บทที่ 147 พี่น้องตระกูลหลี่ และสัตว์อสูรระดับ 6 เหยี่ยวกระบี่เหินเวหา!
เวลานี้ฉู่โม่วบินตรงกลับไปยังฐานจินหลิง
แต่แล้ว…
ทันใดนั้น สิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนก็ปรากฏขึ้นในหัว
ตามที่ได้ยินมา ไผ่กระบี่ดาราสวรรค์จะเติบโตในที่ที่มีพลังปราณกระบี่แข็งแกร่งเท่านั้น!
และแปลว่ามีสมบัติที่ล้ำค่ายิ่งกว่าที่เกี่ยวกับปราณกระบี่อยู่ใกล้ ๆ ไผ่กระบี่ดาราสวรรค์ด้วย!
แสงสว่างจ้าพลันส่องออกมาจากตาของฉู่โม่ว!
แต่เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาในทันใด
ถึงจะรู้ว่ามีสมบัติที่ล้ำค่ายิ่งกว่าอยู่ใกล้ ๆ ไผ่กระบี่ดาราสวรรค์ เขาก็ยังไม่มีพละกำลังจะออกไปตามหามัน!
สัตว์อสูรระดับ 7 ตัวนั้น จระเข้โลหิตคลั่งและตอนนี้คงจะตื่นตัวเป็นอย่างมาก ถ้าฉู่โม่วผ่านไปอีกครั้งและโดนพบเข้า เขาจะต้องถูกมันไล่ตามอย่างแน่นอน!
แม้ว่าจะมีพรสวรรค์แห่งห้วงมิติในการเคลื่อนกายก็ยังสลัดมันให้หลุดไม่ได้ง่าย ๆ
‘มันอันตรายเกินไป!’
‘รอให้แข็งแกร่งกว่านี้ก่อนแล้วค่อยกลับมาใหม่!’
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉู่โม่วก็ส่ายหน้าและตัดใจที่จะกลับไปสำรวจดูอีกครั้ง
…
ตอนที่ฉู่โม่วกำลังกลับไปที่ฐานจินหลิง
ในขณะเดียวกัน
กลางถนนระหว่างฐานจินหลิงและป่าไผ่ม่วงชาด ฐานขนาดเล็กที่ชื่อว่าหว่านหลิงกำลังเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่!
ตอนนี้ที่นี่กลายเป็นซากปรักหักพัง
เท่าที่ตาเห็น มีซากปรักหักพังและร่างไร้ชีวิตอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
ในซากเหล่านี้ เด็กชายและเด็กสาวสองคนกอดกันแน่นด้วยความเจ็บปวด
ตรงหน้าทั้งสองมีชายชราผมหงอกคนหนึ่งกระอักเลือดออกมา!
ลมหายใจของเขาแผ่วเบาอย่างถึงที่สุด
และบนท้องฟ้ามีรัศมีทำลายล้างโลกอันน่าสะพรึงกลัว
แต่ชายชราก็ไม่แม้แต่จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงตาของเขากลับจับจ้องไปยังเด็กทั้งสองตรงหน้า
“โย่วเวย อาเสวียน จำที่ฉันบอกให้ดี”
“หนีไป!”
“หนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้!”
“ออกไปจากฐานหว่านหลิง!”
“ออกจากที่นี่ ปกปิดตัวตนไว้และฝึกวรยุทธ์ให้แข็งแกร่ง!”
“ถ้าชีวิตนี้ยังมีโอกาสก็รอจนกว่าจะฝึกฝนสำเร็จแล้วค่อยกลับมาช่วยแก้แค้นให้ตระกูลหลี่ แต่ถ้าไม่มีความหวัง… ก็อย่ากลับมาที่นี่อีก!”
“ได้ยินมั้ย?!”
เขากล่าวแล้วจึงอ้าปากกระอักเลือดออกมาอีกคำ
เด็กสาวและเด็กชายมองไปยังชายชราผู้เคยอ่อนโยนมาตลอด แล้วทั้งสองก็พ่นเลือดออกมา “ท่าน…”
“อย่าร้องไห้!”
“ในฐานะศิษย์ตระกูลหลี่ หลั่งเลือดได้แต่จะหลั่งน้ำตาไม่ได้!”
ชายชราจ้องเขม็งขณะที่บอกให้สองพี่น้องหยุดร้องไห้แล้วจึงหยิบจี้หยกออกมาด้วยมือสั่นเทา
“นี่คือสมบัติแห่งตระกูลหลี่ เรียกว่าหยกเร้นกาย”
“มันไม่มีพลังอะไรแต่ก็ปิดบังลมหายใจได้ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งก็ตรวจจับไม่เจอ!”
“ด้วยสิ่งนี้ พวกเธอจะหนีไปจากการไล่ล่าของสำนักหมื่นอสูรได้!”
เมื่อพูดจบ เขาก็ใส่จี้หยกไว้ที่คอของเด็กสาว
หลังจากนั้น
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและได้แต่กระอักเลือดออกมาไม่หยุด
เวลาใกล้จะหมดเต็มที…
แต่เขายังเบิกตากว้างและจับมือของเด็กสาวไว้แน่น “จำให้ดี”
“เธอมีชีวิตรอดไปให้ได้!”
“นี่คือความหวังสุดท้ายที่ผู้อาวุโสคนนี้จะขอก่อนตาย… ได้ยินมั้ย?!”
“ได้ยินมั้ย?!!”
สองพี่น้องพยายามกลั้นน้ำตาและพยักหน้า
ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน
เด็กสาวคนโตอายุ 14 ปีและมีชื่อว่าหลี่โย่วเวย
ส่วนเด็กชายคนน้องอายุ 13 ปีชื่อว่าหลี่เสวียนจี
ทั้งสองมาจากตระกูลหลี่ในฐานหว่านหลิงเล็ก ๆ
ในตระกูลหลี่มีผู้อาวุโสขั้นนายพลเมืองและยังมีผู้อาวุโสในขั้นจอมยุทธ์หลายคนอีกด้วย
ถือว่าเป็นตระกูลระดับสูงขนาดใหญ่ในฐานหว่านหลิงเลยทีเดียว
แม้แต่ในฐานขนาดกลาง นี่ก็ไม่ใช่กองกำลังที่อ่อนแอเลย
พูดตามหลักการแล้ว
การเกิดมาในตระกูลใหญ่นั้น หากไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็ไม่มีทางมาจบชีวิตลงแบบนี้แน่
นอกจากนี้…
หลี่โย่วเวยกับหลี่เสวียนจียังเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์อันน่ามหัศจรรย์อีกด้วย
หลี่โย่วเวยมีกระดูกหยกเคลือบชั้นยอด ตอนที่เธอเกิดมา บนท้องฟ้ามีกลิ่นหอมแปลกประหลาด ดวงจันทร์ฉายมายังร่างกายและฝนตกเป็นเวลากว่าสามวันสามคืน ทำให้เกิดการเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่และเริ่มต้นการเป็นผู้ปลุกพลัง!
และหลี่เสวียนจีผู้เป็นน้องชายนั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า
ตอนที่เขาเกิดมา อณูแห่งชีวิตสีม่วงแพร่กระจายออกไปหลายพันกิโลเมตรทางทิศตะวันออกและดึงดูดเพลิงสวรรค์มายังโลก ก่อนจะทิ้งจิตวิญญาณเพลิงแต่กำเนิดไว้ เพื่อชำระล้างแก่นจิตใจและเสริมแกร่งกระดูกของเขา
เมล็ดพันธุ์แห่งเพลิงสวรรค์กลายเป็นร่างกายศักดิ์สิทธิ์แห่งเพลิงสวรรค์แต่กำเนิด!
ในตระกูลหลี่มีทายาทที่น่าอัศจรรย์ปรากฏขึ้นติดต่อกันสองคน ทำให้ทั้งตระกูลหลี่ต่างปีติยินดีและมีกำลังใจมากขึ้น
นายพลเมืองเพียงคนเดียวของตระกูลหลี่ ผู้อาวุโสกลับมาหลังจากที่เก็บตัวไป และกล่าวว่านี่คือตัวนำโชคแห่งตระกูลหลี่ที่จะนำพาไปสู่สถานะที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน
แต่พวกเขาก็รู้ดี
ด้วยพรสวรรค์เช่นนี้ หากเกิดในตระกูลขนาดใหญ่ก็คงไม่เป็นไร
สำหรับตระกูลขนาดเล็กอย่างพวกเขา เว้นเสียแต่ว่าไปเข้าร่วมกองกำลังที่ทรงพลังแล้ว เมื่อถูกสำนักชั่วร้ายอื่น ๆ ค้นพบก็คงไม่รอดแน่!
ด้วยเหตุผลนี้ พวกเขาจึงไม่กล้าบอกใครและปกปิดเรื่องนี้ไว้อย่างระมัดระวัง
พี่น้องทั้งสองไม่เคยได้เปิดเผยพรสวรรค์ให้ใครเห็นมาก่อน
หลังจากที่อายุครบ 15 ปีและเสริมสร้างร่างกายเสร็จสมบูรณ์ พวกเขาจะถูกส่งไปยังกองกำลังขนาดใหญ่ และกลายเป็นผู้สืบทอดหลักที่แท้จริง
วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
ทุกคนในตระกูลหลี่ตั้งหน้าตั้งตารอสองพี่น้องเติบโตขึ้น
แต่ใครจะไปรู้ …ท้องฟ้านั้นไม่อาจคาดการณ์ได้
เรื่องพรสวรรค์ของพวกเขาหลุดรั่วออกไปเพราะศิษย์คนหนึ่งในตระกูลหลี่
และบังเกิดความโกลาหลขึ้น!
ทั่วทั้งฐานหว่านหลิงต้องสั่นสะเทือน
หลังจากนั้นสำนักหมื่นอสูรก็ส่งคนมาทันที
ผู้อาวุโสแห่งสำนักหมื่นอสูรนั้นเย่อหยิ่ง เขาประกาศว่าจะพาตัวพี่น้องทั้งสองไปต่อหน้าทุกคนในตระกูลหลี่
และส่งพวกเขาไปให้สัตว์อสูรที่เทียบเท่าราชันย์ยุทธ์และกลายเป็นทาสรับใช้
แม้ว่าสำนักหมื่นอสูรจะเป็นกองกำลังของมนุษย์ ทว่าพวกเขาต่อต้านเผ่าพันธุ์มนุษย์และเชื่อในสัตว์อสูร
เพื่อที่จะเอาใจสัตว์อสูร พวกเขากระทั่งสังหารมนุษย์ด้วยกันเอง!
และแม้ว่าตระกูลหลี่จะอ่อนแอก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าร่วมกับกองกำลังที่มีผู้ทรยศต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ พวกเขาส่งเด็ก ๆ ไปเป็นทาสของสัตว์อสูรได้ยังไงกัน!
เท่านั้นไม่พอ!
คู่พี่น้องหลี่เสวียนจีและหลี่โย่วเวยคือความหวังแห่งความรุ่งเรืองของตระกูลหลี่ จะมีเหตุผลอะไรให้ส่งพวกเขาไปล่ะ?
ผู้อาวุโสตระกูลหลี่ขับไล่ผู้อาวุโสจากสำนักหมื่นอสูรออกไป
สำนักหมื่นอสูรก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายในตอนนั้นและจากไปโดยไม่หันหลังมอง
แต่…
ตระกูลหลี่ต้องวิตกกังวล
ตระกูลหลี่ของพวกเขาไปมีเรื่องกับสำนักหมื่นอสูรเข้าและจะต้องถูกแก้แค้นเป็นแน่
เพื่อที่จะรักษาตระกูลหลี่และสองพี่น้องเอาไว้ ผู้อาวุโสตระกูลหลี่จึงติดต่อกับสหายเก่าที่ฐานจงไห่ทันที ด้วยความหวังว่าจะส่งทั้งสองไปฝึกฝนยังกองกำลังขนาดใหญ่และย้ายตระกูลหลี่เข้าไปในฐานระดับสูงในขณะเดียวกัน
คนคนนั้นคือผู้อาวุโสของกองกำลังขนาดใหญ่ในฐานระดับสุดยอด!
ถ้าเขาส่งคนไปที่นั่นได้ ตระกูลหลี่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการแก้แค้นของสำนักหมื่นอสูรอีกต่อไป
แต่ใครจะไปรู้…
สามวันหลังจากนั้น
ก่อนที่เพื่อนเก่าของผู้อาวุโสตระกูลหลี่จะมา จ้าวยุทธ์จากสำนักหมื่นอสูรก็ยกพวกมายังท้องฟ้าเหนือตระกูลหลี่!
ด้วยการโจมตีจากฝ่ามือเพียงครั้งเดียว ฐานขนาดเล็กส่วนมากอย่างฐานหว่านหลิงต้องถูกทำลายและสมาชิกทุกคนในตระกูลหลี่ต่างเสียชีวิตในคราวเดียว
ตระกูลหลี่ขนาดใหญ่ราบเป็นหน้ากลอง!
โชคยังดีที่ในวินาทีสุดท้าย ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหลี่สังเกตเหตุและพยายามปกป้องหลี่โย่วเวยกับหลี่เสวียนจีอย่างสุดฝีมือ
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“พรสวรรค์ของพวกเธอไม่ธรรมดาและในอนาคตจะต้องเข้าสู่ขั้นที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน!”
ผู้อาวุโสผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสยังคงกล่าวอย่างอ่อนโยน แม้ว่าจะใกล้สิ้นลมหายใจ “ต้องมีชีวิตรอดและตั้งใจฝึกยุทธ์ให้ได้นะ!”
“แต่น่าเสียดาย…”
“ที่ฉันจะไม่ได้เห็นภาพนั้น!”
เขาถอนหายใจ
แต่แล้วก็หันไปมองท้องฟ้าอีกครั้งก่อนจะสบถออกมา “สำนักหมื่นอสูรเวร ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมัน… ฐานหว่านหลิงเล็ก ๆ กับตระกูลหลี่จะเจอเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน!”
“ถึงจะต้องตายฉันก็จะไม่ให้พวกมันได้ใจ!”
เมื่อพูดจบ
ผู้อาวุโสก็ลุกขึ้นยืนและเผาผลาญแก่นชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมด
แล้วลมหายใจของเขาเริ่มมั่นคงขึ้น
“สำนักหมื่นอสูร… ถึงจะต้องตาย ฉันก็จะสู้กับแกสุดชีวิต!”
เมื่อพูดจบ
ผู้อาวุโสก็บินขึ้นไปบนฟ้าและต่อสู้กับศัตรูผู้ทรงพลังด้วยพลังเหนือธรรมชาติ
สองพี่น้องมองดูผู้อาวุโสแสนใจดีของตนวิ่งเข้าหาความตายอย่างเด็ดเดี่ยว
“ผู้อาวุโส!”
พวกเขาน้ำตาคลอขณะที่มองดูผู้อาวุโสของตัวเองและตะโกนเสียงดังลั่น
“ต้องรอด!”
“ต้องรอดไปให้ได้!”
บนท้องฟ้ามีเสียงคำรามแหบห้าวของผู้อาวุโสดังกึกก้อง
และบางครั้งก็ดังขึ้นในทันใด!
เมื่อเห็นว่าญาติ ๆ และผู้อาวุโสที่เอาใจใส่พวกเขามาตั้งแต่เด็กล้วนสิ้นใจลงตรงหน้า
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสตัดสินใจเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อให้ทั้งสองมีเวลาหลบหนี
ตอนนี้
พวกเขาเติบโตขึ้นแล้ว!
ยับยั้งความเศร้าและหวาดกลัวไว้ในใจ
ปาดน้ำตาและกดความกลัวเอาไว้
สองพี่น้องจับมือกันมองไปยังผู้อาวุโสเป็นครั้งสุดท้ายและเริ่มวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
วิ่งหนีโดยไม่หันหลังกลับไปมอง!
ตู้ม!
ข้างหลังพวกเขามีเสียงระเบิดดังสนั่น
แสงสว่างจ้าสาดไปทั่วทั้งฐาน
สองพี่น้องรู้ว่านั่นคือแสงประกายสุดท้ายของผู้อาวุโส!
แต่พวกเขาก็ไม่กล้าหันกลับไปมอง
ด้วยความกลัวว่าหากหันกลับไปจะต้องเห็นภาพความตายของผู้อาวุโสผู้เป็นที่รัก
ที่กลัวยิ่งกว่าการหันกลับไปมอง
คือการไม่กล้าวิ่งหนีต่อไปอีกแล้ว!
ทั้งสอง
จะทิ้งโอกาสที่ผู้อาวุโสและมาด้วยชีวิตไม่ได้!
…
ฉู่โม่วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในฐานหว่านหลิง
ในตอนนี้
เขาประสบปัญหาเล็กน้อยระหว่างการเดินทาง
นกขนาดใหญ่ยักษ์พลันเข้ามาขวางทางไว้
สัตว์อสูรตัวนี้เป็นเหยี่ยว ขนของมันเป็นสีดำมันเงา และขนบริเวณปลายปีกยังแหลมคมราวกับกระบี่ที่ปล่อยรัศมีอันทรงพลังออกมา
“สัตว์อสูรระดับ 6 ชั้นกลาง เหยี่ยวกระบี่เหินเวหา!”
ฉู่โม่วเปิดเผยชื่อของสัตว์อสูรตัวนี้
แกว๊ก!
เมื่อเหยี่ยวกระบี่เหินเวหาเห็นฉู่โม่วก็คำรามลั่น มันมองเขาเป็นเหยื่อและตรงเข้ามาทันที
ร่างกายของมันรวดเร็วราวกับกระบี่ และปีกอันแหลมคมก็สามารถตัดได้แม้กระทั่งห้วงอากาศ
“เร็วมาก!”
ฉู่โม่วตกตะลึง
แต่เขาไม่ได้แสดงความตื่นตระหนกออกไป เขากลับหยิบกระบี่สารทสังหารออกมาอย่างใจเย็น
‘ตอนนี้เจตจำนงกระบี่ของฉันสมบูรณ์ถึง 70% แล้วและยังมีกายากระบี่เทวะด้วย ฉันจะใช้แกทดสอบวิชากระบี่ตอนนี้แหละ!’
ดวงตาของฉู่โม่วลุกวาวขณะที่คิดในใจ
ตอนนั้นเอง
เหยี่ยวกระบี่เหินเวหามาถึงตรงหน้าเขาแล้ว กรงเล็บมันเงาและแหลมคมสองข้างปลดปล่อยประกายอันน่าสะพรึงกลัวออกมา และพยายามคว้าศีรษะของฉู่โม่วไว้!
เมื่อหันไปมอง มันก็กำลังจะโดนศีรษะของเขาแล้ว!
ฟัน!
เสียงหนึ่งพลันดังขึ้น
กระบี่ที่แหลมคมอย่างถึงที่สุดพลันฟันออกไปจากร่างของฉู่โม่ว พร้อมกับรัศมีที่น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุดที่แพร่กระจายออกไปทั่วทันที
ทันใดนั้น
ลำแสงสีแดงทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับว่าโลกเปิดออกกว้างและผ่าลงมายังเหยี่ยวกระบี่เหินเวหา
ฉับ!
มีเพียงเสียงกัดฟันแน่น ตามมาด้วยเสียงกระบี่ฟันผ่านเนื้อ
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง
ร่างของเหยี่ยวกระบี่เหินเวหาที่ถูกผ่าครึ่งแยกออกเป็นสองส่วนและร่วงลงบนพื้นดิน
ฝนเลือดสาดลงมากลางอากาศ
MANGA DISCUSSION