ตอนที่ 6 จับให้มั่นคั้นให้ตาย
“อีกอย่างถ้าพี่เจี้ยนเยี่ยของเธอกินไม่อิ่มขึ้นมาจริง ๆ ก็ดูเหมือนว่าจะโทษฉันไม่ได้นะ”
แวบเดียวซูเจวียนก็รู้ว่าสวี่ม่ายซุ่ยหมายความว่าอะไร หล่อนโกรธจนหน้าแดง “เธอจะบอกว่าฉันไม่ควรมากินข้าวที่บ้านเธอเหรอ!”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็ก้มหน้าซักผ้าต่อ ขยี้ไปพูดไป “ฉันรู้แค่ว่าปีนี้เสบียงที่บ้านใคร ๆ ต่างก็ไม่พอกิน คนที่ได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างดีคงไม่ไปกินข้าวบ้านคนอื่นเปล่า ๆ แบบนี้หรอก”
ซูเจวียน “เธอ!…”
ตอนที่ซูเจวียนกำลังต่อต่อปากต่อคำกับสวี่ม่ายซุ่ย หลินเจี้ยนเยี่ยที่เพิ่งล้างชามเสร็จก็เดินเข้ามา พอเห็นซูเจวียนแล้วก็นึกแปลกใจ “คุณยังไม่กลับไปอีกเหรอ?”
ซูเจวียน “ฉันมีเรื่องจะคุยกับม่ายซุ่ยนิดหน่อยน่ะค่ะ”
สวี่ม่ายซุ่ยรีบพูดทันที “สหายซูคิดว่ามากินข้าวบ้านเราอย่างเดียวจะดูไม่ดี เลยจะมาช่วยฉันซักผ้าน่ะค่ะ”
ซูเจวียนฟังจบก็พยักหน้าอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ใช่แล้ว! ช่วงนี้ข้าวยากหมากแพง ฉันเองก็ไม่อยากกินเปล่า ๆ ดีเลยที่ได้ช่วยม่ายซุ่ยซักผ้า”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังจบก็พยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรมาก ตรงดิ่งไปที่ห้องครัว
พอเขาไป ซูเจวียนก็ปรี่เข้าไปถามอย่างโกรธเคือง “สวี่ม่ายซุ่ย เธอหมายความว่ายังไง?”
สวี่ม่ายซุ่ยลุกขึ้นยืน พลางพูด “ก็ไม่ได้หมายความว่าอะไร ไม่ใช่ว่าเธออยากจะซักผ้าเหรอ รีบมาสิ! พรุ่งนี้หลินเซียวรอใส่อยู่”
ซูเจวียน “เธอจะไปไหน!”
สวี่ม่ายซุ่ยทุบ ๆ เอว แล้วเอ่ยนิ่ง ๆ “บ่ายนี้ฉันยุ่งมาก แถมรู้สึกปวดเอวขึ้นมานิด ๆ เลยว่าจะไปพักสักหน่อย”
“แล้วก็… ซักชุดนั้นให้สะอาดหน่อยนะ ลูกฉันสองคนรักสะอาด เลอะน้ำมันนิดหน่อยก็ไม่ชอบใจแล้ว” พูดจบก็เดินเข้าห้อง
ดีจริง ๆ ที่ผลักภาระซักเสื้อผ้าของลูกลิงสองตัวนี้ให้คนอื่นได้
สายตาของซูเจวียนมองน้ำสกปรกในกะละมังก่อนมองมือขาวสะอาดของตัวเอง และนึกอยากจะฉีกอกสวี่ม่ายซุ่ยในเดี๋ยวนั้น ติดที่หลินเจี้ยนเยี่ยยังอยู่ เลยทำได้แค่กัดฟันทนแล้วเริ่มซักผ้า ซึ่งกว่าจะขยี้จนสะอาดก็ใช้เวลาไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมง
ตอนนี้สวี่ม่ายซุ่ยที่อารมณ์ดียังมีใจออกมาดูหล่อนครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นว่าหล่อนซักใกล้เสร็จก็เอ่ยเตือนด้วยความหวังดีว่าถ้ายังซักไม่พอ ก็มีเสื้อผ้าของหลินเซียวกับหลินฟานรอให้ซักอยู่ในห้องอีก
ซูเจวียนที่เพิ่งซักผ้าเสร็จพลันตกใจกลัวและวิ่งเตลิดไป แม้แต่ผ้าก็ไม่ตากแล้ว หลินเจี้ยนเยี่ยที่เดินออกมาเห็นสวี่ม่ายซุ่ยพูดอยู่ที่ลานบ้านคนเดียวเอ่ยถาม “ทำไมคุณถึงมาตากผ้า ซูเจวียนล่ะ”
สวี่ม่ายซุ่ยตอบ “หล่อนไปแล้วล่ะ ซักผ้าไปได้แค่ครึ่งเดียวแล้วก็เตลิดไปเลย คุณว่าแบบนี้เรียกว่าซักเสร็จเหรอ! ทำไมเวลากินข้าวถึงไม่กินครึ่งเดียวแล้วไปเลยบ้างล่ะ”
หลินเจี้ยนเยี่ย “…”
“คุณมีเงินติดตัวไหม”
หลินเจี้ยนเยี่ยเงยหน้ามองลึกลงไปในดวงตาของเธอ พลางถาม “เงินที่ให้ไว้ติดตัว คุณให้แม่ไปหมดอีกแล้วเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “แม่คุณเป็นยังไงคุณไม่รู้เหรอ หล่อนเข้าหมู่บ้านมาทีไรร้ายเสียยิ่งกว่าผี ข้าวของอะไรก็ไม่เหลือให้สักอย่าง”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังจบก็ลุกขึ้นล้วงกระเป๋าเสื้อเอาเงินออกมา หลังคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบธนบัตรสิบหยวนให้เธอ
สวีม่ายซุ่ยเห็นเงินที่เหลือในมือเขาประมาณสิบห้าหยวน
ด้วยนิสัยยอมคนของเธอ เงินในบ้านทั้งหมดจึงเป็นหลินเจี้ยนเยี่ยที่ดูแล พอเธอไม่มีเงินก็จะไปเอาที่เขา แต่เดือนหนึ่งก็แค่ครั้งสองครั้ง อย่างไรเสียเงินเดือนของหลินเจี้ยนเยี่ยก็มีจำกัด
เมื่อได้เงินแล้ว สวี่ม่ายซุ่ยก็พูดกับสามีว่า “ในบ้านไม่มีข้าวแล้ว พรุ่งนี้คุณไปกินที่กองทัพละกัน!”
หลินเจี้ยนเยี่ยรับคำ “ได้”
เมื่อพูดกับเขาจบ สวี่ม่ายซุ่ยก็กลับห้องไปนั่งหน้าโต๊ะหนังสือ ครั้นเห็นเงาตัวเองในกระจกก็จมดิ่งลงไปในความคิด ปีนี้เธอเพิ่งมีอายุแค่ยี่สิบเจ็ด แต่กลับใช้ชีวิตเหมือนคนอายุเจ็ดสิบปี เส้นผมแห้งเสีย ใบหน้าเหลืองซีด ถุงใต้ตาใหญ่เบ้อเริ่ม ตาสองข้างหรือก็กลวงโบ๋ลงไปในเบ้าราวกับผู้อพยพ
แถมเสื้อผ้าบนตัวก็ซอมซ่อฝุ่นจับ ทั้งยังมีรอยปะอยู่สองที่ มิน่าล่ะบรรดาภรรยาสหายศึกของหลินเจี้ยนเยี่ยถึงได้ดูถูกเธอนัก ขนาดเธอยังไม่ชอบตัวเองเลย
เธอยื่นมือออกไป คิดจะหยิบครีมหิมะมาทา ปรากฏว่าพอเปิดฝา กลับเจอแต่ความว่างเปล่า เนื่องเพราะถูกแม่เฒ่าหลินตักไปใช้เสียหมดเกลี้ยง
เธอถอนหายใจหนึ่งทีแล้วก็ปิดกระปุก ลุกขึ้นไปหน้าตู้ หาเสื้อผ้าที่สีสันสดใสหน่อยมาวางไว้บนเตียงสองตัว แล้วก้าวฉับ ๆ ออกไป
ที่ ๆ พวกเขาอยู่ไม่มีห้องอาบน้ำ ผู้หญิงจะอาบน้ำต้องไปที่ห้อง หิ้วอ่างน้ำมาอาบในห้องด้วยตัวเอง อาบเสร็จก็เทลงไปที่ลานบ้าน
ตอนเธอออกมา หลินเจี้ยนเยี่ยก็เก็บกวาดเสร็จพอดี เขาเห็นเธอถือขันจึงรู้ว่าจะไปอาบน้ำ เลยพลั้งปากถาม “ให้ผมช่วยไหม”
สวี่ม่ายซุ่ยตอบ “ไม่ต้อง คุณไปหาลูกสองคนเถอะ อย่าให้เล่นกันนานเกินไปนัก”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ได้ เดี๋ยวผมลงกลอนประตูให้”
สวี่ม่ายซุ่ย “อืม”
หนึ่งชั่วโมงถัดมา สวี่ม่ายซุ่ยซึ่งอาบน้ำเสร็จแล้วกำลังนั่งเช็ดผมอยู่ที่ลานบ้านก็เห็นใบหน้าถมึงทึงของหลินเจี้ยนเยี่ยที่กำลังหิ้วตุ๊กตาดินเหนียวสองตัวเข้ามา ทำเอาสวี่ม่ายซุ่ยตกใจจนลืมเช็ดผม
“นี่มันอะไรกัน ไปตกบ่อโคลนที่ไหนมา”
หลินเจี้ยนเยี่ยผลักเด็กสองคนไปข้างหน้า พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ให้พูดเอง!”
หลินเซียวมองหลินเจี้ยนเยี่ยอย่างไม่ชอบใจพลางตอบกลับ “ต้องโทษพ่อ ถ้าเขาไม่ทำหน้าบึ้งเข้ามาหา พวกเราก็คงไม่ตกใจจนร่วงลงไปในบ่อโคลนหรอก”
พ่อเขาอยู่ ๆ ก็โผล่มาจากป่า เขายังคิดเลยว่าพ่อจะจัดการพวกเขาลับหลังแม่ สองพี่น้องจึงมองหน้ากันแล้วเริ่มวิ่ง ทั้งคู่มัวแต่พะวงจนไม่ทันได้ดูทางแล้วตกลงไปในบ่อโคลน
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็เหลือบมองหลินเจี้ยนเยี่ย จากนั้นก็เห็นว่าน่องเขามีโคลนติดอยู่
“ในครัวยังมีน้ำต้มไว้อยู่ ให้พ่อหิ้วลูกสองคนไปล้างตัวซะ แม่ปวดหัวไม่ไหวแล้ว ขอไปนอนก่อน” พูดจบเธอก็ตรงดิ่งเข้าห้อง
หลินเซียว หลินฟานฟังแล้วก็มองหน้ากัน สุดท้ายจึงพูดกับหลินเจี้ยนเยี่ยว่า “พ่อ แม่ไม่ชอบพวกเราเหรอ”
หลินเจี้ยนเยี่ยขมวดคิ้ว ตอบกลับอย่างไม่ชอบใจ “ลูกคิดว่าไงล่ะ!”
หลินเซียว “ทำไมแม่ทำแบบนี้ ตอนบ่ายยังทำเหมือนเราเป็นลูกน้อยสุดที่รักอยู่เลย พอตกเย็นกลับเมินเราเสียเฉย ๆ”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังคำว่ากล่าวของหลินเซียวด้วยใบหน้าหน้าบึ้งตึง ก่อนจะถามอย่างไม่สบอารมณ์ “ลูกน้อยสุดที่รักอะไรกัน ไปฟังใครมา”
“ก็คนแซ่จางที่อยู่ตรงป่าข้างหลังเขา…” พูดไปได้ครึ่งคำหลินเซียวก็หุบปากแทบไม่ทัน หันหลังเตรียมจะวิ่ง
หลินเจี้ยนเยี่ยคว้าคอเสื้อเขาอย่างรวดเร็วแล้วพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ “พ่อพูดกับลูกไปตั้งกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้ไปเล่นที่ป่าหลังเขา”
หลินเซียวหันมายิ้มแหย “ผมก็แค่ผ่านไป ผ่านไป…”
หลินเจี้ยนเยี่ยมองลูกชายที่ขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจนัก “ ถ้ามีครั้งหน้า พ่อจะต้องตีขาลูกแล้ว”
“แม่ของลูกเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” หลินเจี้ยนเยี่ยมองไปที่ห้องด้านใน ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
สีหน้าหลินเซียวเปลี่ยนไป ดูจริงจังขึ้นมา “ตอนบ่ายตื่นมาก็เป็นแบบนี้แล้ว”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ก่อนหน้านี้มีอะไรผิดปกติไหม”
หลินเซียวลูบหัว ตอบกลับด้วยความสับสน “ไม่น่ามีหรอกมั้ง? ตอนบ่ายพวกผมสองคนไม่อยู่บ้าน”
หลินเจี้ยนเยี่ยมองตุ๊กตาดินเหนียวสองคนตรงหน้า เขาไม่ได้พูดอะไรมาก “เอาล่ะ ถอดเสื้อผ้าแล้วไปอาบน้ำ”
พูดจบก็เดินไปหิ้วน้ำร้อนจากห้องครัวมาให้เหล่าลูกชาย
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ดีค่ะ โดนดีสักทีจะได้รู้ว่าบ้านนี้ใครเป็นเมียกันแน่ เป็นแค่เพื่อนบ้านแต่ทำตัวเป็นเมียหลวงเหนือเมียบ้านเขามันต้องเจอแบบนี้
ดูแลลูกบ้างอะไรบ้างนะไอหนุ่ม ไม่ใช่สักแต่ทำลูกแล้วให้เมียดูแลฝ่ายเดียว
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION