บทที่ 170 อสูรกลืนทองคำ และการผันแปรของปราณกระบี่!

หินปฐมกาลหลายหมื่นล้านก้อนถูกเทออกมากองทั้งหมดในคราเดียว!

พริบตานั้น

พลังอันน่าเกรงขามมหาศาลพลันพวยพุ่งออกมา จนถึงระดับที่ควบแน่นกลายเป็นของเหลว

เขายืนปักหลัก

เพียงการหายใจ ฉู่โม่วก็สัมผัสได้ถึงพลังที่อัดแน่นจากทุกสารทิศหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกาย และก่อตัวเป็นเหมือนกรวยขนาดใหญ่

“ความเร็วของการยกระดับพลังนี้สูงขึ้นมากจริง ๆ !”

“มันเพิ่มขึ้นอย่างน้อยยี่สิบเท่า!”

ดวงตาของฉู่โม่วเป็นประกาย

เมื่อเทียบกับสถานที่ปัจจุบันที่เขาอาศัยอยู่หรือห้องฝึกฝนของตำหนักลับแห่งสวรรค์ ล้วนมีส่วนช่วยการฝึกฝนที่เร็วอยู่แล้วสี่เท่า แต่ตอนนี้กลับทะยานขึ้นไปอีกห้าเท่าจนกลายเป็นยี่สิบเท่า!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง

ตอนนี้เขาสามารถเพิ่มพลังได้อย่างน้อย 200 ช้างสารต่อวัน!

“ด้วยความเร็วนี้ ฉันสามารถใช้เวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้นที่จะกลายเป็นจ้าวยุทธ์!”

ฉู่โม่วรู้สึกตื่นเต้น

ในเวลาต่อมา

เขาไม่ลังเลอีกต่อไปที่จะนำเลือดของสัตว์อสูรออกมาจากมิติพกพา

หยดเลือดเป็นประกายสีทองอร่าม

ทันทีที่เปิดขวด พลังงานบริสุทธิ์อันเข้มข้นก็หลั่งไหลพุ่งเข้าหาใบหน้า ทำให้อณูแห่งชีวิตกับเลือดในร่างเดือดพล่านอย่างบ้าคลั่ง

นี่คือแก่นโลหิตของสัตว์อสูรระดับ 7 ที่ราชันย์ยุทธ์หมิงกวงมอบให้ในตอนนั้น!

‘ไม่รู้หรอกนะว่ามันจะช่วยฉันได้สักแค่ไหน’

เมื่อนึกขึ้นได้ ฉู่โม่วก็ยกขึ้นดื่ม

ช่วงเวลาต่อมา

พลังรุนแรงและทรงพลังดำดิ่งเข้าสู่ร่างกายทันที อณูแห่งชีวิตไม่อาจต้านทานพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้ และมีความรู้สึกเจ็บปวดปริแตกราวกับว่ามันกำลังจะระเบิด!

โดยไม่ลังเล ฉู่โม่วใช้กระบวนท่าลับกระตุ้นอณูแห่งชีวิตทันที ทำให้สามารถดูดซับพลังงานของแก่นแท้โลหิตได้อย่างรวดเร็ว และร่างกายของเขาก็เริ่มเย็นลง

เวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เพียงพริบตาก็ผ่านไปกว่ายี่สิบวัน

ในที่สุด ฉู่โม่วก็ดูดซับพลังงานอันรุนแรงทั้งหมดที่มีอยู่ในแก่นแท้โลหิตของสัตว์อสูรระดับ 7 สำเร็จ

ในช่วงยี่สิบวันที่ผ่านมา ฉู่โม่วได้ยกระดับความแข็งแกร่งขึ้นมามากกว่า 30,000 พลังช้างสาร!

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง…

นอกจากพลัง 5,000 ช้างสารที่เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติแล้ว เลือดสัตว์อสูรระดับ 7 ยังเพิ่มพลังช้างสารให้แก่ฉู่โม่วอีก 25,000!

เป็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมาก

น่าเสียดายที่มีเพียงขวดเดียวเท่านั้น

มิฉะนั้น ฉู่โม่วอาจไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้ภายในสามเดือนและเริ่มเตรียมตัวฝ่าทะลวงไปขั้นจ้าวยุทธ์ก็เป็นได้

…

ผ่านไปอีกสามวัน

ทันใดนั้น ฉู่โม่วก็ได้รับข่าวจากตำหนักลับแห่งสวรรค์

ลือกันว่าทางตอนเหนือของฐานจินหลิงปรากฏสัตว์อสูรระดับ 6 ที่มีชื่อว่า ‘อสูรกลืนทองคำ’

เนื่องจากตำหนักลับแห่งสวรรค์อยู่ในสถานการณ์ปกติ กองกำลังภายใต้คำสั่งของเขาจึงทำตามคำขอฉู่โม่วโดยตรวจสอบข้อมูลของสัตว์อสูร

แต่เดิมข้อมูลสัตว์อสูรส่วนใหญ่ที่พวกเขาได้รับไม่ตรงตามข้อกำหนด ดังนั้นฉู่โม่วจึงไม่อาจเพิกเฉย

มีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับสัตว์อสูรกลืนทองคำตัวนี้!

มันไม่เพียงแต่เกิดมาก็สามารถกินทองคำ เหล็ก หรือแร่ได้ แต่ยังสามารถสร้างลำแสงอันน่าสะพรึงกลัวในร่างกาย และเมื่อพ่นออกมาแล้ว ล้วนเกิดพลังทำลายล้างอย่างรุนแรงจนแม้แต่ภูเขายังทะลุทะลวง

หลังจากฉู่โม่วได้ทราบข้อมูลเรื่องนี้ก็เกิดความสนใจขึ้นมา

เมื่อระบบกลืนกินพร้อมใช้งาน เขาจึงวางแผนจะออกไปฆ่าอสูรกลืนทองคำและรวบรวมพรสวรรค์ของมัน

บังเอิญมากที่ระบบกลืนกินได้รับการฟื้นฟูพอดี ดังนั้นเขาจึงวางแผนจะออกไปและฆ่าอสูรกลืนทองคำตัวนี้ เพื่อกลืนกินพรสวรรค์ของมัน!

ตามข้อมูลที่ได้รับจากตำหนักลับแห่งสวรรค์ ฉู่โม่วจึงบินตรงไปทางเหนือของฐานจินหลิงทันที

หลังจากผ่านไปชั่วโมงกว่า

ชายหนุ่มได้มาถึงหน้าเทือกเขาและเริ่มออกลาดตระเวน

เขาแผ่จิตสัมผัสออกไปครอบคลุมพื้นที่รัศมีหลายสิบกิโลเมตรรอบตัว

ในไม่ช้าก็ค้นพบร่องรอยของอสูรกลืนทองคำแล้ว!

ลึกเข้าไปในหุบเขาในเหมืองทอง

ฉู่โม่วค่อย ๆ ทะยานร่างลงมา ในไม่ช้าก็พบสัตว์อสูรรูปร่างคล้ายด้วงสีทองกำลังเขมือบชั้นแร่สีเหลืองเต็มปากเต็มคำ!

ร่างกายของมันใหญ่โตมโหฬาร มีความสูงเทียบเท่าเรือนอาศัยสามชั้น ซ้ำยังพ่นลมหายใจอันแข็งแกร่งออกมา

ในตอนนั้นเอง

มันเหลือบไปเห็นฉู่โม่วจึงอ้าปากส่งเสียงขู่ จากนั้นลำแสงสีทองก็พุ่งออกมา

ขณะสัตว์อสูรทองคำกำลังสวาปาม มันจะเกลียดสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่เข้ามาอยู่ใกล้และจะรีบฆ่าทันที

เมื่อเห็นลำแสงพุ่งมา ฉู่โม่วก็หมุนเวียนพรสวรรค์ธาตุลมและหลบออกไปในพริบตา

ตู้ม!

เพียงลำแสงแตะสัมผัสลงบนพื้นก็ทะลุตัดผ่าไปในทันที

ด้วยการรับรู้ทางจิตสัมผัส ฉู่โม่วสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าลำแสงนี้ทะลุทะลวงพื้นโลกเป็นระยะทางหลายพันเมตร ไม่ว่าจะเจอดิน หิน ทองและแร่เหล็กตลอดทาง ทั้งหมดกลับถูกตัดผ่าบดขยี้ทันทีและกลายเป็นอุโมงค์ทอดยาวลงไป

“เป็นพลังธาตุเหล็กที่แหลมคมยิ่งนัก!”

‘พรสวรรค์ของสัตว์อสูรกลืนทองคำตัวนี้อย่างน้อยก็อยู่ในระดับ 4 กระทั่งถึงระดับพิเศษ!’

ฉู่โม่วคำนวณในใจ

โฮก! โฮก!

อสูรกลืนทองคำสังเกตว่าการโจมตีสักครู่ไม่อาจทำให้ ‘มดปลวก’ ตัวเล็ก ๆ ตรงหน้าตายได้จึงได้แต่ประหลาดใจ จากนั้นเปล่งเสียงคำรามอีกสองสามครั้ง ทำให้ลำแสงพุ่งวาบออกมาจากปากของมันทันที

เป็นที่แน่ชัดว่า…

มันอารมณ์บ่จอยแล้ว!

“ต่อหน้าฉันยังกล้าอวดดี!”

จงดูซะ

ฉู่โม่วหัวเราะเบา ๆ จากนั้นเริ่มหมุนเวียนอณูแห่งชีวิตไปทั่วร่าง และใช้วิชาย่างก้าวปีศาจไร้เงา พริบตาร่างของเขาก็กลายเป็นภาพติดตา และพุ่งเข้าหาอสูรกลืนทองคำ

ชิ้ง!

ทันใดนั้น เขาพลันปลดเปลื้องคมกระบี่สวรรค์เร้นลับตวัดออกไปทะลุท้องนภาด้วยเจตจำนงของกระบี่ที่เฉียบคม จากนั้นหมู่มวลเงากระบี่ก็ได้ร่วงหล่นลงมาอย่างรุนแรง พุ่งลงไปยังเหนือศีรษะของอสูรกลืนทองคำทันที

เคล้ง เคล้ง เคล้ง!

มีเพียงเสียงทองและเหล็กกระทบกันอย่างต่อเนื่อง และมีประกายแสงมากมายแผ่ออกมาจากร่างของอสูรกลืนทองคำ

ในช่วงเวลาสั้น ๆ ฉู่โม่วได้ตวัดคมกระบี่ออกไปนับร้อยครั้ง แต่มันไม่แม้แต่จะทะลวงผิวของอสูรกลืนทองคำสักนิด!

อสูรกลืนทองคำเป็นสัตว์อสูรที่พิเศษมาก

ไม่เพียงแต่กลืนแร่ทองคำและแร่เหล็กได้ แต่ยังสามารถกลืนกินแก่นแท้ของแร่ธาตุและเก็บไว้ในร่างกาย ทำให้กล้ามเนื้อและเปลือกนอกแข็งแกร่งทรงพลังขึ้น

ด้วยชื่อของอสูรกลืนทองคำระดับ 6 มันกินแร่มานับไม่ถ้วนตั้งแต่เกิด เปลือกและกล้ามเนื้อแข็งมากจนแม้แต่จ้าวยุทธ์อาจยังพบว่ามันยากที่จะทะลวงทำลาย

แม้เขาจะรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ยังมีสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นด้วยตาตัวเอง

ถึงกระนั้น…

ด้วยการเชือดเฉือนอย่างต่อเนื่องของฉู่โม่ว แม้การป้องกันของอสูรกลืนทองคำจะไม่ถูกทำลาย แต่ทุกครั้งที่เงากระบี่ทะลวงลงมา จะส่งแรงกระแทกอันมหาศาลทำให้มันรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว

ดังนั้นอสูรกลืนทองคำจึงโกรธมาก

มันถลันตัวยืนขึ้นอ้าปากกว้าง ทำให้ประกายแสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาราวกับพายุบ้าคลั่ง

ทุกประกายแสงสีทองถูกบีบอัดแน่นด้วยความน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง แม้ว่ามันยังไม่พุ่งออกมา แต่แค่กลิ่นอายที่รุนแรงนี้ก็สามารถสร้างรอยข่วนบนผิวหนังของผู้คนได้แล้ว

นี่คือการโจมตีโต้กลับครั้งใหญ่ของอสูรกลืนทองคำ!

ฉู่โม่วไม่กล้าลังเล เขาหมุนเวียนอณูแห่งชีวิตแล้วใช้ย่างก้าวปีศาจไร้เงาอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ก่อนรีบออกจากบริเวณนั้นโดยทันที

เพียงฉับพลันที่เขาหันกลับไปมอง

ประกายแสงนับไม่ถ้วนก็ตกลงสัมผัสพื้นและได้ยินเพียงเสียง ‘ซู่ ซู่ ซู่’ ไม่หยุดหย่อน ต่อมาจึงปรากฏหลุมดำลึกที่มีความลึกหลายร้อยเมตรขึ้นบนพื้นทุกหนทุกแห่ง

“คิดไม่ถึงว่ามันจะทำได้ขนาดนี้!”

“แต่…”

“ก็แค่นั้นแหละ!”

ขณะที่พึมพำ อณูแห่งชีวิตสีม่วงพลันปรากฏขึ้นปกคลุมร่างของฉู่โม่ว

หลังจากนั้น

ปรากฏเสียงฟ้าร้องอันไร้ที่สิ้นสุดดังขจรออกไปในชั่วพริบตา สภาพเขตแดนหลายร้อยเมตรรอบตัวกลายเป็นทะเลสายฟ้าในทันที

อสนีบาตอันทรงพลังมีพลังการทำลายล้างที่น่ากลัว เลื้อยหลั่งไหลไปโดยรอบ แล้วก่อตัวเป็นดั่งอสรพิษที่น่าสะพรึงกลัว กระจายไปทั่วร่างของอสูรกลืนทองคำ

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เสียงคลื่นฟ้าผ่าดังกึกก้อง ประกายวาบแสงตกลงมาใส่ร่างของอสูรกลืนทองคำอย่างไร้ความปรานี

มันป้องกันด้วยความหวาดกลัว

แต่เพราะกินเหล็กตลอดทั้งปี ร่างกายจึงเต็มไปด้วยธาตุเหล็ก และสิ่งที่มันแพ้ทางที่สุดคือพลังธาตุอัสนี

ภายใต้การระเบิดของสายฟ้าในขณะนี้

ชายหนุ่มเห็นอัสนีเหล่านั้นโหมกระหน่ำไปทั่วร่างของมัน และในไม่ช้าก็เกิดกลิ่นไหม้ขึ้น

โฮก!!

มันคำรามด้วยความเจ็บปวดผ่านแววตา จากนั้นรีบหันหลังกลับพยายามจะหลบหนี

“จะหนีไปไหน?”

แววตาของฉู่โม่วจับจ้องพร้อมประสานมือเข้าหากัน พลันปรากฏพลังของสายฟ้าพุ่งเข้ามาปกคลุมรอบตัวเขาทันที จนในที่สุดก็ก่อตัวเป็นเสาลำแสงอัสนีขนาดใหญ่น่าเกรงขาม และผ่าตรงไปยังด้านบนศีรษะของอสูรกลืนทองคำ

โผละ!

ท้องฟ้าสีครามมีสายฟ้าแลบ ผืนดินแห้งถูกบดบังด้วยฟ้าร้อง

ทันทีที่เสาอัสนีระเบิด ร่างกายของอสูรกลืนทองคำพลันถูกปกคลุมด้วยอัสนีก่อนจะแข็งค้างชะงักงันไป

หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจก็มีเสียงระเบิดปะทุดังขึ้น

ตู้ม!

อสูรกลืนทองคำถูกแผดเผาเป็นสีดำเกรียมทั้งตัว ก่อนล้มลงกับพื้นเสียงดังโครมคราม จนบริเวณโดยรอบเงียบสนิทไป!

…

หลังจากรั้งพลังอัสนีคืนทั้งหมดแล้ว ฉู่โม่วก็เดินไปยังซากของอสูรกลืนทองคำและเริ่มกลืนกินมันโดยตรง

[กลืนกินสำเร็จ!]

[ได้รับพรสวรรค์ธาตุเหล็ก!]

[กลืนกินสำเร็จ!]

[ได้รับแก่นแท้โลหิตของสัตว์อสูรระดับ 6 อสูรกลืนทองคำ!]

หลังจากกลืนกินสองครั้งติดต่อกัน คุณสมบัติทั้งหมดของอสูรกลืนทองคำตัวนี้ก็ถูกกลืนกิน

ไม่ผิดไปจากที่ฉู่โม่วคาดไว้

เป็นพรสวรรค์ธาตุเหล็กที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ !

“หลอมรวม!”

โดยไม่ลังเล เขารีบตรวจสอบทันที

ตู้ม!

เกิดความเจ็บปวดอย่างกะทันหันในร่างกายของฉู่โม่ว พลังงานลึกลับปรับแต่งร่างกาย เลือดเนื้อและเซลล์มีการควบรวมตัวกันใหม่ ต่อมาได้วิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลิ่นอายอันเฉียบคมค่อย ๆ แผ่ซ่านไปทั่วร่าง

หลังจากนั้นไม่นาน ความเจ็บปวดก็จางหายไป

ฉู่โม่วเปิดดูข้อมูลส่วนตัวของเขา

[เป้าหมาย : ฉู่โม่ว]

[ระดับร่างกาย : อสนีบาตคงกระพัน, กายากระบี่เทวะ]

[พรสวรรค์ : พรสวรรค์วิชากระบี่ระดับดาราลับฟ้า, ธาตุลมระดับดาราลับฟ้า, ธาตุไฟระดับพิเศษ, ธาตุดินระดับพิเศษ, ธาตุเหล็กระดับพิเศษ, ธาตุไม้ระดับพิเศษ, พรสวรรค์แห่งห้วงมิติระดับ 4, ธาตุน้ำระดับ 4 , ธาตุมืดระดับ 4]

เมื่อมองไปยังแผงสถานะ ฉู่โม่วก็แสดงรอยยิ้มบนใบหน้า

ตอนนี้เขามีสองพรสวรรค์ระดับดาราลับฟ้า สี่พรสวรรค์ระดับพิเศษ และสามพรสวรรค์ระดับ 4 แล้ว!

อีกทั้งระดับร่างกายที่ไม่ธรรมดา

ด้วยพรสวรรค์และกายเนื้อที่ทรงพลังเช่นนี้ นอกจากฉู่โม่วแล้ว เกรงว่าในโลกนี้จะหาใครอื่นไม่ได้อีก!

เมื่อคิดเช่นนั้น ฉู่โม่วก็รู้สึกภูมิใจเล็กน้อย

“ลองใช้โบนัสของพรสวรรค์ธาตุเหล็กระดับพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาสองระดับที่เพิ่งได้รับมาดูหน่อยแล้วกัน!”

ฉู่โม่วเพ่งจิตดึงกระบี่สารทสังหารออกมา พลังของมันเข้มข้นเพิ่มขึ้นถึง 70% จากนั้นปราณกระบี่จึงปะทุออกทะยานขึ้นสู่นภา

ทันใดนั้น

ฉู่โม่วได้เสริมความเฉียบคมปราณกระบี่ด้วยพรสวรรค์ธาตุเหล็ก

ในช่วงเวลานี้เอง

เขาสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลง มันดูคล้ายจะบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น

ฉู่โม่วพบว่าคมกระบี่ถูกเคลือบด้วยประกายของอัสนีไหลผ่าน และมีเสียง ‘ซี่ ซี่’ ออกมาแผ่วเบา

ก่อนที่มันจะถูกตวัดออก มิติรอบคมกระบี่ก็เริ่มบิดเบี้ยว และแม้แต่กลื่นอายความมืดก็ปรากฏขึ้นให้เห็น

เพียงเฉือนอากาศครั้งเดียว

เขาได้เห็นถึงกองพันอาชาสีเลือดกระโจนออกมาจากฟากฟ้า ปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายที่บ้าคลั่งไร้ที่สิ้นสุด และตัดผ่าไปข้างหน้าทันที

ปราณกระบี่คำรามเหนือนภา สะเทือนครอบคลุมรัศมีหลายสิบกิโลเมตร ก่อนจะตกลงสู่ความว่างเปล่าในที่สุด มันตัดผ่าช่องว่างที่มืดมิดออกและสลายไปในทันที

เมื่อเห็นภาพนี้ ฉู่โม่วก็เผยสีหน้าตกตะลึง

เขาไม่เคยคิดมาก่อน…

พรสวรรค์ธาตุเหล็กระดับพิเศษจะสามารถตัดได้แม้กระทั่งมิติ!

ต้องทราบก่อนว่า

การฉีกมิติเป็นสิ่งที่ราชันย์ยุทธ์เท่านั้นที่สามารถทำได้!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง

ภายใต้พรสวรรค์ธาตุเหล็ก เมื่อควบรวมปราณกระบี่ มันจึงได้ยกระดับขั้นพลังเขาด้วยเช่นกัน!

‘ด้วยความเฉียบคมนี้ หากต้องเผชิญหน้ากับอสูรกลืนทองคำอีกครั้ง ฉันจะสามารถตัดผ่าเปลือกและผิวหนังของมันด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!’

ฉู่โม่วแอบคิดกับตัวเองเงียบ ๆ