ตอนที่ 55 ส่งของตอนกลางดึก
“ย่าลูกบอกว่าหล่อนใกล้ตายแล้ว อยากให้เรากลับไปสักเที่ยว” สวี่ม่ายซุ่ยยัดจดหมายใส่ซองพลางตอบ
หลินเซียว “ถ้าย่าผมตายแล้ว พวกเราจะได้กินเลี้ยงใช่ไหม?”
สวี่ม่ายซุ่ยผงกหัว “ประมาณนั้น”
ในจดหมายบอกว่าช่วงนี้แม่เฒ่าหลินสุขภาพไม่ดี ที่บ้านก็ยุ่ง ไม่มีคนดูแล อยากให้เธอพาลูกกลับไปอยู่ช่วยสักสองสามวัน
มุกนี้ของแม่เฒ่าหลินเธอมองมาจากบนเกาะก็รู้แล้ว ครั้งที่แล้วนางยังมีกำลังวังชาดี ๆ อยู่เลย กลับไปครั้งเดียวก็ไม่ไหวแล้วหรือ ไม่ใช่ว่ามาถึงเกาะแล้วควบคุมเธอไม่ได้ เลยเรียกเธอกลับไปควบคุม ช่างฝันหวานจริง ๆ
เธอไม่ได้โง่ถึงขั้นกลับไปเป็นสนามอารมณ์ ไม่สิ เป็นสาวใช้ผู้ยากลำบากให้เจ้าของบ้านผู้ร่ำรวยสักหน่อย
“เอาจดหมายไว้ในห้อง รอพ่อลูกกลับมาค่อยเอาให้เขาดู”
หลินเซียว “งั้นพวกเราต้องกลับไปไหม?”
สวี่ม่ายซุ่ย “กลับอะไรกัน พวกลูกอยากกินอะไร แม่จะไปทำให้”
หลินเซียว “อยากกินบะหมี่เย็น โจ๊กทะเล ปลาดาบ เนื้อผัดพริก มะเขือเทศผัดไข่….”
สวี่ม่ายซุ่ย “กินบะหมี่เย็นเถอะ โจ๊กทะเลค่อยกินพรุ่งนี้”
หลินเซียวได้ฟังก็รีบไล่ถาม “งั้นปลาดาบกับเนื้อผัดพริกล่ะ”
สวี่ม่ายซุ่ย “วันหลังค่อยคุย” พูดจบก็ไปทำกับข้าวที่ห้องครัว
หลินเจี้ยนเยี่ยที่พึ่งเลิกงานก็วิ่งมาบ้านอย่างเร่งรีบ เขาเห็นจ้าวเป่ากั๋วที่ดูตื่นตะลึง “นายวิ่งขนาดนี้ไปทำไม”
หลินเจี้ยนเยี่ย “สองวันนี้สวี่ม่ายซุ่ยทำงานในหมู่บ้าน ฉันต้องรีบกลับไปทำกับข้าว”
จ้าวเป่ากั๋วมองแผ่นหลังของเขาอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำ “แม่เจ้าโว้ย นี่หาเมียหรือหาบรรพบุรุษกันแน่”
เมื่อหลินเจี้ยนเยี่ยวิ่งถึงบ้าน ก็เห็นสวี่ม่ายซุ่ยยกชามเดินออกมาจากครัวแล้ว “ทำไมวันนี้คุณกลับบ้านเร็วขนาดนี้ล่ะ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ทำงานเสร็จก็ต้องกลับไม่ใช่เหรอ คุณรีบวิ่งมาทำไม?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ผมนึกว่าคุณไม่อยู่บ้าน เลยรีบกลับมาทำกับข้าว”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็รู้สึกอบอุ่นใจ ตอบกลับยิ้ม ๆ “ไม่คิดว่าคุณจะใส่ใจที่บ้านขนาดนี้”
หลินเจี้ยนเยี่ยเดินไปข้างบ่อน้ำ ล้างแขนพลางตอบกลับ “ผมใส่ใจที่บ้านมาตลอดเถอะ วันนี้เป็นไงบ้าง ไม่ได้ลำบากสินะ?”
สวี่ม่ายซุ่ยสูดหายใจลึก ๆ ลังเลอยู่ไม่กี่วิพลางตอบ “ไม่ลำบากหรอกค่ะ”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ท่าทางคุณดูไม่เหมือนว่าไม่มีอะไรนะ ถ้าคิดว่าทำไม่ไหวจริง ๆ ก็ไม่ต้องทำแล้ว ช่วงนี้ทางโรงเรียนประถมอาจจะขาดครู ถ้าไม่ได้ยังไงผมจะได้แนะนำคุณให้ทางนั้น”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็ส่ายหัวตอบกลับ “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่อยากเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เอ้อ เกือบลืมบอกไป แม่คุณส่งจดหมายมา”
หลินเจี้ยนเยี่ยขมวดคิ้ว “แม่ส่งจดหมายมาทำไม?”
สวี่ม่ายซุ่ย “คุณเปิดดูเองเถอะ หลินเซียวเอาจดหมายให้พ่อที”
หลินเซียวฟังจบก็หยิบจดหมายออกมาส่งให้หลินเจี้ยนเยี่ย
หลินเจี้ยนเยี่ยอ่านจดหมายของแม่เฒ่าหลินแล้วก็พูดไม่ออกมาแม้แต่ประโยคเดียว เขาวางมันไว้ด้านข้าง
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นท่าทางของเขาก็ถามอย่างประหลาดใจ “หมายความว่าไงคะ?”
หลินเจี้ยนเยี่ยยิ้มเยาะ “หมายความว่าไง ทำเป็นไม่เห็นก็พอ หรือว่าคุณอยากกลับไปล่ะ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ท่าทางฉันดูเหมือนเสียสติไหมล่ะคะ?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ไม่เหมือน”
กลางดึกหนึ่งทุ่ม ตอนที่สวี่ม่ายซุ่ยกับหลินเจี้ยนเยี่ยกำลังนอนหลับ จู่ ๆ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตู
ทำเอาหลินเจี้ยนเยี่ยกับสวี่ม่ายซุ่ยตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี
สวี่ม่ายซุ่ย “ดึกขนาดนี้ ใครมาเคาะประตู?”
หลินเจี้ยนเยี่ยได้ยินเสียงเคาะประตูก็รีบตื่นขึ้นมาใส่เสื้อผ้าอย่างเร็วที่สุด “คุณรออยู่ในบ้าน ผมจะออกไปดูด้านนอก”
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นท่าทางเคร่งขรึมของหลินเจี้ยนเยี่ยก็ถามอย่างกังวลอยู่บ้าง “คงไม่ใช่ว่ามีใครบุกมาหาหรอกนะคะ? ฉันจะพาลูกไปหลบก่อน”
หลินเจี้ยนเยี่ยคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะมาหาตนเอง เลยตอบอย่างเยือกเย็น “ไม่ได้มีสัญญาณแจ้งเตือนเสียด้วย อยู่ในช่วงงดใช้ชั่วคราว”
พูดจบก็เดินออกไป
เวลานี้สวี่ม่ายซุ่ยก็ไม่กล้าหลับ เธอลุกขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอก ด้วยอยากออกไปดูสถานการณ์
ใครจะรู้ว่าพอเดินไปถึงห้องรับแขกจะเห็นหลินเจี้ยนเยี่ยทำหน้าอึมครึมกลับเข้ามา “เกิดอะไรขึ้น เขาไม่ได้มาหาคุณเหรอ?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ฝ่ายนั้นไม่ได้มาหาผม มาหาคุณต่างหาก คุณออกไปดูเถอะ”
สวี่ม่ายซุ่ยตะลึงไปชั่วขณะ “ใครกัน? มาหาฉันดึกดื่น”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ใครล่ะ! คนบ้ามั้ง”
ฟังหลินเจี้ยนเยี่ยพูดขนาดนี้ สวี่ม่ายซุ่ยก็ยิ่งประหลาดใจ จากนั้นก็ออกไปดูด้านนอก
พอไปถึงประตูบ้านก็ไม่เจอใคร ตอนที่เหลียวซ้ายแลขวามองหาคนนั่นเอง จู่ ๆ กลับมีเสียงดังขึ้นข้างกำแพง “สหายสวี่ ฉันอยู่นี่”
สวี่ม่ายซุ่ยตกใจเสียยกใหญ่เพราะเสียงที่ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เธอตบอกอยู่นานถึงได้กลับมาเป็นปกติ พอมองอย่างละเอียดก็เห็นหลิวเชิ่งลี่นั่งยองอยู่ข้างกำแพง ยิ้มยิงฟันขาวจ้องเธออยู่
สวี่ม่ายซุ่ย “นี่นายทำอะไรอยู่เนี่ย”
หลิวเชิ่งลี่ฟังจบก็ตอบกลับอย่างน้อยใจ “เมื่อกี้ฉันยืนรอเธอหน้าบ้าน แต่ผู้บังคับกองร้อยหลินบอกว่าฉันทำแบบนี้จะดูไม่ดี ให้ฉันหามุมลับตาคนรอเธอ”
สวี่ม่ายซุ่ย…
“ดึกดื่นแล้วนายมาหาฉันทำไม?”
หลิวเชิ่งลี่ “เธอไม่ชอบให้ฉันมาหาตอนกลางวันไม่ใช่เหรอ พอไม่มีทางฉันก็ทำได้แค่มาเธอตอนกลางคืน”
“ไก่นี่เธอยังจะเอาไหม” เขาพูดพลางยกไก่สองตัวขึ้นมาถามสวี่ม่ายซุ่ย
สวี่ม่ายซุ่ยตกใจแทบสิ้นสติกับการกระทำของเขา
“นายก็เลยเอาไก่สองตัวมาให้ฉัน?”
หลิวเชิ่งลี่ “ไม่ใช่ เธอบอกให้ฉันไปถามซูเจวียนว่าลาหยุดทำไมไม่ใช่เหรอ ฉันถามมาแล้ว เพราะแม่หล่อนป่วย หล่อนเลยกลับไปดูแม่”
สวี่ม่ายซุ่ย “พวกหล่อนบอกนายขนาดนี้เลยเหรอ”
หลิวเชิ่งลี่ “อืม เธอว่าฉันควรไปเยี่ยมแม่หล่อนไหม?”
สวี่ม่ายซุ่ย “นายจะไปทำไม ตอนนี้หล่อนไม่ได้คบกับนาย นายไม่กลัวไปแล้วหล่อนโกรธนายหรือไง”
หลิวเชิ่งลี่คิดสักพักแล้วตอบกลับ “ใช่ เธอพูดถูก งั้นฉันควรทำยังไง?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ตอนนี้หล่อนคงใกล้กลับมาเเล้วละ นายซื้อของอร่อย ๆ ไว้ก่อนแล้วค่อยไปหาหล่อน ปลอบหล่อนก่อนค่อยพูด”
หลิวเชิ่งลี่ “ได้ สหายสวี่ เธอดีกับฉันจริง ๆ คนตั้งมากมายมีแค่เธอที่สนับสนุนฉัน คนบ้านฉันไม่เห็นด้วยกันหมด ทำไมกันนะ ซูเจวียนโตมาดูดีขนาดนั้น การงานก็ดี ทำไมพวกเขาไม่เห็นด้วย แล้วยังบังคับให้ดูตัวที่ฉันไม่ชอบเอาซะเลย น่ารำคาญจริง ๆ”
หลิวเชิ่งลี่อาจจะคิดว่าสวี่ม่ายซุ่ยหวังดีกับเขา ดังนั้นทำอะไรถึงได้บอกเธอหมด
สวี่ม่ายซุ่ยฟังถึงตรงนี้นัยน์ตาพลันฉายแววไม่เป็นสุขขึ้นมา จากนั้นก็พูดเสียงแข็ง “พวกเขาอาจจะคิดว่านายกับซูเจวียนต่างกันมาก นายขยันร่นระยะห่างระหว่างนายสองคนก็พอ ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะเห็นด้วย นายยังมีเรื่องอะไรอีกไหม ไม่มีฉันจะได้กลับไปนอน”
หลิวเชิ่งลี่ “ไม่มีแล้ว เธอกลับไปนอนเถอะ แล้วไก่นี่?”
สวี่ม่ายซุ่ยไม่ได้เกรงใจเขา รับเอามาตรง ๆ พลางพูด “เอามาให้ฉันก็พอแล้ว นายกลับไปเถอะ”
หลิวเชิ่งลี่ “งั้นเธออย่าลืมเรื่องฉันกับซูเจวียนเด็ดขาด”
สวี่ม่ายซุ่ย “วางใจเถอะ ไม่ลืมหรอก”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ตกใจหมดเลย นึกว่าคนร้าย มาแบบดี ๆ ก็ไม่ได้คนแซ่หลิวเอ๊ย
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION