ความฝันใช่ไหมนะ?”
มันมองออกไปยังนอกหน้าต่าง สิ่งที่เห็นยังคงเป็นท้องฟ้าและดวงจันทร์สีแดงเลือด บ่งบอกว่าเรื่องราวเมื่อวานนี้ไม่ใช่เพียงแค่ความฝัน และในวันนี้ จำเป็นต้องออกไปหาอาหาร
หวังปิงคิดว่าการตุนอาหารไว้สำหรับระยะยาวก็เป็นความคิดที่ไม่เลว เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็เดินไปที่ห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย
แต่ทว่า…ไฟฟ้ากลับดับลง ทำให้เครื่องทำน้ำอุ่นไม่ทำงาน เมื่อเห็นเช่นนั้น จึงรีบอาบน้ำเย็นอย่างรวดเร็ว เพราะอาหารบางชนิดหากขาดความเย็นอาจเน่าเสียได้
หลังจากอาบน้ำเสร็จ หวังปิงมายืนมองออกไปนอกหน้าต่าง สิ่งที่เห็นคือจำนวนซอมบี้ที่เบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด ผิดกับเมื่อวานนี้ที่พบเจอพวกมันมากมาย มันไม่ทราบว่าพวกมันหายไปไหนกันหมด
จึงลงไปยังชั้นล่างเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังมินิมาร์ทที่อยู่ใกล้เคียง พร้อมกับหยิบคทาต้องสาปแม่มดน้อยเยน่าออกมาจากกระเป๋ามิติ คทาอันนี้เปลี่ยนรูปแบบจากการทุบเป็นแทง
มันก้มลงมองดาบในมือ แล้วถอนหายใจอย่างหน่ายใจ
“ถ้ามันเป็นแค่ดาบธรรมดาคงจะดีกว่านี้มาก”
หวังปิงเดินไปที่หน้าร้านอย่างระมัดระวัง สังเกตเห็นซอมบี้อยู่ใกล้ ตัวหนึ่ง มันจึงพุ่งเข้าหามันอย่างรวดเร็วแล้วจัดการสังหาร
ร่างไร้วิญญาณของซอมบี้ร่วงหล่นลงบนพื้น โชคดีที่บริเวณนั้นไม่พบซอมบี้ตัวอื่น แต่ถ้าซอมบี้สามารถมองเห็นได้ มันคงไม่กล้าใช้อาวุธนี้อย่างแน่นอน เพราะแสงสีรุ้งที่เปล่งประกายออกมานั้นช่างเจิดจ้าบาดตาเสียเหลือเกิน
ทางหัวมุมเบื้องหน้าเป็นทางเลี้ยว หวังปิงมุ่งตรงไปยังทิศนั้น แต่แล้วก็ต้องชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นฝูงซอมบี้จำนวนมากกำลังบุกพังประตูบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก
สาเหตุที่พวกมันคลั่งคล้ายเช่นนั้น เป็นเพราะภายในบ้านมีเสียงร้องโวยวายดังออกมา ทำให้ฝูงซอมบี้ได้ยินและแห่กันมา
หวังปิงเห็นดังนั้นจึงตัดสินใจเดินไปอีกฝั่งของถนน ซึ่งปราศจากซอมบี้ แต่ในขณะที่กำลังเดินผ่านบ้านหลังนั้นเอง กลับได้ยินเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนาจากภายใน
มันได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่อนิจจา เสียงของระบบกลับดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของ
“ติ๊ง!”
“มอบภารกิจทั่วไป”
ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตภายในบ้านให้ปลอดภัยจากฝูงซอมบี้ หากผู้รอดชีวิตเสียชีวิต จะถือว่าภารกิจล้มเหลว
รางวัล: การ์ดเพิ่มค่าประสบการณ์ x2 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
ผลลัพธ์หากล้มเหลว: ไม่สามารถรับค่าประสบการณ์เพิ่มเติมได้เป็นเวลา 2 วัน
เมื่อหวังปิงเห็นข้อความภารกิจ ปากของมันก็กระตุก ระบบนี่หาเรื่องตีนมาให้อีกแล้วสินะ รางวัลเป็นการ์ดเพิ่มค่าประสบการณ์ x2 ก็ถือว่าดี แต่การใช้ในตอนนี้ดูจะไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ แต่ถ้าหากมีการปาร์ตี้ละ? ความเร็วในการเก็บค่าประสบการณ์คงจะสูงขึ้นมาก
ส่วนผลลัพธ์หากล้มเหลวก็ทำให้กังวลไม่น้อย หากไม่สามารถรับค่าประสบการณ์เพิ่มได้ถึงสองวัน อาจจะตายคาคมเขี้ยวของซอมบี้ก็เป็นได้
แต่ไม่มีกำหนดเวลาสำหรับการช่วยเหลือ ไปที่มินิมาร์ทก่อนแล้วค่อยกลับมาช่วยก็คงยังไม่สาย
“กรี๊ดดดด!” หวังปิงหันขวับไปมอง พบว่าบานประตูบ้านหลังนั้นเริ่มถูกพังทลาย มันจับดาบในมือให้มั่น แล้วตัดสินใจพุ่งเข้าไปช่วยเหลือทันที
………………………
ในวันนั้นเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันนอนตื่นสายกว่าปกติ แต่ก็คิดว่าคงเป็นวันหยุดที่แสนธรรมดาเหมือนเช่นเคย
ทว่า…เมื่อฉันลืมตาตื่นขึ้น กลับพบสิ่งแปลกประหลาดที่แตกต่างไปจากทุกวัน
ฉันได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ ลอยมา ทำให้ตกใจนึกว่ามีสัตว์ตายอยู่ในห้อง จึงลุกขึ้นค้นหา แต่กลับไม่พบซากสัตว์ใดๆ เลย ไม่ว่าจะค้นหาอย่างไรก็ไม่เจอ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังท้องฟ้า แล้วก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น ท้องฟ้าเปลี่ยนสีไป!
ท้องฟ้าที่ปกติควรจะเป็นสีฟ้าสดใส กลับกลายเป็นสีแดงฉานราวกับสีเลือด และเมื่อมองไปเรื่อยๆ ก็พบดวงจันทร์ที่ไม่ควรจะปรากฏในเวลานี้ กลับลอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้า แทนที่ดวงอาทิตย์
ฉันตกใจกลัวมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือนี่มันเป็นเพียงแค่ความฝัน? ฉันตบหน้าตัวเองอย่างแรงหนึ่งที รู้สึกเจ็บปวด แต่สีของท้องฟ้ากลับไม่เปลี่ยนแปลง
ฉันสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อตั้งสติ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู พบว่าไม่สามารถค้นหาสัญญาณเครือข่าย หรือส่งข้อความถึงเพื่อนได้เลย แต่ไม่นานนักฉันก็พบสาเหตุ นั่นเป็นเพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะไปสอบถามลุงที่อาศัยอยู่ที่ห้องข้างล่างดีหรือไม่ เพราะเธอเกลียดลุงคนนั้นมาก ลุงเป็นคนเห็นแก่ตัว และชอบใช้กำลังอยู่เสมอ เมื่อครั้งที่เธอจะไปฟ้องพ่อกับแม่ เธอกลับถูกลุงข่มขู่ ทำให้ไม่กล้าบอกใคร และในตอนนี้ พ่อกับแม่ไปทำงานที่ต่างประเทศ ทำให้เธอต้องอยู่กับลุงเพียงสองคน
แต่เมื่อเธอเคาะประตูห้องลุง กลับได้ยินเพียงเสียงตวาดด่ากราดสวนออกมา เธอขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่พอใจ แล้วตัดสินใจเคาะประตูอีกครั้ง
คราวนี้ลุงเปิดประตูออกมา ดวงตาของเขาจ้องมองเธอราวกับจะกลืนกินเลือดเนื้อ แต่เมื่อเห็นว่าลุงกำลังจะต่อว่า เธอจึงรีบบอกถึงสาเหตุที่ต้องมาเคาะประตู พออธิบายเรื่องราวพร้อมกับชี้ไปยังท้องฟ้าเพื่อยืนยันสิ่งที่เธอพูด เธอก็รอคำตอบจากลุงผู้แสนน่ารังเกียจ “ถ้าลุงคนนี้ตายไปเสียได้ก็คงจะดี” เธอคิดในใจอย่างขุ่นเคือง
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น สายตาพลันเหลือบไปเห็นแสงสีแดงฉานจำนวนมาก พุ่งลงมาจากฟากฟ้า แสงเหล่านั้นมีอยู่หลายจุดจนนับไม่ถ้วน เมื่อเห็นดังนั้น จึงละความสนใจจากลุง แล้วรีบเดินไปยังหน้าต่างเพื่อสังเกตการณ์ว่ามันคืออะไรกันแน่
สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคืออุกกาบาตจำนวนมาก กำลังตกลงสู่พื้นโลก เธอหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว เกรงว่ามันจะพุ่งตรงมายังบ้านของเธอ แต่เมื่อมองดูอย่างถี่ถ้วนแล้ว มันกลับตกลงในบริเวณใกล้เคียง ไม่ห่างไกลจากบ้านของเธอมากนัก
เมื่อเห็นเช่นนั้น เธอรีบวิ่งออกจากห้องของตนเอง แล้วไปหลบอยู่ใต้โต๊ะเพื่อป้องกันแรงกระแทก แต่ในใจก็ยังคงเป็นห่วง แม้จะเกลียดชังลุงเพียงใด ก็ยังคงตะโกนเรียกให้เขาไปหลบภัยด้วยกัน
ไม่ต้องรอคอยนานนัก เสียงระเบิดดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับแรงสั่นสะเทือนที่แผ่กระจายเป็นระลอกไปทั่วพื้นดิน ลุงที่กำลังยืนตะลึงมองอุกกาบาต โดยไม่ได้หลบหลีก ทำให้เสียหลักล้มลง ก้นกระแทกพื้นอย่างจัง
“สมน้ำหน้า” เธอคิดในใจอย่างสะใจ แต่สีหน้าภายนอกกลับเรียบเฉย
ลุงหันขวับมาจ้องมองเธอด้วยสายตาขุ่นเคือง พร้อมกับตวาดเสียงดังว่าทำไมเธอถึงไม่บอกว่าจะมีแรงกระแทกตามมา แต่เธอไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้น เมื่อลุงเห็นว่าต่อว่าเธอไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด จึงลุกขึ้นเพื่อไปเปิดโทรทัศน์ดูสถานการณ์
ทว่า…โทรทัศน์กลับไม่มีสัญญาณใดๆ ทำให้ลุงเริ่มวิตกกังวล เดินกระสับกระส่ายไปมาภายในบ้าน เธอเห็นดังนั้น รอจนกระทั่งฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายเริ่มจางหายไป ก็รีบทำความสะอาดบ้านของตนเอง โชคดีที่ในห้องของเธอได้ปิดหน้าต่างไว้แล้ว จึงไม่ต้องทำความสะอาดมากนัก
บัดนี้เวลาล่วงเลยเข้าสู่ช่วงบ่าย เธอรู้สึกหิว จึงเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารสำหรับตนเอง อาหารที่ทำเสร็จนั้นช่างน่ารับประทานยิ่งนัก เธอพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แล้วนั่งลงกินอย่างเอร็ดอร่อย
เวลาผ่านไปทีละน้อย อาหารในจานลดลงไปกว่าครึ่ง ก็พลันได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังมาจากภายนอกบ้าน
ฉันตกใจกับเสียงกรีดร้อง จึงรีบออกไปดูนอกบ้าน สิ่งที่พบคือหมอกที่เริ่มปกคลุมหนาแน่นขึ้น และกลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงกว่าตอนที่ตื่นนอนเสียอีก
เธอเห็นผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ชื่อ หมางเว่ยจิง ผู้หญิงที่มีนิสัยไม่ต่างจากลุงของเธอสักเท่าไหร่ ทั้งเห็นแก่ตัว เสียงดัง และปากร้าย จนคนแถวนี้ต่างเอือมระอา รวมถึงตัวเธอเองด้วย
ในขณะนั้น หมางเว่ยจิงกำลังถูกชายวัยกลางคนคนหนึ่งวิ่งไล่ตามอย่างกระชั้นชิด ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นสามีของเธอเอง
แล้วเหตุการณ์ที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น สามีของหมางเว่ยจิงจับภรรยาของเขาล้มลงกับพื้นอย่างง่ายดาย
หมางเว่ยจิงดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลัง แต่กลับพบว่าพละกำลังของสามีเธอ ซึ่งปกติอ่อนแรง กลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างผิดปกติ ไม่ว่าจะดิ้นรนสักเพียงใดก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากการจับกุมได้
จนกระทั่งเธอสังเกตเห็นดวงตาของสามีที่เปลี่ยนไปจนน่าหวาดผวา นัยน์ตาสีดำหายไป เหลือเพียงดวงตาสีขาวโพลนที่ไร้แวว ฟันของเขาเริ่มหลุดร่วงออกมาทีละซี่ พร้อมกับเลือดสีแดงสดที่ไหลทะลักออกจากดวงตาและจมูก
เธอเห็นสามีก้มหน้าลงมาใกล้เรื่อยๆ พร้อมกับอ้าปากที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าลงบนลำคอของเธอ แล้วกัดกระชากอย่างโหดเหี้ยม
เลือดสีแดงไหลทะลักออกจากบาดแผลที่คออย่างต่อเนื่อง สัญญาณชีพของหมางเว่ยจิงค่อยๆ ลดน้อยลง จนกระทั่งร่างกายนิ่งสนิทไม่ขยับเขยื้อน ความคิดสุดท้ายที่แวบเข้ามาในสมองของเธอก่อนสิ้นลมหายใจคือ “ทำไม? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เมื่อเห็นภาพการตายอันน่าสยดสยองของหมางเว่ยจิง ฉันก็ตกใจจนต้องก้าวถอยหลังไปหลายก้าว แล้วรีบยกมือขึ้นมาปิดปากเพื่อกลั้นเสียงร้อง
เมื่อเห็นว่าสามีของหมางเว่ยจิงลุกขึ้นยืน ก็รีบเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา เพราะหวาดกลัวว่าเขาจะมาทำร้ายฉันจนตาย
ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้หัวใจที่เต้นระรัวค่อยๆ สงบลง แล้วกำลังจะเดินไปบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับลุง แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ เดินขึ้นไปยังห้องของตนเอง แล้วแอบมองลงไปยังด้านล่างผ่านทางหน้าต่าง
เมื่อยังเห็นร่างของหมางเว่ยจิงนอนแน่นิ่งอยู่ที่เดิม ฉันก็รู้สึกสับสนและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่แล้วฉันก็ตัดสินใจมองศพนั้นอีกครั้ง และสิ่งที่เห็นก็ทำให้ขนลุกซู่ ร่างนั้นเริ่มขยับ!
“หรือว่าเธอยังไม่ตาย?”
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า ร่างกายของหมางเว่ยจิงกระตุกอย่างรุนแรง แขนขาเริ่มบิดเบี้ยวผิดรูป พร้อมกับเลือดสีแดงที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียว แล้วก็หยุดไหล เมื่อฉันจ้องมองไปเรื่อยๆ ก็พบว่าดวงตาของศพนั้นเริ่มเปลี่ยนไป เหมือนกับดวงตาของสามีเธอไม่มีผิดเพี้ยน แล้วร่างนั้นก็ลุกขึ้น วิ่งไล่กัดผู้คน ราวกับเป็นซอมบี้ที่น่าสะพรึงกลัว
“ซอมบี้?” คำๆ นี้ผุดขึ้นในความคิดของเธออย่างรวดเร็ว แล้วก็ตระหนักได้ว่ามันน่าจะเป็นเช่นนั้นจริง สภาพของสามีภรรยาคู่นั้นช่างเหมือนกับภาพยนตร์สยองขวัญไม่มีผิดเพี้ยน
เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็ตัดสินใจเดินไปบอกลุง เพราะนี่คือเรื่องร้ายแรงที่ต้องแจ้งให้ทราบ เมื่อเข้าไปในห้องนั่งเล่น ลุงกลับตวาดใส่เธอด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่าไร้สาระ แต่เธอก็ยังคงพยายามอธิบายด้วยความใจเย็น
ในตอนแรก ลุงไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูด จนกระทั่งชักชวนให้เขาไปมองออกไปทางหน้าต่างห้องนั่งเล่น และสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาก็เป็นอย่างที่ได้กล่าวไว้ ลุงถึงกับหน้าซีดเผือด เอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ถังหยุนหยุน…ทำยังไงดี?”
ใช่แล้ว เธอมีชื่อว่า ถังหยุนหยุน อายุเพียง 15 ปี ส่วนลุงของเธอชื่อ ถังหยุนเด่ เป็นชายวัย 47 ปี
เธอจึงแนะนำลุงไปว่า พวกเขาต้องรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาล และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องอยู่แต่ภายในบ้าน ห้ามออกไปข้างนอกโดยเด็ดขาด เพราะหากออกไปก็มีแต่ความตายรออยู่ โชคดีที่ปกติที่บ้านของพวกเขาชอบตุนอาหารไว้สำหรับทั้งอาทิตย์ ทำให้ตอนนี้ยังมีอาหารเพียงพอ และในห้องของเธอก็ยังมีขนมขบเคี้ยวอีกมากมาย
เวลาเริ่มล่วงเลยผ่านไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งยามพลบค่ำ เมื่อมองออกไปนอกบ้าน พวกเขาก็พบภาพที่น่าสะพรึงกลัว ฝูงซอมบี้ยืนรวมตัวกันอยู่มากมายนับไม่หวาดไม่ไหว
ถังหยุนหยุนเริ่มรู้สึกหวาดกลัวจับใจ โทรทัศน์ก็ไม่มีสัญญาณ แล้วทางรัฐบาลจะรู้หรือไม่ว่ามีผู้คนต้องการความช่วยเหลือ เธอเริ่มรู้สึกกลัดกลุ้มและสิ้นหวัง แต่ร่างกายที่อ่อนล้าก็เริ่มส่งสัญญาณว่าต้องการพักผ่อน เธอจึงตัดสินใจเดินไปยังห้องนอน
ทว่า…เมื่อเอนตัวลงบนเตียง เธอกลับนอนสะดุ้งตื่นขึ้นมาเป็นระยะๆ ด้วยความหวาดระแวง กลัวว่าซอมบี้จะบุกรุกเข้ามาในบ้าน จนกระทั่งความเหนื่อยล้าเข้าครอบงำ และเธอผลอยหลับไปด้วยความกังวล
Chapters
Comments
- ตอนที่ 19 ฝูงซอมบี้ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 18 ผู้ฝึกตน? พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 17 การปลุกพลัง 2 พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 16 การปลุกพลัง 1 พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 15 ทักษะฟาดฟัน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 14 เพลงดาบอิไอ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 13 ซอมบี้เลเวล3 พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 12 ความอบอุ่น พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 11 นักเวทย์ เทียร์ 0 พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 10 การตัดสินใจ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 9 คนเราถึงคราวตายก็ต้องมีศักดิ์ศรี! พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8 ถังหยุนหยุน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7 อัญมณี เทียร์ 0 พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6 ซอมบี้ตัวแรก พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5 ม่ายยยยยยยยยยยยยย พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 4 เผ่าพันธุ์กูล พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3 ระบบผู้กล้า (2) พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2 ระบบผู้กล้า (1) พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 1 อุกกาบาต พฤษภาคม 26, 2025
MANGA DISCUSSION