บทที่ 198 ตำหนักวิทยายุทธ์ราคาแพงหูฉี่!
ทุกอย่างสิ้นสุดแล้ว!
เมื่อเฉินซีเวยพูดจบ แม้ว่าราชันย์เทพยุทธ์ทั้งเจ็ดจะคาดการณ์ไว้แล้ว ทว่าอดแสดงความผิดหวังออกมาไม่ได้
ตราบใดที่เธอไม่ตายก่อนเวลาอันควร เช่นนั้นก็จะกลายเป็นราชันย์เทพยุทธ์ผู้แข็งแกร่ง!
ตอนนี้ ราชันย์เทพยุทธ์เหมันต์เยือกแข็งก็รอฟังคำตอบของเฉินซีเวย
บนใบหน้าที่เคยนิ่งเฉยก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา
ระดับพลังของราชันย์เทพยุทธ์มาถึงระดับที่เหนือกว่าจินตนาการแล้ว ทุกการเคลื่อนไหวสามารถส่งผลต่อสิ่งต่าง ๆ รอบสวรรค์และโลกได้
เธอยิ้มออกมา ด้วยอารมณ์ที่เปลี่ยนไปส่งให้โลกโดยรอบพลันสว่างไสวขึ้น กระทั่งต้นไม้และดอกไม้บนพื้นดินยังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ลมหายใจราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ
“ในเมื่อให้ฉันเป็นอาจารย์แล้ว ตั้งแต่วันนี้ไป เธอจะเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของฉัน!”
ราชันย์เทพยุทธ์เหมันต์เยือกแข็งกล่าว
“ศิษย์เฉินซีเวยขอคำนับอาจารย์!”
หญิงสาวโค้งคำนับด้วยความเคารพและกล่าวอย่างอ่อนโยน
เมื่อเห็นภาพนี้
ราชันย์เทพยุทธ์เหมันต์เยือกแข็งก็พยักหน้าเล็กน้อย แล้วอ้าปากสีชมพูอวบอิ่มขึ้นพูด “มากับฉันสิ ฉันจะสอนวิชาพิเศษในการเป็นผู้ปลุกพลังชั้นยอดให้!”
“แต่…”
เฉินซีเวยลังเลเล็กน้อย
เมื่อได้ยินดังนั้น ราชันย์เทพยุทธ์เหมันต์เยือกแข็งก็ตะลึงงันไปครู่หนึ่ง แล้วเหมือนจะเข้าใจความหมายนั้นจึงหันไปมองฉู่โม่วและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง คราวนี้ฉันแค่จะพาเธอไปเก็บตัวยังที่ฝึกฝนเท่านั้น!”
“และจะกลับที่นี่เมื่อไรก็ได้”
เฉินซีเวยโล่งอก
เธอกล่าวลาฉู่โม่วและตามราชันย์เทพยุทธ์เหมันต์เยือกแข็งออกไปจากที่นี่
หลังพวกเขาจากไป
ส่วนราชันย์เทพยุทธ์ทั้งหกเมื่อทาบทามศิษย์ล้มเหลว พวกเขาก็จากไปด้วยความเสียใจ
…
ความโกลาหลในย่านรุ่งอรุณเงียบสงบลงอย่างรวดเร็ว
แต่…
เรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งฐานจงไห่ มันกระทั่งไปถึงฐานขนาดเล็กใหญ่อื่น ๆ โดยรอบ
อย่างไรแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็น่าตกตะลึงจริง ๆ!
ผู้ปลุกพลังคนหนึ่งปลุกพลังไร้ที่เทียมทานขึ้นมา!
เธอทำให้เจ็ดราชันย์เทพยุทธ์ต้องก้าวออกมาและกระทั่งแก่งแย่งอัจฉริยะคนนี้กันเอง ราชันย์เทพยุทธ์ทั้งเจ็ดไม่ลังเลที่จะโจมตีหรือต่อสู้กันเองด้วยซ้ำ
แต่ท้ายที่สุดแล้ว
ราชันย์เทพยุทธ์เหมันต์เยือกแข็งก็มาที่นี่และรับเธอเป็นศิษย์ด้วยตัวเอง และแล้วความโกลาหลก็สิ้นสุดลง
แต่ไม่ต้องสงสัย
ข่าวเช่นนี้ต้องทำให้ผู้ปลุกพลังนับไม่ถ้วนพูดถึงและเป็นเรื่องเล่าที่ดีเรื่องหนึ่ง
ภาพนี้ต้องกลายเป็นความทรงจำที่น่าตกตะลึงที่สุดในหัวใจของผู้ปลุกพลังหลายคนในฐานจงไห่อย่างแน่นอน
ในย่านรุ่งอรุณ
แม้ว่าราชันย์เทพยุทธ์เยือกแข็งจะรับตัวเฉินซีเวยไปแล้ว ทว่าผู้ปลุกพลังคนอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในย่านก็ยังต้องการมาเยี่ยมเยียนฉู่โม่วอยู่ดี
พวกเขาต่างมาด้วยความจริงใจ ทุกคนล้วนมีมารยาทดีและใช้คำพูดที่เป็นมิตร
ชายหนุ่มเข้าใจความหมายที่คนเหล่านี้จะสื่อดี
ไม่มีอะไรไปมากกว่าความต้องการรู้จักตัวตนของเขา และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับเฉินซีเวย…
หลังจากรู้ว่าเฉินซีเวยเป็นคู่หมั่นของฉู่โม่ว คำพูดของพวกเขาก็เริ่มมีความอิจฉาระคนชื่นชมความโชคดีของชายหนุ่ม
แต่…
ฉู่โม่วมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลังจากที่บอกความสัมพันธ์ของตัวเองกับเฉินซีเวยออกไป ผู้ปลุกพลังบางคนก็มองมาด้วยแววตาอิจฉา
เมื่อคิดเรื่องนี้เกี่ยวกับฉู่โม่ว
ผู้คนเหล่านี้ก็ปฏิบัติต่อเขาเหมือนกับไก่อ่อน
ต้องเป็นเพราะเฉินซีเวยแน่ ๆ เขาถึงมาอาศัยอยู่ในย่านรุ่งอรุณได้
แน่นอนว่า…
ไม่ใช่ทุกคนที่คิดเช่นนั้น
เพราะหยางเซี่ยว เว่ยจางและคนอื่น ๆ เข้าใจดีว่าฉู่โม่วเป็นผู้ปลุกพลังที่แข็งแกร่งและมีพรสวรรค์อย่างถึงที่สุด
แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายเรื่องนี้
อย่างไรแล้ว
ตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว …เราจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่และเพิ่มคู่แข่งให้ตัวเองไปทำไมกัน?
…
นอกจากการมาเยี่ยมเยียนของผู้ปลุกพลังในย่านรุ่งอรุณในวันแรกแล้ว ฉู่โม่วต้องต้อนรับพวกเขาอยู่สักพัก
ช่วงเวลาหลังจากนั้น กองกำลังมากมายก็ส่งผู้ปลุกพลังมาที่นี่ แต่ชายหนุ่มขอให้หยางเซี่ยวหยุดพวกเขาไว้โดยให้บอกว่าเขาปฏิเสธที่จะพบแขก
หลังจากผ่านไปสามวัน
ในที่สุดความวุ่นวายก็สงบลง
เมื่อฉู่โม่วออกไปข้างนอกได้ อย่างแรกก็ตรงไปลงทะเบียนใบรับรองอสูรรับใช้ให้อาไต๋กับเสี่ยวจิน เมื่อเสร็จเรียบร้อยเขาก็ยังไม่กลับคฤหาสน์แต่ไปที่ห้างสรรพสินค้าในฐานแทน
สุดยอดฐานจงไห่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง
นี่คือห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในฐาน มันมีกว่าหลายร้อยชั้นและแต่ละชั้นก็มีร้านค้าที่ขายทรัพยากรมากมายสำหรับการฝึกวรยุทธ์
ตั้งแต่ขั้นผู้ปลุกพลังไปจนถึงราชันย์ยุทธ์ แม้แต่สมบัติที่ราชันย์เทพยุทธ์ต้องใช้ก็มาหาซื้อได้ที่นี่
ถ้าอยากจะเปิดร้านค้าที่นี่ก็จำเป็นต้องจ่ายค่าเช่ามหาศาล
หลังจากที่ฉู่โม่วเข้าไปข้างในห้าง เขาก็พบว่าพนักงานทั้งหลายอยู่ในขั้นนายพลเมืองหรือกระทั่งจ้าวยุทธ์!
ในห้องรับรองที่ชั้นแรกไปจนถึงชั้นที่สามมีจอภาพขนาดใหญ่ฉายอยู่
มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการซื้อขายสมบัติ พร้อมทั้งข้อมูลติดต่อของผู้ปลุกพลังที่ถูกเขียนไว้ด้านหลัง ใครก็ตามที่สนใจก็สามารถติดต่อทำการซื้อขายได้ทันที
เช่นเดียวกันกับข้อมูลของสถานีรถไฟความเร็วสูง มันเรียบง่ายและชัดเจน
ฉู่โม่วมองดูคร่าว ๆ และพบว่ามีกระบวนท่าระดับทองมากมาย รวมถึงสมบัติสวรรค์และโลกด้วย กระทั่งแก่นเลือดสัตว์อสูรระดับ 7 หรือกระทั่งระดับ 8 ก็มีการซื้อขายที่นี่!
“สมกับที่เป็นฐานใหญ่จริง ๆ!”
“กระบวนท่าระดับทองแบบนี้เพียงพอที่จะกลายเป็นวิชาลับของตระกูลขนาดใหญ่และฐานขนาดกลางไหน ๆ ก็ได้ แต่กลับมีขายที่นี่ซะอย่างงั้น”
ฉู่โม่วถอนหายใจ
หลังจากที่ตรวจสอบดูอย่างละเอียดก็ไม่พบวิชากระบี่และตำรากระบวนท่าที่ต้องการ ฉู่โม่วจึงส่ายหน้าและเดินต่อไป
หลังจากที่เดินไปรอบ ๆ
ชายหนุ่มใช้หินปฐมกาลบางส่วนซื้อสมบัติชิ้นโปรดกลับมาด้วย
พฤกษาม่วงเร้นลับ!
นี่คือหนึ่งในวัตถุดิบในการสกัดยาย้อนชะตา ฉู่โม่วพยายามตามหามันตั้งแต่ตอนที่มาถึงฐานจินหลิง แต่ก็ไม่อาจหาพบได้
ตอนนี้เมื่อมาพบที่นี่
ชิ้นหนึ่งมีค่าถึงสองร้อยล้านหยวน!
ฉู่โม่วมีเงินมากกว่าห้าพันล้านหยวนติดตัวอยู่และเงินแค่สองร้อยล้านหยวนก็เป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น!
พฤกษาเร้นลับอีกาเหมันต์!
นี่คืออีกหนึ่งวัตถุดิบหลักในการสกัดยาย้อนชะตา
มันมีราคาเก้าสิบล้านหยวนซึ่งเรียกได้ว่าถูกมาก!
ชายหนุ่มตัดสินใจซื้อพฤกษาเร้นลับอีกาเหมันต์ทั้งหมดทันที
ราคาถูกเหมือนแจกฟรี!
ราคาสี่สิบแปดล้านหยวน!
ซื้อเลย!
…
สองชั่วโมงต่อมา ฉู่โม่วใช้เงินไปมากกว่ายี่สิบพันล้านหยวนเพื่อรวบรวมวัตถุดิบในการสกัดยาย้อนชะตา
ขาดแค่วัตถุดิบหลักเพียงอย่างเดียวที่ชื่อว่า ‘ผลึกเยือกแข็งซ่อนเร้น’ แล้วก็จะเริ่มสกัดยาย้อนชะตาได้
นี่ทำให้ฉู่โม่วมีกำลังใจขึ้นมากทีเดียว
เขาเดินห้างสรรพสินค้าต่อไป
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาก็เข้าไปดูหลายร้านติดต่อกัน แต่หาผลึกเยือกแข็งซ่อนเร้นไม่เจอเลย
‘มีแต่ร้านเล็ก ๆ ทั้งนั้นเลย คงต้องใช้ดวงถึงจะหาสมบัติทั้งหมดที่ต้องการได้ ไปร้านใหญ่ที่สุดที่มีของครบที่สุดดีกว่า บางทีที่นั่นอาจจะมีผลึกเยือกแข็งซ่อนเร้นและตำรากระบวนท่าที่ต้องการก็ได้!’
ฉู่โม่วคิดกับตัวเอง
แล้วก็ตรงไปที่ชั้นบนทันที
ในห้างแห่งนี้ ยิ่งขึ้นไปสูงเท่าไร ร้านค้าจะยิ่งมีขนาดใหญ่เท่านั้น และเจ้าของร้านจะแข็งแกร่งขึ้นด้วย
หากขึ้นไปที่ชั้นสูงสุดคงจะเป็นร้านค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
ในไม่ช้า
ชายหนุ่มก็มาถึงชั้นบนสุด
‘ตำหนักวิทยายุทธ์!’
นี่คือชั้นบนสุดของห้าง …ซึ่งร้านที่ใหญ่ที่สุด!
ฉู่โม่วพึมพำขณะที่มองไปยังป้ายร้าน “หวังว่าจะมีสมบัติที่ฉันอยากได้นะ”
เมื่อก้าวเข้าไปข้างใน
พนักงานสาวหน้าตาดีเดินมาตรงหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มทันที “ท่านผู้ปลุกพลังต้องการอะไรเหรอคะ? ตำหนักวิทยายุทธ์ของเราเป็นร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในสุดยอดฐานจงไห่และขายสิ้นค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นตำรากระบวนท่า การฝึกฝน ยุทธภัณฑ์วิญญาณ ชิ้นส่วนสัตว์อสูร และสมบัติแห่งสวรรค์และโลก คุณสามารถซื้อทุกอย่างได้ที่นี่!”
หญิงสาวคนนี้ไม่ได้มีอณูแห่งชีวิตไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับฉู่โม่วก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวแต่อย่างใด
ชายหนุ่มมองไปรอบ ๆ และพบว่าพนักงานคนอื่น ๆ ก็ไม่มีขั้นพลังเช่นกัน ในหมู่พวกเขามีแค่พนักงานหญิงคนเดียวที่เป็นผู้ปลุกพลังขั้นราชันย์ยุทธ์ ตอนนี้เธอดูใจเย็นและไม่กระวนกระวายใจแม้แต่น้อย
ส่วนเหตุผลก็คือ…
ในขณะเดียวกัน เพราะกฎเกณฑ์ในฐานจงไห่เข้มงวดมาก ไม่มีผู้ปลุกพลังคนใดสามารถทำอะไรผู้คนธรรมดาได้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง
นอกจากนี้
เพราะตำหนักวิทยายุทธ์เป็นร้านค้าวรยุทธ์ที่ใหญ่ที่สุดในฐานจงไห่ มันจึงมีราชันย์เทพยุทธ์ผู้ทรงพลังหลายคนคอยดูแลและเรียกได้ว่ามีเงาของราชันย์เทพยุทธ์อยู่ด้านหลังได้ด้วยซ้ำ
ดังนั้นแล้ว แม้ว่าร้านจะมีพนักงานเป็นคนทั่วไปก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมาสร้างปัญหา
หลังจากที่มองไปรอบ ๆ ฉู่โม่วก็กล่าว “ฉันอยากซื้อของหลายอย่าง มีรายการสินค้าของที่นี่ไหม?”
“มีค่ะ!”
พนักงานสาวตอบ
แล้วเธอก็หยิบจอภาพขนาดสิบสองนิ้วออกมาและส่งให้กับเขา
ฉู่โม่วมองดูอย่างตั้งใจ
ขณะที่ปัดหน้าจอไปเรื่อย ๆ ก็พบว่าตำหนักวิทยายุทธ์แบ่งหมวดหมู่สินค้า จัดรายการอาวุธ ตำรากระบวนท่ามากมายอย่างละเอียด หรือมีกระทั่งคำสำคัญในการค้นหาสินค้าด้วยซ้ำ
สะดวกสบายมาก!
ชายหนุ่มกดไปที่ระดับของอาวุธเป็นอย่างแรก
ยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 8 กระบี่เพลิงเร้นลับ ราคาหกร้อยล้านหยวน (หมายเหตุ : จ่ายด้วยหินปฐมกาลระดับสูงเท่านั้น)
ยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 8 มีดอีกาสั่นสะท้าน ราคาห้าร้อยเจ็ดสิบล้านหยวน (หมายเหตุ : จ่ายด้วยหินปฐมกาลระดับสูงเท่านั้น)
ยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 7 ดาบกลืนเมฆา ราคาหนึ่งร้อยสิบล้านหยวน (หมายเหตุ : จ่ายด้วยหินปฐมกาลระดับสูงเท่านั้น)
ยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 7 หอกสายฟ้าคราม…
“มียุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 8 ด้วยเหรอ?!”
ฉู่โม่วเบิกตากว้าง
ในฐานจินหลิง แม้แต่ยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 5 ยังหายากยิ่งนัก แต่ในสุดยอดฐานจงไห่กลับมียุทธภัณฑ์วิญญาณขายอยู่จริง ๆ!
มันมีระดับสูงกว่ากระบี่สารทสังหารของเขาอีกขั้นหนึ่ง!
และเมื่อมองดูราคา ฉู่โม่วก็อดสูดหายใจเข้าลึกไม่ได้
ยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 8 มีราคาหินปฐมกาลระดับสูงหกร้อยก้อน ซึ่งเทียบเท่ากับหินปฐมกาลระดับต่ำถึงหกล้านล้านก้อน!
เดิมที…
ฉู่โม่วคิดว่าเขาเองก็ร่ำรวยพอตัว แต่หลังจากที่เห็นยุทธภัณฑ์วิญญาณชิ้นนี้แล้วก็รู้ทันทีว่ามันเป็นแค่ภาพลวงตา!
ถึงจะรวมทรัพย์สมบัติทั้งหมดแล้วยังไม่อาจซื้อยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 8 ได้ แม้แต่ยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 7 ก็ยังแพงเกินไปด้วยซ้ำ!
แต่นี่เป็นเรื่องปกติ
ยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 7 มีจิตวิญญาณที่ไม่ธรรมดาที่สามารถนำพาประโญชน์ครั้งใหญ่มาให้ผู้ปลุกพลังได้ แม้แต่ราชันย์ยุทธ์ยังไม่อาจครอบครองพวกมันได้ มีเพียงราชันย์เทพยุทธ์ผู้ทรงพลังเท่านั้นที่มีคุณสมบัติจะครอบครอง ราคาของมันจึงแพงหูฉี่เป็นธรรมดา
‘กระบี่สารทสังหารของฉันเรียกได้ว่าเป็นอาวุธชั้นยอดในหมู่ยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับ 7 ถ้าขายมันคงจะได้เงินมหาศาลแน่!’
ฉู่โม่วคิดกับตัวเอง
หลังจากที่คิดอยู่ในใจก็ส่ายหน้าไปมา
กระบี่สารทสังหารคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุดในการต่อสู้กับศัตรูในปัจจุบัน หากไม่โง่จริง ๆ ฉู่โม่วไม่มีทางขายมันเด็ดขาด
หลังจากที่กำจัดความคิดยุ่งเหยิงออกไปก็เปิดรายการตำรากระบวนท่าและคัดเลือกอย่างละเอียดอีกครั้ง
MANGA DISCUSSION