บทที่ 203 ราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตาน และแต้มคะแนนราชันย์เทพยุทธ์!
หลังจากฉู่โม่วกลับมาที่คฤหาสน์ก็เก็บตัวฝึกอย่างเข้มข้นอีกครั้ง
ด้วยพรสวรรค์ห้วงเวลา และความเร็วจากการปรับแต่งพลังงานดั้งเดิมของยีนส์ที่เร่งการดูดซับพลังเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า ทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเกือบทุกช่วงเวลา
เพียงพริบตาเดียว
ผ่านไปอีกยี่สิบวัน
ในช่วงเวลานี้ ชายหนุ่มได้กลืนเลือดสัตว์อสูรระดับ 7 เพื่อการฝึกวรยุทธ์ ซึ่งทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากประมาณการความแข็งแกร่งทางกายภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 1 พลังมังกร
มีความแข็งแกร่งทางกายภาพดั้งเดิม 3 พลังมังกร และอณูแห่งชีวิตที่เพิ่มขึ้นอีกสองเท่า เป็น 6 พลังมังกร และด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นสี่ร้อยเท่า ทำให้ความแข็งแกร่งมาถึง 2,400 พลังมังกร!
เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว พลังมังกรเพิ่มขึ้นถึง 800!
“นี่คือผลลัพธ์ที่ได้จากการฝึกยุทธ์แบบแหกกฎเกณฑ์สุดขั้วทั้งสามแบบ!”
“ตราบใดที่ความแข็งแกร่งร่างกายดั้งเดิมเปลี่ยนไปแม้เพียงเล็กน้อย มันจะกลายเป็นตัวเลขที่น่ากลัวอย่างมากภายใต้การเพิ่มขึ้นสี่ร้อยเท่า!”
ชายหนุ่มพึมพำ
เขาพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้
‘เพียงแต่…’
‘ยาย้อนชะตาถูกใช้หมดแล้ว ไม่งั้นคงยกระดับเคล็ดคัมภีร์มังกรคชสารอมตะถึงขั้นที่ 4 อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ทลายตรวนกายาเป็นขั้นที่ 4 และระเบิดการฝึกยุทธ์เพิ่มขึ้นเป็นห้าร้อยเท่า!’
เมื่อนึกถึง ฉู่โม่วก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง
หากไม่มีความช่วยเหลือจากยาย้อนชะตาก็เป็นเรื่องยากมากที่จะฝึกเคล็ดคัมภีร์มังกรคชสารอมตะ มันจะเสียเวลานานเกินไปในการเลื่อนพลังสู่ขั้นต่อไป
ในตอนนี้
แม้ว่าจะพบวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับกลั่นยาย้อนชะตาทั้งหมดแล้ว หากแต่วิธีการยังคงเป็นปัญหา!
เขาไม่รู้วิธีหลอมปรุง!
‘ฉันทำได้เพียงไปตรวจสอบที่สุดยอดฐานจงไห่ เพื่อหาดูว่ามีเจ้ายาที่ทำให้ประสบความสำเร็จหรือไม่!’
ฉู่โม่วคิดกับตัวเอง
เขาไม่อาจใช้ยาทั่วไป
เพราะสิ่งที่ต้องการคือเม็ดยาขั้นสูง
เพื่อลดผลข้างเคียงพิษร้าย
มีเพียงเม็ดยาขั้นสูงเท่านั้นที่ส่งผลข้างเคียงน้อยมาก และสรรพคุณทางยาจะยิ่งสูงขึ้นด้วย
ยาย้อนชะตาที่กลืนไปก่อนหน้านี้คือยาเปิดห้าทวาร และพลังตัวยาที่บรรจุอยู่ในนั้นน่ามหัศจรรย์
ตอนนี้
ไม่คาดหวังว่าจะพบเม็ดยาที่แข็งแกร่งซึ่งสามารถปรุงยาเปิดห้าทวารได้ แต่อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าสามทวาร!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ชายหนุ่มก็สัมผัสที่กำไลข้อมือเลื่อนไปที่ชื่อของหยางเซียว และส่งสัญญาณหาทันที
“คุณฉู่โม่วเรียกหาผมมีอะไรหรือ”
ในไม่ช้า สัญญาณก็เชื่อมต่อกัน ใบหน้าและเสียงของหยางเซียวก็ดังออกมา
“คุณหยาง คุณรู้จักนักปรุงยาในสุดยอดฐานจงไห่คนไหนที่สามารถปรุงยาเปิดทวารได้บ้าง? จะดีมากถ้าสามารถปรุงยาที่เปิดสามทวารขึ้นไป!”
ชายหนุ่มถาม
“สามารถปรุงเม็ดยาที่เปิดสามทวารหรือมากกว่านั้นได้เหรอ…”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หยางเซียวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “หากเป็นแค่เม็ดยาเปิดทวารทั่วไป ที่สมาคมนักเล่นแร่แปรธาตุก็มีไม่น้อย และยังมีผู้อาวุโสในกองกำลังหลักหรือบางตระกูล บุคคลเหล่านี้นั้นล้วนสามารถปรุงเม็ดยาสามทวารได้!”
“แต่ผู้ที่สามารถปรุงยาได้มากกว่าสามทวารขึ้นไป เท่าที่ผมรู้มีเพียงสี่คนในสุดยอดฐานจงไห่!”
“หนึ่งคือผู้อาวุโสแห่งวิหารราชันย์เทพยุทธ์ คนผู้นี้สามารถปรุงยาเปิดสี่ทวารได้ แต่เขายอมรับเฉพาะผู้ปลุกพลังภายในวิหารราชันย์เทพยุทธ์เท่านั้น และไม่ยอมรับคำร้องจากผู้ปลุกพลังภายนอก!”
“คนที่สองคือรองหัวหน้าสำนักเพลิงปฐพีที่สามารถปรุงยาเปิดสี่ทวารได้ อย่างไรก็ตามมีข่าวลือว่าบุคคลนี้มีสายเลือดมนุษย์ถ้ำ และเป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเรา คาดว่าเป็นเรื่องยากที่จะตอบรับคำเชิญ!”
“สำหรับสองคนสุดท้าย…”
หยางเซียวหยุดชั่วคราวและพูดว่า “คนหนึ่งคือประธานสมาคมนักเล่นแร่แปรธาตุที่สามารถปรุงยาเปิดสี่ทวารได้ แต่เขาเก็บตัวสันโดษไปเมื่อสามสิบปีที่แล้ว และไม่รู้ว่าออกมาหรือยัง”
“ส่วนคนสุดท้ายอยู่ในสมาพันธ์เสรี เขาสามารถปรุงเม็ดยาเปิดสี่ทวารหรือแม้กระทั่งยาเปิดห้าทวารได้ แต่มีนิสัยแปลกประหลาด เป็นการยากที่เชื้อเชิญ!”
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้
ฉู่โม่วรู้ทันทีว่าสามคนแรกไม่อาจมีความหวัง ดังนั้นจึงถามตรง ๆ “ปรมาจารย์จากสมาพันธ์เสรีท่านนี้ชื่ออะไร”
“ชื่อไม่เป็นที่ทราบชัดเจน แต่ผู้คนเรียกเขาว่า ราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตาน!”
หยางเซียวกล่าว
“ราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตาน?”
ฉู่โม่วพึมพำ จากนั้นถามถึงที่อยู่และปิดการสื่อสารไป
หลังจากรู้ที่อยู่แล้ว เขาพบว่าเป็นระยะทางไม่ไกล ดังนั้นจึงออกจากคฤหาสน์และตรงไปทันที
หลังจากนั้นไม่นาน
ชายหนุ่มก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งถูกปกคลุมด้วยม่านค่ายกลเวท
นี่เป็นสถานที่ที่ราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตานอาศัยอยู่
เนื่องจากมีม่านค่ายกลเวทบดบังจึงไม่สามารถมองเห็นภายในได้
แม้จะเป็นทักษะค่ายกลเวทระดับกลาง แต่ฉู่โม่วสามารถเห็นจุดอ่อนของรูปแบบค่ายกลเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน เขาสามารถทำลายมันลงได้อย่างง่ายดาย แต่คราวนี้กำลังมาขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น โดยมารยาทแล้วจึงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
ชายหนุ่มปล่อยพลังงานเล็กน้อยเพื่อไปสัมผัสกับม่านค่ายกล จากนั้นก็รอเงียบ ๆ ที่หน้าประตู
หลังจากนั้นสักครู่
มีเสียงมาจากภายใน “คุณเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่”
“ฉันฉู่โม่ว มาครั้งนี้เพื่อขอให้ราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตานช่วยปรุงเม็ดยาให้หน่อยครับ!”
ชายหนุ่มพูดเสียงดัง
ภายในเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้น “เข้ามา!”
เมื่อเสียงเงียบลง
ทางเดินก็ถูกเปิดออก ฉู่โม่วจึงเดินตรงเข้าไป
มาถึงยังห้องโถง
เขาเห็นเตาหลอมปรุงยาขนาดใหญ่วางอยู่กลางห้อง พร้อมเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชน ทำให้อาคารทั้งหลังมีบรรยากาศร้อนระอุ
ช่างน่าชื่นชม!
เปลวเพลิงใต้เตาหลอมไม่ใช่สีแดงธรรมดา แต่เป็นสีขาวหม่น
‘เปลวเพลิงผกผัน?’
ความคิดนี้ก็ปรากฏขึ้นในใจของฉู่โม่ว
เขารู้ว่าหากต้องการเป็นนักปรุงยาต้องมีพรสวรรค์ที่เกี่ยวข้อง และต้องมีเปลวเพลิงเป็นของตัวเอง เพื่อช่วยในการปรุงเม็ดยาที่มีซับซ้อนต่าง ๆ
“คุณมาหาฉันเพื่อขอให้ปรุงเม็ดยาให้เหรอ”
ถัดจากเตาหลอม ชายชราคนหนึ่งเหลือบมองฉู่โม่วและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“ถูกต้องแล้ว ผู้น้อยมาเพื่อขอให้ผู้อาวุโสปรุงเม็ดยาเปิดสามทวารหรือมากกว่านั้น!”
ฉู่โม่วกล่าว
“ชายชราผู้นี้สามารถทำได้ แต่มีเงื่อนไขหนึ่งข้อ ฉันต้องการแต้มคะแนนราชันย์เทพยุทธ์!”
ราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตานกล่าวว่า “เอามาให้ฉันสิบแต้มแล้วจะปรุงยาให้ รับประกันความสำเร็จ แน่นอนว่ามันจะไม่ใช่เพียงยาเปิดสามทวาร และหากล้มเหลว ฉันจะปรุงยาให้ใหม่สามครั้ง!”
“แต้มคะแนนราชันย์เทพยุทธ์?”
เมื่อได้ยินคำนี้ ชายหนุ่มรู้สึกงงเล็กน้อย และถามอย่างสงสัยว่า “ราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตาน อะไรคือแต้มคะแนนราชันย์เทพยุทธ์หรือครับ”
อย่างไรก็ตาม
เพียงกล่าวจบ สีหน้าของราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตานกลับเปลี่ยนไปกะทันหัน “เด็กน้อย คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแต้มคะแนนราชันย์เทพยุทธ์คืออะไร แต่ยังกล้ามาที่นี่เพียงเพื่อจะสร้างความวุ่นวายแก่ชายชรางั้นหรือ”
เมื่อกล่าวจบ
กลิ่นอายที่น่าหวาดเกรงคืบคลานเข้ามารอบตัวชายหนุ่มราวกับว่าขุนเขาไท่ซานกำลังกดทับลงมา!
‘ความแข็งแกร่งอย่างน้อยก็อยู่ในขั้นราชันย์ยุทธ์ระดับกลาง!’
ฉู่โม่วแอบประมาณการอีกฝ่ายเมื่อสัมผัสถึงพลัง
แต่หาได้ตื่นตระหนก
แม้ว่ากลิ่นอายของราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตานจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ เห็นได้ชัดว่าเพียงต้องการทำให้ตกใจและล่าถอยกลับไป
ฉู่โม่วทำเพียงโคจรพลังวิญญาณเล็กน้อย ทำให้กลิ่นอายดุดันกระจายออกมา และสร้างแรงกดดันที่เหนือกว่าเข้าปะทะ ส่งให้แรงกดทับของราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตานพังทลายลงทันที
เห็นได้อย่างชัดเจน ราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตานคาดเดาผิดไปมากถึงพลกำลังของชายหนุ่ม ซึ่งไม่คาดว่าจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ชายชราจึงถูกบีบบังคับและต้านพลังกลับไปหลายครั้ง!
สีหน้าของเขาสับเปลี่ยนซีดเผือดระคนหมองคล้ำ
เลือดในกายพลุ่งพล่าน
“นี่คุณ…”
ชายชราเผยความโกรธเกรี้ยวผ่านสีหน้า และต้องการจะกล่าวอะไรบางอย่าง
ทันใดนั้น
เขาได้ยินฉู่โม่วเอ่ยว่า “ราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตาน ผู้น้อยเพิ่งจะมาถึงสุดยอดฐานจงไห่ และกำลังอาศัยอยู่ในย่านรุ่งอรุณ ยังไม่ค่อยรู้จักอะไรมากเกี่ยวกับสถานที่นี้ ไม่ทราบจริง ๆ ว่าอะไรคือแต้มคะแนนราชันย์เทพยุทธ์ และไม่ได้เจตนาจะมาสร้างความวุ่นวายแก่ผู้อาวุโส ได้โปรดยกโทษให้ด้วย!”
“หน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาในย่านรุ่งอรุณ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตานก็สงบลงเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น ชายชราผู้นี้จะยกเว้นให้!”
“สำหรับแต้มคะแนนราชันย์เทพยุทธ์ มันเป็นรางวัลพิเศษสำหรับผู้ปลุกพลังที่ท้าทายวิหารราชันย์เทพยุทธ์ที่มีทั้งหมด 18 ชั้น เพียงผ่านถึงชั้นสองจะได้รับสิบแต้ม และหากผ่านชั้นถัดไปจะได้รับเพิ่มยี่สิบคะแนน พร้อมสมบัติอื่น ๆ เพิ่มเติม แต่ละชั้นคะแนนสะสมจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!”
“แต้มคะแนนราชันย์เทพยุทธ์มีค่ามาก สามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติต่าง ๆ ในวิหารได้ รวมถึงยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 8 เคล็ดกระบวนท่าระดับแพลทินัม หรือแม้แต่สมบัติสวรรค์และโลกที่หายากบางอย่าง คุณก็สามารถพบเจอได้ หรือขอเปิดห้องค่ายกลเวทกลืนวิญญาณ เพื่อเร่งการฝึกยุทธ์ในวิหารราชันย์เทพยุทธ์!”
“เข้าใจแล้ว!”
ฉู่โม่วคล้ายเห็นแสงสว่าง
จากนั้นเผยสีหน้าตื่นเต้น
‘รูปแบบค่ายกลเวทกลืนวิญญาณร้อยเท่า!’
‘มีค่ายกลเวทแบบนี้อยู่ในหอคอยด้วย!’
‘หากได้รับแต้มคะแนนราชันย์เทพยุทธ์ และขอเปิดใช้งานค่ายกลเวทกลืนวิญญาณร้อยเท่า เกรงว่าความเร็วในการฝึกยุทธ์จะพุ่งทะยานสูงขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน!’
‘ต้องทำให้แน่ใจในเรื่องนี้!’
ฉู่โม่วคิดอย่างตื่นเต้น
ในขณะนั้นราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตานพูดขัดขึ้น “เหตุผลที่ชายชราผู้นี้ต้องการแต้มคะแนนก็เพื่อแลกกับตำราการกลั่นหลอมยาในวิหารราชันย์เทพยุทธ์ ซึ่งมันจดบันทึกประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยาไว้ แต่ยังขาดอีกหลายแต้มคะแนน เฮ้อ~ หนทางอีกยาวไกลกว่าจะแลกเปลี่ยนสิ่งนี้ได้ ฉันขาดไปห้าสิบแต้ม!”
“ถ้าคุณให้สิบแต้ม ฉันจะปรุงยาให้หนึ่งหม้อ แต่หากให้ห้าสิบแต้ม ชายชราผู้นี้จะปรุงยาให้โดยไม่คิดกำไรตลอดไป!”
ราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตานมองไปที่ชายหนุ่มและกล่าวอย่างจริงจัง
ตลอดเวลาเขาได้ยื่นข้อเสนอไปเช่นนี้ แต่กลับไม่มีใครหามาให้
เนื่องจากแต้มคะแนนราชันย์เทพยุทธ์นั้นมีค่ามากเกินไป…
ผู้ปลุกพลังทุกคนล้วนหวงแหนมัน
และในตอนนี้ผู้ปลุกพลังจากย่านรุ่งอรุณที่ยืนตรงหน้าคงจะเป็นโอกาสเดียวของเขา
เมื่อได้ยินเช่นนั้น
ฉู่โม่วคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ฉันสัญญา!”
“ยะ… เยี่ยมมาก! หลังจากที่ได้รับแต้มคะแนนก็ให้หาฉันที่นี่ได้ทันที!”
ราชันย์ยุทธ์ฉวี่ตานแสดงออกถึงความตื่นเต้นจึงเอ่ยออกมาตะกุกตะกัก
จากนั้น
ชายหนุ่มก็สนทนากับชายชราเพียงเล็กน้อยแล้วจากไป
‘วิหารราชันย์เทพยุทธ์และแต้มคะแนนราชันย์เทพยุทธ์ สถานที่ที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติใด ๆ ก็ได้…’
‘ดูเหมือนว่าต้องลองดู!’
‘ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน ไม่รู้ว่าฉันจะสามารถขึ้นไปถึงชั้นไหน?’
ฉู่โม่วคิดกับตัวเองระหว่างทาง
MANGA DISCUSSION