ตอนที่ 1
สติฟื้นคืน เปลือกตาสั่นไหว ไม่ใช่แสงหรือเสียงแต่เป็นเข็มจากบาดแผล ความเจ็บแทงทะลุซี่โครงปลุกฉันขึ้นมา แผ่นหลังแนบพื้นผิวนุ่ม เอนขึ้นเล็กน้อย
ไม่ใช่สัมผัสของดินชื้นกลางป่าก่อนสลบไป แขนวางข้างกายมีหมอนป้องกันเผลอพลิกตัว
ฉันเหลือบตามองร่างกายเปลือยเปล่า ชุดเกราะถูกปลดเหลือเพียงผ้าพันแผลและไม้ดามขาซ้าย
อุณหภูมิอบอุ่น กลิ่นเครื่องหอมอบอวลในอากาศช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลง เสียงฝ่าเท้าจังหวะเอื่อยเฉื่อยเคลื่อนใกล้
ในสภาพนี้ระแวงไปก็ไร้ประโยชน์ แผลจะเปิดเสียเปล่า ฉันพยายามไม่ขยับตัว
ในห้องเพดานสูง เตียงกว้างเกินสำหรับสองคน
ชั้นวางซ้ายขวาวางหมอนลวดลายไม่ซ้ำราวสื่อความนัยถึงบางสิ่ง ที่สุดขอบห้องมีบรรไดเชื่อมห้องล่างกับข้างบน ไม่มีประตูกั้น
ฉันเห็นผู้หญิงตัวใหญ่ราวยักษ์เดินขึ้นมา เธอน่าจะสูงสามเมตรขึ้น หน้าอกล้นสวมชุดเดรสดำสนิท เผยขาอ่อนเย้ายวนเด่น
สวมผ้าคลุมหัวยาวลากลงมาปกปิดแผ่นหลัง เนื้อในมีลวดลายฟ้ายามค่ำคืนส่องสว่าง
เส้นผมสีเงินและนัยน์ตาทองคำประกาย แววตาพินิจเงียบงันมีรอยยิ้มมุมปากชวนฉงน แต่เหนืออื่นใด
” เธอเชื่อในรักแรกพบรึเปล่า ” ฉันเอ่ยหลังได้เห็นโฉมหน้าของหญิงที่นั่งลงเคียงข้าง
เสียงหัวเราะเบา ใบหน้ายิ้มแย้มของสาวร่างยักษ์โน้มตัวลงมองของเล่นที่พึ่งซ่อมด้วยความเอ็นดู
” ไม่ค่ะ ” สั้นกระชับทว่าแววตาจับจ้องหลงใหล
” เธอทำให้ฉันเชื่อนะ ” แม้จะบาดเจ็บหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมแปลกประหลาดแต่หากไม่เต๊าะคนสวยก่อนก็คงไม่ใช่เธอ
” ฉันลาโมแลค เป็นทหารรับจ้างไม่มีสังกัด ” หญิงสาวบนเตียงแนะนำตัว
” ดิฉัน เอ-ฟรา-โก้ ค่ะ เจ้าบ้านสถานที่ประหลาดนี้ ” ยักษ์สาวเอ่ยนาม
” แล้วสนใจเป็นเจ้าของฉันด้วยไหม ” เอฟราโก้ประหลาดใจกับประสบการณ์ใหม่ ในชีวิตที่ผ่านและพบ คนที่ยังอารมณ์ดีได้ในสภาพนี้ไม่เคยมีมาก่อน
เธออมยิ้มขณะลูบไล้ไปตามใบหน้าลาโมแลคด้วยฝ่ามือใหญ่กว่ามนุษย์ธรรมดา
” หวังว่าคุณคงไม่เสียใจภายหลังนะคะ ” คำตอบอันชวนเคลือบแคลง เอฟราโก้กดนิ้วโป้งประทับลงริมฝีปากลาโมแลค แล้วยกขึ้นมาแต้มปลายลิ้น
ความพึงพอใจในรสชาติส่งผ่านใบหน้า
” แม้ตัวตายไม่เสียดาย ” ลาโมแลคยิ้มตาหยี เอฟราโก้ชะงัก หญิงเจ็บสาหัสคนนี้เพียงคุยกันทำหวั่นไหวสองครั้งติด
หลังทำความรู้จักเอฟราโก้เริ่มตรวจสอบสภาพบาดแผลภายนอก
” คุณแพ้อาหารประเภทไหนรึเปล่า ”
” ทุกอย่างยกเว้นที่เธอทำ ”
” น่าประหลาดใจที่ยังมีชีวิตอยู่ ” เอฟราโก้ยิ้มกับคารมลาโมแลค
” เธอดูชำนาญนะ ” ลาโมแลคมองฝ่ามือขยับพันผ้าทับจุดเลือดไหล และคลายส่วนที่แน่นเกิน ใช้แท่นยกขาให้แผลสูงกว่าหัวใจลดแรงดันเลือด ไม่นึกว่ากลางป่าอันตรายจะมีหมอมากฝีมือหลบซ่อนอยู่
” คุณก็เข้มแข็งเกินไปนะ ” แม้ทั้งร่างเต็มไปด้วยแผลฉกรรจ์ แต่เมื่อฝ่ามือสัมผัสลงกลับไม่ปริปากร้องหรือมีเหงื่อไหลสักหยด
” เพราะเธอมือเบา ถ้าความอ่อนโยนนั่นสัมผัสส่วนอื่นก็คงดี เช่น… ” ลาโมแลคเงียบลง ยิ้มกรุ้มกริ่ม
เอฟราโก้หยุดมือนิ่งค้าง แล้วยกนิ้วชี้ขึ้น เอื้อมลงกดลงตรงแผลใหญ่ที่ซี่โครง
เสียงร้องลาโมแลคบอกความเจ็บ
” บทลงโทษคนลามกค่ะ ” เอฟราโก้ยิ้ม ลาโมแลคหัวเราะเคาะในลำคอไม่แผ่วฤทธิ์ ทำให้เธอกดนิ้วลึกลงอีก เสียงร้องดังขึ้น
” แต่ถ้า ”
” หลังหายดีแล้วอาจจะทำให้ก็ได้นะคะ ” เธอลงมือทำแผลต่อด้วยใบหน้าระรื่น
” ฉันท้วงแน่ ” ลาโมแลคตอบทันควันด้วยใจมุ่งมั่น
หลังจัดการเรื่องแผล เอฟราโก้เก็บเครื่องมือเข้าชั้นวางข้างเตียง มันแปลกที่มีเครื่องมือหมอเตรียมพร้อมไว้
แต่ลาโมแลคมองข้ามมัน ความสนใจทั้งหมดของเธออยู่ที่ยักษ์สาว แม้ไม่สามารถขยับตัวตามใจ เอียงคอมองหาไม่ได้ แต่ดวงตากลับจ้องตามในทุกอิริยาบถ
เมื่อหันตัวแผ่นหลังของเอฟราโก้เสมือนกำแพงสูงใหญ่ ลาโมแลคสังเกตเห็นสะโพกเธอมีบางอย่างใต้ผ้านูนเด่น
” เธอมีหางด้วยเหรอ ” ลาโมแลคเดาสิ่งที่หลบซ่อน ไม่ลังเลจะถามออกไป
” คุณสนใจรึเปล่า ” เอฟราโก้ถกชายผ้าชั้นนอกซึ่งปิดหางไว้ขึ้น คล้ายลำตัวงูยักษ์ เรียบ นุ่ม หนักแน่น สีดำสนิทกลืนหายในความมืด
แค่เห็นก็รู้ถึงอันตราย ถ้าเริงรำในสงครามคงราวกับค้อนยักษ์ล้มอัศวินง่ายดาย
” มากที่สุด ” เอฟราโก้ส่ายหางไปมาเล็กน้อย แกล้งข่มขู่แสดงความอันตรายแต่ลาโมแลคไม่แสดงอาการใด
เธอปล่อยมือจากสิ่งที่ทำอยู่แล้วขยับเข้าใกล้ หางยักษ์เชิดขึ้นสูง คอลาโมแลคถูกพันด้วยผิวสัมผัสเนียนนุ่มสีดำราวงูรัดเหยื่อ
ปลายหางแหลมเรียวสัมผัสหยอกล้อใบหน้าคนเจ็บสาหัสติดเตียง ใต้สายตาเอฟราโก้มองเหยื่อถูกหยอกล้อ
ลาโมแลคที่รอจังหวะอ้าปากงับหางสำเร็จ เขี้ยวคมขบลงแผ่วเบา ฝั่งรอยบนส่วนหนึ่งของร่างกายเธอ
แม้สีหน้าไม่เปลี่ยนแต่ความรู้สึกแล่นวาบทั่วสันหลัง เสียงเล็กแหลมหลุดรอดจากริมฝีปาก เธอชักชอบผู้หญิงคนนี้เข้าแล้ว
ความตื่นเต้นกระตุ้นร่างกายเกินต้าน ปลายลิ้นเผลอไผลตวัดเลียริมฝีปาก
ในความเงียบงันทั้งสองเฝ้ามองกันและกัน เอฟราโก้ดึงหางกลับ แต่เข่ากลับยกขึ้นเตียง
ร่างกายไหลไปตามความรู้สึก เธอขึ้นคร่อมเหยื่อ
ในสายตาลาโมแลคเห็นเพียงเอฟราโก้ ใบหน้ายักษ์สาวโน้มลง จวนปลายจมูกชนกัน ใบหน้าระรื่นมุมปากนั้นยิ้มอยู่
และที่สุดในโลกที่มีเพียงสองเรา เอฟราโก้ประกบจูบลงริมฝีปากลาโมแลค ดื่มด่ำกับรสจุมพิต
แต่เมื่อลิ้นลาโมแลครุกล้ำเข้ามา ฟันแหลมเอฟราโก้ขบกัดคืน
เสียงสะดุ้งในลำคอลาโมแลคยุติทุกอย่าง เลือดไหลริน รสขมคาวติดค้างในปาก เอฟราโก้ยกตัวขึ้น ถอยห่างออกมา หางยาวมุดกลับเข้าที่ซ่อนเร้น
” เธอกัดลิ้นฉัน ”
” เอาคืนค่ะ ” เอฟราโก้ยิ้มกว้างภูมิใจ ก่อนกลับไปทำงานต่อทิ้งให้ลาโมแลคอยู่กับความเจ็บที่ลิ้นและความเสียดาย
เมื่อหลบหน้ามาแล้ว เอฟราโก้ซึ่งพยายามเก็บซ่อนอารมณ์ยกนิ้วเช็ดน้ำลายปลายมุมปาก เธอควบคุมตัวเองได้ดีเสมอ
แต่ลาโมแลคแสนเย้ายวน จนเกือบจะเผลอพลั้งพลาดก่อนเวลา
เอฟราโก้ฮัมเพลงแผ่วเบา แบบนี้ก็ไม่แย่นัก
” ฉันลงไปเตรียมอาหารนะคะ ” เอฟราโก้เหลียวมองลาโมแลค คลี่ยิ้มเงียบงันเพียงครึ่งหน้า และอีกครึ่งหลบเลี่ยงสายตา
” ถ้าคุณเบื่อ อยากให้ฉันร้องเพลงจากในครัวรึเปล่าคะ ”
” ไม่เป็นไร ระหว่างที่เธอไม่อยู่ ฉันจะซุกซนแล้วรื้อค้นห้องให้ทั่วเลย ” ลาโมแลคในสภาพร่อแร่ตอบด้วยความกระตือรือร้น เอฟราโก้ไม่สามารถกลั้นขำความเถรตรงและพลังใจอันล้นเหลือ
เธอไม่ออกอาการปฏิเสธแต่คลี่ยิ้มหรี่ตาลงมอง ก่อนจะหมุนตัวเดินถอยห่าง ฝีเท้าย่างลงไร้เสียง เงียบเฉียบผิดกับขนาดตัว
หลังเอฟราโก้จากไป ทันทีที่ลองขยับร่างกาย ความเจ็บแล่นขึ้นเส้นประสาท หมดหวังสิ้นเชิง ขืนฝืนลุกคงทรุดหนัก ดวงตาที่ยังอยู่ดีเพ่งมองสำรวจรอบห้อง
บนโต๊ะมีเครื่องประดับวางเรียง มาจากหลายอารยธรรม หยก อัญมณี โลหะแกะสลัก และกระดูก ไร้ความเชื่อมโยง ทว่าความพิสดารกลับกลืนกินกันผสานกลมเกลียว
บนผนังมีภาพวาด ล้วนมีลายเส้นที่แตกต่าง ประณีตวิจิตร ตวัดเฉวียง ฟุ้งกระจาย ไม่ใช่ผลงานของใครคนหนึ่ง เสมือนสารที่ส่งข้ามผ่านกาลบอกเล่าถึงเอฟราโก้ในสายของพวกเขา
ถ้าหากขยับตัวได้เมื่อไหร่ คงต้องฝากผลงานไว้สักภาพ ลาโมแลคเพิ่มสิ่งที่อยากทำในใจ
เมื่อเอฟราโก้กลับมา ลาโมแลคหลับไปแล้ว
ถาดอาหารถูกวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง ทิ้งไว้สักพักคงไม่เสียรสมาก ดีกว่าปลุกหญิงสาวจากโลกนิทรา
ฝ่ามือสัมผัสบนเส้นผมเขียวอมฟ้าแปลกตา ทั้งชีวิตอันยาวนานเอฟราโก้เพิ่งเคยพบเฉดสีผมประหลาดนี้ ใบหน้าสง่างาม องอาจ ใบหูเรียวยาวคล้ายเอลฟ์
หน้าอกแบนราบเสมือนชายหนุ่ม
ในอดีตเธอเจอเอลฟ์ไม่บ่อย หูแหลมชวนหลงใหลหายากนี้ดึงดูดให้เอือมสัมผัส ปลายนิ้วลูบทะนุถนอม ยิ่งพอได้แตะต้องก็ยิ่งชวนลิ้มลอง
เอฟราโก้พยายามห้ามปราบความต้องการ ทว่าหลังเห็นสภาพไร้การขัดขืนก็ยากรั้งใจ
เธอโน้มตัวลงแลบลิ้นเลียปลายแหลมสีเนื้อบริสุทธิ์ อ้าปากกลืนกินเพื่อชิมรส ก่อนเผลอหัวเราะเสียงแผ่วพอใจในความกลมกล่อม
ร่างกายไร้สติตอบสนองเอื้อนเอ่ยเสียงเย้ายวน ทำให้เอฟราโก้ชะงักทิ้งระยะห่างออกมา เกือบไปอีกแล้ว ไม่งั้นคงได้เสียดายจนตาย
เธอพยายามควบคุมลมหายใจทำสมาธิเรียกคืนความสุขุม แต่ยังอมยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อครู่
ระหว่างเฝ้ารอลาโมแลคตื่น เอฟราโก้ขึ้นมานอนร่วมหลับใหลไปกับหญิงสาวบนเตียงนุ่มอุ่นนี้
แม้ตั้งใจจะเว้นระยะห่างไว้ แต่ที่สุดแล้วร่างกายมันก็ขยับเข้าหาเองทีละนิดจนใกล้ชิด สัมผัสถึงเสียงลมหายใจชัดเจน
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
MANGA DISCUSSION