บทที่ 249 กระบวนท่าระดับแพลทินัม ศิลากาลเวลา และ พรสวรรค์แห่งห้วงเวลาระดับ 4!
ในขณะที่ทุกคนกำลังหันมาจับจ้องฉู่โม่วที่ขึ้นมาถึงชั้น 50 ได้แล้วนั้น ฉู่โม่วก็กำลังจ้องไปยังตัวเลือกสามตัวเลือกที่ปรากฏขึ้นมาด้านหน้าอย่างครุ่นคิด
ที่ชั้น 50 นี้ มีทั้งกระบวนท่าและวิชาฝึกฝนวิทยายุทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อเขาเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเขาจึงต้องเลือกอย่างรอบคอบ
ในตัวเลือกทั้งสามนี้ สิ่งแรกที่เข้าตาเขามากที่สุดคือกระบวนท่าระดับแพลทินัม เพลงหมัดล่าอัสนี
แค่เห็นชื่อก็น่าจะรู้ได้ทันทีว่านี่คือกระบวนท่าเพลงหมัด
อย่างที่สอง วิชาฝึกฝนวิทยายุทธ์ กระบวนท่าฝึกฝนร่างกายพิภพคลั่งร้อยเท่า!!
และอย่างสุดท้าย เป็นสมบัติแห่งโลกและสวรรค์ที่ค่อนข้างหายาก ซึ่งก็คือ
โสมเพลิง!
สิ่งนี้จะเพิ่มความแข็งแกร่งของธาตุไฟในตัวผู้ปลุกพลังได้ 1 ระดับ ทว่าความสามารถของมัน เพิ่มได้มากที่สุดคือระดับ 3 เท่านั้น หากเป็นระดับพลังที่สูงกว่า 3 ผลลัพธ์ของมันก็จะลดลงไปมาก
ภายหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก ในท้ายที่สุด ฉู่โม่วก็เลือกที่จะเก็บโสมเพลิงกลับไป
ตัวเลือกแรกเป็นกระบวนท่าเพลงหมัด เขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้มันเลยสักนิด
ส่วนวิชาฝึกฝนนั้นฉู่โม่วก็ไม่จำเป็นต้องใช้อีกเช่นกัน เขามีสิ่งที่ดีกว่าอย่างตำราหอศักดิ์สิทธิ์ทองคำลึกลับอยู่แล้ว
สำหรับโสมเพลิง
ถึงแม้ว่าพลังของโสมเพลิงจะช่วยปลุกและเพิ่มพลังของธาตุไฟในร่างกายของผู้ปลุกพลังได้แค่เพียงระดับ 3
ถึงจะน้อยเกินไปสำหรับระดับของฉู่โม่วในตอนนี้ แต่ทว่า …ด้วยความสามารถนี้ของมันก็น่ากลัวมากพอแล้ว
ผู้ปลุกพลังจะสามารถแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ๆ ในระดับเดียวกันได้นั้นต้องวัดกันที่พรสวรรค์ เพราะฉะนั้นแล้ว หากเขาผู้นั้นมีพรสวรรค์พลังธาตุมากกว่าหนึ่งอย่าง เขาจะถูกมองว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ในทันที และสมบัติแห่งโลกและสวรรค์ชิ้นนี้ ก็ช่วยทำให้ผู้ปลุกพลังสามารถมีพรสวรรค์เพิ่มขึ้นได้ แม้ว่าจะอยู่ในระดับต่ำที่สุดก็ยังสามารถทำให้ผู้ปลุกพลังคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นได้อยู่ดี
เมื่อเลือกสมบัติเป็นโสมเพลิงแล้ว เขาก็เก็บสิ่งนี้ลงไปในมิติพกพา
ตัวเลือกอื่น ๆ หายไป ฉู่โม่วก็เริ่มไต่ขึ้นไปชั้นบนต่ออีกครั้ง
ชั้นที่ 53!
ชั้นที่ 55!
ชั้นที่ 58!
ชั้นที่ 60!
ฉู่โม่วไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ เพียงไม่นานก็มาถึงชั้น 60 และเผชิญหน้ากับตัวเลือกอีกครั้ง
กระบวนท่าระดับแพลทินัม วิชาฝึกฝนร่างกายระดับแพลทินัมและสมบัติแห่งโลกและสวรรค์ที่หายาก
ครั้งนี้
ฉู่โม่วเลือกกระบวนท่าระดับแพลทินัมโดยไม่ลังเลทันที
เขากำลังขาดแคลนกระบวนท่ากับกายภาพที่แข็งแกร่งอยู่พอดี
สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถหาได้ในตำหนักวิทยายุทธ์ ร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดภายในสุดยอดฐานจงไห่ อีกทั้งความเร็วที่เขาฝึกฝนยังอยู่ที่ระดับทองเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาได้พบความเร็วเหนือธรรมชาติ แล้วเขาจะพลาดได้อย่างไร
ย่างก้าวปีศาจลึกลับ!
เมื่อเลือกแล้ว ข้อมูลของกระบวนท่าระดับแพลทินัมก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา
ยึดตามคำบอกกล่าว เมื่อกระบวนท่านี้ถูกใช้แล้ว มันจะช่วยทำให้ผู้ใช้ได้รับความเร็วเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันยังสามารถกลายเป็นเงาปีศาจได้หลายร่าง ซึ่งร่างเงาเหล่านี้มีพลังเพียงแค่หนึ่งในสิบของพลังที่ฉู่โม่วมี และสามารถควบคุมด้วยพลังจิต โดยจะให้มันระเบิดตัวเองหรือโจมตีก็ได้เช่นกัน
เสี่ยวฉุนสามารถกลายร่างเป็นเงาปีศาจได้สองร่าง ในขณะเดียวกันก็ได้ความเร็วเพิ่มขึ้นอีกห้าเท่า
เมื่อไหร่ก็ตามที่ทำสำเร็จ มันจะสามารถกลายร่างเป็นเงาปีศาจได้ห้าร่าง พร้อมกับได้ความเร็วเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่าแทน
ถือเป็นความสามารถที่น่ากลัวและทรงพลังเป็นอย่างมาก
หลังจากที่อ่านจบ ฉู่โม่วก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเดินหน้าต่อ
เบื้องหน้าเขาในตอนนี้ เหลือเพียงแค่ 4 คนเท่านั้นให้ก้าวผ่าน
เริ่มจากฉางจื่อเฉินที่ชั้น 67 ลู่เฟิ่งชิงที่ชั้น 69 ราชันย์ยุทธ์จันทราคลั่งที่ชั้น 70 และอวี่เฟิงที่ชั้น 79
เมื่อเหลือบมองคนเหล่านั้นแล้ว ฉู่โม่วก็ปีนต่อไป
…
“เจ้าหมอนี่สามารถขึ้นไปยังชั้น 60 ได้จริงเหรอเนี่ย?”
ผู้ที่อยู่ใกล้สุดอย่างฉางจื่อเฉินในตอนนี้ตาเบิกโพลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
อย่างที่รู้กัน
ในฐานะที่เป็นอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์จากสุดยอดฐานอวี้จาง ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่แค่ในขั้นราชันย์ยุทธ์ระดับสุดยอด แต่ลำดับในวิหารราชันย์เทพยุทธ์ของเขาก็เป็นถึงอันดับ 1 ต่อให้คนรุ่นราวคราวเดียวกันจะขึ้นเป็นราชันย์เทพยุทธ์ได้ก่อนก็จริง แต่ก็ยังไม่เกินความสามารถของเขาที่จะประลองพลังด้วย
ด้วยความแข็งแกร่งของเขา ลำพังขึ้นมาเพียงชั้นที่ 67 ก็แทบจะหมดกำลังแล้ว
แต่ฉู่โม่ว…
เป็นเพียงราชันย์ยุทธ์ระดับต้นเท่านั้น แต่กลับมาถึงชั้นนี้ได้เชียวหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น
เมื่อตอนที่เขามาถึงชั้น 60 ขาเขายังสั่นแทบตายเลย แต่ฉู่โม่วกลับแสดงความผ่อนคลาย… อย่าบอกนะว่า… คนคนนี้มีพลังจิตที่แข็งแกร่งกว่าเขา?
จะเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไรกัน!?
ฉางจื่อเฉินไม่สามารถยอมรับได้
อันที่จริงก็ไม่ใช่เพียงแค่เขา แต่เป็นผู้ปลุกพลังเกือบจะทุกคนที่เมื่อได้เห็นฉู่โม่วขึ้นมาได้ถึงขนาดนี้ ก็แสดงสีหน้าอย่างกับเห็นผี
“ฉู่โม่วคนนี้คือใครกันแน่น่ะ?”
“สถานที่อย่างสุดยอดฐานจงไห่ ทำไมถึงมีผู้มีพรสวรรค์ระดับนี้เกิดขึ้นมาได้?”
“ไม่น่าเชื่อ! ไม่สิ เรื่องนี้ไม่จริงแน่ ๆ !”
“เป็นแค่ราชันย์ยุทธ์ระดับต้นแท้ ๆ แต่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ คนคนนี้… แท้จริงแล้วเขาแข็งแกร่งระดับไหนกัน?”
กลุ่มของผู้ปลุกพลังเริ่มคุยกัน และทุกคำพูดของพวกเขาก็แสดงถึงความตกตะลึง
เขาไม่สนใจคำพูดคำจาของคนอื่นที่อยู่รอบตัว
ในตอนนี้
ฉู่โม่วยังคงไต่ขึ้นไปยังชั้นที่สูงขึ้นด้วยความรวดเร็ว
ชั้นที่ 61!
ชั้นที่ 62!
ชั้นที่ 63!
หลังจากชั้น 60 ขึ้นมาแล้ว แรงกดดันที่กดลงมาจากเบื้องบนก็ยิ่งหนักแน่นขึ้นไปอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มากเกินไปกว่าระดับที่ฉู่โม่วสามารถทนได้ เขายังคงก้าวขึ้นไปอย่างรวดเร็วยังชั้นที่ 69
ในจังหวะที่จะก้าวขึ้นไปยังชั้นที่ 70
เพียงแค่ก้าวเท้าขึ้นไป แรงกดดันทางจิตอันมหาศาลก็พุ่งกดลงมา ทว่า …ลำพังแค่ฉู่โม่วถอนหายใจ จิตวิญญาณปฐมกาลของเขาก็กลายสภาพเป็นสีทองอร่ามและป้องกันเขาจากแรงกดดันมหาศาลนั้น
ทำให้เขาสามารถก้าวขึ้นไปยังชั้นที่ 70 ได้!
เมื่อมาถึงชั้นนี้ ตัวเลือกทั้งสามก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าฉู่โม่ว
ของรางวัลประจำชั้นที่ 70 นี้ ระดับสูงกว่าระดับแพลทินัมเสียอีก ทำให้ฉู่โม่วค่อนข้างตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ขณะได้มองดูของรางวัล
ภาพสามมิติของของรางวัลทั้งสามปรากฏขึ้น
ต่างกับชั้นก่อน ๆ ตัวเลือกทั้งสามในครานี้ เป็นสมบัติแห่งโลกและสวรรค์ทั้งหมด
กายาพิสุทธิ์!
ผู้ปลุกพลังที่ใช้สิ่งนี้ก่อนจะได้มาซึ่งร่างกายไร้ที่ติ จะทำให้ร่างกายของคนคนนั้นไร้ที่ติ
ไผ่โลหิตศักดิ์สิทธิ์!
กระบอกไม้ไผ่ที่หลั่งเลือดที่มีความบริสุทธิ์มากออกมา ภายหลังจากที่ผู้ปลุกพลังกลืนกินมันเข้าไปแล้ว จะช่วยชำระล้างและกลั่นลมปราณและเลือดของผู้ดื่มกินใหม่ ทำให้ทั้งเลือดและลมปราณแข็งแกร่งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ตัวกระบอกไผ่เองก็ยังถือเป็นสมบัติระดับสุดยอดที่มีพลังวิญญาณมากมายอัดแน่นอยู่ โดยปรมาจารย์ด้านอาวุธได้กล่าวถึงพลังของมันไว้ว่า มันสามารถพัฒนาเป็นอาวุธจิตวิญญาณชั้นยอดได้ โดยสามารถนำมันไปดัดแปลงเป็นอาวุธ และของสิ่งนั้นจะกลายเป็นยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับสูงในอนาคต
ศิลากาลเวลา!
ว่ากันว่าภายใต้สายธารแห่งกาลเวลามีสิ่งที่เรียกว่าศิลาแห่งกาลเวลาถูกซ่อนเอาไว้อยู่ ภายหลังจากที่ดูดกลืนพรสวรรค์แห่งห้วงเวลาอยู่ภายใต้สายธารนั้นมาเป็นเวลานาน มันก็สั่งสมพรสวรรค์แห่งห้วงเวลาเอาไว้อย่างเปี่ยมล้น
“แม้แต่ศิลาแห่งกาลเวลาก็มีงั้นเหรอเนี่ย…”
เมื่อเห็นว่าสิ่งนี้คืออะไร สายตาของฉู่โม่วก็ไม่ละไปไหนอีกเลย
แม้ว่าสมบัติแห่งโลกและสวรรค์ทั้งสองชิ้นจะไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่าย ๆ ก็จริง ทว่าการมีอยู่ของมันอาจจะทำให้ทั่วทั้งสุดยอดฐานจงไห่เป็นบ้ากันไปได้เลย
แต่ในสายตาของฉู่โม่ว ทั้งสองสิ่งนี้ไม่สามารถเทียบเท่าศิลาแห่งกาลเวลาได้แต่อย่างใด!
เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เลือกศิลาแห่งกาลเวลาทันทีทันใด
ในตอนที่ได้ทำการเลือกของรางวัลไปแล้ว ตัวเลือกอีกสองอย่างก็หายไปในทันที และกลายเป็นหินขนาดเท่ากำปั้นลอยลงมา
ลักษณะของมันเป็นหินสีดำสนิท ไม่มีอะไรดูเป็นจุดเด่นได้ ไม่ต่างอะไรกับหินทั่วไป แต่เมื่อมันมาอยู่ในกำมือเขาแล้ว เขาจึงสามารถรู้สึกได้ว่าหินก้อนนี้กลมอย่างไร้ที่ติ แถมยังปล่อยพลังงานแปลกประหลาดออกมาจากด้านในด้วย
หากสิ่งนี้อยู่ในมือคนอื่น เขาอาจจะไม่สามารถบอกได้ว่าพลังที่ปลดปล่อยออกมานั้นคืออะไร
แต่เพราะมันอยู่ในมือของฉู่โม่ว เขาจึงสามารถบอกได้ในทันทีว่าพลังที่ปลดปล่อยออกมานี้ คือพรสวรรค์แห่งห้วงเวลา!
“พรสวรรค์แห่งห้วงเวลาที่ฉันครอบครองอยู่นั้นเป็นเพียงระดับ 3 ศิลาแห่งกาลเวลาจะช่วยทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น อาจจะสัก 1-2 ระดับ และบางทีก็อาจจะทำให้ความสามารถในการเร่งหรือหน่วงเวลาของฉันพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นด้วย!”
คิดได้เช่นนั้น
โดยไม่ลังเล ฉู่โม่วก็ถือศิลาแห่งกาลเวลาไว้แล้วนั่งขัดสมาธิลงไปทันที เขาหลับตาลงและค่อย ๆ กระตุ้นพรสวรรค์แห่งห้วงเวลาในร่างของเขาออกมาเพื่อเชื่อมต่อกับศิลาแห่งกาลเวลาในมือนี้
พรสวรรค์แห่งห้วงเวลาที่อัดแน่นอยู่ในศิลาแห่งกาลเวลานั้นเข้มข้นมาก และมีต้นกำเนิดของกาลเวลาแฝงอยู่ด้วย
ในตอนนี้
ด้วยการเชื่อมต่อของฉู่โม่ว พลังงานแห่งกาลเวลาก็พุ่งเข้าหาสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับมัน นั่นคือร่างของฉู่โม่ว มันกระจายไปทั่วร่าง ไปตามแขนและขาของเขาในพริบตา
ไหลเปลี่ยนจากทั่วทั้งร่างเข้าสู่เส้นลมปราณ วิ่งพล่านไปทั่วตามทุกหนแห่งที่เส้นลมปราณไหลผ่าน ทำให้กาลเวลารอบตัวของฉู่โม่วเกิดความแปรผันเล็กน้อย
แต่โชคดีที่พลังงานแห่งกาลเวลารอบ ๆ ตัวเขานั้นไม่ได้กระจายออกไปด้วย
เพราะเหล่าผู้ปลุกพลังคนอื่นที่อยู่แถวนั้นต่างมองดูสภาพของฉู่โม่วที่ตอนนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับคนที่กำลังนั่งฝึกฝนเลยแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้พวกเขาไม่ได้ใส่ใจอะไร
“ดูดกลืน!”
เมื่อพลังงานแห่งกาลเวลาภายในร่างกายมากขึ้น ฉู่โม่วก็เริ่มดูดกลืนมันด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาทันที
เมื่อเวลาผ่านไป
เขาดูดซับพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ และการดูดกลืนพลังงานแห่งเวลาก็ทำให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นเช่นกัน พรสวรรค์ห้วงเวลาในร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นตามลำดับ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่
ในที่สุด พลังงานแห่งกาลเวลาที่ได้มาจากศิลาแห่งกาลเวลาก็หมดไป คลื่นพลังงานที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของฉู่โม่วก็พลอยสลายหายไปด้วย
ซู่ม!
ฉู่โม่วลืมตาตื่น เขาเห็นความผันผวนของชีวิตลอยผ่านตาไปราวกับว่าสิ่งนี้คือสายธารกาลเวลา
ทว่าในเวลาเพียงไม่นาน ความรู้สึกเหล่านั้นก็ค่อย ๆ หายไป พร้อมกับสายตาที่กลับมามองเห็นภาพได้ตามปกติ
เขารีบตรวจสอบสถานะของตนเองก่อน
[ความสามารถพิเศษ : พรสวรรค์แห่งห้วงเวลาระดับ 4]
“เรียบร้อย!”
“พรสวรรค์แห่งห้วงเวลาพัฒนาขึ้นไปในระดับสูงขึ้นอีกขั้นแล้วจริง ๆ ด้วย!”
เห็นเช่นนั้น สีหน้าของฉู่โม่วก็อดแสดงความดีใจออกมาไม่ได้
“ทดสอบพลังของกาลเวลาระดับ 4 หน่อยดีกว่า”
ฉู่โม่วข่มความตื่นเต้นไว้แล้วเริ่มจัดการกับพรสวรรค์แห่งห้วงเวลาที่อยู่ภายในร่างกายของเขา
อย่างแรกคือการรับรู้กาลเวลา
พรสวรรค์แห่งห้วงเวลาระดับ 4 ทำให้ฉู่โม่วตอบสนองต่อเวลาได้ดีมาก ๆ เขาสามารถรับรู้ถึงกาลเวลาได้ง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะทีเดียว
อย่างที่สองคือการเร่งและหน่วงห้วงเวลาที่พัฒนามากขึ้นกว่าเดิมจากสี่เท่าเป็นหกเท่าแล้ว!
นอกจากนี้
พรสวรรค์แห่งห้วงเวลาระดับ 4 ยังช่วยทำให้ฉู่โม่วสามารถสร้างเขตแดนแห่งกาลเวลาได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
ภายใต้เขตแดนนี้
เขาสามารถปรับเปลี่ยนกาลเวลาทั้งหมดได้ แน่นอนว่าทุกสิ่งที่อยู่ในขอบเขตของกาลเวลาสามารถทำให้เร็วขึ้นหกเท่า หรือไม่ก็ช้าลงหกเท่าเท่านั้น
ดังนั้นแล้ว ด้วยเหตุนี้ ในอนาคตไม่เพียงแต่ฉู่โม่วจะสามารถเร่งเวลาฝึกฝนของตนเองได้เพียงเท่านั้น เขายังสามารถใช้มันกับคนอื่นได้ด้วย
“ถือเป็นของรางวัลที่ดี!”
“สมแล้วที่พยายามเพื่อการนี้โดยเฉพาะ!”
ภายหลังจากที่เรียนรู้พลังที่เพิ่มขึ้นของพรสวรรค์แห่งห้วงเวลาระดับ 4 เป็นที่เรียบร้อย ฉู่โม่วก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นอยู่
เพราะอย่างงั้น…
เขาจึงมองขึ้นไปด้านบน
นี่เพิ่งจะแค่ชั้น 70 เท่านั้น!
หากสามารถขึ้นไปยังชั้นที่ 80 ได้ เขาจะต้องได้ของรางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่านี้แน่ ๆ !
และถ้าสามารถก้าวไปถึงชั้น 90 ได้ ของรางวัลชั้นนั้นจะเป็นระดับไหนกันนะ!?
ตระหนักได้เช่นนี้
ใจของเขาก็เปี่ยมไปด้วยความหวัง ฉู่โม่วไม่รอช้าที่จะก้าวต่อไปเพื่อมุ่งหน้าสู่ชั้น 80!
แต่เพียงเขาก้าวขาไปต่อ
เหล่าผู้มีพรสวรรค์ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขาก็เริ่มใจเต้นไม่เป็นจังหวะกันขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน!
MANGA DISCUSSION