ตอนที่ 70 ไม่ใช่คนธรรมดา
สวี่ม่ายซุ่ยมองหลินเจี้ยนเยี่ยที่ยังมีกำลังเหลือเฟือ เธอก็ตกตะลึงสักพักก่อนจะเอ่ยคำ “ดี ถ้างั้นก็นั่งยอง ๆ ลงค่ะ”
หลินเจี้ยนเยี่ยนั่งยองตรงหน้าสวี่ม่ายซุ่ยด้วยสีหน้าจนใจทำอะไรไม่ถูก “ขึ้นมา”
สวี่ม่ายซุ่ยยอมนอนลงแต่โดยดีขณะโอบแขนรอบคอของหลินเจี้ยนเยี่ยเพื่อให้เขาแบกเธอกลับบ้าน
ฉากที่เดิมกำลังอบอุ่นหัวใจพลันถูกสวี่ม่ายซุ่ยขัด “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ทำไมเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ฉันเหมือนกำลังปกป้องคุณจากสายฝนเลย”
นับตั้งแต่นอนบนแผ่นหลังของหลินเจี้ยนเยี่ย เม็ดฝนที่มีขนาดเท่าเมล็ดถั่วตกลงมา ซึ่งมันให้ความเจ็บปวดที่แปลกประหลาด
หลินเจี้ยนเยี่ยระเบิดเสียงหัวเราะหลังจากได้ยินเช่นนี้ “คุณพยายามจะนอนแต่นอนไม่ได้เหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “คุณรู้ได้ยังไง?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ทุกครั้งที่กำลังจะผล็อยหลับ คุณก็เป็นอันต้องตื่นทุกครั้ง”
“อย่าเพิ่งรีบนอน” สิ้นคำ เขาก็ดันสวี่ม่ายซุ่ยขึ้นแล้ววิ่งไปข้างหน้า
ถนนในยามนี้ยังคงสกปรก มันเต็มไปด้วยโคลนทุกหนแห่งเมื่อฝนเทลงมา หลินเจี้ยนเยี่ยถึงกับวิ่งไม่มั่นคงเมื่อแบกสวี่ม่ายซุ่ยเอาไว้บนแผ่นหลัง ทำให้เธอรู้สึกกำลังจะร่วงทุกเมื่อ แต่ท้ายสุดเขาก็กลับมาตั้งหลักมั่นคงได้อีกครั้ง
พวกเขาทั้งสองกลับถึงบ้านในสภาพฝนตกหนัก เพราะเป็นช่วงกลางคืน หลินเจี้ยนเยี่ยจึงตามใจสวี่ม่ายซุ่ยซึ่งปกติไม่ค่อยทำ แม้กระทั่งตอนถึงบ้านแล้ว เขาก็ยืนกรานที่จะอุ้มเธอกลับเข้าไป
คาดไม่ถึงว่าทันทีที่ทั้งสองเข้าประตู แสงสว่างในห้องนั่งเล่นก็ถูกเปิด หลินเจี้ยนจวินมองทั้งสองที่หันหลังให้แล้วเอ่ยคำติดอ่างออกมา
“ผม… ผมเห็นพวกพี่ยังไม่กลับบ้านก็เลยอยากรอน่ะ”
“ในเมื่อพวกพี่กลับมาแล้ว งั้นผมกลับเข้าห้องนะ” สิ้นคำ เขาก็รีบกลับเข้าห้องโดยไม่รอการตอบสนองของพวกเขา
สวี่ม่ายซุ่ยมองดูก่อนจะรีบตบบ่าของหลินเจี้ยนเยี่ย “วางลงเถอะ ฉันอายจะแย่อยู่แล้ว”
หลินเจี้ยนเยี่ย “พวกเราเป็นคู่รักที่จดทะเบียนกันแล้ว ทำไมต้องอายด้วย สติไม่อยู่กับตัวแล้วเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ใครกันแน่ที่ไม่มี? คุณรอจนฟ้าสางแล้วค่อยพาฉันเดินเล่นหน่อยเป็นไง”
หลินเจี้ยนเยี่ยเม้มริมฝีปาก “อุ้มครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว หลังจากนั้นคุณเดินเองแล้วกัน”
ขณะมองหลินเจี้ยนเยี่ยเดินเข้ามาในห้องนอน สวี่ม่ายซุ่ยยิ้มอ่อนก่อนจะตะโกนสุดเสียง “นี่ ทำอะไรน่ะ อย่าทำให้ห้องนอนเปื้อนสิ”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ถ้าคุณบอกแต่แรก ผมคงถอดรองเท้าไปนานแล้ว”
เมื่อก้มมองพื้น หลินเจี้ยนเยี่ยจึงถอดรองเท้าก่อนจะโยนพวกมันไปที่ประตู
แม้ตอนมาถึงบ้านจะดึกแล้ว แต่สวี่ม่ายซุ่ยกับหลินเจี้ยนเยี่ยก็ยังคงจัดข้าวของก่อนจะผล็อยหลับไป
หลินเจี้ยนเยี่ยเป็นคนที่น่าสงสารเล็กน้อย เขาล้มตัวลงบนเตียงไม่ทันไรก็ต้องตื่นขึ้นเพราะเสียงปลุก
หลังจากมองภรรยาที่นอนหลับสนิทพร้อมห่มผ้าอยู่ข้างกาย หลินเจี้ยนเยี่ยก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
ทันทีที่เดินออกมา หลินเจี้ยนเยี่ยก็พบหลินเจี้ยนจวินผู้ตื่นแต่เช้า พอเห็นอีกฝ่ายสวมเสื้อผ้าสกปรก เขาก็ตะโกนด้วยสีหน้ามืดมน “เดี๋ยวก่อน”
หลินเจี้ยนจวินมองหลินเจี้ยนเยี่ยแล้วเผยรอยยิ้มกระอักกระอ่วน “พี่สาม”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ทำไมนายถึงใส่ชุดแบบนั้น?”
หลินเจี้ยนจวิน “ผมแค่จะไปเดินเล่นเอง”
หลินเจี้ยนเยี่ยคิ้วขมวด “ถ้าออกไปในสภาพแบบนี้ เดี๋ยวคนไม่รู้ก็จะคิดไปว่าพี่สะใภ้ของนายให้การดูแลไม่ดีพอ”
หลินเจี้ยนจวิน “ชุดที่พี่สะใภ้ตัดให้มันดูดีทีเดียว แต่พวกมันไม่เหมาะกับวันแบบนี้ อีกอย่างผมอยากเข้าป่าจับจักจั่นทองน่ะ”
หลินเจี้ยนเยี่ยมองหลินเจี้ยนจวินที่ทำเป็นวางมาดแล้วเอ่ยคำด้วยความรังเกียจ “รีบไปรีบกลับละ”
หลินเจี้ยนจวิน “เข้าใจแล้ว”
หลังจากหลินเจี้ยนจวินไปแล้ว หลินเจี้ยนเยี่ยมองแผ่นหลังของอีกฝ่ายแล้วพึมพำ “เด็กคนนี้เพิ่งมาอยู่ที่นี่เพียงไม่กี่วัน แต่กลับพูดจาฉะฉานถึงขนาดนี้”
ขณะหลินเจี้ยนจวินมีความสุขกับการอยู่บนเกาะ พวกแม่เฒ่าหลินกลับใช้ชีวิตในสภาพแร้นแค้น
หลังจากถูกยุวชนแดงพาตัวไป พวกเขาก็ทำการโกนหัวโดยไม่แม้แต่จะถามพวกนาง
สะใภ้ใหญ่หลินนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งขณะมองเส้นผมที่ถูกโกนทิ้ง จากนั้นก็กระโจนเข้าใส่พี่ใหญ่หลินอย่างไม่ยับยั้งชั่งใจ
“แกมันเป็นตัวซวย ฉันที่ติดตามมาเลยพลอยโชคร้ายไปด้วย แกมันไร้ประโยชน์ทำอะไรไม่ได้จนสูญเสียทุกอย่าง”
พี่ใหญ่หลินเงียบเมื่ออยู่ภายใต้อำนาจของสะใภ้ใหญ่หลิน นับตั้งแต่แต่งงานมา เขาก็ไม่กล้าสวนกลับแม้จะถูกทุบตีหรือต่อว่า เพียงเอามือกุมหัวแล้วหลบไปด้านข้าง
แม่เฒ่าหลินเห็นว่าลูกชายคนโตถูกกลั่นแกล้ง นางก็ไม่อาจนิ่งดูดายได้ก่อนจะลุกขึ้นแล้วตรงเข้าหาสะใภ้ใหญ่หลิน “นังสารเลวหน้าไม่อาย ถ้ากล้าทุบตีลูกชายฉันอีก ฉันจะไม่เลี้ยงดูแกอีกแล้ว”
สะใภ้ใหญ่หลินขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงร้ายกาจ แน่นอนว่าหล่อนไม่เกรงกลัวแม่เฒ่าหลิน ก่อนจะหันไปคว้าเส้นผมของอีกฝ่ายแล้วสบถออกมา “นังแก่หน้าโง่ แกบอกเองไม่ใช่เหรอว่ามีวิธีควบคุมสวี่ม่ายซุ่ย? นี่สินะความสามารถของแก ทำให้พวกเราทั้งหมดโดนจับแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว โดนโกนหัวจนอับอายขายขี้หน้าไม่กล้าสู้หน้าใครอีก ถึงอย่างนั้นแกยังไปปกป้องลูกชายไร้ประโยชน์อีก ถุย ทำไปเพื่ออะไร ฉันขอแนะนำให้แกหาตัวน้องสามแล้วพาฉันออกจากที่นี่โดยไว ไม่อย่างนั้นฉันจะทุบตีแกทุกวัน!”
เส้นผมบางของแม่เฒ่าหลินถูกดึงออกมากระจุกหนึ่ง นางมองหลินเจี้ยนเฟิ่งด้วยความตกตะลึงก่อนจะตะโกนเสียงดัง “เจี้ยนเฟิ่ง แกยังมัวยืนบื้ออะไรอยู่อีก ทำไมไม่เข้ามาช่วย!”
ในบรรดาคนเหล่านี้ หลินเจี้ยนเฟิ่งเป็นผู้เสียหายมากที่สุด ถึงอย่างไรหล่อนก็เป็นหญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน จึงเป็นการยากที่จะหาคู่ชีวิตได้หลังจากถูกโกนหัวเช่นนี้
เมื่อแม่เฒ่าหลินตะโกน หลินเจี้ยนเฟิ่งก็ได้สติก่อนจะปรี่เข้ามาแล้วเหวี่ยงสะใภ้ใหญ่หลินออกไป จากนั้นก็ร่ำไห้หาแม่เฒ่าหลิน “แม่ แม่คะ รีบเรียกน้องสามมาที หนูไม่อยากโดนโกนหัว”
สะใภ้ใหญ่หลินปล่อยมือจากแม่เฒ่าหลินแล้วเอ่ยคำอย่างเย็นชา “งั้นก็รีบเรียกมา”
สิ้นคำ หลายคนก็วิ่งไปที่ประตูแล้วตะโกนเสียงดัง
ตอนนี้ยุวชนแดงทั้งหลายกลับไปหมดแล้ว จึงมีเพียงคนเดียวที่ยังปฏิบัติหน้าที่ เขาตะโกนอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นอีกฝ่าย “กลางค่ำกลางคืนแบบนี้จะไปติดต่อที่ไหนได้ ช่วยอดทนรอกันหน่อย”
หลังจากรอจนกระทั่งถึงวันถัดมา สิ่งที่ได้รับหลังจากทำการติดต่อแล้วคือสมาชิกครอบครัวทหารกระทำผิดจริง หลังจากทำการเพิ่มโทษเป็นเท่าตัว พวกเขาก็ตกอยู่ในความสิ้นหวัง
แม่หมอหวังมองคนที่กำลังดีดดิ้นไปมาก่อนจะเย้ยหยัน “อย่าเสียแรงเปล่าเลย ลูกสะใภ้ของพวกคุณไม่ใช่คนธรรมดาที่จะไปหาเรื่องได้”
แม่เฒ่าหลินหันขวับไปหาอีกฝ่ายแล้วเอ่ยคำสบถอย่างเกรี้ยวกราด “นังคนตอแหลหน้าด้าน ไหนบอกว่าหล่อนโดนวิญญาณอสูรพังพอนเข้าสิง? แล้วทำไมถึงสู้หล่อนไม่ได้”
แม่หมอหวังส่ายหน้าแล้วตอบอย่างคลุมเครือ “นั่นก็เพราะฉันโดนหลอก ในเมื่อโดนผีบังตาแล้ว คนตัวเล็กอย่างฉันจะไปสู้ได้ยังไง ฉันขอเตือนอะไรหน่อยแล้วกัน อย่าไปหาเรื่องลูกสะใภ้คนนี้ ระวังจะแพ้ภัยตัวเองโดยไม่รู้ตัว”
แม่เฒ่าหลินไม่เชื่อเรื่องทั้งหมด ขณะพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา “ถ้าแกมีอำนาจขนาดนั้น ทำไมไม่คิดหาทางพาพวกฉันออกไปแทนที่จะพยายามพูดโป้ปดแบบนี้ล่ะ”
ทันทีที่สิ้นคำ หลายคนถูกจับกุมแล้วพาตัวออกไป หลังจากถูกสอบสวนแล้ว ชีวิตของพวกเขาก็หายไปกว่าครึ่ง
สะใภ้ใหญ่หลินเดือดดาลจนไม่อาจกลั้นโทสะได้ หล่อนคว้าแม่เฒ่าหลินมาทุบตีอีกครั้ง อีกฝ่ายทนไม่ไหวจนให้สัญญาว่าจะให้สองร้อยหยวน เหตุการณ์จึงสิ้นสุดลง
พวกเขาถูกคุมขังอยู่ที่นั่นราวหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะถูกปล่อยตัว เมื่อกลับถึงบ้าน พวกเขาก็เห็นผู้เฒ่าหลินกับเด็กจำนวนมากกินดื่มเหมือนอย่างทุกทีราวกับคนปกติ
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
กรรมตามสนองนางเฒ่าหลินแล้ว สม ไปหาเรื่องม่ายซุ่ย โดนกฎหมายเล่นงานเข้าแล้วเป็นไง
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION