ตอนที่ 96 กลับตาลปัตร
สวี่ม่ายซุ่ย “ใครจะรู้ว่าหล่อนเป็นบ้าอะไร หลิวซุ่ยบ้านหล่อนกับน้องชายสามีบ้านฉันดูตัวกันครั้งหนึ่ง คำพูดแม่สื่อยังไม่ทันได้ตอบกลับ แม่ต้าเฉียงก็ไม่พอใจนั่นนี่ น้องชายสามีฉันเดิมทีก็คิดว่าหลิวซุ่ยอายุน้อยไปหน่อย เห็นแบบนี้ก็รีบตอบแม่สื่อไป เธอว่าเรื่องนี้ก็ผ่านไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“แล้วการที่หลิวซุ่ยกับหล่อนโกรธกันมันเกี่ยวอะไรกับฉัน เช้านี้จู่ ๆ ก็มาคุยเรื่องแต่งงานที่บ้านฉัน เราจะไม่เห็นด้วยก็ไม่ได้ เธอว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่”
“ฉันว่าต่อไปนี้พวกเธอน่ะอย่าไปเป็นแม่สื่อให้ชาวบ้านเลย แล้วก็ไม่ต้องให้ลูกดูตัวแล้ว ถ้าไปเจอเรื่องแบบนี้เข้า อยากร้องไห้ก็ไม่มีที่ให้ร้องนะ”
อันที่จริงทุกคนก็รู้เรื่องของพวกเธอทั้งสองบ้านกันไม่น้อย แต่จู่ ๆ เรื่องกลับตาลปัตรเป็นแบบนี้ ทุกคนจึงเกิดความอยากรู้อยากเห็นกันขึ้นมา
ภรรยาเถี่ยจู้มองสวี่ม่ายซุ่ยพลางถาม “เป็นเพราะแม่ต้าเฉียงเถียงสู้ซุ่ยซุ่ยไม่ได้หรือเปล่าถึงได้เห็นด้วย”
สวี่ม่ายซุ่ย “หล่อนเห็นด้วยไม่เห็นด้วยจะมีประโยชน์อะไร การเกี่ยวดองนี้เป็นเรื่องของสองบ้าน บ้านหล่อนเห็นด้วยแต่บ้านฉันไม่เห็นด้วยน่ะสิ”
ภรรยาหมาจื่อฟังจบก็เบะปาก “เธอไม่เห็นด้วย คิดว่าน้องชายสามีบ้านเธอเป็นเทพเซียนจริง ๆ หรือไง?”
สวี่ม่ายซุ่ยชำเลืองมองหล่อน ตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “เป็นเทพเซียนหรือไม่ก็อีกเรื่อง แต่ไม่แต่งให้บ้านหมาจื่อแน่นอน”
ภรรยาหมาจื่อได้ฟังก็มีสีหน้าชะงักงัน มองสวี่ม่ายซุ่ยอย่างโกรธเคือง “เธอ…”
ภรรยาเถี่ยจู้เห็นก็ตบขาภรรยาหมาจื่อพลางพูด “น้องสาวสามีไม่ได้ดีกับเธอด้วยซ้ำ เธอจะกังวลทำไม”
ภรรยาหมาจื่อได้ฟัง สีหน้าถึงดีขึ้นมาหน่อย
ภรรยาเถี่ยจูแตะตัวหล่อนพลางพูด “ถือโอกาสตอนนี้ที่ไม่มีคน เมื่อวานเธอเห็นหลิวซุ่ยไม่ใช่เหรอ เธอบอกนักบัญชีสวี่ไปสิ”
ภรรยาหมาจื่อดีต่อภรรยาเถี่ยจู้มาก มีเรื่องอะไรก็บอกหล่อนหมด ภรรยาเถี่ยจู้ก็ดีต่อพวกหลี่ต้านีมาก ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับหลิวซุ่ยก็อยากบอกพวกหล่อน
ภรรยาหมาจื่อเดิมทีก็ไม่อยากพูด แต่เห็นทุกคนจ้องตัวเองด้วยสายตาใคร่รู้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกภูมิใจในตัวเองขึ้นมา กระแอมพลางพูดว่า “งั้นฉันจะบอกพวกเธอละกัน เมื่อคืนในหมู่บ้านฉายหนังใช่ไหม ลูกบ้านฉันถือเก้าอี้ไม้ไป ผลคือคนเยอะ เก้าอี้ก็เลยปนไปกับคนแล้ว รอคนไปหมด ฉันก็หาเก้าอี้ไม้ที่เหลือไว้ตัวสุดท้าย ตอนที่ฉันหาเก้าอี้เจอจะกลับไป พวกเธอทายดูสิว่าฉันเห็นอะไร”
หลี่ต้านี “เธอเห็นอะไร รีบ ๆ พูดมาเร็ว”
“ฉันก็เห็นหลิวซุ่ยเดินอยู่ข้างหน้าอย่างกับคนไร้วิญญาณ ข้างหลังยังมีผู้ชายท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ตามติดหล่อนไปด้วย”
“ผู้ชายคนนั้นตามหล่อนไปตลอด หล่อนก็ไม่เห็น ฉันรู้สึกผิดปกติเลยกระแอมสุดเสียงถึงทำให้ไอ้คนนั้นตกใจวิ่งหนีไป”
สวี่ม่ายซุ่ยจับจุดสำคัญได้ทันที รีบถามว่า “เธอได้เห็นหน้าเขาไหม”
ภรรยาหมาจื่อเห็นว่าเป็นสวี่ม่ายซุ่ยที่ถามก็ไม่อยากตอบรับอยู่บ้าง ติดที่ทุกคนกำลังมองอยู่ หล่อนก็เลยทำได้แค่ตอบกลับอย่างไม่ยินดียินร้าย “เห็นไม่ชัด ผู้ชายคนนั้นกวาดตามาเจอฉันก็วิ่งหนีไปแล้ว ยังไม่ทันได้สังเกตรายละเอียดเลย”
หลี่ต้านีฟังจบก็พึมพำอย่างหวาดผวา “โชคดีที่เธอเห็น ไม่งั้นดึกดื่นคืนนั้นก็ไม่แน่ว่าจะเกิดเรื่อง”
ภรรยาหมาจื่อได้ฟังก็พูดออกมาอย่างยากลำบาก “อะไรล่ะ เกิดเรื่องไปตั้งนานแล้ว ฉันเห็นคนหนีไปแล้วก็คิดจะไปเตือนหลิวซุ่ย ใครจะรู้ว่าฉันทำเอะอะถึงขนาดนี้ สาวน้อยคนนั้นกลับไม่หันมามองฉันสักนิด ฉันไม่มีทางเลือกเลยทำได้แค่ไล่ตามไป ทายสิว่าหล่อนเป็นยังไง”
หลี่ต้านีพูดอย่างร้อนรน “เธอเลิกเล่นตัวได้แล้ว รีบ ๆ พูดมา”
“เผ้าผมหล่อนที่เคยมัดไว้อย่างดีกลับยุ่งเหยิง มีเศษหญ้าติดอยู่สองสามเส้น หน้าขาวซีดแต่ปากแดงก่ำ ส่วนเสื้อผ้าก็ถูกดึงทึ้งจนเละเทะ ฉันมองจากตรงนี้ก็เห็นหมดว่าข้างในมีแต่รอยช้ำเขียว ๆ ม่วง ๆ” ภรรยาหมาจื่อพูดพลางชี้ไปที่อกให้พวกหล่อนดู
คนทั้งหลายฟังจบก็รู้สึกประสาทจะกิน ต่อให้เป็นคนโง่ก็รู้ว่าหลิวชุ่ยพบเจออะไรมา มิน่าล่ะเฉียนเสี่ยเหลียนถึงมาปรึกษาเรื่องงานแต่งที่บ้านเธอตั้งแต่เช้า ที่แท้ก็คิดจะหาแพะรับบาปนี่เอง
เห็นสีหน้าสวี่ม่ายซุ่ยจากสดใสกลายเป็นมัวหมอง ภรรยาหมาจื่อก็ยิ้มได้ใจ ในใจคิดว่าในเมื่อเธอไม่ถูกใจน้องสาวคนเล็กบ้านฉัน คราวนี้ก็โดนกรรมตามสนองเสียบ้าง
สวี่ม่ายซุ่ยเองก็สังเกตได้ถึงใบหน้ายิ้มได้ใจของภรรยาหมาจื่อ เธอรู้ดีว่าสภาพครอบครัวของอีกฝ่ายเป็นอย่างไร น้องสาวสามีที่เกียจคร้านของบ้านหล่อนโดนปฏิเสธมาตั้งกี่ครั้งแล้ว หล่อนประสาทหรืออย่างไรถึงจะอยากให้คนแต่งออกไปทันที
“น้องสาวสามีเธอกำลังหาคู่ใช่หรือเปล่า?”
ภรรยาหมาจื่อชะงักไม่รู้ว่าเธอถามแบบนี้ทำไมเลยเผลอพูดอย่างระแวง “เธอจะทำอะไร”
สวี่ม่ายซุ่ย “ฉันจะแนะนำคู่ให้ เธอช่วยฉันอย่างหนึ่ง”
ภรรยาหมาจื่อฟังจบก็ตาเป็นประกาย “เธอพูดจริงเหรอ ทำให้หล่อนแต่งออกได้จริง ๆ เหรอ เธอว่ามาจะให้ช่วยอะไร บุกน้ำลุยไฟฉันทำให้เธอได้หมด”
สวี่ม่ายซุ่ย “เมื่อไรที่เธอหาผู้ชายคนนั้นให้ฉันเจอ ฉันจะแนะนำคู่ให้น้องสาวสามีเธอทันที”
ภรรยาหมาจื่อฟังจบก็ตอบกลับอย่างหัวไว “เธอแค่แนะนำไม่ได้ เธอต้องให้หล่อนแต่งออกไปถึงจะได้”
สวี่ม่ายซุ่ย “ได้”
ภรรยาหมาจื่อ “ถ้าเธอทำไม่ได้จะทำยังไง?”
สวี่ม่ายซุ่ย “งั้นเธอก็ไปด่าที่บ้านฉันทุกวันได้เลย เธอก็รู้ว่าสามีฉันภาษีดี ต้องแก้ปัญหาให้เธอได้แน่”
คนบนเกาะต่างก็รู้จักหลินเจี้ยนเยี่ยผู้บังคับกองร้อยหน้าตายคนนี้กันหมด ภรรยาหมาจื่อได้ยินคำพูดนี้ก็รีบตบขาอวบอย่างสบายอารมณ์ “ได้ พูดไว้ขนาดนี้แล้ว ฉันจะไปหาคนเดี๋ยวนี้” พูดจบก็เดินไปอย่างรีบร้อน
ถรรยาเถี่ยจู้เห็นหล่อนเป็นแบบนั้น ก็รีบถือเก้าอี้ไม้ไล่ตามไป พลางตะโกน “เธอเห็นหน้าคนไม่ชัดนี่นา แล้วจะไปหาจากไหน”
ภรรยาหมาจื่อ “เธอไม่ต้องยุ่งแล้ว ฉันมีวิธี”
รอทั้งสองไปแล้ว หลี่ต้านีก็มองสีหน้าสวี่ม่ายซุ่ยอย่างระมัดระวัง พึมพำว่า “แม่ต้าเฉียงคนนี้ก็จริง ๆ เลย แบบนี้ไม่ใช่ว่าคิดร้ายกับคนอื่นหรือไง”
สวี่ม่ายซุ่ย “อาจจะไม่ใช่แค่คิดร้ายหรอก แต่ก่อนฉันก็ยังดีกับหล่อน ไม่คิดเลยว่าแท้จริงแล้วหล่อนจะคิดร้ายได้ขนาดนี้”
หลี่ต้านี “งั้นเธอจะทำยังไง ไม่งั้นก็ไปพูดกับหล่อนให้รู้เรื่อง บอกไปเลยว่าเธอรู้หมดแล้ว ให้หล่อนเลิกปล่อยข่าวลือได้แล้ว”
สวี่ม่ายซุ่ยหันมามองหล่อนพลางถาม “พี่คิดว่าหล่อนจะฟังไหม ตอนนี้หล่อนกล้าฉีกหน้าฉัน สร้างข่าวลือด้านนอก เห็นอยู่ทนโท่ว่าจะเอาซุ่ยซุ่ยเข้ามาบ้านพวกฉัน”
หลี่ต้านี “ทำยังไงดี ก็หล่อนเล่นไปพูดจาเหลวไหลด้านนอก”
สวี่ม่ายซุ่ย “ให้หล่อนพูดไป ช้าเร็วความจริงก็ต้องเผยออกมา ถึงวันนั้นฉันจะดูว่าหล่อนจะทำยังไง”
หลี่ต้าหนี “เธอคงไม่คิดจะเอาเรื่องหลิวซุ่ยไปพูดหรอกใช่ไหม สาวน้อยคนนั้นประสบเคราะห์กรรมหนักมา ถ้าคนรู้หมด เกรงว่า…”
สวี่ม่ายซุ่ยรู้ว่าหลี่ต้านีกลัวหลิวซุ่ยจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านแล้วทำอะไรโง่ ๆ พอคิดถึงสาวน้อยคนนั้นที่ชอบหลินเจี้ยนจวินทั้งใจ ในใจก็เกิดลังเลขึ้นมาวูบหนึ่ง
“วางใจเถอะ ถ้าหลิวซุ่ยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องคิดร้ายต่อเจี้ยนจวิน ฉันก็ไม่มีทางไปพูดมั่ว ๆ หรอก”
หลี่ต้าหนี “งั้นก็ดี หลิวซุ่ยเด็กคนนั้นช่างน่าอาภัพเหลือเกิน”
…………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อ้าว มีพยานบุคคลรู้เห็นแล้วหนึ่ง คดีนี้จะปิดได้ไหมนะ ขอให้จับตัวคนทำได้แล้วกัน
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION