บทที่ 215 เปิดทวารากับจุดลมปราณ และเดินทางสู่วิหารราชันย์เทพยุทธ์
อย่างที่รู้กันว่าบนร่างกายมีทวาราอยู่ราว 365 จุด เมื่อผู้ปลุกพลังฝึกวิชาจนถึงขั้นจ้าวยุทธ์แล้ว การเชื่อมต่อจุดฝังเข็มต่าง ๆ จะสามารถทำได้จนถึงขีดจำกัดสูงสุด
หลังจากนั้น เมื่อร่างกายสัมผัสถึงความหมายอันลึกซึ้งของกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ได้แล้วก็จะเข้าสู่ขั้นราชันย์ยุทธ์ได้!
แน่นอนว่านี่คือระดับขั้นของการเปลี่ยนแปลงในหมู่ผู้ปลุกพลังธรรมดาทั่วไป ผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงย่อมมีวิถีทางที่แตกต่าง เช่นเดียวกับเมื่อครั้งฉู่โม่วบรรลุขั้นจ้าวยุทธ์ เขาได้ใช้กระบวนท่าฝึกอณูแห่งชีวิตเมฆาครามเพื่อปรับเปลี่ยนร่างกายกับเส้นลมปราณ
แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าทวาราจะด้อยกว่าเส้นลมปราณแต่อย่างใด
อันที่จริงแล้ว…
ร่างกายมนุษย์เปรียบเสมือนจักรวาล ทวาราทั้ง 365 จุดเสมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้าที่มีพลังงานไม่สิ้นสุด
คัมภีร์ชีพจรวิญญาณเทวะเป็นเหมือนการเจาะเข้าไปในร่างกายที่ผ่านการฝึกฝนของผู้ปลุกพลัง และปรับแต่งทวาราให้เป็นจุดตันเถียนขนาดเล็กเพื่อเพิ่มความจุของพลังงานในกาย
“นี่มัน…”
“คัมภีร์ชีพจรวิญญาณเทวะสามารถเปลี่ยนทวาราให้กลายเป็นจุดตันเถียนได้จริงเหรอ”
ครั้นมองไปยังคำอธิบายบนปกหนังสือหยก ฉู่โม่วอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตกตะลึง
จริง ๆ แล้ว… ในร่างกายของผู้ปลุกพลังแต่ละคนล้วนมีจุดตันเถียนคนละหนึ่งจุดเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดด้วย
เมื่อจุดตันเถียนถูกทำลาย พลังพื้นฐานของผู้ปลุกพลังจะถูกทำลายลงไปด้วย หากไม่มีสมบัติสวรรค์และโลกเข้ามาชดเชยก็ไม่มีโอกาสจะฟื้นฟูร่างกายได้อีก
ปริมาณพลังชีวิตทั้งหมดในจุดตันเถียนของผู้ปลุกพลังแต่ละคนไม่ต่างกันเท่าไรนัก
ทั้งนี้การฝึกวิชาบางอย่างยังสามารถทำให้จุดตันเถียนมีขนาดใหญ่ขึ้นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้พลังชีวิตที่มีอยู่เพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายแต่อย่างใด
ทว่าคัมภีร์ชีพจรวิญญาณเทวะแตกต่างออกไป!
มันสามารถเปลี่ยนทวาราทั้ง 365 จุดกลายเป็นจุดตันเถียนขนาดเล็กจิ๋วได้!
แม้ว่าพลังอณูแห่งชีวิตที่อยู่ภายในทวาราอาจไม่ดีเท่าที่จุดตันเถียนก็จริง แต่ด้วยจำนวนของทวาราทั้งหมด พลังอณูแห่งชีวิตที่เพิ่มขึ้นจึงมหาศาลยิ่ง!
“ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อก่อนเวลาต่อสู้ ฉันถึงรู้สึกได้ว่าพลังอณูแห่งชีวิตของโจวอวิ๋นรุนแรงมาก ลึกอย่างกับมหาสมุทร ที่แท้ก็เพราะเขาได้ฝึกฝนแบบนี้!”
“สมกับที่เป็นทักษะการต่อสู้พิเศษ!”
ฉู่โม่วรู้สึกประหลาดใจ
ไม่นานนักก็เริ่มฝึกฝนทันที
ในฐานะที่เป็นกระบวนท่าระดับแพลทินัม คัมภีร์ชีพจรวิญญาณเทวะจึงยากต่อการฝึกฝน มันจำเป็นต้องถูกกระตุ้นทวาราอย่างต่อเนื่องด้วยพลังสวรรค์และโลก จนในที่สุดจะสามารถสร้างผู้ปลุกพลังที่เทียบเท่ากับราชันย์ยุทธ์ขึ้นภายในร่างกาย เสมือนการสร้างราชันย์ยุทธ์จำลอง
การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่มีอันตรายร้ายแรง แต่หากประมาทแม้แต่นิดเดียวอาจทำให้ทวาราถูกทำลาย รวมไปถึงพลังรากฐานอาจได้รับความเสียหายเช่นกัน
ยิ่งไปกว่ากัน การอาศัยพลังอณูแห่งชีวิตเพื่อเปิดทวาราในห้วงมิติยังกินเวลาพอสมควร
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับฉู่โม่วเลย
เขามีพรสวรรค์แห่งห้วงมิติและสามารถเปิดมิติลับส่วนตัวได้
ถึงทั้งสองสิ่งที่ไม่เหมือนกันเท่าไร ทว่ามีการทำงานที่คล้ายกัน
อีกอย่าง…
ทวาราของฉู่โม่วกลายเป็นทวารากระบี่ทั้ง 365 จุดมานานแล้ว อีกทั้งพลังอณูแห่งชีวิตยังสามารถเปลี่ยนเป็นคมกระบี่ได้ทุกเมื่อ นั่นทำให้เวาลาในการเปิดปิดช่องดังกล่าวค่อนข้างสั้นลง
“มาเริ่มกันเลย!”
ชายหนุ่มควบคุมปราณกระบี่และเปิดจุดแรกอย่างรวดเร็ว
…
ในอีกฟากหนึ่ง
โจวอวิ๋นได้เดินทางกลับไปหาครอบครัว
ทันทีที่เข้าไปด้านใน เจ้าตัวที่กำลังอารมณ์คุกรุ่นไม่เพียงทุบทำลายข้าวของ แต่ยังตีสาวใช้จนตายไปหนึ่งคน…
ภาพนั้นล้วนทำให้คนรับใช้ตระกูลโจวตัวสั่นระริกด้วยความกลัวไปตาม ๆ กัน
ในดวงตาของโจวอวิ๋นคลั่งไปด้วยความเดือดดาล
“ฉู่โม่ว ฉันจะฆ่าแก!”
หลังระบายโทสะจนสิ้นก็ยืนนิ่งท่ามกลางกองสิ่งของรกพะเนิน ดวงตาเจือด้วยสีแดงก่ำ ก่อนจะคำรามร้องอย่างเคียดแค้น
ผ่านมากี่ปีแล้วนะ?
นานแค่ไหนแล้วตั้งแต่ครั้งที่คนในตระกูลยอมรับว่าเขาเป็นยอดคนผู้มากพรสวรรค์ เหตุใดวันนี้… เขาที่เป็นถึงนายน้อยตระกูลโจวจึงได้รับความอัปยศอดสูกลับมา
ต่อหน้าผู้คนในฐานทั้งหลาย ภายใต้สายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้อง กลับถูกผู้ปลุกพลังบ้านนอกจากฐานเล็ก ๆ จัดการ ทั้งยังต้องยอมมอบตำรากระบวนท่าให้กับคนผู้นั้น!
นี่มันน่าอดสูเหลือเกิน!
“อวิ๋นเอ๋อร์!”
นายท่านโจวเดินเข้ามากวาดตามองความระเกะระกะบนพื้นก่อนจะขมวดคิ้ว “มันก็เพียงแค่ความพ่ายแพ้เท่านั้น ส่องกระจกดูหน่อยไอ้ลูกชาย สภาพตอนนี้แกดูเหมือนนายน้อยตระกูลโจวหรือไม่ นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!” เสียงนั้นดุดันมาก
“ท่านพ่อ!”
เมื่อเห็นพ่อเดินเข้ามา ท่าทางของโจวอวิ๋นก็ดูจะอ่อนลง แต่ยังมีท่าทีของคนถูกขัดใจในคำพูด “ผมไม่ยอม… ผมไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงแพ้ให้กับไอ้คนนอกนั่น!”
ครั้นพูดเรื่องนี้ขึ้นมา
ดวงหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความทุกข์ “พอผมหลับตาลงทีไร หน้าของไอ้ฉู่โม่วตอนที่มันเอาชนะผมได้ก็จะลอยเข้ามาตอกย้ำ! นี่มันฝันร้าย ฝันร้ายที่จะติดตาไปจนวันตาย!”
“ถ้าไอ้บ้านั่นไม่ตาย มันจะต้องเป็นปีศาจร้ายที่กัดกินผมไปเรื่อย ๆ แน่… ท่านพ่อ ท่านฆ่าเขาได้ไหม!”
โจวอวิ๋นวิงวอน
เขารู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉู่โม่ว และพ่อของเขา โจวหยง ก็เป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในขั้นราชันย์เทพยุทธ์ ตราบใดที่ผู้เป็นบิดาเต็มใจจะลงมือ ไม่ว่าฉู่โม่วจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางรอดเงื้อมมือไปได้
ทว่า…
สิ่งที่โจวอวิ๋นไม่ได้คาดคิดก็บังเกิด
หลังจากที่โจวหยงได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้า “ไม่!”
“ทำไมล่ะท่านพ่อ!”
โจวอวิ๋นทำหน้าไม่เชื่อ
ปกติแล้วท่านพ่อตามใจเขาที่สุด หากตอนนี้อีกฝ่ายกลับไม่คิดจะช่วยเติมเต็มความปรารถนาเล็กน้อยนั่นให้
หรือจะเป็นเพราะที่เขาพ่ายแพ้กลับมากัน!?
คล้ายจะเดาได้ว่าโจวอวิ๋นคิดอะไรอยู่ โจวหยงกล่าวทั้งเสียงทุ้ม “ไม่ใช่ว่าพ่อไม่อยากช่วยลูก แต่ตอนนี้เราทำอะไรกับเจ้าฉู่โม่วนั่นไม่ได้หรอก!”
“หมอนั่นน่ะ แม้จะไม่ได้อยู่ในสุดยอดฐานจงไห่ แต่ไปได้ถึงชั้นที่ 9 ของวิหารราชันย์เทพยุทธ์ แถมยังเอาชนะลูกได้อีก ตอนนี้เขาเป็นยอดฝีมือในฐานนี้ จะทำอะไรย่อมมีผลตามมาแน่นอน อีกทั้งทางวิหารราชันย์เทพยุทธ์ก็ให้ความสำคัญกับเขามาก!”
“ถ้าจะฆ่าฉู่โม่วในตอนนี้ ก็เท่ากับลูกอาจจะต้องสูญเสียหลักยึด ที่พึ่งพิงอย่างแน่นอน… การสังหารคนที่เป็นดั่งความภาคภูมิใจของฐานเป็นสิ่งร้ายแรง ตระกูลโจวของเราแบกรับความผิดบาปเช่นที่ว่านั้นไม่ไหวหรอก มันจะทำให้เราตกอยู่ในอันตราย!”
“ตะ… แต่เราต้องทนดูมันมีความสุขอยู่ที่นี่จริง ๆ น่ะเหรอ!”
โจวอวิ๋นไม่อาจยอมรับ
“ไม่แน่นอนลูกพ่อ!”
โจวหยงมีสีหน้าหม่น “ฉู่โม่วทำลายศักดิ์ศรีของตระกูลโจวเราจนย่อยยับ มันทำแม้กระทั่งเหยียบอวิ๋นเอ๋อร์ของเราไว้ใต้ฝ่าเท้า ตระกูลโจวไม่มีวันทนยอมรับได้!”
“แต่อย่างไรตอนนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่มันกับตระกูลของเรา ดังนั้นนี่ไม่ใช่เวลาอันเหมาะสมที่จะลงมือ!”
“แต่ว่า…”
“อีกสามเดือนจะเป็นวันที่เขตแดนลับถูกเปิดขึ้น ฉู่โม่วต้องเข้าร่วมอย่างแน่นอน!”
“พวกเราตระกูลโจววางแผนไว้ล่วงหน้า หลังจากที่เข้าไปในเขตแดนลับเราจะจัดคนซุ่มโจมตีและฆ่าเขา… เขตแดนลับนั้นเต็มไปด้วยอันตราย ถ้าฉู่โม่วตายในนั้นก็ยากจะจับมือใครมาดม! ถึงจะมีคนสงสัย แต่ไม่มีทางเอาผิดกับเราได้!”
โจวอวิ๋นฟังแผนของพ่ออย่างตั้งใจ
เขารู้สึกมีความสุขเหลือเกิน “ขอบคุณครับพ่อ!”
“อย่ากังวลไปเลยอวิ๋นเอ๋อร์ ฉู่โม่วจะต้องตายอย่างแน่นอน!”
โจวหยงลูบเคราของตนพลางแสยะยิ้ม
อีกเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
ทั้งโจวหยงกับโจวอวิ๋นไม่เคยคิดเลยว่าเวลาเพียงไม่กี่เดือน ฉู่โม่วจะทำอะไรได้มาก
ในจินตนาการของพวกเขา
…เจ้าหนุ่มนั่นไม่มีทางรอด ไม่มีโอกาสได้มีลมหายใจอีกเป็นครั้งที่สอง!
“ทนอีกแค่สามเดือนเท่านั้น!”
โจวอวิ๋นรำพึงเบา ๆ ดวงตาของเขาซ่อนไว้ด้วยคมเล่ห์
…
ภายในห้องอันสงบของคฤหาสน์ ฉู่โม่วยังคงฝึกฝนเพียงลำพัง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานก็ล่วงเลยสู่วันที่สาม
วันนี้เอง
ตู้ม!
เขาที่กำลังฝึกฝนจู่ ๆ ก็รู้สึกถึงแรงระเบิดเบา ๆ ภายในร่างกาย จากนั้นสัมผัสคล้ายรูบางอย่างถูกเปิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ตามมา
เพียงชั่วพริบตา พลังงานอันรุนแรงไหลบ่าเข้าสู่ทวารา ก่อนจะค่อย ๆ ควบแน่นและหมุนวนอย่างเชื่องช้า
เมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็คลี่ยิ้มออกมา
สามวันแห่งการฝึกฝน
ในที่สุดก็เปิดทวาราแรกได้สำเร็จ!
เขามองเข้าไปในร่างกาย
“หายใจเข้า~ ออก~”
ภายในนั้นเสมือนมีดวงดาวดวงเล็ก ๆ หมุนคว้างท่ามกลางอากาศราวกับบรรจุพลังไว้ ในบางครั้งจะขยายและหดตัวตามจังหวะ
ท่ามกลางการหายใจนี้ พลังชีวิตมากมายถูกดูดซับและกักเก็บไว้
‘ในนี้มีพลังประมาณหนึ่งในยี่สิบของที่มีในจุดตันเถียนของจริง!’
‘ถ้าเป็นแบบนี้…’
‘หากทวาราทั้ง 365 จุดถูกเปิดออกทั้งหมดก็จะมีพลังเทียบได้กับการมีจุดตันเถียน 18 จุด!’
นึกได้เช่นนั้นก็อดตื่นเต้นไม่ได้!
นี่มันเป็นพลังที่มากกว่าผู้ปลุกพลังทั่วไปถึง 18 เท่าเลยนะ!
ในการต่อสู้ของเหล่าผู้ปลุกพลัง นอกเหนือจากพลังปราณและเลือดแล้ว สิ่งที่ต้องนำมาคิดด้วยก็คือพลังอณูแห่งชีวิตในจุดตันเถียน
โดยเฉพาะผู้ปลุกพลังในขั้นนายพลเมืองขึ้นไป พลังอณูแห่งชีวิตไม่เพียงแต่เพิ่มพลังกายพื้นฐานให้เป็นสองเท่า แต่ยังมีบทบาทที่สำคัญยิ่งกว่านั้น!
มันทำให้พลังพรสวรรค์ของผู้ปลุกพลังมีค่ายิ่งขึ้น
กระบวนท่าอันทรงพลังมากมายจำต้องอาศัยพลังอณูแห่งชีวิตเพื่อแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริง
เห็นได้ชัดว่าพลังอณูแห่งชีวิตมีความสำคัญอย่างมาก
“คัมภีร์ชีพจรวิญญาณเทวะนี่สุดยอดจริง ๆ !”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เวลาในการเปิดทวารานั้นช้ามาก ถึงจะเร่งเวลาก็ยังต้องใช้เวลาไปตั้งสามวันในการเปิดจุดแรก!”
“สงสัยจะต้องไปที่วิหารราชันย์เทพยุทธ์ถึงจะสามารถเร่งการฝึกได้!”
ฉู่โม่วพึมพำ
มาคิดดูแล้ว
เรื่องของโจวอวิ๋นก็เพิ่งจัดการไป ดังนั้นเขาน่าจะสามารถกลับไปที่นั่นได้ นอกจากนี้ยังเข้าถึงกระบวนท่าวิญญาณจิตสังหารขั้นที่ 2 ได้แล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็ลุกขึ้นเตรียมเดินทางทันที
ทว่าในตอนนั้น
พลันสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง ทันใดนั้นสีหน้าก็วูบไหวแปรเปลี่ยน ก่อนจะเดินออกจากห้องและมองไปนอกคฤหาสน์
ขณะเดียวกัน
ลมหายใจอันทรงพลังก็พัดปะทะเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ผู้อาวุโวสวีซิงเหอแห่งวิหารราชันย์เทพยุทธ์มาเพื่อเยี่ยมเยียนสหายตัวน้อย ฉู่โม่ว!”
MANGA DISCUSSION