บทที่ 177 เข้าสู่ขั้นจ้าวยุทธ์ผ่านชีพจรอัดกระแทก!
ภายในรอยแยกมิติ
ภายหลังจากที่ฉู่โม่วกลับมาที่นี่ เขาก็นำหินปฐมกาลระดับต่ำกว่าห้าหมื่นล้านใส่ลงไปในรอยแยกนั้นและนำเอาของเหลวแห่งปฐมกาลที่เหลือน้อยนิดออกมาดื่ม
ครืน!
พลังงานที่น่ากลัวหลอมละลายเข้ามาในร่างของเขาทันที จากนั้นมันก็แพร่ไปยังแขนและขาต่อตามลำดับ
เพราะงั้นตอนนี้
ทั่วทั้งร่างกายของเขา เลือดและอณูแห่งชีวิตกำลังเดือดพล่านราวกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุอยู่ทุกวินาที
“ต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้! อีกแค่ 20,000 พลังช้างสารก็จะเป็นจ้าวยุทธ์ได้แล้ว!”
คิดได้เช่นนั้น
ฉู่โม่วก็หลับตาลงและเริ่มฝึกฝนทันที
ด้วยพลังของหินปฐมกาลห้าหมื่นล้านก้อน ทำให้ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยอณูแห่งชีวิตหนาแน่น และอณูแห่งชีวิตเหล่านี้ก็ก่อให้เกิดกระแสวังวนชีวิตที่น่าสะพรึงกลัว มันท่วมท้นร่างของฉู่โม่วราวกับน้ำท่วมใหญ่ที่พร้อมจะกลืนกินทุกสิ่งอย่าง
ภายใต้กระแสอณูแห่งชีวิตเช่นนี้ ความแข็งแกร่งของฉู่โม่วจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเพิ่มอยู่ตลอดเวลา!
เพียงชั่วพริบตา
เวลาห้าสิบวันก็ผ่านไป
ตลอดช่วงห้าสิบวันนี้ ฉู่โม่วไม่ได้ขยับไปไหนเลย เขาพยายามอย่างมากเพื่อที่จะทลายขีดจำกัดด้วยพลังทั้งหมด!
ในที่สุด…
วันนี้ก็มาถึง!
วันที่ร่างกายของฉู่โม่วปลดปล่อยพลังที่น่าเกรงขามออกมา ห้วงอากาศรอบด้านต่างผันผวนกันหมดด้วยอณูแห่งชีวิตที่หลั่งไหลออกมาจากร่าง
“พลัง 150,000 ช้างสาร!”
ฉู่โม่วลืมตาตื่น เขารู้สึกได้ถึงพลังอันกล้าแกร่งที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย และอดพึมพำออกมาไม่ได้จริง ๆ
ในตอนนี้
ภายหลังจากที่พยายามมาอย่างยาวนาน พลังกายของเขาอันประกอบด้วยพลังของอณูแห่งชีวิตและกล้ามเนื้อก็สูงถึง 150,000 ช้างสารเสียที และนี่เองก็เป็นขีดจำกัดของขั้นนายพลเมืองแล้วด้วย เขาสามารถเริ่มทลายขีดจำกัดร่างกายเพื่อขึ้นเป็นจ้าวยุทธ์ได้แล้ว!
“ผู้ปลุกพลังทุกคนจะมีทวาราแห่งกระบี่อยู่บนร่างกาย”
“และถ้าอยากจะเป็นจ้าวยุทธ์ คนผู้นั้นจำเป็นต้องเปิดทวาราแห่งกระบี่ทั้งหมดบนร่างกาย เปิดขุมทรัพย์แห่งกายมนุษย์และปลุกพลังที่ซ่อนอยู่ในทวาราแห่งกระบี่เหล่านั้นให้ได้”
“ทุกครั้งที่สามารถเปิดทวาราแห่งกระบี่ได้ มันจะมอบพลังระดับสุดยอดให้!”
“แต่…”
“นี่เป็นวิธีที่ธรรมดาที่สุดในการจะก้าวขึ้นเป็นจ้าวยุทธ์ ซึ่งต่อให้สามารถขึ้นเป็นจ้าวยุทธ์ได้ แต่ความแข็งแกร่งก็ไม่ได้สูงอะไรมากนัก เป็นได้เพียงจ้าวยุทธ์ที่ไม่ได้มีความแข็งแกร่งอะไรเป็นพิเศษ เฉกเช่นสวี่หล่าง”
จ้าวยุทธ์นั้นวัดความแข็งแกร่งกันด้วยทวาราแห่งกระบี่!
บนร่างกายมนุษย์มีทวาราแห่งกระบี่ทั้งหมด 365 จุด หากผู้ปลุกพลังอยากจะขึ้นเป็นจ้าวยุทธ์ให้ได้ อันดับแรกสุดควรจะรู้ถึงตำแหน่งของทวาราแห่งกระบี่ทั้งหมดบนร่างกายและเปิดมันก่อนจะขึ้นเป็นจ้าวยุทธ์ หากทำได้เขาจะได้พลังที่ยิ่งใหญ่มาครอบครอง
แต่ก็เช่นเดิม…
สิ่งนี้ถือเป็นวิธีทั่วไปที่ต้องทำอยู่แล้ว!
ท้ายสุดเมื่อขึ้นเป็นจ้าวยุทธ์ที่มีพลังกายสูงส่งมาครอบครอง แต่หากปราศจากพรสวรรค์ก็เป็นเพียงจ้าวยุทธ์ที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาจ้าวยุทธ์ด้วยกันเอง!
เพราะงั้นแล้ว ฉู่โม่วจึงไม่ได้อยากขึ้นเป็นจ้าวยุทธ์ด้วยวิธีเปิดทวาราแห่งกระบี่เหมือนคนอื่น ๆ
อันที่จริง
ต่อให้อยากจะใช้วิธีนี้ เขาก็ไม่สามารถทำได้แล้ว!
นั่นเพราะทวาราแห่งกระบี่บนร่างกายของเขาทั้ง 365 จุด บัดนี้ได้ถูกเปิดในสภาพของทวาราแห่งกระบี่ตั้งแต่ที่เข้าใจเจตจำนงกระบี่ได้ 30% ไปเป็นที่เรียบร้อย!
และเมื่อตอนที่เจตจำนงแห่งกระบี่เพิ่มขึ้นสูงเป็น 70% ร่างกายของเขาก็ดันแปรสภาพเป็นกายากระบี่เทวะไปอีก
ดังนั้นวิธีนี้ไม่เหมาะกับฉู่โม่วแต่อย่างใด
“กระบวนท่าฝึกอณูแห่งชีวิตเมฆาครามถือเป็นกระบวนท่าทลายขั้นระดับสูง ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของการควบคุมเส้นลมปราณตั้งแต่หัวจรดเท้าในร่างกาย การขับไล่อณูแห่งชีวิตไปตามเส้นทางเหล่านี้จะช่วยทำให้อณูแห่งชีวิตสามารถเดินผ่านทั่วทั้งร่างจนเกิดการสั่นสะเทือนและสะท้อนไปมาของพลังทั่วทั้งร่างกาย”
‘เชื่อมต่อเส้นลมปราณที่สำคัญทั้งสิบสองเส้น กระตุ้นเส้นลมปราณพิเศษทั้งแปด และสะท้อนพลังลมปราณจากทุกเส้นไปพร้อม ๆ กัน!’
‘ทุกการสะท้อนของเส้นลมปราณนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ได้รับการขัดเกลาอีกครั้งไปด้วย หากรากฐานร่างกายแข็งแกร่งแล้ว กรรมวิธีนี้จะช่วยขัดเกลาให้ร่างกายเข้าสู่สภาพ กายาทองคำนิรันดร์ที่ซึ่งมีพลังป้องกันและความแข็งแกร่งสูงเป็นอย่างมากอีกด้วย!’
‘เมื่อไหร่ที่เส้นลมปราณทั้งสิบสองกับเส้นลมปราณพิเศษอีกแปดเส้นเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน คนคนนั้นจะเข้าสู่ขั้นจ้าวยุทธ์ได้ และถ้าเส้นลมปราณทั้งหมดรวมกันเป็นหนึ่ง เขาจะเข้าสู่ขั้นราชันย์ยุทธ์!’
คิดถึงสิ่งที่เขาจดจำมา แววตาของฉู่โม่วก็เริ่มเปล่งประกายความหวัง
ไม่ต้องสงสัย
เขาชื่นชอบวิธีการฝึกเช่นนี้มากกว่าวิธีอื่นเป็นไหน ๆ
แต่…
การฝึกฝนด้วยวิธีนี้ก็ยากกว่าการฝึกฝนเพื่อเปิดทวาราแห่งกระบี่ด้วยเช่นกัน
ไม่เพียงแต่ต้องการรากฐานร่างกายที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังต้องการทรัพยากรเป็นอย่างมาก …มากเสียจนน่ากลัวอีกด้วย
ตามตำราที่บันทึกกระบวนท่าฝึกอณูแห่งชีวิตเมฆาครามนี้ ได้ระบุไว้ด้วยว่าเป็นกระบวนท่าที่ไม่ควรลอง เพราะถ้าหากผู้ฝึกฝนมีรากฐานร่างกายที่ไม่ถึงระดับที่กระบวนท่าต้องการ เพียงแค่คลื่นลูกแรกของการฝึกฝนก็รุนแรงพอที่จะทำให้พลังกายทั้งหมดพังทลาย เผลอ ๆ อาจจะทำให้ร่างจิตพังทลายไปด้วยจนกลายเป็นบ้าไปได้เลย!
หรือถ้าโชคดีผ่านคลื่นลูกแรกและกลายเป็นจ้าวยุทธ์ได้ ก็จะทำให้การก้าวขึ้นไปอีกขั้นในอนาคตกลายเป็นเรื่องยากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ
บางทีชั่วชีวิตของเขาอาจจะต้องติดอยู่กับขั้นจ้าวยุทธ์ตลอดไปเลยก็ได้
ไม่มีโอกาสที่จะได้ก้าวไปถึงราชันย์ยุทธ์
ใช้ชีวิตที่ยืนยาวโดยไร้ทางไปต่อ
แต่…
สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ฉู่โม่วหวาดหวั่นแต่อย่างใด
ไม่ใช่เพราะว่าเหลือเพียงวิธีนี้วิธีเดียวที่ทำให้ขึ้นเป็นจ้าวยุทธ์
แต่ด้วยร่างกายของเขาน่ะ…
ตั้งแต่ที่ขึ้นเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ เขาก็ทลายขีดจำกัดร่างกายจนมีพลังกายที่ซึ่งเป็นรากฐานสูงกว่าผู้ปลุกพลังคนอื่นมากถึงสิบเท่า!
แล้วเมื่อตอนอยู่ในขั้นผู้ปลุกพลัง ฉู่โม่วยังใช้ผลึกซวนหยวนเพื่อสร้างร่างกายไร้ที่ติก่อนจะเข้าสู่ขั้นจอมยุทธ์อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ภายหลังจากที่ขึ้นเป็นจอมยุทธ์ได้แล้ว เขายังเปลี่ยนแปลงร่างกายไร้ที่ตินั้นให้กลายเป็นพลังอันไร้ขีดจำกัดไปด้วย!
นอกจากนี้ การทลายตรวนกายาถึงสองขั้นด้วยคัมภีร์มังกรคชสารอมตะก็ทำให้ชายหนุ่มแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก
ด้วยรากฐานของฉู่โม่วตอนนี้ เกือบจะไม่มีใครเป็นศัตรูกับเขาได้แล้ว!
เพราะงั้นจึงไม่ได้กังวลเลยว่าชายหนุ่มจะพลาดท่าให้กับการฝึกฝนกระบวนท่านี้
เขาอยากฝึกฝนกระบวนท่าฝึกฝนอณูแห่งชีวิตเมฆาครามด้วยความต้องการจริง ๆ ของตนเอง
“เวียนอณูแห่งชีวิตเมฆาครามอัดกระแทก!”
สิ่งนี้คือสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในกระบวนท่าฝึกอณูแห่งชีวิตเมฆาคราม
ฉู่โม่วเติมหินปฐมกาลลงไปอีกสามหมื่นล้านก้อน หลับตาลงและขัดสมาธิเพื่อตั้งจิตตั้งใจกับการฝึกฝนนี้ จากนั้นก็เข้าสู่ห้วงแห่งการฝึกปลดปล่อยอณูแห่งชีวิตออกมาวิ่งตามเส้นลมปราณในร่างกาย
และเมื่อกรรมวิธีเวียนคลื่นอณูแห่งชีวิตอัดกระแทกเริ่มต้นขึ้น
อณูแห่งชีวิตรอบนอกร่างกายจำนวนมหาศาลก็ถูกดึงดูดเข้ามาในร่างของเขา
ขณะเดียวกัน
เลือดภายในกายของฉู่โม่วก็แปรสภาพเป็นเหมือนลาวาในภูเขาไฟที่กำลังเดือดปุด ๆ
คลื่นอณูแห่งชีวิตวิ่งไปตามเส้นลมปราณต่าง ๆ ด้วยความเชี่ยวกรากราวกับมหาสมุทรที่หมายจะกลืนกินผืนโลก
ทั้งสองกระบวนการนี้เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน วนซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ในท้ายที่สุด
ซู่!
เมื่อถึงจุดสูงสุดของพลัง การระเบิดที่น่ากลัวก็ปะทุขึ้นในร่างของฉู่โม่ว
วินาทีต่อมา
เขาจำเป็นต้องลืมตาตื่น เส้นเลือดในตาแตกทันที อีกทั้งเลือดภายในร่างกายยังเปลี่ยนสภาพไปเป็นคมกระบี่ขนาดเล็กที่ไล่ทิ่มแทงทุกส่วนในร่างกาย พร้อมกับวิ่งเข้าใส่เส้นลมปราณอย่างเอาเป็นเอาตาย!
“ทลายขีดจำกัดเพื่อฉันซะ!”
ชายหนุ่มกล้ำกลืนฝืนทน
เส้นลมปราณภายใต้ผิวหนังปูดโปนขึ้น และกำลังขยับไปมา!
ส่วนเลือดและอณูแห่งชีวิตดูเหมือนจะกลายสภาพเป็นยักษ์สองตนไปเสียแล้ว
ยักษ์ใหญ่ทั้งสองตนนี้ค่อย ๆ ก้าวเท้าลงไปท่ามกลางทะเลอณูแห่งชีวิตที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างกาย
ครืน! ครืน! ครืน!
ในตอนนั้น
ภายในร่างกายของเขาปั่นป่วนไปหมด
ราวกับกำลังเกิดการจลาจลภายใน
คลื่นลูกใหญ่ทั้งสองลูกสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วร่างของฉู่โม่ว ไม่ว่าจะเป็นแขน ขา หรือแม้แต่อวัยวะภายในล้วนเหมือนว่าได้ถูกทำลายลงไปแล้ว ณ ตอนนั้น หูทั้งสองข้างดับสนิท เช่นเดียวกับสติที่เลือนรางลง แม้แต่ร่างปฐมวิญญาณยังแสดงให้เห็นเสมือนภาพลวงตาที่พร้อมจะสลายไปทุกเมื่อ
ไม่เพียงเท่านั้น
กล้ามเนื้อจากทั่วทั้งตัวยังมีทีท่าเหมือนจะฉีกออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมกับผิวหนังที่แตกออกเสมือนผืนดินแล้งน้ำ รอยแยกแตกบนผิวนั้นดูน่ากลัวยิ่งนัก!
ไม่แปลกเลย
หากปล่อยให้กระบวนการนี้ดำเนินต่อไป ร่างกายของฉู่โม่วจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ !
ทว่าในตอนนี้
ความอบอุ่นปริศนาพลันแผ่ซ่าน
เปรียบดั่งฟ้าหลังฝน ในทุกที่ที่คลื่นลูกใหญ่ได้ผ่านพ้นไป มันจะได้รับการฟื้นฟูขึ้นมา ยิ่งเป็นอวัยวะภายในก็ยิ่งรักษาตนเองได้เร็ว
นี่คือ… พลังของธาตุไม้ระดับพิเศษที่กำลังช่วยรักษาร่างกายของเขา!
ท่ามกลางความวุ่นวายนี้
เพราะอณูแห่งชีวิตถูกดูดกลืนเข้ามาในปริมาณมหาศาล จึงมีบางส่วนถูกแปรสภาพเป็นพลังในการรักษาและช่วยประคองร่างกายของฉู่โม่วเอาไว้
เพียงไม่นาน อวัยวะภายในร่างกายก็ถูกซ่อมแซมจนเสร็จสมบูรณ์
ในตอนนั้น
เส้นลมปราณทั้งสิบสองเส้นหลักกับเส้นพิเศษอีกแปดเส้นดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับอะไรบางอย่าง แม้ในตอนแรกจะแค่เฉียดกันไปเฉียดกันมา แต่ในที่สุดมันก็เชื่อมต่อกันได้แล้ว!
คลื่นอัดอากาศรุนแรงที่ปลดปล่อยออกไปโดยมีฉู่โม่วเป็นจุดศูนย์กลางพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทาง ในทุกที่ที่เคลื่อนผ่านไป ผืนดินราวกับจะถูกคลื่นเหล่านั้นไถออกไปด้วยจนเกิดเป็นรอยมากมาย
แม้แต่ภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่านอยู่ไกล ๆ เมื่อคลื่นลมนี้เคลื่อนที่ไปถึง ทำให้ยอดเขาใหญ่ทลายลงไม่ต่างอะไรกับกองใบไม้ที่ถูกลมพัด
พลังลมที่น่ากลัวนี้กระจายตัวไปกว้างไกลถึงสองร้อยกิโลเมตร!
ส่วนความแข็งแกร่งของฉู่โม่วก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน!
160,000 พลังช้างสาร!
180,000 พลังช้างสาร!
200,000 พลังช้างสาร!
…
ในที่สุด!
พลังกายของฉู่โม่วก็ทะยานขึ้นไปหยุดที่ 800,000 พลังช้างสาร!
ภายหลังจากที่มันหยุดเพิ่ม อวัยวะภายในทั่งร่างมากมายพลันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และภายในการสั่นสะเทือนนี้ มันก็เรียงตัวใหม่และเกิดใหม่เวียนซ้ำ ๆ ไปด้วย
ทุกครั้งที่เกิดคลื่นอณูแห่งชีวิตเดินไปตามเส้นลมปราณ คลื่นพลังที่มองไม่เห็นจะกระจายไปทั่วแขนขาและกระดูก
ภายใต้คลื่นที่มองไม่เห็นนี้
กล้ามเนื้อและกระดูกของฉู่โม่วก็เพิ่มความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น เสมือนว่าเขาได้พัฒนาศักยภาพขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เป็นมนุษย์ที่วิวัฒนาการไปแล้ว
กระดูกภายในร่างแข็งแกร่งมากขึ้น มันเริ่มมีชิ้นส่วนสีทองปรากฏขึ้นมาด้านใน กล้ามเนื้อต่างกระชับและปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น
สิ่งสกปรกต่าง ๆ นานาที่ติดอยู่บนผิวหนังก็ถูกเซลล์ที่เกิดใหม่ขจัดทิ้งตามไปจนหมด
ไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานขนาดไหน
ท้ายที่สุดคลื่นอัดกระแทกก็สงบลง
ตอนนี้
หากมีคนนอกเข้ามาเห็น …จะเห็นได้เลยว่าร่างกายของฉู่โม่วกำลังเปล่งแสงสว่างออกมา จากไกล ๆ ร่างกายของเขาเสมือนเป็นชิ้นหยกสีขาวนวลเรียบเนียนแต่ก็งดงาม
“ร่างกายของฉันมีสภาพเหมือนแก้ว สะอาดและผุดผ่องแล้ว ดังนั้น ถือว่าเป็นผู้ที่มีกายบริสุทธิ์!”
“ฉัน… กลายเป็นจ้าวยุทธ์แล้ว!”
ฉู่โม่วถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วพูดพึมพำ
จ้าวยุทธ์แต่ละคนถือว่าเป็นผู้มีพลังที่ยิ่งใหญ่เหนือคนอื่นในฐานการปกครองนั้น ๆ พวกเขาสามารถขึ้นไปนั่งบนจุดสูงสุดของฐานที่มีประชากรกว่าสิบล้านคนได้และคอยดูแลความสงบให้ดี
นอกจากนี้ ยังถือเป็นกำลังหลักของมนุษยชาติเนื่องจากถูกจัดว่าเป็นผู้ที่มีพลังในการต่อสู้อยู่ในระดับสูงที่สุดอีกด้วย
และในตอนนี้
ฉู่โม่วก็เข้าสู่ขั้นนี้ได้แล้ว!
สิ่งนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขขึ้นมาในใจ
หลังจากทำใจให้สงบอยู่พักหนึ่ง ฉู่โม่วก็เริ่มตรวจสอบความเปลี่ยนแปลง
ขั้นแรกคืออายุขัยที่เพิ่มขึ้น
จ้าวยุทธ์ทั่ว ๆ ไปนั้นจะมีอายุขัยอยู่ที่หนึ่งพันปี
แต่สำหรับฉู่โม่วที่มีพลังของธาตุไม้ อณูแห่งชีวิตที่หนาแน่นในร่างกายและรากฐานร่างกายที่แข็งแกร่งมาก ๆ ทำให้อายุขัยของเขาเพิ่มขึ้นกว่าจ้าวยุทธ์ทั่วไปถึงสองเท่า!
อย่างที่สอง
ความแข็งแกร่ง…
‘ทลายขีดจำกัดและขึ้นเป็นจ้าวยุทธ์ได้ ทำให้พลังกายของฉันเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น ตอนนี้มันสูงถึง 800,000 พลังช้างสารแล้ว!’
‘เทียบกับแต่ก่อน พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า พลังของฉันเพิ่มขึ้นสูงราวกับฟ้ากับเหวเลย!’
‘ด้วยพลังของฉันในตอนนี้และความช่วยเหลือของพรสวรรค์มากมาย ราชันย์ยุทธ์ทั่ว ๆ ไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอีกต่อไปแล้ว มีเพียงราชันย์ยุทธ์ระดับสูงหรือไม่ก็ราชันย์ยุทธ์ที่มีพรสวรรค์กล้าแกร่งเท่านั้นที่จะสู้กับฉันได้!’
‘เอาละ ทีนี้ก็กลับไปหาเจ้าจระเข้โลหิตคลั่งนั่นอีกที กำจัดมันแล้วหาสมบัติลับที่มันซ่อนไว้ภายใต้ป่าไผ่กระบี่ดาราสวรรค์นั่นดีกว่า!’
คิดได้ดังนั้น
แววตาของฉู่โม่วก็อดไม่ได้ที่จะเปล่งแสงระเรื่อออกมาทันที
MANGA DISCUSSION