บทที่ 146 ดาราลับฟ้า และบรรลุทักษะกระบี่ระดับสูงสุด!
[เป้าหมาย : ฉู่โม่ว]
[ระดับร่างกาย : อสนีบาตคงกระพัน]
[พรสวรรค์ : ทักษะวิชากระบี่ดาราลับฟ้า, ธาตุไฟระดับ 5, ธาตุดินระดับ 5, ธาตุลมระดับ 4, พลังแห่งห้วงมิติระดับ 4, ธาตุไม้ระดับ 4, ธาตุน้ำระดับ 4, ธาตุความมืดระดับ 4, ธาตุเหล็กระดับ 3]
…
“เหนือกว่าระดับสูงสุดคือระดับที่เรียกว่าดาราลับฟ้างั้นสินะ”
เมื่อมองไปยังชื่อระดับใหม่ของทักษะวิชากระบี่ สีหน้าของฉู่โม่วก็ดูจะตื่นเต้นไม่น้อยเลย
ดาราลับฟ้า!
ก่อนหน้านี้…
เพราะทักษะวิชากระบี่ของฉู่โม่วนั้นเป็นเพียงระดับสูงสุดเท่านั้น เขาจึงสามารถเรียนรู้เจตจำนงแห่งกระบี่ได้เพียง 50% แม้จะได้รับโอกาสจากหลาย ๆ อย่าง หากปราศจากสิ่งเล่านี้แล้ว ลำพังเพียงวิชากระบี่ที่มีอยู่นั้น เขาไม่มีทางไต่เต้าขึ้นไปถึงระดับนั้นได้เลย
ผิดกับตอนนี้
เขาได้ทั้งพลังของผลวิญญาณแห่งกระบี่และแก่นแท้แห่งไผ่กระบี่ดาราสวรรค์มาจากจ้าวยุทธ์คนสวยคนนั้น มันช่วยทำให้วิชากระบี่เคลื่อนขึ้นเป็นระดับสูงสุด และภายหลังจากที่ใช้แก่นแท้แห่งไผ่กระบี่ดาราสวรรค์ในปริมาณมาก ความแข็งแกร่งของทักษะกระบี่ที่ครอบครองอยู่ก็ทะยานขึ้นเป็นระดับดาราลับฟ้าในท้ายสุด
ในเวลาสั้น ๆ เขาสามารถพัฒนามันได้ถึงสามระดับ!
บางทีด้วยพลังในตอนนี้ เขาอาจจะเข้าใจเจตจำนงแห่งกระบี่แบบ 100% ได้แล้วก็ได้!
และถ้าเป็นแบบนั้นได้จริง ๆ มันจะต้องทำให้ทักษะวิชากระบี่ของเขาสูงขึ้นอีกอย่างแน่นอน!
“ต้องลองเรียนรู้ดูแล้ว!”
คิดได้เช่นนั้น ฉู่โม่วก็ไม่รอช้าและเริ่มเตรียมตัวที่จะเรียนรู้ต่อในทันที
เขานั่งขัดสมาธิโดยวางกระบี่สารทสังหารไว้บนตัก ด้วยกระบี่เล่มนี้ มันจะต้องนำพาเขาเข้าไปยังการเรียนรู้เจตจำนงแห่งกระบี่ได้อย่างแน่นอน!
ฟุ่บ!
ในห้วงจิตของฉู่โม่ว เขาเห็นกระบี่สารทสังหารเล่มนี้ดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ และมันกำลังพาเขาเข้าไปสู่โลกอันลึกลับ!
โลกแห่งคมกระบี่!
คลื่นกระบี่และเจตจำนงแห่งกระบี่มากมายนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา
เทียบกับความน่าพิศวงที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจได้ของเจตจำนงแห่งกระบี่รวมไปถึงกฎแห่งกระบี่ที่ปรากฏในครั้งนั้น มันช่างยากเกินกว่าจะเข้าใจจริง ๆ แต่พอมาในตอนนี้ ภายในทักษะกระบี่ระดับดาราลับฟ้า สิ่งที่อยู่เบื้องหน้านี้ราวกับสามารถรับรู้มันได้ด้วยสัญชาตญาณ คลื่นกระบี่เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจยากอีกต่อไป การที่มันลอยไปลอยมานั้นก็เหมือนกับว่ากำลังรอให้เขาเข้าไปเรียนรู้มันอยู่
เพียงแค่ได้เห็น ฉู่โม่วก็เข้าใจในหลาย ๆ อย่างได้แล้ว และด้วยเหตุนี้มันทำให้ระดับความเข้าใจของเขาค่อย ๆ เพิ่มขึ้นด้วย
เขารู้สึกถึงมัน
เจตจำนงแห่งกระบี่ของเขากำลังพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว!
จากการคาดคะเน เขาตระหนักได้ว่าความเร็วในการเรียนรู้ในครั้งนี้ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับทักษะอยู่ในขั้นสูงนับร้อยเท่าเลย!
ยิ่งไปกว่านั้น…
ด้วยระดับดาราลับฟ้านี้ มันทำให้เขาสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมได้อีกหลายก้าว เพราะงั้นการร่ำเรียนและทำความเข้าใจในเจตจำนงแห่งกระบี่ครั้งนี้ มันจึงเร็วขึ้นอีกมาก ๆ เลยด้วย
เพียงแค่วันเดียว
ฉู่โม่วก็สามารถเรียนรู้เจตจำนงแห่งกระบี่ขั้น 60% ได้แล้ว
“ระดับความเข้าใจของดาราลับฟ้านี่สูงจนน่ากลัวเลยแฮะ… สามารถทำความเข้าใจเจตจำนงแห่งกระบี่ได้รวดเร็วพอ ๆ กับที่เรียนรู้จากแผ่นศิลารู้แจ้งเลย!”
เขาตกใจ
แต่เมื่อข่มใจได้แล้ว เขาก็กลับไปเรียนรู้เจตจำนงแห่งกระบี่อีกครั้ง
อีกห้าวันผ่านไป
เจตจำนงแห่งกระบี่ของฉู่โม่วเพิ่มขึ้นเป็น 70%!
ในตอนนี้ ฉู่โม่วรู้สึกได้ทันทีว่าทวาราแห่งกระบี่ทั้ง 365 จุดบนร่างกายกำลังสั่นไปพร้อม ๆ กัน
หากเข้าไปดูภายในร่างกายได้
ฉู่โม่วคงจะเห็นได้เลยว่ามีคมกระบี่มากมายกำลังก่อตัวกันจนเหมือนเป็นพายุหมุนวนอยู่ภายในทวาราแห่งกระบี่แต่ละแห่ง ด้วยเหตุนี้มันเลยทำให้ทั่วทั้งร่างกายเหมือนจะถูกปั่นให้หมุนตามไปด้วย
ด้วยการปะทะของคมกระบี่ที่คมกริบเหล่านั้น มันกระตุ้นให้ร่างกายของฉู่โม่วสร้างความแข็งแกร่งขึ้นมา และความแข็งแกร่งนั้นก็ทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ!
ขณะเดียวกัน
เขาได้ยินเสียงของสายลมและคมกระบี่ที่วิ่งแล่นอยู่ภายในร่างกายกำลังเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่มากขึ้น ๆ
และด้วยเสียงเหล่านี้
จากตัวเขาเป็นจุดศูนย์กลาง ไกลออกไปร่วมร้อยกิโลเมตร สัตว์อสูรมากมายนับไม่ถ้วนก็รู้สึกได้เหมือนว่าชะตาชีวิตของมันได้ดับมอดลงไปแล้ว ทุกตนล้วนแสดงความหวาดกลัวออกมาผ่านสีหน้าก่อนจะล้มลงไปกับพื้นและสั่นไปทั้งร่าง
ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
เสียงของคมกระบี่ที่กระทบกันไปมายังคงดังต่อเนื่องและดังยิ่งขึ้น
พักใหญ่ ๆ เสียงของมันก็ระเบิดออกราวกับสายฟ้าที่กระทบกับ
ทวาราแห่งกระบี่ทั้ง 365 จุดที่ก่อนหน้าเกิดพายุคมกระบี่หมุนวนอยู่นั้น เมื่อมันหมุนจนถึงระดับสูงสุดแล้ว พลังเหล่านั้นก็กระจายเข้าสู่เส้นลมปราณเป็นอันดับต่อไป
เสมือนสายลมที่พัดโถม คลื่นพลังนี้ถูกซัดเข้าใส่แต่ละส่วนในร่างกายอย่างรุนแรง
ทุก ๆ จุดที่ซัดผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อหรือกระดูกก็พลอยเกิดเสียงกร๊อบแกร๊บตามมาด้วย
คมกระบี่สวรรค์เร้นลับหรือเหล่าบรรดากระบวนท่ากระบี่ต่าง ๆ ที่เคยฝึกฝนมา ไม่ว่าจะเป็นคลื่นกระบี่หรือกระบี่วายุอสนีบาต ต่างก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาเองโดยที่เขาไม่รู้ตัว
ปฐมวิญญาณในกายกระตุ้นสร้างกงล้อทองคำปฐมวิญญาณขึ้นมาที่ด้านหลัง และเปล่งแสงสีทองอาบไปทั่วกายหยาบของฉู่โม่วจนกลายเป็นสีทองทั้งร่าง
ตอนนี้!
จิตวิญญาณของเขากำลังพัฒนาขึ้นไปในระดับสูงแล้ว!
คลื่นปราณกระบี่มากมายนับไม่ถ้วนห่อหุ้มร่างของเขาไว้ พวกมันปล่อยพลังอันมหาศาลที่ไร้จุดสิ้นสุดออกมา
ไม่รู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้เกิดไปอีกนานขนาดไหน
ทันใดนั้นเอง จู่ ๆ ความรู้สึกเสมือนดอกไม้ที่เบ่งบานออกมาก็ปรากฏขึ้นในห้วงจิตของเขา…
ซู่!
ชายหนุ่มรับรู้ได้ว่าปฐมวิญญาณกำลังสั่นในขณะนั้น ผิดกับร่างกายที่เบาขึ้นราวกับว่าเขาได้เกิดใหม่
“นี่มัน…”
ดวงตาที่ปิดสนิทมาหลายวันค่อย ๆ ลืมเปิดขึ้นและตรวจสอบสถานะร่างกายของตนเอง
[ระดับร่างกาย : กายากระบี่เทวะ]
“เจตจำนงแห่งกระบี่ 70% นี่พอสำเร็จแล้วมันจะสามารถหลอมรวมกับพลังกายได้งั้นเหรอ?”
สีหน้าของฉู่โม่วดูจะตกใจสุด ๆ
สิ่งที่เรียกว่า กายากระบี่เทวะ นี่คือผู้ที่ฝึกฝนเจตจำนงแห่งกระบี่ได้ในขั้นสูง มันทำให้พลังกายของเขาเปลี่ยนรูปแบบไป และมันจะทำให้ผู้ฝึกฝนเข้าใกล้คมกระบี่มากขึ้นด้วย เมื่อใดก็ตามที่ใช้กระบวนท่ากระบี่ เขาสามารถกระตุ้นพลังอีกขั้นของกระบี่ออกมาใช้ได้!
ในตอนแรก ฉู่โม่วได้ทำการเข้าถึงเจตจำนงแห่งกระบี่ 30% ได้ มันทำให้เขาสามารถเปิดทวาราแห่งกระบี่ทั้ง 365 จุดได้ และในตอนนี้ที่บรรลุเจตจำนงแห่งกระบี่ 70% ก็ทำให้ทวาราแห่งกระบี่ทั้ง 365 จุดผสานรวมเป็นจุดเดียวอีกครั้งและกลายเป็น กายากระบี่เทวะ!
“กายากระบี่เทวะ 10% ทุกครั้งที่ใช้กระบวนท่ากระบี่ มันจะเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น รวมไปถึงระดับความเข้าใจการเจตจำนงแห่งกระบี่ก็จะเพิ่มขึ้นจากการฝึกฝนกระบี่ต่อจากนี้ไปอีกด้วย!”
“แต่…”
‘กระบี่นั้นไม่มีที่สิ้นสุด!’
‘ต่อให้ฉันจะเปิดทวาราแห่งกระบี่ทั้ง 365 จุดทั้งร่างกายได้แล้ว หรือจะบรรลุกายากระบี่เทวะได้แล้ว แต่ยังจำเป็นต้องฝึกฝนต่อไปอยู่! มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถเรียนรู้กระบวนท่ากระบี่ได้อีกมากมายในอนาคต และเมื่อเวลานั้นมาถึง ฉันจะสามารถสร้างกระบวนท่ากระบี่ของตนเองได้!’
แม้จะเพิ่งสำเร็จกายากระบี่เทวะ แต่ฉู่โม่วก็สามารถเข้าใจถึงลำดับขั้นได้เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกันนั้น เขาก็วางแผนที่จะเดินต่อไปข้างหน้าด้วย
ในตอนนี้เขาเข้าใจเจตจำนงแห่งกระบี่ถึง 70% แล้ว และต่อให้จะบรรลุเจตจำนงแห่งกระบี่ 100% ได้ เขาก็ยังจะต้องฝึกฝนต่อไปเพื่อที่จะสร้างวิชากระบี่ของตนเองให้ได้!
หนทางในอนาคตที่กายากระบี่เทวะกรุยทางไว้ให้นี้จะต้องทำให้เขากลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่แน่ ๆ!
ใช่แล้ว
กายากระบี่เทวะไม่ใช่จุดสุดยอด แต่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!
‘ลำพังพลังของฉันในตอนนี้ การจะเข้าใจเต๋าแห่งกระบี่คงจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้!’
‘แต่ด้วยกายากระบี่เทวะนี้ ฉันจะสามารถทลายขีดจำกัดร่างกาย และจะต้องสามารถเรียนรู้สิ่งนี้ได้อย่างแน่นอน!’
‘ยามใดที่ชักกระบี่ออกมา ลืมเลือนทุกกระบวนท่าและทุกการเคลื่อนไหว หรือลืมแม้กระทั่งตนเอง ลืมแม้กระบี่ที่ถืออยู่ในมือ ปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามใจของตนเอง เป็นดั่งใจปรารถนาและในท้ายที่สุด…’
‘ก็บรรลุขั้นที่กระบี่สามารถไปได้อย่างที่ใจหวัง!’
คิดได้ดังนั้น ฉู่โม่วก็เริ่มฝึกฝนต่อในทันที
ในกระบวนการฝึกขั้นตอนนี้ไม่สามารถว่อกแว่กได้ เขาจะต้องมองข้ามทุกสิ่งอย่างและก้าวเข้าไปสู่ความว่างเปล่า ในแววตาของเขา จะต้องตัดทุกสิ่งอย่างทิ้งไปและเหลือเพียงกระบี่ในมือเท่านั้น!
เขาได้ยินเพียงเสียงของกระบี่ที่ดังอยู่ในความว่างเปล่าราวกับมันกำลังฟาดฟันบางสิ่งบางอย่างอยู่ และเสียงนั้นก็ทำให้ทั่วทั้งร่างรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา
ขณะเดียวกัน
ปฐมวิญญาณภายในกายก็เริ่มสั่นขึ้นมาพร้อมกับกายหยาบ ในยามที่กำลังฝึกกระบี่เช่นนี้ ฉู่โม่วรู้สึกได้ถึงท่วงทำนองของโลกและสวรรค์ที่สอดประสานกันจนน่าอัศจรรย์
ภายใต้ความรู้สึกเช่นนี้ ร่างกายของฉู่โม่วเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ราวกับว่าร่างของเขาไม่ใช่ร่างกายของมนุษย์อีกต่อไป แต่กลายเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว!
มนุษย์ที่กลายเป็นกระบี่และกระบี่ที่กลายเป็นมนุษย์!
ในชั่วพริบตา ฉู่โม่วได้ก้าวเข้ามาในสภาวะอันน่าวิเศษและรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่เรียบร้อยแล้ว
สิ่งนี้ไม่อาจตีความได้
ในตอนต้น ทักษะวิชากระบี่ของฉู่โม่วค่อนข้างจะมีกฎ มีวิธีการต่าง ๆ เยอะแยะไปหมด แต่เมื่อผ่านช่วงที่ทุกอย่างยุ่งเหยิงมาได้จนหมด เขาก็รู้สึกว่าวิชากระบี่ของเขาไม่ได้มีหลักการอะไรเลย
ทุกอย่างเปรียบเสมือนการฟาดฟันไปด้านหน้าทั้งนั้น
หากอยากจะใช้แขนซ้ายฟันก็ใช้แขนซ้าย หากอยากจะใช้แขนขวาฟันก็ใช้แขนขวา
หากอยากจะโจมตีก็อย่าลังเล
ทุกสิ่งเป็นไปตามที่ต้องการ อย่างที่ใจอยากจะทำ
เมื่อการฝึกคงที่…
กระบี่ที่อยู่ในมือมันก็หายไปจากสายตา!
ไม่ใช่!
ไม่ใช่แค่มองไม่เห็น แต่ในความเป็นจริง สิ่งนี้กลับหายไปเลย!
หากคนนอกเข้ามาเห็น
พวกเขาจะต้องตกใจแน่ ๆ ว่าฉู่โม่วที่เหมือนกำลังฟาดฟันกระบี่อยู่นั้น ในมือเขากลับไม่มีกระบี่อยู่เลย
ทุกอย่างเหมือนหายไปกลายเป็นอากาศ
ตัวตนของกระบี่ได้หายไปจากเขาแล้ว
แต่ด้วยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องของฉู่โม่ว กระบี่ของเขาเปลี่ยนจากการมีตัวตนกลายเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ จากกระบี่ที่มีรูปทรงตายตัว กลายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไปตามความต้องการตามสถานการณ์ที่เขาพบเจอ
ขณะเดียวกันนั้น
ความยุ่งเหยิงค่อย ๆ เริ่มจางหายไป
และเมื่อความวุ่นวายหายไปจนหมด ร่างของฉู่โม่วทั้งร่างก็ดูเหมือนจะหายตามไปด้วย
หากไม่มีใครเห็นเขาฝึกอยู่ตรงนี้ตั้งแต่แรกก็คงจะไม่มีใครรู้แน่ ๆ ว่ามีคนอยู่ที่นี่
ความแปลกประหลาดนี้ไม่สามารถถูกอธิบายด้วยคำพูดได้เลย
ทว่าหากคนคนนั้นเห็นการฝึกของฉู่โม่วตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ มันก็ค่อนข้างมั่นใจด้วยว่าสภาพจิตใจของคนคนนั้นจะต้องปั่นป่วนกับสิ่งที่เกิดขึ้นแน่ ๆ
กระบี่ของฉู่โม่วนั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมแล้ว!
…
หลังจากนั้นห้าวัน
ฉู่โม่วก็ได้ตื่นจากการฝึกฝนอันยาวนาน
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่สีหน้าของเขากลับแสดงความประหลาดใจออกมา
“เหลือเชื่อ ฉันเข้าถึงขั้นที่อยากจะทำอะไรก็ได้แล้วงั้นเหรอ!?”
“แล้วก็… ฉันพอจะเห็นเส้นทางแห่งกระบี่ในอนาคตของตนเองแล้ว”
“ครั้งนี้มันถือว่าเป็นการเก็บเกี่ยวที่คุ้มค่าจริง ๆ!”
ความรู้สึกดีใจนี้มันผุดขึ้นมาจากเบื้องลึกของจิตใจ
ภายหลังจากที่ทักษะกระบี่เขยิบเข้าระดับดาราลับฟ้าได้แล้ว และเจตจำนงแห่งกระบี่ยังเพิ่มขึ้นเป็น 70% ด้วย แถมยังสามารถบรรลุกายากระบี่เทวะได้อีก!
สิ่งเหล่านี้ทำให้ทักษะกระบี่ของฉู่โม่วเปลี่ยนแปลงไปมาก ๆ และการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ต่างอะไรกับการพลิกฟ้าถล่มแผ่นดินเลยทีเดียว!
และด้วยความเข้าใจที่อยากจะทำอะไรก็ได้ ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะไม่ได้ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น แต่ทำให้พอจะเห็นหนทางที่จะก้าวไปสู่เต๋าแห่งกระบี่ได้!
ในมุมมองของฉู่โม่ว ครั้งนี้เขาได้อะไรต่อมิอะไรมามากจริง ๆ!
เมื่อสติกลับคืนมา
ฉู่โม่วหยิบเอาของเหลวแก่นแท้แห่งไผ่กระบี่ดาราสวรรค์ที่เหลือออกมาหมายจะดื่มให้หมด ทว่าหลังจากดื่มไปหนึ่งอึกแล้ว เขาก็พบว่าทักษะกระบี่ระดับดาราลับฟ้าไม่สามารถพัฒนาได้อีกต่อไปแล้วด้วยผลของของเหลวแก่นแท้นี่
เมื่อรับรู้ว่าไม่สามารถใช้ของเหลวจากไผ่กระบี่ดาราสวรรค์ได้อีกต่อไป
เขาก็เก็บของเหลวที่เหลือกลับเข้ามิติพกพาดังเดิม
ยามที่หันกลับมาดูเวลา เขาก็พบว่าเขาออกจากฐานมานานมากแล้ว
ดังนั้นฉู่โม่วจึงวางแผนที่จะกลับไป
ในส่วนของการเข้าใจเจตจำนงแห่งกระบี่
หลังจากที่บรรลุได้ถึง 70% แล้ว ความเร็วในการทำความเข้าใจมันก็ลดลงไปอีก
ต่อให้ดึงดันฝึกฝนทำความเข้าใจต่อไป ค่ำคืนนี้ก็คงไม่ได้อะไรที่คุ้มค่านัก
“ช่างเถอะ”
“กลับไปก่อนแล้วกัน”
สรุปได้เช่นนั้น ฉู่โม่วก็เดินออกจากโพรงหลบภัยที่เขาสร้าง ทันทีที่ได้ยืดตัว ร่างกายของเขากลายเป็นลำแสงและพุ่งขึ้นฟ้าไป
และเพียงแค่เขาจากไป
จากป่าที่เคยเงียบสงบก็เกิดสายลมพัดหวนขึ้นมาทันที
ทันใดนั้นเอง
มันก็เกิดเสียง ‘ฟิ้ว’
ตามด้วยเสียงสิ่งของล้มระเนระนาด
ต้นไม้ใหญ่ถูกโค่นลง
แต่นั่นยังไม่จบ…
ด้วยเสียงระเบิดที่ดังมาหลังจากที่ต้นไม้ใหญ่ล้มลงนั้นเสมือนเป็นสัญญาณ
ตึง ตึง!
ต่อมา ต้นไม้อีกมากมายนับไม่ถ้วนถูกตัดขาดด้วยปราณกระบี่ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ พวกมันค่อย ๆ พากันล้มลงไปตาม ๆ กัน
ในขณะเดียวกัน
ภายในระยะเกือบสองร้อยกิโลเมตร สัตว์อสูรมากมายต่างล้มลงไปกับพื้นด้วยอาการตัวแข็งทื่อ
สายลมเบา ๆ พัดผ่านอีกครั้ง
โผละ!
ร่างที่ล้มลงไปกองกับพื้นระเบิดสลายกลายเป็นผงละอองและจางหายไปในความว่างเปล่าทันที
นั่นเพราะว่า…
สัตว์อสูรเหล่านี้ถูกปราณกระบี่ที่หลั่งไหลออกมาจากร่างกายของฉู่โม่วขณะฝึกฝนมาพักใหญ่ ๆ แล้ว
อันที่จริง
พวกมันตายไปตั้งแต่วันนั้นเลยด้วยซ้ำ!
เพราะงั้นยามที่ถูกลมพัดแรง ๆ ร่างของพวกมันจึงระเบิดออก
ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ ฉู่โม่วไม่ได้รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
MANGA DISCUSSION