ตอนที่ 78 หลินเจี้ยนเยี่ยข่มขู่สวี่ม่ายซุ่ย
หลินเจี้ยนเยี่ย “คุณคิดว่าไง?”
สวี่ม่ายซุ่ยพลิกตัวนอนราบบนเตียงขณะตอบด้วยร่องรอยความผิดหวัง “ฉันนึกว่าจะกระดูกหรืออะไรสักอย่างหักเสียอีก”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หลินเจี้ยนเยี่ยก็วางหนังสือก่อนจะแตะศีรษะของสวี่ม่ายซุ่ยแล้วเอ่ยถาม “ดูจากสีหน้าของคุณแล้ว คุณรู้อะไรบางอย่างมาใช่ไหม? คุณเป็นคนทำเรื่องนี้หรือเปล่า?”
สวี่ม่ายซุ่ยแตกตื่นขณะกำผ้าห่มแน่นโดยไม่รู้ตัว “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง วันนี้ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลาไปเจาะยางเขาหรอก”
หลินเจี้ยนเยี่ยเอ่ยคำด้วยความสงสัย “ไม่ใช่คุณจริง ๆ ใช่ไหม?”
สวี่ม่ายซุ่ยดึงผ้าห่มคลุมศีรษะก่อนจะตอบอย่างหนักแน่น “ถ้าฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่”
หลินเจี้ยนเยี่ยดึงร่างของเธอออกแล้วเอ่ยคำอย่างเนิบช้า “เอาเถอะ ขอแค่ไม่ใช่คุณก็พอแล้ว ผมได้ยินมาว่ากรรมการการเมืองโหวกำลังตามหาฆาตกรอยู่”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ สวี่ม่ายซุ่ยดึงผ้าห่มลงแล้วเอ่ยถามอย่างวิตก “เขากำลังตามหาฆาตกรเหรอ? ถ้าพวกเขาจับได้จะทำยังไง?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “เจตนาทำร้ายผู้นำกองทัพ อาจจะมีโทษจำคุกหลายปี”
สวี่ม่ายซุ่ยถามอย่างเหน็บแนม “แค่สมองกระทบกระเทือนครั้งหนึ่งต้องโทษจำคุกกี่ปีกันเชียว?”
หลินเจี้ยนเยี่ยคิ้วขมวด “คุณคิดอะไรอยู่?”
สวี่ม่ายซุ่ยยิ้มอย่างวิตก “ก็แค่ถามเฉย ๆ ไม่ได้เกี่ยวกับฉันสักหน่อย” สิ้นคำ เธอก็ดึงผ้าห่มมาคลุมหัว
คาดไม่ถึงว่าเธอจะถูกหลินเจี้ยนเยี่ยหยุดมือไว้กลางคัน เขามองเธอด้วยสายตาจริงจังแล้วเอ่ยถาม “คุณไม่ได้เป็นคนทำใช่ไหม?”
สวี่ม่ายซุ่ยกำลังจะตอบว่าไม่ แต่หลินเจี้ยนเยี่ยชิงเอ่ยคำด้วยสีหน้าเย็นชา “พูดความจริงมา”
ดวงตาขนาดใหญ่ของสวี่ม่ายซุ่ยกลอกไปมา ในที่สุดก็เพียงยอมรับชะตากรรม “ใช่ ฉันทำเอง”
ทันทีที่สิ้นคำ หลินเจี้ยนเยี่ยก็ชี้หน้าของเธอ “คุณช่างอาจหาญมากนะที่กล้าไปเจาะยางรถทหาร”
สวี่ม่ายซุ่ยตอบด้วยความไม่มั่นใจ “ใครเป็นคนใช้ให้เขาทำตัวเสียมารยาทก่อน คุณลองถามคนบนเกาะดูสิว่ามีใครชอบเขาบ้างหรือเปล่า”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ผมไม่รู้ว่าคนอื่นชอบเขาหรือเปล่า แต่ทำไมคุณถึงทำตัวว่างมากจนต้องไปเจาะยางรถของคนอื่นด้วย?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ไม่ใช่เพราะคุณหรอกเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา คุณก็คงได้เป็นรองผู้บัญชาการไปแล้ว”
หลินเจี้ยนเยี่ยมองสีหน้าเกรี้ยวกราดของสวี่ม่ายซุ่ยจนอดไม่ได้ที่จะคิ้วขมวด “ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ายื่นมือเข้ามายุ่ง”
สวี่ม่ายซุ่ย “ฉันแค่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เท่านั้น”
เมื่อเห็นสีหน้าเกรี้ยวกราดของสวี่ม่ายซุ่ย หลินเจี้ยนเยี่ยอดไม่ได้ที่จะดึงผ้าห่มไปคลุมศีรษะของเธอ
สวี่ม่ายซุ่ยดึงผ้าห่มลง ก่อนจะหันมามองแล้วเอ่ยถามอย่างกังวล “ถ้าฉันไม่ถูกจับ มันก็ไม่ส่งผลกับคุณใช่หรือเปล่า?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “คุณถามทำไม?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครจับได้หรอก ฉันปกปิดสิ่งที่ทำเป็นอย่างดี”
หลินเจี้ยนเยี่ย…
หลังจากหลินเจี้ยนเยี่ยไปออกกำลังกายในวันถัดมา สวี่ม่ายซุ่ยยังคงรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้นเธอจึงวานให้เจี้ยนจวินทำอาหารก่อนจะไปสถานที่รวมตัวซุบซิบในลานบ้านครอบครัวเพื่อสอบถามเกี่ยวกับข่าวคราว
แต่เธอมาถึงเช้าเกินไป จึงต้องรออีกสิบกว่านาที
เพราะปกติเธอไม่ได้มาที่นี่ ทุกคนจึงประหลาดใจเมื่อเห็นอีกฝ่าย “ภรรยาเจี้ยนเยี่ย ทำไมเธอถึงมีเวลามาที่นี่ล่ะ?”
เพราะเธอทำงานในฐานะนักบัญชีอยู่ในหมู่บ้านและเดินไปมาแถวนี้ทุกวัน ทุกคนจึงทราบว่าอีกฝ่ายค่อนข้างยุ่ง
สวี่ม่ายซุ่ยตอบอย่างสงบ “พอดีที่บ้านไม่มีอะไรทำก็เลยมาทำให้ตัวเองหัวเย็นที่นี่น่ะ พวกคุณกินข้าวกันหมดแล้วสินะ”
ภรรยาของเถี่ยจู้ “ฉันยังไม่ได้กิน ปกติแล้วช่วงเช้าจะไม่รีบกินเท่าไร ฉันแค่อยากออกมาคุยเวลาไม่มีอะไรทำ”
“นี่ คุณทราบข่าวหรือยัง? กรรมการการเมืองโหวขับรถชนต้นไม้เมื่อวาน”
สวี่ม่ายซุ่ยคิ้วขมวดหลังจากได้ยินเช่นนี้ มาถึงก็เปิดประเด็นเลยงั้นเหรอ
ภรรยาของหัวหน้าซุนตอบทันที “ฉันทราบข่าวแล้ว ได้ยินว่าเลือดออกบริเวณศีรษะค่อนข้างมาก ฉันเองยังทนดูไม่ได้เลย”
สวี่ม่ายซุ่ยอดไม่ได้ที่จะดวงตาเบิกกว้าง “ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ภรรยาของเถี่ยจู้ “นี่ อย่าไปฟังหล่อนเลย ถึงจะฟังดูน่ากลัว แต่มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น”
ภรรยาของหัวหน้าซุน “มันก็ไม่ร้ายแรงจริง ๆ นั่นแหละ ฉันได้ยินมาว่าหลังจากใช้เวลาอยู่ในห้องพยาบาลตั้งแต่ช่วงบ่าย ผู้นำในกองทัพทั้งหมดก็เข้าไปเยี่ยมเขา”
ภรรยาของหัวหน้าซุนมองรอบข้างก่อนจะพบว่าไม่มีใครอยู่ จึงเอ่ยคำต่อ “มีใครบ้างที่ไม่รู้จักกรรมการการเมืองโหว หากเป็นเรื่องของเขาก็ต้องถูกพูดถึงอย่างยิ่งใหญ่คับฟ้า”
ภรรยาของหัวหน้าซุน “ถูกต้อง กรรมการการเมืองโหวของพวกเราโด่งดังขนาดนั้นแหละ”
สวี่ม่ายซุ่ยมองทุกคนแล้วเอ่ยถาม “ดูจากนิสัยของกรรมการการเมืองโหวแล้ว เขาได้ประกาศตามหาฆาตกรแล้วหรือยัง?”
ภรรยาของเถี่ยจู้ “ทำไมต้องตามหาฆาตกรด้วย ตะปูโดนที่ตัวรถ ไม่ใช่โดนที่ตัวเขาสักหน่อย จะไปตามหาเพื่ออะไร”
“อีกอย่าง ต่อให้เป็นฝีมือคนจริง เขาก็มีศัตรูมากมายอยู่บนเกาะ ยังไงก็ไม่มีทางหาเจอหรอก”
เมื่อสวี่ม่ายซุ่ยได้ยินเช่นนี้ เธอก็ผ่อนคลายทันทีก่อนจะยิ้มหน้าบานประหนึ่งดอกไม้ “นั่นสินะ”
ตอนนี้เองที่ภรรยาของหัวหน้าซุนมาสะกิดเธอ ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “ได้ยินมาว่าภรรยาเจี้ยนเยี่ยทำงานเป็นนักบัญชีในหมู่บ้าน คุณเคยเห็นหญิงสาวที่มีไฝขนาดเล็กใต้ตาหรือเปล่า”
คำถามนี้ทำให้สวี่ม่ายซุ่ยสับสน เธอคิดสักพักก่อนจะส่ายหน้า “ไม่เห็นเลย”
เมื่อภรรยาของหัวหน้าซุนได้ยินเช่นนั้น เธอก็พึมพำด้วยความสับสน “ถ้างั้นหญิงสาวคนนี้เป็นใครกัน ในตระกูลของฉันก็ไม่มีใครที่มีไฝใต้ตาใช่หรือเปล่า?”
สวี่ม่ายซุ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเช่นนี้ “พี่สะใภ้ ทำไมถึงทำแบบนั้น คุณกำลังมองหาหญิงสาวคนอื่นเพื่อจะเป็นแม่สื่อให้งั้นเหรอ แต่ฉันไม่ได้รู้จักทุกคนในหมู่บ้าน ไม่อย่างนั้นก็คงหามาให้สักคนแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ภรรยาของหัวหน้าซุนรู้สึกรังเกียจทันทีก่อนจะเอ่ยคำ “ฉันไม่กล้าเป็นแม่สื่อให้กับหญิงสาวคนนั้นหรอก”
“วันนั้นฉันเห็นหล่อนกับโหวเจิ้นพวกเขาสวมกอดกัน ฉันก็เลยถามน่ะ”
สวี่ม่ายซุ่ย “โหวเจิ้นเจอคู่ครองแล้วเหรอ?”
ภรรยาของหัวหน้าซุน “ฉันไม่รู้ว่าเจอหรือเปล่า แต่ก็ไม่เห็นแม่ของโหวเจิ้นพูดอะไร”
สวี่ม่ายซุ่ยไม่เก็บมาคิดจริงจังหลังจากได้ยินเช่นนี้ ถึงอย่างไรโหวเจิ้นก็ถึงวัยที่จะหาคู่ครองแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่จะไปตีสนิทกับหญิงสาวคนนั้น
เมื่อเห็นว่าสายมากแล้ว สวี่ม่ายซุ่ยก็ตบก้นก่อนลุกขึ้น เธอกล่าวลากับทุกคนก่อนจะกลับบ้านไปทำมื้อกลางวัน
ต้องทราบก่อนว่าพี่น้องหลินเจี้ยนเยี่ยเปรียบได้กับสมบัติล้ำค่า ซึ่งหลินเจี้ยนจวินมีพรสวรรค์ด้านงานครัวซ่อนอยู่ แม้จะอายุยังน้อย แต่เขาก็ทำอาหารเก่งเหมือนกับเธอ
ยิ่งกว่านั้นภายในโถงกินข้าว อาหารเช้าของเจี้ยนจวินก็ถูกเตรียมไว้แล้วตอนที่เธอกลับมา
“พี่สะใภ้”
สวี่ม่ายซุ่ยมองต้านปิ่งสีเหลืองทอง ไข่เป็ดเค็มผ่าครึ่งและผักสีเขียวบนโต๊ะ จึงอดไม่ได้ที่จะชื่นชม “ของพวกนี้น่ากินชะมัด”
หลินเจี้ยนจวินเผยรอยยิ้มเขินอาย “ผมแค่ทำแบบถูไถเท่านั้นแหละ พี่สะใภ้ วันนี้พี่จะยังเข้าหมู่บ้านหรือเปล่า?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ไป ฉันจะไปตรวจสอบคณะสันทนาการเพื่อดูว่าพวกเขาจะพร้อมเมื่อไร”
หลินเจี้ยนจวิน “พี่สะใภ้ ที่บ้านไม่มีอะไรให้ผมทำแล้ว ขอไปช่วยพี่ได้หรือเปล่า?”
สวี่ม่ายซุ่ยทราบเช่นกันว่าหลินเจี้ยนจวินคงรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าแล้วเอ่ยคำ “ได้ ยังไงช่วงนี้ก็ไม่ค่อยยุ่งอยู่แล้ว”
“หลินเซียวกับหลินฟานยังไม่ตื่นเหรอ?”
หลินเจี้ยนจวิน “หลินเซียวตื่นมาพักหนึ่งก่อนจะไปนอนคว่ำอยู่บนเตียง ส่วนหลินฟานอยู่ในห้องน้ำ แต่เดี๋ยวผมไปดูก่อน เขาอยู่ในนั้นมาได้พักใหญ่แล้ว”
หลินเจี้ยนจวินเอ่ยคำก่อนจะเดินจากไป
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นดังนั้นจึงรีบเอ่ยคำ “นายไปปลุกหลินเซียว เดี๋ยวฉันไปตามหลินฟานให้”
ทันทีที่มาถึงลานบ้าน เธอก็เห็นหลินเจี้ยนเยี่ยช้อนรักแร้ของหลินฟานด้วยสีหน้ามืดมนขณะอุ้มเขาออกจากห้องน้ำ
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เรื่องยังไม่แดง รอดไปม่ายซุ่ย
น้องหลินฟานไปทำอะไรในห้องน้ำนิ เกิดอะไรขึ้นกับน้อง
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION