ตอนที่ 8
หลังทำแผลรายวัน แผลลาโมแลคเริ่มสมานดีแล้ว
เอฟราโก้ตัดสินใจว่าถึงเวลาของขั้นถัดไป
” จากวันนี้ ดิฉันอนุญาตให้คุณขยับร่างกายตามใจเล็กน้อยค่ะ แล้วเราจะเริ่มทำกายภาพบำบัดกันนะคะ ” รอยยิ้มงดงาม ซ่อนเร้นเจตนาใต้ใบหน้าสุขุม
เข้าใกล้ขึ้นอีกนิดแล้วสินะคะ
” แปลว่า ฉันมองหาทางหนีได้แล้วสินะ ” เอ่ยเย้าหยอกเสียงนุ่ม
” เชิญค่ะ ” น้ำเสียงเรียบตอบรับ ขณะเอฟราโก้จัดท่าสอดหมอนให้ ลาโมแลครู้สึกถึงความเฉยชา แสร้งกลบอารมณ์
” แต่ว่าถ้าหากหนีไม่รอด ” แววตาลุกวาว ฝ่ามือสัมผัสเรือนร่างตามอำเภอใจ
” ดิฉันสาบานเลยว่าจะตัดขาคุณทิ้ง ” วาจาข่มขู่ ลาโมแลคชะงัก สายตาล่อกแล่ก ปากปริค้าง
ปลายนิ้วยักษ์สาวบีบเนื้อหนังเบามือ ย้ำเตือนสถานะ แม้หอมเอฟราโก้ฟุ้งกระจาย
ไม่อาจกลบรัศมีความน่าสะพรึง
เพียงครู่หนึ่ง เอฟราโก้คลี่ยิ้มสดใส ปลดภาพลักษณ์น่ากลัว ปลอบลาโมแลคให้กลับมายิ้มเจือ
” ล้อเล่นค่ะ ยังไงสภาพนี้ คุณคงไม่รอดจากพวกสัตว์ป่าอยู่แล้ว ” ฝ่ามือยักษ์สาวสัมผัสลงขาข้างที่เคยหัก ลูบไล้อ่อนโยน
แต่เสียววาบเจ็บแปล๊บราวแผลถูกฉีก ทว่าลาโมแลคกลับคิดไปเอง
” ก่อนจะเจอพวกนั้น ฉันไม่น่ารอดจากเธอนะ ” ลาโมแลคสบตาเอฟราโก้ จ้องนัยน์ตาทองคำเปล่งปลั่ง
” แน่นอนค่ะ แน่นอน ” ริมฝีปากแย้ม
ไม่เพียงตอบรับ แต่คือชะตากรรม
” ถ้าหากว่ารู้สึกเจ็บ รบกวนช่วยบอกดิฉันนะคะ ”
เอฟราโก้ใช้มือประคอง ช่วยลาโมแลคขยับขายกเข่าขึ้นเชื่องช้า นิ่งค้างกลางฟ้าอยู่ครู่ ลาโมแลครู้สึกถึงแรงกดเบา ทะนุถนอมผิดกับขนาดมือ
เอฟราโก้มองเรียวขาในอุ้มมือ จับจ้องเนื้อเนียนแม้ผ้าพันแผลปิดทับ แต่กลับเหลือช่องวางเผยความเย้ายวน สลับกับเหลือบหน้าสะดือน้อยบนหน้าท้อง
จมูกสั่นไหวแอบพยายามสูดดมกลิ่นจากเหยื่อตัวน้อย แสนละมุนกรุ่นกล่อม
” สบายมาก ต่อได้เลย ” น้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยเอ่ย
ดึงสติกลับมา
” บางที การที่คุณทำตัวสบายเกินไป ก็ทำให้ดิฉันแปลกใจนะคะ ” เอฟราโก้เคยเห็นแววตามากมาย ทั้งมีความหวัง รู้สึกถึงโอกาส ฮึดสู้ ลังเล กังวล
แต่คนที่ยิ้มแฉ่งหน้าระรื่น เหมือนทุกอย่างเป็นปกติ มีเพียงแค่ลาโมแลค
เอฟราโก้เริ่มขยับยกเข่าขึ้นลงวนซ้ำ จนกระทั่งสัมผัสที่นิ้วเปลี่ยนไป กล้ามเนื้อเริ่มเกร็งขึ้นมาเล็กน้อย นิ้วเท้ากำลังขยับ ดวงตาฟ้าครามหลบเลี่ยง
” วันนี้พอเท่านี้ดีกว่าค่ะ ” เอฟราโก้วางก้อนเนื้อชั้นดีลง มองใบหน้าผู้ให้ความร่วมมืออย่างดี
ลึกสุดในใจแอบผิดหวังเล็กน้อยที่ทุกอย่างราบรื่นเกินไป ราวกับเฝ้ารอ
อย่างน้อยทุกอย่างก็กำลังดีขึ้น เอฟราโก้รู้สึกว่าตัวกลับมามีสมาธิ และอดกลั้นได้ดีขึ้น
ฝ่ามือลาโมแลคเอื้อมลง คลายเชือกที่ผูกผ้าปิดหว่างขาออก กระทำอย่างซื่อตรง ความบ้ากระแทกใจเอฟราโก้ เธอหลุดยิ้มกลับความเถรตรงนี้
เอามาสิ คุณจะชวนดิฉันเล่นอะไรดีคะ
” โอ๊ะ เชือกหลุด ต้องรบกวนคุณหมอใจดีและน่ารักแล้วล่ะ ” น้ำเสียงยียวนเพรียกหา เอฟราโก้อมยิ้ม ยอมตอบรับแผนร้าย
” ได้เสมอค่ะ ” เอฟราโก้ขยับมาเข้าใกล้ จับเชือกบางสองเส้น แววตาเหลือบมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ลาโมแลค
ฝ่าเท้าเปลือยเท้าขาวนวล ยกขึ้นสัมผัสบนใบหน้ายักษ์สาว แรงเหยียบละมุนกดลงแก้มนุ่ม
เมื่อไร้สิ่งใดยึดติดผ้าที่ปิดกั้นพลันหลุดร่วงเปิดเผย สายตาเอฟราโก้เหลือบมองเบื้องล่าง กลับไม่สนใจ เคลื่อนผ่านหน้าอกราบเรียบ ขึ้นจับจองประกายฟ้าครามยิ้มระรื่น
มาหยุดที่นิ้วเท้าใกล้สายตา ขยับกระดิก ยั่วยวน
เอฟราโก้สัมผัสมือแตะเท้าลาโมแลค กอบกุมแน่นไม่ให้หนี มืออีกข้างเอื้อมลงขาอ่อน ประดุจขนนกเบาลูบไล้ ความรู้สึกสยิวเกินทนแล่นผ่าน
ลาโมแลคดิ้นบิดตัวซ้ายขวา เสียงครวญเล็ดลอดผ่านลำคอ หลังรังแกพึงพอใจจึงยอมหยุด
เธอยกเจ้าเท้าแสนดื้อที่กล้าหยามออก ใบหน้าโน้มลง สูดดมกลิ่น แม้ไม่หอมหวาน กลับทวีความรู้สึกเย้ายวน เขี้ยวแหลมกัดลงสลักรอยบาป
ร่างกายลาโมแลคกระตุก พยายามชักดึงหนี ไม่อาจขัดขืนแรงกำ ตกอยู่ในความสิ้นหวัง
ความเจ็บจี๊ดเหนือจินตนาพลุ่งพล่าน ขับเสียงร้องปวดร้าวลั่นห้อง หยาดน้ำจากดวงตาฟ้าครามพลันรินไหล ภายใต้นัยน์ตาเริงร่าสีทองอำไพ
เลือดนี้ ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ รสชาติอันแสนอิ่มเอม เอฟราโก้ดื่มด่ำความทรมานและลิ้มลองลาโมแลค เมื่อไม่อาจเขมือบก็ขอแทะชิมเล่นไปก่อน
ในเมื่อแหย่กันขนาดนี้ อย่ามาเสียใจเอาทีหลังนะคะ
” รุนแรงเกินไปแล้วนะ ” น้ำเสียงกระเส่าสิ้นสภาพฝืนเอ่ยขึ้น ทว่าใต้หยดน้ำตากลับเปล่งประกายซ่อนเร้น หัวใจตื่นเต้นแถบทะลักอก
ในชั่วนาทีที่เอฟราโก้จดจ่อกับฝ่าเท้า ลาโมแลคพยุงตัวขึ้นเอื้อมมือเล็งบนหัวเส้นผมสีเงิน
ยักษ์สาวเลื่อนตัวขึ้นฉับพลัน ฝ่ามือจับข้อเท้าไว้แน่น กระชากขาขึ้น
ลาโมแลคสะดุ้ง เสียงลมหายใจขาดช่วง เสียหลักแผ่นหลังกระแทกเตียง
เธอช้าเกินไป พลาดโอกาสพลิกเกม เพียงชั่วครู่
เอฟราโก้ตื่นตระหนกไม่นึกว่าในสถานการณ์นี้ยังเห็นช่องว่าง เสี้ยวหนึ่งในใจโล่งอกที่ไหวตัวทัน
มอบยิ้มเย้ยแด่ลาโมแลค เหยื่อผู้คว้าน้ำเหลว
เธอหลงคิดว่าถ้าใช้ข้างที่บาดเจ็บ เอฟราโก้จะเบามือ
แต่กลับไม่ กล้ามเนื้อกรีดร้อง ความเจ็บระบมแล่นจากเท้าถึงลำแข้ง หยาดสีชาดร่วงลงผ้าปู เช่นเดียวกับน้ำตาลาโมแลค นิ้วมือจิกเตียงฉุดดึงยับยู่ยี่
เสียงร้องแตกพร่าในลำคอขอความเมตตา เว้าวอน เอฟราโก้จดจำภาพแสนวิเศษนี้ ทุกเสียงร้องสะอื้นช่วยชโลมจิตใจ กังวานไพเราะ ก้องถึงวิญญาณ
เอฟราโก้ปล่อยเหยื่อในปาก รอยฟันบนเท้าถูกเลือดไหลกลบ เสียงขากระทบเตียงผสานกับเสียงลมหายใจลาโมแลค
” ขอโทษนะคะ ดิฉันตกใจไปหน่อย ไม่ทันระวัง ”
ตรงข้ามถ้อยคำสีหน้ากับน้ำเสียงยิ้มเยาะ
ริมฝีปากแต้มแต่งสีชาด แววตาทะนง มองลาโมแลคนอนพักหายใจ
เอฟราโก้ลดตัวลง ชื่นชมบาดแผลที่เธอกระทำ แม้เลือดไหลไม่มาก แต่ก็เป็นจุดอันตราย ยิ่งเป็นขาข้างที่กระดูกหัก แผลเก่าอาจเปิด
ในใจรู้สึกผิดหวังกับตัวเอง เหมือนเดินหน้ามาก้าวหนึ่ง เพื่อจะถอยกลับไปสองก้าว
แต่ เอฟราโก้เหลือบมองสีหน้าลาโมแลค ครั้งนี้คุ้มค่า
” แล้วก็ ดิฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมคะ ว่าไม่ชอบให้ลูบหัว ” เอฟราโก้ชักสีหน้า โกรธจริงจังต่อลาโมแลค ที่จงใจก่อเรื่องเพื่อเล็งโอกาส
” ยิ่งห้ามยิ่งยุ ระวังตัวไว้เลย ” หลังพักหายใจครู่หนึ่ง แม้น้ำเสียงจะอ่อนล้า ลาโมแลคไม่สลดทั้งยังท้าทาย
แววตาเอฟราโก้หรี่ลง ไม่ชอบในถ้อยคำตอบรับ การกระทำที่ล่วงล้ำเข้ามา
และยังทำให้ตกอยู่ในสภาพสติละลาย ปล่อยเนื้อปล่อยตัว สำหรับนักล่า เธอไม่ยอมรับสภาพแหลกเหลวตัวเองในตอนนั้น
เอฟราโก้เลือกไม่ต่อปากต่อคำ ยักษ์สาวให้ความสำคัญการจัดการแผลก่อน
” ถ้ายังกล้าอีก ดิฉันจะทำให้มือคุณใช้การไม่ได้ค่ะ ”
ถ้อยคำข่มขู่ทิ้งท้าย น้ำเสียงเย็นยะเยือก
ไม่มีรอยยิ้มหยอกล้อ
” แปลว่าฉันมีโอกาสเดียวสินะ ” ราวสารภาพ คล้ายอยากลองเสี่ยงอีกสักครั้ง
” หวังว่าคุณจะใช้มันคุ้มค่านะคะ ” ถ้อยคำประชด
น้ำเสียงหงุดหงิดของเอฟราโก้ ไม่ว่าจะกลั่นแกล้งหรือทำตัวยังไง ยักษ์สาวมักไม่ปริปากว่าอะไร
แต่พอเป็นเรื่องลูบหัวเธอพลิกเป็นคนละคน พร้อมฉุดเฉียวเสมอ
แต่ลาโมแลคก็ชักชอบแหย่เธอในเรื่องนี้
จะเล่นกับไฟแต่ถ้าไม่โดนเผาจะสนุกอะไร
รอยยิ้มกรุ้มกริ่มคลี่บาน แม้จะผ่านประสบการณ์สุดทรมานแต่ผลลัพธ์สำหรับเธอ คุ้มค่า
ลาโมแลคไม่นึกเสียใจ
ลาโมแลคมองเอฟราโก้เคร่งเครียดกับการดูแลอาการบาดเจ็บของตัวเอง มองดูเธอเจ็บปวดใจเหมือนแม่ครัวที่พลั้งพลาดทำวัตถุดิบเสียหาย
ถ้าจะมองฉันแบบนั้น ก็ไม่รังเกียจหรอกนะ
ลาโมแลคคลี่ยิ้มผ่อนคลายต่อปลายทางลิขิต
ในตอนนี้ไม่น่าเหมาะช่วยคุยเท่าไหร่ เปลือกตาขยับเคลื่อนลง ปิดกั้นโลก
ลาโมแลคปล่อยใจหลับลงได้ง่ายดายแม้พึ่งผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่
ยังไงฉันก็อยู่ในมือแม่ครัวที่เก่งกาจขนาดนี้แล้ว
MANGA DISCUSSION