บทที่ 24 หอการค้าหยกแก้ว หมัวซานซาน!
ภายในย่านยุทธภัณฑ์แห่งนี้ มีพื้นที่มากมายให้เดินจับจ่ายซื้อขาย
ด้วยความที่เป็นโซนอาคารขนาดใหญ่มีความสูงกว่าแปดชั้น แต่ละชั้นก็มีพื้นที่เทียบเท่าได้กับสนามฟุตบอล ร้านค้ามากมายตั้งเรียงรายหลายรูปแบบ และในทุกชั้นเองก็มีผู้ปลุกพลังเดินกันทั่วจนเป็นภาพที่ชินตาไปแล้ว
ขนาดของมันควรจะเรียกว่าห้างสรรพสินค้าเสียมากกว่าย่านซะด้วยซ้ำ
หลังจากที่ฉู่โม่วส่งภารกิจเรียบร้อยแล้ว เขาก็เลือกที่จะเดินดูที่นี่อีกครั้งหนึ่ง
เพราะอีกหนึ่งจุดประสงค์ที่เขาเลือกจะมาที่นี่ในวันนี้
นอกจากเพื่อส่งภารกิจแล้ว เขาอยากจะหาร้านสำหรับขายซากสัตว์อสูรที่เขาเก็บมาได้ก่อนหน้านี้ กับหาซื้อกระบวนท่าสำหรับฝึกฝนร่างกายในขั้นผู้ฝึกยุทธ์ด้วย
ไม่นานนัก
ฉู่โม่วเลือกที่จะเข้าไปในร้านร้านหนึ่งภายในย่านนี้ เพราะเห็นว่าร้านดังกล่าวมีขนาดใหญ่ที่สุด
‘หอการค้าหยกแก้ว’
ชื่อนี้ฉู่โม่วเคยได้ยินมาก่อนหน้าแล้ว
ว่ากันว่าหอการค้าหยกแก้วแห่งนี้ เป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การดูแลของเครือพันธมิตรพ่อค้าหยกแก้ว
พันธมิตรพ่อค้าหยกแก้ว เป็นกลุ่มอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ พวกเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งฐาน มีผู้ฝึกยุทธ์และจอมยุทธ์มากมายอยู่ภายใต้เครือธุรกิจแห่งนี้ เพราะงั้นจึงเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายยังต้องเกรงใจ
แล้วก็…
ยังมีอีกข่าวลือด้วยว่า พันธมิตรพ่อค้าหยกแก้วที่อยู่ภายในฐานลู่หยางนี้ไม่ใช่สาขาหลัก หากแต่เป็นสาขาย่อยมาเปิดอีกทีหนึ่ง
แต่นั่นก็เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่จริงขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่กวาดตามองก็รู้สึกได้แล้วว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่เพียงร้านทั่ว ๆ ไปอย่างแน่นอน เพราะเป็นอันที่รู้กันแล้วว่าเบื้องหลังพันธมิตรพ่อค้าหยกแก้วนี้ย่อมไม่ใช่กลุ่มคนขนาดเล็กแน่
แต่ก็เท่านั้น เพราะมันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวของกับฉู่โม่วอยู่แล้ว
เพียงก้าวเท้าเข้าไปด้านใน
“นายท่านผู้ฝึกยุทธ์ อยากได้อะไรดีคะ? หอการค้าหยกแก้วของพวกเรามีสินค้าทุกประเภท! แถมราคาเองก็ยังน่าประทับใจอีกด้วย!”
พนักงานสาวที่มีหน้าตาสละสลวย ผู้มาพร้อมกับรอยยิ้มพิมใจบนใบหน้า เธอรีบเอ่ยขึ้นทันทีด้วยความคึกคัก
ฉู่โม่วหันมองตามเสียง แล้วเขาก็รับรู้ได้ว่าแม้แต่เธอคนนี้เองยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ด้วยเช่นกัน
อันที่จริงก็พอจะรู้สึกได้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าพนักงานร้านขายของต่าง ๆ ภายในที่แห่งนี้ต่างก็มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดากันทั้งนั้นเลย
เขาสลัดเรื่องอื่นในหัวออกก่อนจะพูดขึ้น “วันนี้อยากจะมาขายพวกซากสัตว์อสูร กับซื้อของที่จำเป็นในการฝึกฝนสักหน่อยน่ะครับ”
สิ้นเสียง
รอยยิ้มบนใบหน้าพนักงานสาวยิ่งกว้างกว่าเดิมอีกเท่าตัว เธอรีบพูดตอบ “เข้าใจแล้วค่ะ ตามดิฉันมาทางนี้เลยค่ะ”
เธอเดินนำและพาฉู่โม่วมานั่งยังจุดพักรอ
พักหนึ่งชายสูงวัยก็เดินออกมา “นายท่าน กระผมเป็นผู้ประเมินราคาประจำหอการค้าหยกแก้ว ซากสัตว์อสูรที่ท่านอยากจะนำมาขายให้ทางเรา กระผมผู้นี้จะเป็นผู้ประเมินราคาหลังตรวจสอบคุณภาพของมันเรียบร้อยแล้วเองครับ”
“งั้นขอรบกวนด้วยแล้วกันนะครับ”
ฉู่โม่วพยักหน้าและหยิบเอากระเป๋าของเขาขึ้นมา เพื่อหยิบวัตถุดิบสัตว์อสูรที่อยากขายมาวาง
สิ่งแรกที่มีมากที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นเลือดของสัตว์อสูรระดับ 1
หลังจากที่ฉู่โม่วได้ขยับขึ้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้ว เลือดสัตว์อสูรเหล่านี้มีผลกับเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อีกทั้งเพราะจำนวนที่มีมาก มันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเลือกที่จะขายมันทิ้งบ้าง
แน่นอนว่ามันไม่ใช่ของที่ไม่ดี
นอกจากนี้ฉู่โม่วยังขายกระบี่ที่ได้จากโจวชี่และกระบี่ที่ได้จากสวี่กวงไปด้วย
นั่นเพราะทั้งสองสิ่งนี้ไม่ใช่ของเขาตั้งแต่ต้นแล้ว
ยังไงเสียสวี่กวงก็มีเบื้องหลังที่ค่อนข้างทรงพลัง หากเขานำกระบี่เล่มนี้มาใช้ บางทีหากผู้ที่มาเห็นเป็นผู้ฝึกยุทธ์จากฐานฉางเฟิง มันอาจจะนำพามาซึ่งปัญหาให้เขาได้
และในส่วนของกระบี่โจวชี่ ตอนนี้มันค่อนข้างจะไม่ได้ดีเลิศเหมือนช่วงแรก ๆ แล้ว
นอกเหนือจากกระบี่ทั้งสองเล่ม มันยังมีสิ่งของอีกมากมายหลายอย่างที่ถูกเทลงมากองจนแทบจะกลายเป็นภูเขาสิ่งของขนาดย่อม
มองไปยังวัตถุดิบและสิ่งของเหล่านี้
ทั้งพนักงานสาวและผู้ประเมินราคาต่างต้องรู้สึกประหลาดใจกันนิดหน่อย
มันไม่ใช่อาการตกใจเพราะได้เห็นปริมาณสิ่งของมากมายที่ถูกนำมาวางขาย หากแต่เป็นเพราะสิ่งของเหล่านี้มาจากคนที่อายุไม่น่าเกินสิบแปดปีนี่ต่างหาก ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ
ชายคนนี้แข็งแกร่งขนาดนี้เชียว? …ทั้งที่อายุยังไม่เท่าไหร่แท้ ๆ
พวกเขามองหน้ากันเอง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาในท้ายที่สุด
ผู้ประเมินราคาได้แต่กลืนน้ำลายและเริ่มงานของเขาไป
พักใหญ่ ๆ สิ่งของเหล่านี้ก็ถูกประเมินเป็นราคาคร่าว ๆ ออกมา
“หลังจากการที่กระผมได้ประเมินราคาสินค้าทั้งหมดแล้ว สิ่งเหล่านี้จะอยู่ที่ประมาณสองร้อยหกสิบหินปฐมกาลระดับต่ำครับ นายท่านยังอยากที่จะขายอยู่ไหม?”
ฟังเช่นนั้นแล้วฉู่โม่วก็พยักหน้าเบา ๆ
ถึงแม้ว่าตัวเขาจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราคาตลาดของสิ่งของและวัตถุดิบเหล่านี้ แต่เพราะหอการค้าหยกแก้วมีชื่อเสียงที่ดีจากที่เขาได้ยินมา ผนวกกับราคานี้ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกแย่แต่อย่างใด หลังจากมั่นใจแล้ว เขาก็พยักหน้าหนักขึ้นเพื่อยินยอมที่จะขายทันที
“ขายครับ แต่ผมยังอยากเลือกซื้อของสำหรับฝึกฝนจากร้านต่ออีกสักหน่อย” ฉู่โม่วพูด
คราวนี้ใบหน้าของพนักงานสาวดูจะสดใสยิ่งกว่าเดิมเสียอีกหลังได้ยินแบบนั้น
การที่ฉู่โม่วเลือกที่จะนำของมาขายกับเธอ นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเธอจะได้โบนัสเพิ่มในฐานะลูกจ้าง แล้วยิ่งฉู่โม่วบอกจะซื้อของเพิ่มจากในร้านอีกนั่นก็หมายถึง ครั้งนี้เธอจะได้ค่าส่วนแบ่งในปริมาณมากอย่างแน่นอน
เธอกำลังเป็นหนูตกถังข้าวสารชัด ๆ!
ถ้าปิดการขายในรอบนี้ได้ เธอจะต้องได้เงินมากแน่ ๆ!
ทันทีทันใด หญิงสาวรีบวิ่งไปหยิบเอาใบรายการสินค้าของทางร้านมานำเสนอด้วยท่าทีเอาอกเอาใจ
ฉู่โม่วหยิบและไล่ดูรายการสินค้าต่าง ๆ
มันมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อจริง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นเลือดสัตว์อสูร ซากสัตว์อสูร ยาฟื้นฟู กระบวนท่าวรยุทธ์ อาวุธหรือแม้แต่ของล้ำค่ามากมาย
และสิ่งที่สะดุดตาเขาที่สุดก็เห็นจะเป็นเลือดอสูรนั่นแหละ!
ทว่าราคาของมันกลับสูงเสียเหลือเกิน สูงเกินกว่าที่ฉู่โม่วจะจับจ่ายมันมาไว้ในครอบครองได้
ในตอนที่สรุปราคาของที่จะขายมาได้ราว ๆ หินปฐมกาลสามร้อยก้อน ตอนนั้นเขาคิดว่าตนเองก็น่าจะเริ่มมีเงินมีทองเป็นว่าที่มหาเศรษฐีรายย่อม แต่พอได้เห็นของราคาระดับนี้ เขาก็ล้มเลิกความคิดว่าตนเองเป็นคนรวยไปทันที
ความสนใจนั้นถูกล้มเลิกไปและเปลี่ยนไปดูอย่างอื่นต่อ
ท้ายที่สุด ฉู่โม่วก็ตัดสินใจเลือกเอาสิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดมาสามรายการ
“รับเป็น มีดเหล็กสำหรับต่อสู้ระดับ 3 คัมภีร์กระบวนท่าสำหรับฝึกฝนร่างกายของผู้ฝึกยุทธ์ แล้วก็สารานุกรมสัตว์อสูรและพืชนานาพันธุ์แล้วกันครับ!”
สำหรับคนอื่น สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ของที่น่าซื้อนัก
นั่นเพราะมันดูไม่มีประโยชน์อะไรสักเท่าไหร่
พนักงานหญิงมองยังสิ่งที่ฉู่โม่วเลือกไว้ว่าจะซื้อแล้วยิ้มให้ “มีดเหล็กสำหรับต่อสู้ระดับ 3 ราคาหนึ่งร้อยหกสิบหินปฐมกาล คัมภีร์กระบวนท่าฝึกฝนร่างกายสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ ราคาหนึ่งร้อยหินปฐมกาล แล้วก็สารานุกรมทั่วไปของสัตว์อสูรและพืชพรรณ ราคายี่สิบหินปฐมกาล ทั้งหมดหินปฐมกาลสองร้อยแปดสิบก้อนค่ะ… นายท่านต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มอีกสามสิบก้อนนะคะ!”
ได้ยินเช่นนั้นฉู่โม่วพลันรู้สึกเจ็บขึ้นมาลึก ๆ
ภายในกระเป๋าของเขานั้น มันเหลือหินปฐมกาลไม่ถึงสี่สิบก้อนด้วยซ้ำ แล้วยังได้มาจากสวี่กวงด้วย
หากจำเป็นต้องใช้หมดในคราวเดียว เขาจะไม่เหลืออะไรติดไม้ติดมือเลยนะ
ช่างเป็นสถานการณ์ที่บีบช้ำหัวใจจริง ๆ
แต่ใครจะไปรู้
ขณะนั้นเอง จู่ ๆ พนักงานอีกคนหนึ่งก็เดินลงมาชั้นล่าง เพื่อกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับพนักงานสาว พลันเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธออดไม่ได้ที่จะเหลือบมองมายังฉู่โม่วด้วยความประหลาดใจ
“นายท่านผู้ฝึกยุทธ์ ผู้ดูแลสาขาของพวกเราอยากจะเชิญท่านขึ้นไปด้านบนค่ะ!”
ผู้ดูแลสาขา?
ฉู่โม่วขมวดคิ้ว
หรือเป็นเพราะเจ้าของหอการค้าหยกแก้วเแห่งนี้คิดจะใช้การที่เขาดูเป็นคนที่วรยุทธ์ต่ำ เพื่อจะเรียกเอาเงินเยอะ ๆ งั้นเหรอ?
แต่เพียงไม่นานความคิดนั้นก็หายไป เขาส่ายหน้า
ไม่มีทางแน่ ๆ!
หอการค้าหยกแก้วนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของเครือพันธมิตรพ่อค้าหยกแก้ว พวกเขามีร้านค้ามากมายกระจายอยู่ตามถนนสายหลักต่าง ๆ ภายในฐานแห่งนี้ แม้จะไม่รู้รายละเอียดตัวเลขชัดเจน แต่ฉู่โม่วก็มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับหินปฐมกาลราว ๆ หนึ่งพันหกร้อยก้อนในแต่ละวันอยู่แล้ว กับอีแค่ร้อยสองร้อยก้อนพวกเขาจะมาสนใจทำไม?
ไม่ว่าจะมองมุมไหน เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจ้องจะหลอกเอาเงินจากเขาเลย
ฉู่โม่วคิดไม่ตก
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจบอกไป “นำทางทีครับ”
ได้รับการตัดสินใจ พนักงานสาวก็พยักหน้าแล้วเดินนำฉู่โม่วไปชั้นบน
ที่ด้านบนนั้นเป็นเหมือนห้องสำหรับรองรับแขกที่มาเยี่ยม
บนชั้นนี้ไม่ได้ดูหรูหราถึงขั้นโอ่อ่า แต่มันดูเรียบง่ายและเปี่ยมด้วยความสง่างาม ซึ่งมากไปด้วยอารมณ์ที่อธิบายไม่ได้
ภายในห้องรับรองดังกล่าว มีคนสองคนยืนรออยู่แล้ว ณ เวลานั้น
เพียงแค่ได้เหลือบตามอง ฉู่โม่วถึงกับต้องตกตะลึงจนดวงตาสั่นสะท้านไปทั้งดวง
คนหนึ่งเป็นสตรีผู้ที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ เธอสวมชุดกระโปรงยาวสลวย ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงาม เผลอ ๆ เธอผู้นี้อาจจะสวยไม่แพ้เฉินซีเวยเลย
ส่วนอีกคนหนึ่ง
เป็นหญิงสูงวัย
แต่กลับให้ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดา ทุกลมหายใจของหญิงชรา อัดแน่นไปด้วยพลังอันมหาศาลราวกับเป็นความแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านออกมาจากเหวลึก
ด้วยเสื้อเชิ้ตสีเขียวที่เธอสวม ใบไม้สีทองสามใบที่ถูกปักไว้บนอกจึงเด่นหราขึ้นมาอย่างมาก
ทั้งสองเป็นคนของเครือพันธมิตรพ่อค้าหยกแก้วแน่นอน
และการที่บนเสื้อของเธอมีใบไม้สีทองถูกปักไว้ถึงสามใบ นั่นก็หมายถึง คนคนนี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง!
ขณะนั้นเอง
หญิงชราที่ยืนกอดอกอยู่ข้าง ๆ ก็แสดงท่าทีให้เกียรติออกมา
การผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นแสดงกิริยาเช่นนี้ใส่ มันทำให้ฉู่โม่วรู้สึกหนักใจเล็กน้อย แต่ก็ทำให้มั่นใจอะไรด้วยอย่างหนึ่ง
เธอคนนี้…
บางทีอาจจะไม่ใช่พนักงานหลังร้านทั่ว ๆ ไปเสียแล้ว!
ความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นมาในใจ
“ยินดีที่ได้พบเจอค่ะ ฉันชื่อ หมัวซานซาน มาจากพันธมิตรพ่อค้าหยกแก้ว”
จังหวะที่ฉู่โม่วกำลังคิดอยู่กับตนเอง หญิงสาวที่นั่งอยู่ก็ยืนขึ้นและกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม “ขอโทษที่ต้องผลีผลามชวนท่านผู้ทรงเกียรติขึ้นมาพบกันเช่นนี้ พวกเรากำลังรบกวนเวลาของท่านหรือเปล่า?”
…
MANGA DISCUSSION